🐋 MALDIVES - THE SUNNY SIDE OF LIFE 🐋
🚤 At Mercure Maldives Kooddoo Resort 🚤
What’s Maldives : มัลดีฟส์ หรือ ที่หลายๆคนเรียกกันว่าเกาะมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียเรานี่เอง เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศอินเดียและศรีลังกาไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศนี้มีชื่อเต็มๆก็คือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic Of Maldives) นี่เอง โดยประเทศมัลดีฟส์เคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษมาราว 79 ปี และเพิ่งเป็นเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2508 ภูมิประเทศมีพื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้ 821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300 ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (Atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ และ เมืองหลวงของมัลดีฟส์ อ่านเป็นภาษาไทย คือ มาลี ภาษาอังกฤษคือ Male ซึ่ง Male นับว่าเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลกเลยละครับ
How to Travel : สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 30 วันเลย สำหรับทริปนี้ผมเลือกสายการบิน AIR ASIA โดยใช้ระยะเวลาในการบินจาก สนามบินดอนเมือง ไปถึง สนามบินมาลี ประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆเอง
Let’s start : เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มออกเดินทางไปพร้อมกันเลยครับ สำหรับช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวแบบนี้ เราต้องแพลนเพื่อที่จะมา Check in ให้ไวขึ้นสักนิดนึงนะ ไม่งั้นเราจะเจอกับมวลมหาชนอย่างที่เห็น 😂😂 หลังจากที่ทำการ Check in กันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลา Shopping ตามประสาคนเจอของเซลล์
Board opening : ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้วเตรียมตัวหลับยาวๆ แต่ก่อนจะหลับก็ต้องกินนิดหน่อย ด้วยของหวานจาก AirAsia x AfterYou เมนูสุดพิเศษสำหรับลูกค้า on board เท่านั้น หลังจากที่หม่ำๆอะไรกันจนเสร็จก็ได้เวลาเข้านอน ว่าแต่…เพิ่งตื่นมาไม่ใช่หรอ 555 ไปก่อนนะ ของีบสักนิดครับ ไว้เจอกันที่มัลดีฟส์
Long time to fly : เป็นเพราะระยะทางที่ห่างไกล หรือใจที่ไม่อยากรอ ทำไมมันยังไม่ถึงสักทีนะ 55555 รอกันต่อไป เวลานี้ก็ถ่ายวิวทิวทัศน์มาให้ชมกันไปก่อนนะ อ่อ…อย่าลืมเขียนใบเข้าเมือง (Arrival Card) เขาด้วยนะ เดี๋ยวไปถึงจะได้ไม่รน หน้าตาใบเข้าเมืองก็จะประมาณนี้ เดี๋ยวแปลเป็นภาษาไทยเอาไว้ให้ด้วย เผื่ออ่านแล้วงงๆกัน พอไปถึงก็ต่อแถวผ่าน ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ไม่ต้องทำอะไรมาก ยิ้มหวานๆ เดี๋ยวเขาก็ตอบ OK เป็นอันเสร็จการเข้าเมือง
