สวัสดีค่ะ วันนี้เรามีเรื่องอยากจะระบาย เผื่อจะมีคนเคยเป็นหรือเข้าใจเรื่องแบบนี้บ้าง เรื่องมันเริ่มขึ้นตอนเดือนตุลาคม 2560(เราไปติวช่วงปิดเทอมที่ตจว.) วันนั้นไปเดินตลาดนัดกลางคืนกับเพื่อน แล้วบังเอิญไปเจอหมอดูไพ่ยิปซีและมีลูกแก้วลูกโตๆสวยๆวางอยู่บนโต๊ะ เรากับเพื่อนก็มองไปด้วยความสนใจ หมอดูคนนั้นก็กวักมือเรียกพวกเราเข้าไปใกล้ๆ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบการดูดวงอยู่แล้ว เลยลองเดินเข้าไปดู เขาก็ถามนู่นนี่ ซักถามไปเรื่อย เกลี้ยกล่อมให้ดู จนเขาดูให้เพื่อนเรา(เพราะเพื่อนมีเงิน แต่เราไม่มี) เขาดูให้เพื่อนเราแม่นมาก เกือบทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ แล้วก็ขายของเสริมสิริมงคลให้ ปิดท้ายด้วยการเจิม เพื่อนเราโดนไป500วันนั้น ดูให้เพื่อนเสร็จนางก็มาถามเราว่าดูมั้ย เราก็บอกไม่มีตังค์(วันนั้นโดนล้วงกระเป๋าด้วย ไปดูดาราที่ห้างมา ก่อนจะไปเดินตลาด) ก็บอกนาง นางก็อืมม ฟาดเคราะห์ไปเดี๋ยวก็ดี นางก็บอกเดี๋ยวลดให้จาก 299 เหลือ99 เราก็ตาโตเลยล่ะ ก็ลังเลอยู่นาน ตัดสินใจไม่ได้สักที จนนางมัดมือชก ดูให้เราเลย เราก็โอเค ดูก็ได้ แต่นางคือดูให้เราไม่แม่นเลย ต่างจากเพื่อนเรา แต่ละคำที่พูดออกมามันแบบไม่ใช่อ่ะ เราก็งงๆนะ แล้วนางก็ทำเหมือนมองหาสักอย่าง มองไปหน้า ด้านข้าง เหมือนมองหาคนหรือมองหาอะไรไม่รู้นาง นางก็บอกมองหาลูก แต่มันก็ดูแปลกๆ พอดูเสร็จ ก็ปิดท้ายด้วยการเจิม(เราตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเจิมที่ไหนมาก่อน)
หลังจากวันที่เจิมได้3วัน เรารู้สึกได้เลยว่าคืนนั้นเหมือนมีคนจะมาถอดกางเกงเรา จะมายุ่งกับตรงนั้นของเราอ่ะ เราก็สะลึมสะลือตาขึ้นมามองไปเห็นเป็นโครงร่างผู้ชาย แต่ไม่ชัด แต่รู้ว่าผู้ชายแน่นอน แล้วเราก็หลับไป จนถึงเช้าก็เล่าให้เพื่อนฟัง คืนต่อมาเรารู้สึกเหมือนจิตเราแกว่งไปมา ความรู้สึกเหมือนเล่นไวกิ้ง ใจมันวูบไปมา เราก็หลับตาอยู่ ก็ได้แต่สงสัยทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ คืนต่อมาก็เริ่มฝันแล้ว ฝันเห็นโครงร่างผู้ชายกระโจนใส่เรา เราก็สะดุ้งตื่น แล้วก็ฝันเห็นมา2-3 วันติด เราสะดุ้งตื่นทุกคืน จนทนไม่ไหว วันนั้นวันหยุดติวพอดี เรารีบกลับจังหวัดเรา เพื่อไปวัด หาหลวงพ่อ เพราะเราไม่ได้เอาพระมาด้วยเลย) ไปหาพระวัดแรก หลวงพ่อก็ถามก่อนว่ามีเรื่องอะไร เราก็บอกว่ารู้สึกเหมือนมีผีผู้ชายตาม หลวงพ่อก็ถามอีกว่าเห็นเหมือนไปเจิมมาหรอ เราก็ตอบค่ะ. หลวงพ่อก็บอกเล่าอะไรบลาๆ(ขอข้ามนะคะ)ให้ทำพิธีและก็ให้ตะกรุดมา
