คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าไหว เขาใส่มาเท่าไรก็กลับเท่านั้น
ถ้าไม่ไหว อย่าฝืนจะเดือดร้อนภายหลัง/ไม่มีคนช่วยต้องพึ่งตัวเอง ใส่แค่จำนวนที่เราไหวเท่านั้นอย่าเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง
วัฒนธรรมใส่ซองสังคมควรเลิกได้ก็ดี (เห็นด้วยกับ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ก้าวไกล) เจ้าภาพรับผิดชอบงานตัวเอง/จัดงานเท่าที่ตัวเองไหว เจ้าภาพเก็บหอมรอมริบเพื่องานตัวเองไม่สุรุ่ยสุร่าย ทุกคนต้องวางแผนการเงินตัวเอง ไม่ต้องหวังพึ่งเงินคนอื่น
อยู่ตจว.บางเดือนต้องใส่ซอง 5-6 พันบาท ถ้าเป็นข้าราชการใหม่ๆ เงินเดือนแทบไม่พอใช้ เป็นจุดกำเนิดคอร์รับชั่นเพราะสังคมบีบ ไม่สงสัยว่านักการเมืองท้องถิ่นทำไมโกงกันเยอะ แค่เงินเดือนไม่พอใส่ซองหรอกนะ
ถ้าไม่ไหว อย่าฝืนจะเดือดร้อนภายหลัง/ไม่มีคนช่วยต้องพึ่งตัวเอง ใส่แค่จำนวนที่เราไหวเท่านั้นอย่าเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง
วัฒนธรรมใส่ซองสังคมควรเลิกได้ก็ดี (เห็นด้วยกับ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ก้าวไกล) เจ้าภาพรับผิดชอบงานตัวเอง/จัดงานเท่าที่ตัวเองไหว เจ้าภาพเก็บหอมรอมริบเพื่องานตัวเองไม่สุรุ่ยสุร่าย ทุกคนต้องวางแผนการเงินตัวเอง ไม่ต้องหวังพึ่งเงินคนอื่น
อยู่ตจว.บางเดือนต้องใส่ซอง 5-6 พันบาท ถ้าเป็นข้าราชการใหม่ๆ เงินเดือนแทบไม่พอใช้ เป็นจุดกำเนิดคอร์รับชั่นเพราะสังคมบีบ ไม่สงสัยว่านักการเมืองท้องถิ่นทำไมโกงกันเยอะ แค่เงินเดือนไม่พอใส่ซองหรอกนะ
แสดงความคิดเห็น
การใส่ซองคืน(งานศพ)
เรื่องของผมขอใช้เป็นคำว่า สมมุติๆ ว่า พ่อผมเสียและมีแขกมากมายเข้ามาร่วมพิธี(พ่อผมเป็นบุคคลที่พอมีหน้ามีตา) ที่เป็นคนที่รู้จักพ่อเราหรือญาติ ต่างๆ ซึ่งงานเรายังเรียน การจัดการงานเป็นญาติจัดการรวมถึงค่าใช้จ่ายและการรับซอง
ต่อมาผมก็ได้ทำธุรกิจเล็กๆนั้นจากพ่อ โดยที่ผมเสมือนหัวหน้าครอบครัวแทนพ่อ ทีนี้ผมจะโดนเมียพ่อหรือญาติบอกให้ช่วยงานศพ ซึ่งถ้าเป็นบุคคลที่เค้าบอกว่าเค้ามางานพ่อเรา ผมก็โอเคช่วยงานไป ซึ่ง100% ผมจะรู้จักสัก 10% บางครั้งก็บอกว่า พ่อของเพื่อนพ่อเสีย ให้ผมช่วยงาน ผมก็โอเค แต่บางครั้งคือเป็นญาติของบุคคลที่มางาน แต่มาบอกให้ผมช่วยงาน ซึ่งถ้าผมรวยผมก็ช่วยน่ะ บางครั้งก็แบบ เมียพ่อรู้จักญาติผมรู้จัก พ่อคนที่มางานเสีย เมียพ่อก็จะบอกให้ผมช่วยงาน ผมมีก็ช่วยไป แต่! หลังๆมาผมว่ามันไม่ใช่ เพราะมันห่างเกินและไม่ใช่บุคคลที่เราจะรู้จักเลยแต่กับเป็นเมียพ่อกับญาติ เมียพ่อก็จะพูดประมาณว่า "เค้ามางานพ่อเราๆจะไม่ช่วยงานเค้าหรอ" ทำให้เรารู้สึกผิดอ่ะ คิดเอาน่ะ พอผมไม่ให้บางครั้งก็ก็ไปพูดกับญาติหรือคนอื่นว่าผมไม่ช่วยงาน ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ไปอยู่แล้ว ทั้งๆที่ก็อาจจะมีญาติเราใส่ซองไปอยู่แล้ว แต่ตัวเองไปก็อาจจะอายที่ไม่มีซองแยกหรือใส่น้อยหรือใส่ร่วมกับญาติ แล้ว 1ปี เค้าจะบอกกับผมแบบนี้ เป็นญาติของคนที่มางาน ทุกเดือน ซึ่งเค้าจะบอกเค้ามางานพ่อผม ซึ่งถ้าผมรู้จักผมโอเคน่ะ แต่ไม่รู้เลย ผมมองว่าควรเป็นส่วนคนที่รู้จักควรใส่ ไม่ใช่ให้ผมใส่ทุกงานโดยอ้างพ่อ ซึ่งถ้าญาติผมรู้จักเค้าก็ใส่อยู่แล้ว แต่เมียพ่อจะบอกให้ผมต้องใส่ ผมก็ไม่ไหว
และผมอยากรู้ วัฒนธรรม ควรให้คืนแบบไหนครับ ผมเข้าใจผิดมั้ย ตามย่อหน้าแรก (*)