Flight delayed : อาจเป็นเพราะช่วงที่เราไปมันหนาแน่นจนทำให้ทาง Domestic flight มันไม่ลงตัวรึป่าว แต่ก็เป็นความชะล่าใจด้วยที่ไม่ได้คอนเฟิร์มเที่ยวบินในประเทศเขาให้ดี (เหตุการณ์นี้สำหรับคนที่พักไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก ก็อาจจะไม่เจอเพราะถ้าไปใกล้ๆก็แค่นั่ง Seaplane หรือ Speedboat เอาก็พอ) ส่วนผมก็เจอแบบชนิดที่ว่า ไฟล์ทระหว่างวันเต็มหมดเลย ก็เลยต้องรอไฟล์ทเก็บตกเบาๆ 10 ชั่วโมง แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้าไปเดินเล่นในตัวเมือง Male (คิดในแง่ดีเข้าไว้นะ)
Shutting down myself : และแล้วเที่ยวบินที่รอคอยมานานแสนนานก็มาถึง ไม่มีอะไรให้ชมแล้วนะครับ สนามบินเงียบสงัด รวมถึงตัวเองด้วย ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครหรือถ่ายรูปอะไรอีกแล้ว ตาลายไปหมด ง่วงจนหลับตาเดินกันแล้ว กว่าจะถึงห้องก็ตี2 (ที่ไทยก็ราวๆตี4เอง) ฮืออออ~~~ ทำไมสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งเราแบบนี้ คืนนี้เลือกห้องแพงด้วยนะ กะว่าไปถึงจะชิวๆ แล้วนอนอยู่ห้องสักหน่อย เสียไปเปล่าๆครึ่งวันเลย เซ็งสุดชีวิต!!! แต่ก็นะ ตื่นเช้ามาก็จัดการถ่ายรูปห้องพักและบรรยากาศโดยรวมมาให้ชมกันก่อน
Happy Breakfast : หลังจากที่เดินสำรวจรอบๆโรงแรมจนเหนื่อย ก็ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้ว กินเบาๆแล้วกันเนอะ เดี๋ยวเชฟจะตกใจ 555 อาหารโดยรวมให้คะแนนที่ 4/5 คะแนน รสชาติก็ทานได้นะ แต่ไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ ทั้ง3มื้อเลย แต่ก็เอาเป็นว่าอิ่มท้องก็สบายใจ
Let me take a selfie : จบมื้อเช้าไปอย่างสวยงาม ก็ออกมานั่งพักกินลมชมวิวกันต่อ พอให้ร่างกายได้สัมผัสไอทะเลสักนิดนึง ภาพที่ได้ก็ตามนี้ละครับ ฟินๆกันไป
Enjoy for LUNCH : ได้เวลาอาหารเที่ยง มื้อนี้บังเอิญเจอเชฟคนไทยที่เดินมาจากห้องอาหารอีกห้องหนึ่ง คุยไปคุยมาขอตัวมาทำอาหารไทยให้ชิม คือปลื้มปริ่มมากเวอร์ รสชาติดีเหมือนกินอาหารไทยแท้ๆเลย ทั้งที่วัตถุดิบบางอย่างก็ไม่ใช่ของไทย แต่เชฟเก่งไง ดูจากหน้าก็รู้นะว่ามื้อนี้เรียกคะแนนไปได้เท่ารัย อิอิ แฮปปี้อีทติ้ง สุดๆ ส่วนเชฟนั้นปกติจะอยู่ที่ห้องอาหาร VISTAS - The Sunset Bar ที่เราเดินไปถ่ายมาเมื่อเช้า เชฟชื่อ...ซอส “เชฟไทยคนเดียวของเกาะ” ปรบมือรัวๆ เอาไปเลย 10 ดาววววว
Moving to the sea : …เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า… เตรียมย้ายห้องได้ สำหรับคืนต่อจากนี้ เราจะเข้าพักในห้องกลางทะเลกันนะครับ บรรยากาศถือว่า “สุดจัดปลัดบอกเลย” ดีงามมากกกก ถึงจะชะโงกหน้าออกมาแล้วเจอเพื่อนบ้านก็เถอะนะ แต่ว่าถ้าแค่มองจากระเบียงห้องก็ไม่เจอใครนอกจากลมและทะเล ส่วนบรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยจ้าาาา
I am the AQUA MAN : ไม่ใช่มนุษย์เงือกนะ 5555 ว่ายน้ำก็ใช่จะเก่ง ทะลึ่งออกไปกลางทะเล แหม่!!! ไปถ่ายรูปเฉยๆ เสร็จแล้วก็ให้คลื่นพัดเข้าฝั่งเอง บอกเลยว่าถ่ายตั้งแต่บ่ายยันเย็น เรียกได้ว่าไหม้ยันฝ่าเท้ากันเลยละ แต่ก็นะได้รูปอย่างงามมาก็โอเคแล้ววววว