คืนนั้นเรานอนหอกับเพื่อน เราก็นอนเล่นโทรศัพท์ไป ปรากฎว่าเรารู้สึกว่ามีมือคนแบบสัมผัส มาสะกิดเท้าเราแวบนึงไวมาก เราตกใจ กลัว ขนหัวลุกไปหมด คืนนั้นเราฝืนไม่ยอมนอนจนตี5 คืนต่อมาเราฝันเห็นมหาสมุทรกว้างมาก และเราลอยอยู่ เหมือนกำลังถูกปล่อยลงมา เราเลยสะดุ้งตื่น คืนต่อมาก็จะเป็นอาการเหมือนโดนผีอำอยู่ทุกคืน เราก็จะร้องอื๊อๆ เวลาเราจะสู้ตื่น มือเราจะฟาดไปที่เพื่อนข้างๆประจำ อยู่หอได้ประมาณ 3วัน เราก็กลับไปติวต่อ คืนนั้นเรารู้สึกเหมือนมีคนมาดึงปากเรา ออกแนวแกล้งๆ ไม่ได้มาลวนลามเหมือนเดิม แต่ละคืนก็อดทนนอนไปด้วยความระแวง เจอแบบเดิมซ้ำๆทุกคืนคือเหมือนผีอำ จนจบคอร์สติว เราก็กลับไปอยู่หอเรา
และหลังจากนั้นแหละ แต่ละคืนเรานอนไม่สุขเลย เรามีอาการผีอำอยู่ทุกคืน (ทุกคืนจริงๆช่วง2-3เดือนแรก)
เราจะต้องตื่นเพราะอาการงี้มาก่อนครั้งนึง ถึงจะหลับได้ในรอบที่2 เราก็ไปหาพระอยู่เรื่อย(มี2 ที่บอกเขาจะมาเอาเป็นร่างทรง)อีกที่บอกเป็นผีตายโหงทางโค้งแถวบ้านชอบเรา จะเอาไปอยู่ด้วย เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน บทไหนที่ว่าดี นั่งสวดจนขาเป็นตะคริว แต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่เข้าเดือนที่4 ก็เริ่มจะมาวันเว้นวันบ้าง แต่มีช่วงนึงที่หายไป3เดือน คือช่วงที่เราไปอยู่กทม.กับแม่ แต่วันแรกก็เป็นอยู่ พอพ่อส่งบทสวดภาณยักษ์มาให้คือเราไม่มีอาการผีอำเลย เป็นเวลา3เดือนได้ แล้วเราไม่ไหว้พระด้วย เพราะคิดว่าคงไม่มาแล้ว จนเปิดเทอมเราย้ายหอ แต่จังหวัดเดิมที่เราติวนี่แหละ สอบติดมหาลัยที่นี่ เรากลับมารู้สึกแบบเดิมอีกครั้ง เปิดบทภาณยักษ์ก็เอาไม่อยู่แล้ว เราก็ไหว้พระบ้างไม่ไหว้บ้าง เพราะเรากลัวจนไม่มีสมาธิ หอใหม่ อยู่คนเดียวอีก เราก็ทนๆไป จนเราขอพ่อไปหาหมอป. ปราบสัมภเวสี นี่คือความหวังเราที่สุดแล้วว่าจะหาย เรานอนบ้านหมอ1 คืน ได้ตะกรุด กินน้ำพริกไทย ทุบหลัง ตื่นมาไหว้พระ ก็รักษาตามสเต็ปเขาไป แต่ขนาดเรานอนบ้านหมอเรายังรู้สึกมีอาการนั้นอยู่เลยนะ พอกลับมานอนหอก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม สรุปเหมือนเราไปเสียเงินค่ารถเปล่าๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าไม่ดีนะ เรายังเชื่อมั่นในตัวหมออยู่ เราแค่คิดว่าเราคงอยู่น้อยวันไป(เพราะไปช่วงส-อา เราติดเรียน)นี่ก็แอบคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากอยู่รักษาหลายๆวัน สุดท้ายกลับหอมาเราก็ยังต้องทนเหมือนเดิม มีทั้งฝัน ทั้งฝันซ้อนฝัน ทั้งเสียง สัมผัส คือระยะเวลาปีกว่าๆที่เจอมา มันหลายรูปแบบมาก จนเราจำไม่หมด จริงๆเราอยากตั้งกระทู้ตั้งนานแล้วแต่ติดขี้เกียจเพราะเรื่องมันยาวมาก ที่วันนี้ตัดสินใจเพราะไม่ไหวจริงๆ เราพึ่งกลับจากกทม.นอนแค่3ชม. กำลังจะนอนอีกตอนนี้ แต่หลับไม่ถึง10นาที มันชามันจี๊ดไปทั้งตัว มันแรงมาก ทั้งสัมผัส จิตแกว่งวูบๆอีก ทั้งหมดนี้เป็นมาตลอด
จนตื่นมาขอระบายตรงนี้ เพราะไม่อยากจะนอนแล้ว
(ลืมเล่าไป ครส.มันจะเหมือนอะไรวิ่งอยู่ในตัวเราอ่ะค่ะ เป็นคลื่นๆตามตัวไปหมด ตัวจะชา แล้วก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรจับแขน จับหัว งี้ อธิบายไม่ค่อยถูกนะคะ แต่ประมาณนี้)ล่าสุดพึ่งบวชชีพราหมณ์มา นอนวัดก็ยังมีตื่นกลางดึก แต่เป็นฝันถึงคนที่ชอบ ทำให้สะดุ้งตื่น ไม่มีอาการผีอำอะไร
เพิ่มเติม....ช่วงม.4 (2558) เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกเหมือนมีคนมาจุ๊บหน้าผาก จุ๊บแก้ม
(2.)กันยายน 2560(ก่อนเจิม) เรานอนกับเพื่อนที่หอแฟนเพื่อน เรารู้สึกว่ามีคนมาจูบปากแบบดูดดื่มมาก เราก็ตกใจ สะดุ้งตื่น
(3.)ช่วงหลังเจิม ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาลูบหัวแบบเอ็นดูๆ
-เพื่อนเราที่ไปเจิมด้วยกันไม่เป็นแบบเรานะคะ นอนหลับปกติ แค่นานๆทีจะฝันเห็นผีหน้าตาน่ากลัว หรือสัมผัสอะไรของนาง(รู้สึกนางจะมีsense)เวลานางนอนกับเราจะรู้สึกอึดอัด วูบๆกับตัว เราก็จะตื่นมาบอกนางว่าเรามีอาการนั้นอีกแล้วนะ ก็เหมือนรับรู้ไปด้วยกันว่ามีอะไรแค่คนละรูปแบบ ยิ่งเราเปิดบทภาณยักษ์ นางจะนอนไม่ได้เลย กลัวสั่นไปหมด วูบวาบ เราก็งงนะ นางมีอะไรรึเปล่า.
และก็ส่วนตัวเราเป็นคนมีเรื่องลี้ลับเข้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว ครอบครัวเราก็เชื่อเรื่องนี้
ที่มาเล่าในวันนี้แค่อยากระบาย ขอคำปรึกษา ว่าควรจะทำยังไงดี ตอนนี้หมดหนทาง เป็นทุกข์กับสิ่งเป็นอยู่ เราแทบไม่อยากจะนอน บางทีเราเหนื่อยจากชีวิตประจำวัน เราอยากพัก แต่กลับต้องมาทำให้เราตื่น ทั้งที่ง่วงมาก เราไม่รู้เขาเป็นใครต้องการอะไร เราควรทำยังไงให้เขาไป
(จริงๆเรื่องมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เราพิมพ์ไม่ไหว ลืมบ้าง)
ถ้าทำให้ไม่เข้าใจตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ.
เราเข้าใจคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะคะ แต่เราก็หวังว่าจะมีคนที่เข้าใจเรา ว่าเราไม่ได้เพ้อเจ้อ คิดไปเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเจอเองกับตัว เรารู้ว่ามันคืออะไรยังไง
ปล.เรายังไม่เคยไปหาหมอค่ะ เพราะเรามั่นใจในสิ่งที่เราเจอ
ขอบคุณคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ.