Fuel energy : ได้เวลาเติมพลังงานก่อนไปเข้างานนับถอยหลังสู่ปีใหม่ 2019 งานนี้บอกเลย เมาปลิ้น อิอิ ก็อยากเก็บค่าเข้างานแพงทำไม มันเลยต้องกินให้คุ้ม กี่แก้วว่ามาเลยลูกพี่ แก้วท้ายๆนี่เอาน้ำทะเลมาให้กินก็ไม่รู้นะ ลิ้นชาไปหมดโดนไปกี่ดีกรีนับไม่ถ้วน ร้อนจนเหลือแต่เสื้อกล้าม ยอมใจเลย และสุดท้ายภาพทั้งหมดก็ได้ตัดลง 5555
Hello Happy New Year 2019 : สวัสดีปีใหม่อย่างเป็นทางการ และสิ่งหนึ่งที่สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะทำเป็นอย่างแรกของปีก็คือ……วิ่งนั่นเองงงงง
Private tour : ทางโรงแรมจะมีทริปให้ผู้เข้าพักได้ออกไปชมความงามของทะเล ซึ่งทริปทั้งหมดก็มีให้เลือกมากมายถึง 8 อย่างเลย แต่เราได้ทำการเลือกมา 2 อย่างเพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างมาก ทำให้ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ในวันเดียว แต่ก็นะ สุดท้ายก็ไปได้แค่ทริปเดียวก็คือไปชม Sand bank เพราะระหว่างทางที่เราจะไปทริปที่สอง (ไปว่ายน้ำเล่นกับน้องปลาโลมา) เราได้เจอพายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำ จนทำให้ต้องลอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาร่วมชั่วโมงเนื่องจากเป็นเรือที่ไม่ได้ใหญ่มากจึงฝ่าลมฝนนั้นไปไม่ได้ และที่โหดร้ายไปกว่านั้นคือเรือไม่มีเรด้าร์ พวกเราทั้งหมดจึงลอยเคว้งกันอยู่กลางทะเลที่มีคลื่นอย่างแรงพาให้เรานั่งไปติดเก้าอี้ไปตามๆกัน มันช่างน่ากลัวที่สุดในชีวิตเลยละ
Nightmare forever : สลบไปยาวๆหลังจากกลับถึงที่พัก อย่างกับเป็นฝันร้ายเลย ไม่คิดว่าทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลกจะทำร้ายเราได้ขนาดนี้ ฮ้องไห้คักๆ… น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ถึงขั้นหมดแรงสลบยันเช้าเลย บ้าบอที่สุด 5555 และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง ต้องกลับไปทำงานแล้วสินะ ก่อนกลับขอเก็บภาพบรรยากาศครั้งสุดท้ายมาให้ชมอีกรอบละกัน
Back to MALE : Check out จากที่พักเสร็จก็เข้าสนามบิน Kooddoo (GKK) เพื่อไปต่อเครื่องที่ Male (MLE) กลับประเทศไทยบ้านเรา
Welcome to THAILANDDDDD : ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศไทยบ้านเรา เป็นทริปที่สนุกสุดๆเลย ได้เจออะไรที่ไม่คาดฝันตลอดเวลา ทั้งเครื่องดีเลย์นานสุดในชีวิต เจอพายุกลางทะเลและคลื่นยักษ์ใหญ่สุดครั้งแรกในชีวิต แต่มันก็คุ้มที่ได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆจะได้มีเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงช่วงสุดท้ายนี้ ไว้มีทริปหน้ายังไงจะมาอัพแบบนี้ให้ได้ชมกันอีกนะครับ……Thanks for following
…… จนกว่าจะพบกันใหม่ ……
Follow me in Facebook, Instagram and Twitter
Search : OMNIBUS348
[CR] 🐋 MALDIVES - THE SUNNY SIDE OF LIFE 🐋
🚤 At Mercure Maldives Kooddoo Resort 🚤
What’s Maldives : มัลดีฟส์ หรือ ที่หลายๆคนเรียกกันว่าเกาะมัลดีฟส์ ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียเรานี่เอง เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศอินเดียและศรีลังกาไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศนี้มีชื่อเต็มๆก็คือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic Of Maldives) นี่เอง โดยประเทศมัลดีฟส์เคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษมาราว 79 ปี และเพิ่งเป็นเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2508 ภูมิประเทศมีพื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้ 821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300 ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (Atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ และ เมืองหลวงของมัลดีฟส์ อ่านเป็นภาษาไทย คือ มาลี ภาษาอังกฤษคือ Male ซึ่ง Male นับว่าเป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดในโลกเลยละครับ
How to Travel : สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวโดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 30 วันเลย สำหรับทริปนี้ผมเลือกสายการบิน AIR ASIA โดยใช้ระยะเวลาในการบินจาก สนามบินดอนเมือง ไปถึง สนามบินมาลี ประมาณ 5 ชั่วโมงนิดๆเอง
Let’s start : เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มออกเดินทางไปพร้อมกันเลยครับ สำหรับช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวแบบนี้ เราต้องแพลนเพื่อที่จะมา Check in ให้ไวขึ้นสักนิดนึงนะ ไม่งั้นเราจะเจอกับมวลมหาชนอย่างที่เห็น 😂😂 หลังจากที่ทำการ Check in กันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลา Shopping ตามประสาคนเจอของเซลล์
Board opening : ได้เวลาขึ้นเครื่องกันแล้วเตรียมตัวหลับยาวๆ แต่ก่อนจะหลับก็ต้องกินนิดหน่อย ด้วยของหวานจาก AirAsia x AfterYou เมนูสุดพิเศษสำหรับลูกค้า on board เท่านั้น หลังจากที่หม่ำๆอะไรกันจนเสร็จก็ได้เวลาเข้านอน ว่าแต่…เพิ่งตื่นมาไม่ใช่หรอ 555 ไปก่อนนะ ของีบสักนิดครับ ไว้เจอกันที่มัลดีฟส์
Long time to fly : เป็นเพราะระยะทางที่ห่างไกล หรือใจที่ไม่อยากรอ ทำไมมันยังไม่ถึงสักทีนะ 55555 รอกันต่อไป เวลานี้ก็ถ่ายวิวทิวทัศน์มาให้ชมกันไปก่อนนะ อ่อ…อย่าลืมเขียนใบเข้าเมือง (Arrival Card) เขาด้วยนะ เดี๋ยวไปถึงจะได้ไม่รน หน้าตาใบเข้าเมืองก็จะประมาณนี้ เดี๋ยวแปลเป็นภาษาไทยเอาไว้ให้ด้วย เผื่ออ่านแล้วงงๆกัน พอไปถึงก็ต่อแถวผ่าน ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ไม่ต้องทำอะไรมาก ยิ้มหวานๆ เดี๋ยวเขาก็ตอบ OK เป็นอันเสร็จการเข้าเมือง
Flight delayed : อาจเป็นเพราะช่วงที่เราไปมันหนาแน่นจนทำให้ทาง Domestic flight มันไม่ลงตัวรึป่าว แต่ก็เป็นความชะล่าใจด้วยที่ไม่ได้คอนเฟิร์มเที่ยวบินในประเทศเขาให้ดี (เหตุการณ์นี้สำหรับคนที่พักไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก ก็อาจจะไม่เจอเพราะถ้าไปใกล้ๆก็แค่นั่ง Seaplane หรือ Speedboat เอาก็พอ) ส่วนผมก็เจอแบบชนิดที่ว่า ไฟล์ทระหว่างวันเต็มหมดเลย ก็เลยต้องรอไฟล์ทเก็บตกเบาๆ 10 ชั่วโมง แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้าไปเดินเล่นในตัวเมือง Male (คิดในแง่ดีเข้าไว้นะ)
Shutting down myself : และแล้วเที่ยวบินที่รอคอยมานานแสนนานก็มาถึง ไม่มีอะไรให้ชมแล้วนะครับ สนามบินเงียบสงัด รวมถึงตัวเองด้วย ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครหรือถ่ายรูปอะไรอีกแล้ว ตาลายไปหมด ง่วงจนหลับตาเดินกันแล้ว กว่าจะถึงห้องก็ตี2 (ที่ไทยก็ราวๆตี4เอง) ฮืออออ~~~ ทำไมสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งเราแบบนี้ คืนนี้เลือกห้องแพงด้วยนะ กะว่าไปถึงจะชิวๆ แล้วนอนอยู่ห้องสักหน่อย เสียไปเปล่าๆครึ่งวันเลย เซ็งสุดชีวิต!!! แต่ก็นะ ตื่นเช้ามาก็จัดการถ่ายรูปห้องพักและบรรยากาศโดยรวมมาให้ชมกันก่อน
Happy Breakfast : หลังจากที่เดินสำรวจรอบๆโรงแรมจนเหนื่อย ก็ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้ว กินเบาๆแล้วกันเนอะ เดี๋ยวเชฟจะตกใจ 555 อาหารโดยรวมให้คะแนนที่ 4/5 คะแนน รสชาติก็ทานได้นะ แต่ไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ ทั้ง3มื้อเลย แต่ก็เอาเป็นว่าอิ่มท้องก็สบายใจ
Let me take a selfie : จบมื้อเช้าไปอย่างสวยงาม ก็ออกมานั่งพักกินลมชมวิวกันต่อ พอให้ร่างกายได้สัมผัสไอทะเลสักนิดนึง ภาพที่ได้ก็ตามนี้ละครับ ฟินๆกันไป
Enjoy for LUNCH : ได้เวลาอาหารเที่ยง มื้อนี้บังเอิญเจอเชฟคนไทยที่เดินมาจากห้องอาหารอีกห้องหนึ่ง คุยไปคุยมาขอตัวมาทำอาหารไทยให้ชิม คือปลื้มปริ่มมากเวอร์ รสชาติดีเหมือนกินอาหารไทยแท้ๆเลย ทั้งที่วัตถุดิบบางอย่างก็ไม่ใช่ของไทย แต่เชฟเก่งไง ดูจากหน้าก็รู้นะว่ามื้อนี้เรียกคะแนนไปได้เท่ารัย อิอิ แฮปปี้อีทติ้ง สุดๆ ส่วนเชฟนั้นปกติจะอยู่ที่ห้องอาหาร VISTAS - The Sunset Bar ที่เราเดินไปถ่ายมาเมื่อเช้า เชฟชื่อ...ซอส “เชฟไทยคนเดียวของเกาะ” ปรบมือรัวๆ เอาไปเลย 10 ดาววววว
Moving to the sea : …เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า… เตรียมย้ายห้องได้ สำหรับคืนต่อจากนี้ เราจะเข้าพักในห้องกลางทะเลกันนะครับ บรรยากาศถือว่า “สุดจัดปลัดบอกเลย” ดีงามมากกกก ถึงจะชะโงกหน้าออกมาแล้วเจอเพื่อนบ้านก็เถอะนะ แต่ว่าถ้าแค่มองจากระเบียงห้องก็ไม่เจอใครนอกจากลมและทะเล ส่วนบรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยจ้าาาา
I am the AQUA MAN : ไม่ใช่มนุษย์เงือกนะ 5555 ว่ายน้ำก็ใช่จะเก่ง ทะลึ่งออกไปกลางทะเล แหม่!!! ไปถ่ายรูปเฉยๆ เสร็จแล้วก็ให้คลื่นพัดเข้าฝั่งเอง บอกเลยว่าถ่ายตั้งแต่บ่ายยันเย็น เรียกได้ว่าไหม้ยันฝ่าเท้ากันเลยละ แต่ก็นะได้รูปอย่างงามมาก็โอเคแล้ววววว
Fuel energy : ได้เวลาเติมพลังงานก่อนไปเข้างานนับถอยหลังสู่ปีใหม่ 2019 งานนี้บอกเลย เมาปลิ้น อิอิ ก็อยากเก็บค่าเข้างานแพงทำไม มันเลยต้องกินให้คุ้ม กี่แก้วว่ามาเลยลูกพี่ แก้วท้ายๆนี่เอาน้ำทะเลมาให้กินก็ไม่รู้นะ ลิ้นชาไปหมดโดนไปกี่ดีกรีนับไม่ถ้วน ร้อนจนเหลือแต่เสื้อกล้าม ยอมใจเลย และสุดท้ายภาพทั้งหมดก็ได้ตัดลง 5555
Hello Happy New Year 2019 : สวัสดีปีใหม่อย่างเป็นทางการ และสิ่งหนึ่งที่สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะทำเป็นอย่างแรกของปีก็คือ……วิ่งนั่นเองงงงง
Private tour : ทางโรงแรมจะมีทริปให้ผู้เข้าพักได้ออกไปชมความงามของทะเล ซึ่งทริปทั้งหมดก็มีให้เลือกมากมายถึง 8 อย่างเลย แต่เราได้ทำการเลือกมา 2 อย่างเพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างมาก ทำให้ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ในวันเดียว แต่ก็นะ สุดท้ายก็ไปได้แค่ทริปเดียวก็คือไปชม Sand bank เพราะระหว่างทางที่เราจะไปทริปที่สอง (ไปว่ายน้ำเล่นกับน้องปลาโลมา) เราได้เจอพายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำ จนทำให้ต้องลอยอยู่กลางทะเลเป็นเวลาร่วมชั่วโมงเนื่องจากเป็นเรือที่ไม่ได้ใหญ่มากจึงฝ่าลมฝนนั้นไปไม่ได้ และที่โหดร้ายไปกว่านั้นคือเรือไม่มีเรด้าร์ พวกเราทั้งหมดจึงลอยเคว้งกันอยู่กลางทะเลที่มีคลื่นอย่างแรงพาให้เรานั่งไปติดเก้าอี้ไปตามๆกัน มันช่างน่ากลัวที่สุดในชีวิตเลยละ
Nightmare forever : สลบไปยาวๆหลังจากกลับถึงที่พัก อย่างกับเป็นฝันร้ายเลย ไม่คิดว่าทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลกจะทำร้ายเราได้ขนาดนี้ ฮ้องไห้คักๆ… น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ถึงขั้นหมดแรงสลบยันเช้าเลย บ้าบอที่สุด 5555 และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง ต้องกลับไปทำงานแล้วสินะ ก่อนกลับขอเก็บภาพบรรยากาศครั้งสุดท้ายมาให้ชมอีกรอบละกัน
Back to MALE : Check out จากที่พักเสร็จก็เข้าสนามบิน Kooddoo (GKK) เพื่อไปต่อเครื่องที่ Male (MLE) กลับประเทศไทยบ้านเรา
Welcome to THAILANDDDDD : ยินดีต้อนรับกลับสู่ประเทศไทยบ้านเรา เป็นทริปที่สนุกสุดๆเลย ได้เจออะไรที่ไม่คาดฝันตลอดเวลา ทั้งเครื่องดีเลย์นานสุดในชีวิต เจอพายุกลางทะเลและคลื่นยักษ์ใหญ่สุดครั้งแรกในชีวิต แต่มันก็คุ้มที่ได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆจะได้มีเรื่องมาเล่าให้เพื่อนๆได้ฟัง ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงช่วงสุดท้ายนี้ ไว้มีทริปหน้ายังไงจะมาอัพแบบนี้ให้ได้ชมกันอีกนะครับ……Thanks for following
Follow me in Facebook, Instagram and Twitter
Search : OMNIBUS348
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น