สิ่งที่เจอมากำลังเข้าสู่ปีที่ 2 ท้อมาก ไม่รู้จะต้องทำยังไงถึงจะหาย
หลังจากวันที่เจิมได้3วัน เรารู้สึกได้เลยว่าคืนนั้นเหมือนมีคนจะมาถอดกางเกงเรา จะมายุ่งกับตรงนั้นของเราอ่ะ เราก็สะลึมสะลือตาขึ้นมามองไปเห็นเป็นโครงร่างผู้ชาย แต่ไม่ชัด แต่รู้ว่าผู้ชายแน่นอน แล้วเราก็หลับไป จนถึงเช้าก็เล่าให้เพื่อนฟัง คืนต่อมาเรารู้สึกเหมือนจิตเราแกว่งไปมา ความรู้สึกเหมือนเล่นไวกิ้ง ใจมันวูบไปมา เราก็หลับตาอยู่ ก็ได้แต่สงสัยทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ คืนต่อมาก็เริ่มฝันแล้ว ฝันเห็นโครงร่างผู้ชายกระโจนใส่เรา เราก็สะดุ้งตื่น แล้วก็ฝันเห็นมา2-3 วันติด เราสะดุ้งตื่นทุกคืน จนทนไม่ไหว วันนั้นวันหยุดติวพอดี เรารีบกลับจังหวัดเรา เพื่อไปวัด หาหลวงพ่อ เพราะเราไม่ได้เอาพระมาด้วยเลย) ไปหาพระวัดแรก หลวงพ่อก็ถามก่อนว่ามีเรื่องอะไร เราก็บอกว่ารู้สึกเหมือนมีผีผู้ชายตาม หลวงพ่อก็ถามอีกว่าเห็นเหมือนไปเจิมมาหรอ เราก็ตอบค่ะ. หลวงพ่อก็บอกเล่าอะไรบลาๆ(ขอข้ามนะคะ)ให้ทำพิธีและก็ให้ตะกรุดมา
คืนนั้นเรานอนหอกับเพื่อน เราก็นอนเล่นโทรศัพท์ไป ปรากฎว่าเรารู้สึกว่ามีมือคนแบบสัมผัส มาสะกิดเท้าเราแวบนึงไวมาก เราตกใจ กลัว ขนหัวลุกไปหมด คืนนั้นเราฝืนไม่ยอมนอนจนตี5 คืนต่อมาเราฝันเห็นมหาสมุทรกว้างมาก และเราลอยอยู่ เหมือนกำลังถูกปล่อยลงมา เราเลยสะดุ้งตื่น คืนต่อมาก็จะเป็นอาการเหมือนโดนผีอำอยู่ทุกคืน เราก็จะร้องอื๊อๆ เวลาเราจะสู้ตื่น มือเราจะฟาดไปที่เพื่อนข้างๆประจำ อยู่หอได้ประมาณ 3วัน เราก็กลับไปติวต่อ คืนนั้นเรารู้สึกเหมือนมีคนมาดึงปากเรา ออกแนวแกล้งๆ ไม่ได้มาลวนลามเหมือนเดิม แต่ละคืนก็อดทนนอนไปด้วยความระแวง เจอแบบเดิมซ้ำๆทุกคืนคือเหมือนผีอำ จนจบคอร์สติว เราก็กลับไปอยู่หอเรา
และหลังจากนั้นแหละ แต่ละคืนเรานอนไม่สุขเลย เรามีอาการผีอำอยู่ทุกคืน (ทุกคืนจริงๆช่วง2-3เดือนแรก)
เราจะต้องตื่นเพราะอาการงี้มาก่อนครั้งนึง ถึงจะหลับได้ในรอบที่2 เราก็ไปหาพระอยู่เรื่อย(มี2 ที่บอกเขาจะมาเอาเป็นร่างทรง)อีกที่บอกเป็นผีตายโหงทางโค้งแถวบ้านชอบเรา จะเอาไปอยู่ด้วย เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน บทไหนที่ว่าดี นั่งสวดจนขาเป็นตะคริว แต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่เข้าเดือนที่4 ก็เริ่มจะมาวันเว้นวันบ้าง แต่มีช่วงนึงที่หายไป3เดือน คือช่วงที่เราไปอยู่กทม.กับแม่ แต่วันแรกก็เป็นอยู่ พอพ่อส่งบทสวดภาณยักษ์มาให้คือเราไม่มีอาการผีอำเลย เป็นเวลา3เดือนได้ แล้วเราไม่ไหว้พระด้วย เพราะคิดว่าคงไม่มาแล้ว จนเปิดเทอมเราย้ายหอ แต่จังหวัดเดิมที่เราติวนี่แหละ สอบติดมหาลัยที่นี่ เรากลับมารู้สึกแบบเดิมอีกครั้ง เปิดบทภาณยักษ์ก็เอาไม่อยู่แล้ว เราก็ไหว้พระบ้างไม่ไหว้บ้าง เพราะเรากลัวจนไม่มีสมาธิ หอใหม่ อยู่คนเดียวอีก เราก็ทนๆไป จนเราขอพ่อไปหาหมอป. ปราบสัมภเวสี นี่คือความหวังเราที่สุดแล้วว่าจะหาย เรานอนบ้านหมอ1 คืน ได้ตะกรุด กินน้ำพริกไทย ทุบหลัง ตื่นมาไหว้พระ ก็รักษาตามสเต็ปเขาไป แต่ขนาดเรานอนบ้านหมอเรายังรู้สึกมีอาการนั้นอยู่เลยนะ พอกลับมานอนหอก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม สรุปเหมือนเราไปเสียเงินค่ารถเปล่าๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าไม่ดีนะ เรายังเชื่อมั่นในตัวหมออยู่ เราแค่คิดว่าเราคงอยู่น้อยวันไป(เพราะไปช่วงส-อา เราติดเรียน)นี่ก็แอบคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากอยู่รักษาหลายๆวัน สุดท้ายกลับหอมาเราก็ยังต้องทนเหมือนเดิม มีทั้งฝัน ทั้งฝันซ้อนฝัน ทั้งเสียง สัมผัส คือระยะเวลาปีกว่าๆที่เจอมา มันหลายรูปแบบมาก จนเราจำไม่หมด จริงๆเราอยากตั้งกระทู้ตั้งนานแล้วแต่ติดขี้เกียจเพราะเรื่องมันยาวมาก ที่วันนี้ตัดสินใจเพราะไม่ไหวจริงๆ เราพึ่งกลับจากกทม.นอนแค่3ชม. กำลังจะนอนอีกตอนนี้ แต่หลับไม่ถึง10นาที มันชามันจี๊ดไปทั้งตัว มันแรงมาก ทั้งสัมผัส จิตแกว่งวูบๆอีก ทั้งหมดนี้เป็นมาตลอด
จนตื่นมาขอระบายตรงนี้ เพราะไม่อยากจะนอนแล้ว
(ลืมเล่าไป ครส.มันจะเหมือนอะไรวิ่งอยู่ในตัวเราอ่ะค่ะ เป็นคลื่นๆตามตัวไปหมด ตัวจะชา แล้วก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรจับแขน จับหัว งี้ อธิบายไม่ค่อยถูกนะคะ แต่ประมาณนี้)ล่าสุดพึ่งบวชชีพราหมณ์มา นอนวัดก็ยังมีตื่นกลางดึก แต่เป็นฝันถึงคนที่ชอบ ทำให้สะดุ้งตื่น ไม่มีอาการผีอำอะไร
เพิ่มเติม....ช่วงม.4 (2558) เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกเหมือนมีคนมาจุ๊บหน้าผาก จุ๊บแก้ม
(2.)กันยายน 2560(ก่อนเจิม) เรานอนกับเพื่อนที่หอแฟนเพื่อน เรารู้สึกว่ามีคนมาจูบปากแบบดูดดื่มมาก เราก็ตกใจ สะดุ้งตื่น
(3.)ช่วงหลังเจิม ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาลูบหัวแบบเอ็นดูๆ
-เพื่อนเราที่ไปเจิมด้วยกันไม่เป็นแบบเรานะคะ นอนหลับปกติ แค่นานๆทีจะฝันเห็นผีหน้าตาน่ากลัว หรือสัมผัสอะไรของนาง(รู้สึกนางจะมีsense)เวลานางนอนกับเราจะรู้สึกอึดอัด วูบๆกับตัว เราก็จะตื่นมาบอกนางว่าเรามีอาการนั้นอีกแล้วนะ ก็เหมือนรับรู้ไปด้วยกันว่ามีอะไรแค่คนละรูปแบบ ยิ่งเราเปิดบทภาณยักษ์ นางจะนอนไม่ได้เลย กลัวสั่นไปหมด วูบวาบ เราก็งงนะ นางมีอะไรรึเปล่า.
และก็ส่วนตัวเราเป็นคนมีเรื่องลี้ลับเข้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว ครอบครัวเราก็เชื่อเรื่องนี้
ที่มาเล่าในวันนี้แค่อยากระบาย ขอคำปรึกษา ว่าควรจะทำยังไงดี ตอนนี้หมดหนทาง เป็นทุกข์กับสิ่งเป็นอยู่ เราแทบไม่อยากจะนอน บางทีเราเหนื่อยจากชีวิตประจำวัน เราอยากพัก แต่กลับต้องมาทำให้เราตื่น ทั้งที่ง่วงมาก เราไม่รู้เขาเป็นใครต้องการอะไร เราควรทำยังไงให้เขาไป
(จริงๆเรื่องมันมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เราพิมพ์ไม่ไหว ลืมบ้าง)
ถ้าทำให้ไม่เข้าใจตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ.
เราเข้าใจคนที่ไม่เชื่อเรื่องแบบนี้นะคะ แต่เราก็หวังว่าจะมีคนที่เข้าใจเรา ว่าเราไม่ได้เพ้อเจ้อ คิดไปเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเจอเองกับตัว เรารู้ว่ามันคืออะไรยังไง
ปล.เรายังไม่เคยไปหาหมอค่ะ เพราะเรามั่นใจในสิ่งที่เราเจอ
ขอบคุณคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ.