เมื่อวันสิ้นปีที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสไปเที่ยวกับครอบครัวซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่มามีเรื่องเซงตรงที่โทรศัพท์ดันดับ เรื่องมันมีอยู่ว่า
เราใช้โทรศัพท์ SS 9+ วันที่ 31 ธ.ค. 61 เราเอาเครื่องไปลงน้ำสระ หลังจากนั้น ประมาณ 2-3 ชม. เครื่องเราดับไป แล้วดับไปเลย ชาทไม่ติดเลย(อ่ะๆๆๆ อย่าเพิ่งว่าเรานะว่าบ้า กล้าเอาโทรศัพท์ไปลงน้ำได้ยังไง เราเคยเอาลงแล้ว ไม่มีปัญหาไง) ขอย้อนกลับไปเริ่มแรกที่เราซื้อเครื่องใช้ เราได้เคยเอาลงน้ำแล้วไม่มีปัญหา เอาไปถ่ายใต้น้ำได้ตามโฆษณา ตอนนั้นไปเที่ยวพัทยาช่วงเดือน มิ.ย.61ถ่ายใต้น้ำได้นานสิบกว่านาที เอาเครื่องขึ้นจากน้ำ พักไว้สักครู่ก็ใช้งานได้ตามปกติ
พอมาเดือน พ.ย. เรารู้สึกว่าโทรศัพท์ชาทไม่เข้าเป็นอยู่ประมาณอาทิตย์หนึ่งจนชาทไม่เข้าอีกเลย จึงนำโทรศัพท์เข้าศูนย์ samsung ที่ฟิวเจอร์และได้รับการซ่อมแซม พร้อมวันที่รับเครื่องกลับ ก็ได้รับใบเช็คสภาพโทรศัพท์ว่าใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งระบบกันน้ำยังอยู่นะ เราก็ดีจังเลยที่โทรศัพท์กลับมาใช้ได้ปกติ
หลังจากโทรศัพท์เราดับครั้งนี้ พอวันที่ 1 ม.ค.62 เรานำเครื่องไปเข้าศูนย์ที่ฟิวเจอร์เหมือนเดิม เราฝากเครื่งไว้ เค้าจะติดต่อกลับเราหลังช่างเช็กสภาพเครื่องเสร็จ เวลาประมาณ 19.50 น. ได้รับคำตอบว่าค่าซ่อมไม่อยู่ในประกัน(เรื่องน้ำเข้าแล้วไม่อยู่ในประกัน อันนี้เรารู้มาอยู่แล้ว)โดยเขาตีราคาค่าซ่อม เป็นจำนวนเงิน 21,989 บาท (ค่าของและค่าภาษี) หน้าชาเลยจ้าาา ค่าซ่อมเกือบเป็นค่าเครื่องไปแล้ว ตอนนั้นเวลา19.50น.แล้ว เราเลยแจ้งว่าจะมาให้คำตอบอีกทีวันพรุ่งนี้ เพราะศูนย์ปิด 20.00 น.
2/1/62 เราเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ เราว่าเรารู้สึกไม่ยุติธรรมที่ต้องเสียค่าซ่อม เพราะเราใช้งานในรูปแบบที่เราเคยใช้งานได้ แต่โทรศัพท์มาเสีย เราไม่โอเค เพราะครั้งที่แล้วหลังเราซ่อมโทรศัพท์เสร็จ ก็มีใบเช็คสภาพจากศูนย์ให้เรา ว่าใช้งานได้ กันน้ำได้เหมือนเดิมเป็นปกติ แต่ครั้งนี้เราก็เอาลงน้ำสระปกติ เราเอารูปที่ถ่ายที่สระน้ำให้เขาดู ว่าเราไม่ได้ถ่ายในน้ำทะเล ครั้งนี้เราเอาลงน้ำไม่ถึง 5 นาที ถ่ายได้ 4-5 รูป เครื่องก็ดูแปลกๆ แถบvol.เสียงค้างอยู่ตลอด เราก็เลยเอาขึ้นจากน้ำ แล้วไม่เอาลงน้ำอีก หลังเราคุยข้อมูลการลงน้ำครั้งนี้กับพนักงาน พนักงานก็ไปคุยกับช่างซ่อม แล้วเดินออกมาบอกเราว่าช่างลดราคาให้ได้ 20% เราก็เลยบอกว่า มันไม่ยุติธรรมกับเราจริงๆเราไม่ควรต้องเสียเลยด้วยซ้ำ เพราะครั้งแล้วทางศูนย์มีใบทดสอบระบบกันน้ำให้เรา ถ้าในใบระบุว่าระบบกันน้ำไม่มีอีกแล้วเราคงไม่เอาไปลงน้ำอีก แต่นี่มีการ test ให้เราว่ากันน้ำเหมือนเดิม เราก็ต้องมั่นใจที่เอาไปใช้งานเหมือนเดิม เราจึงถามว่ามีทางให้เรายื่นทางอื่นอีกไหม พนักงานศูนย์จึงยื่นเรื่องทางสำนักงานใหญ่ให้ ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไร เขาจะประสานงานทางอีเมลให้ ให้เรารอคำตอบ 2-3 วัน
4/1/62 ประมาณ 14.00 น. มีเบอร์ทางศูนย์ติดต่อมา ว่าเรื่องที่ยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทไปนั้น บริษัท ให้เราเสียค่าซ่อม 50% น่ะ รู้คำตอบเราใช่ไหม มันไม่ใช่อะไรที่เราต้องมาเสียไง!! เราก็บอกเค้าว่าเราไม่โอเค เขาจึงแจ้งเราว่าเดี๋ยวเขายื่นเรื่องกลับไปที่ศูนย์ใหญ่อีกที ให้เรารอติดต่อกลับทางโทรศัพท์หรืออีเมล ช่วงประมาณ 15.00น. มีคนจากศูนย์ใหญ่โทรมา เขาก็ยื่นข้อเสนอเดิมเลย 50% เราก็แจ้งเขาว่าเราไม่โอเคอยู่แล้ว โทรศัพท์เราไม่ควรเสียเลยด้วยซ้ำ ถ้ามันกันน้ำได้เหมือนตามปกติ เหมือนก่อนที่เราจะซ่อมมัน แล้วเราก็มีใบ test กันน้ำหลังซ่อม
เราเล่าเหตุการณ์การใช้โทรศัพท์ของเราให้เขาฟังอีกครั้ง พนักงานบอกว่าคาดการณ์ว่าน้ำบางส่วนมันอาจจะอยู่ตั้งแต่การใช้งานครั้งที่แล้วหรือป่าว เราก็ ห๊ะ!! น้ำที่ค้างครั้งที่แล้วด้วย เขาก็เดาค่ะเดา เราก็ไม่โอเคอยู่ดี เขาว่าช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตรงนี้คือที่ยื่นเรื่องสิ้นสุดแล้ว เราถามว่าไม่มีที่ยื่นเรื่องส่วนอื่นๆอีกแล้วใช่หรือไม่ เขาบอกว่าไม่ได้ยุยง ส่งเสริมใดๆ ก็คงมีที่เดียวที่ไปยื่นได้ เราก็ถาม สคบ ใช่ไหม เค้าก็ว่าใช่ เราก็โอเคร ถ้ายังไงเราจะกลับไปติดต่อที่ศูนย์ที่ฟิวเจอร์
ปล.เราใช้ Samsung มาตลอด ตอนใช้ s7 edge เอาลงน้ำ ถ่ายรูป ก็ไม่มีปัญหา
ปล.ที่ศูนย์ฟิวเจอร์ดีนะคะ เอาเครื่องสำรองให้เราใช้ แนะนำเราในการยื่นเรื่อง แต่ที่มาเขียนว่าเป็นน้ำทะเลในใบแจ้งซ่อมนี่มาเขียนทีหลังนะ
ปล.มันไม่ยุติธรรมกับเราอ่ะ มันไม่ควรเสีย แล้วเราต้องเสียค่าซ่อม ข้อมูลที่เรามีในโทรศัพท์หายหมด เราไม่ได้ใช้โทรศัพท์ตัวเองมา 4 วันแล้ว หุ้นอะไรเราเช็กไม่ได้ เล่น line ศูนย์รวมการติดต่อกับที่ทำงานไม่ได้ (เราทำงานที่ไม่เป็นเวลา)
ปล. sd card เรายังอยู่ดี(ตัวนี้ไม่ได้กันน้ำนะแต่ข้อมูลอยู่ครบ)ก็ยังดีมีมีข้อมูลตอนเราถ่ายรูปพอเป็นหลักฐานหากยื่นเรื่องกับ สคบ
สุดท้ายนี้เดี๋ยวเรามาเพิ่มเติมอีกทีถ้าเราเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
Samsung galaxy S9plus เมื่อหลังซ่อมเครื่องไม่กันน้ำตามที่ test ไว้!!!! พัง พัง พัง
เราใช้โทรศัพท์ SS 9+ วันที่ 31 ธ.ค. 61 เราเอาเครื่องไปลงน้ำสระ หลังจากนั้น ประมาณ 2-3 ชม. เครื่องเราดับไป แล้วดับไปเลย ชาทไม่ติดเลย(อ่ะๆๆๆ อย่าเพิ่งว่าเรานะว่าบ้า กล้าเอาโทรศัพท์ไปลงน้ำได้ยังไง เราเคยเอาลงแล้ว ไม่มีปัญหาไง) ขอย้อนกลับไปเริ่มแรกที่เราซื้อเครื่องใช้ เราได้เคยเอาลงน้ำแล้วไม่มีปัญหา เอาไปถ่ายใต้น้ำได้ตามโฆษณา ตอนนั้นไปเที่ยวพัทยาช่วงเดือน มิ.ย.61ถ่ายใต้น้ำได้นานสิบกว่านาที เอาเครื่องขึ้นจากน้ำ พักไว้สักครู่ก็ใช้งานได้ตามปกติ
พอมาเดือน พ.ย. เรารู้สึกว่าโทรศัพท์ชาทไม่เข้าเป็นอยู่ประมาณอาทิตย์หนึ่งจนชาทไม่เข้าอีกเลย จึงนำโทรศัพท์เข้าศูนย์ samsung ที่ฟิวเจอร์และได้รับการซ่อมแซม พร้อมวันที่รับเครื่องกลับ ก็ได้รับใบเช็คสภาพโทรศัพท์ว่าใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งระบบกันน้ำยังอยู่นะ เราก็ดีจังเลยที่โทรศัพท์กลับมาใช้ได้ปกติ
หลังจากโทรศัพท์เราดับครั้งนี้ พอวันที่ 1 ม.ค.62 เรานำเครื่องไปเข้าศูนย์ที่ฟิวเจอร์เหมือนเดิม เราฝากเครื่งไว้ เค้าจะติดต่อกลับเราหลังช่างเช็กสภาพเครื่องเสร็จ เวลาประมาณ 19.50 น. ได้รับคำตอบว่าค่าซ่อมไม่อยู่ในประกัน(เรื่องน้ำเข้าแล้วไม่อยู่ในประกัน อันนี้เรารู้มาอยู่แล้ว)โดยเขาตีราคาค่าซ่อม เป็นจำนวนเงิน 21,989 บาท (ค่าของและค่าภาษี) หน้าชาเลยจ้าาา ค่าซ่อมเกือบเป็นค่าเครื่องไปแล้ว ตอนนั้นเวลา19.50น.แล้ว เราเลยแจ้งว่าจะมาให้คำตอบอีกทีวันพรุ่งนี้ เพราะศูนย์ปิด 20.00 น.
2/1/62 เราเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ เราว่าเรารู้สึกไม่ยุติธรรมที่ต้องเสียค่าซ่อม เพราะเราใช้งานในรูปแบบที่เราเคยใช้งานได้ แต่โทรศัพท์มาเสีย เราไม่โอเค เพราะครั้งที่แล้วหลังเราซ่อมโทรศัพท์เสร็จ ก็มีใบเช็คสภาพจากศูนย์ให้เรา ว่าใช้งานได้ กันน้ำได้เหมือนเดิมเป็นปกติ แต่ครั้งนี้เราก็เอาลงน้ำสระปกติ เราเอารูปที่ถ่ายที่สระน้ำให้เขาดู ว่าเราไม่ได้ถ่ายในน้ำทะเล ครั้งนี้เราเอาลงน้ำไม่ถึง 5 นาที ถ่ายได้ 4-5 รูป เครื่องก็ดูแปลกๆ แถบvol.เสียงค้างอยู่ตลอด เราก็เลยเอาขึ้นจากน้ำ แล้วไม่เอาลงน้ำอีก หลังเราคุยข้อมูลการลงน้ำครั้งนี้กับพนักงาน พนักงานก็ไปคุยกับช่างซ่อม แล้วเดินออกมาบอกเราว่าช่างลดราคาให้ได้ 20% เราก็เลยบอกว่า มันไม่ยุติธรรมกับเราจริงๆเราไม่ควรต้องเสียเลยด้วยซ้ำ เพราะครั้งแล้วทางศูนย์มีใบทดสอบระบบกันน้ำให้เรา ถ้าในใบระบุว่าระบบกันน้ำไม่มีอีกแล้วเราคงไม่เอาไปลงน้ำอีก แต่นี่มีการ test ให้เราว่ากันน้ำเหมือนเดิม เราก็ต้องมั่นใจที่เอาไปใช้งานเหมือนเดิม เราจึงถามว่ามีทางให้เรายื่นทางอื่นอีกไหม พนักงานศูนย์จึงยื่นเรื่องทางสำนักงานใหญ่ให้ ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไร เขาจะประสานงานทางอีเมลให้ ให้เรารอคำตอบ 2-3 วัน
4/1/62 ประมาณ 14.00 น. มีเบอร์ทางศูนย์ติดต่อมา ว่าเรื่องที่ยื่นข้อเสนอกับทางบริษัทไปนั้น บริษัท ให้เราเสียค่าซ่อม 50% น่ะ รู้คำตอบเราใช่ไหม มันไม่ใช่อะไรที่เราต้องมาเสียไง!! เราก็บอกเค้าว่าเราไม่โอเค เขาจึงแจ้งเราว่าเดี๋ยวเขายื่นเรื่องกลับไปที่ศูนย์ใหญ่อีกที ให้เรารอติดต่อกลับทางโทรศัพท์หรืออีเมล ช่วงประมาณ 15.00น. มีคนจากศูนย์ใหญ่โทรมา เขาก็ยื่นข้อเสนอเดิมเลย 50% เราก็แจ้งเขาว่าเราไม่โอเคอยู่แล้ว โทรศัพท์เราไม่ควรเสียเลยด้วยซ้ำ ถ้ามันกันน้ำได้เหมือนตามปกติ เหมือนก่อนที่เราจะซ่อมมัน แล้วเราก็มีใบ test กันน้ำหลังซ่อม
เราเล่าเหตุการณ์การใช้โทรศัพท์ของเราให้เขาฟังอีกครั้ง พนักงานบอกว่าคาดการณ์ว่าน้ำบางส่วนมันอาจจะอยู่ตั้งแต่การใช้งานครั้งที่แล้วหรือป่าว เราก็ ห๊ะ!! น้ำที่ค้างครั้งที่แล้วด้วย เขาก็เดาค่ะเดา เราก็ไม่โอเคอยู่ดี เขาว่าช่วยอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตรงนี้คือที่ยื่นเรื่องสิ้นสุดแล้ว เราถามว่าไม่มีที่ยื่นเรื่องส่วนอื่นๆอีกแล้วใช่หรือไม่ เขาบอกว่าไม่ได้ยุยง ส่งเสริมใดๆ ก็คงมีที่เดียวที่ไปยื่นได้ เราก็ถาม สคบ ใช่ไหม เค้าก็ว่าใช่ เราก็โอเคร ถ้ายังไงเราจะกลับไปติดต่อที่ศูนย์ที่ฟิวเจอร์
ปล.เราใช้ Samsung มาตลอด ตอนใช้ s7 edge เอาลงน้ำ ถ่ายรูป ก็ไม่มีปัญหา
ปล.ที่ศูนย์ฟิวเจอร์ดีนะคะ เอาเครื่องสำรองให้เราใช้ แนะนำเราในการยื่นเรื่อง แต่ที่มาเขียนว่าเป็นน้ำทะเลในใบแจ้งซ่อมนี่มาเขียนทีหลังนะ
ปล.มันไม่ยุติธรรมกับเราอ่ะ มันไม่ควรเสีย แล้วเราต้องเสียค่าซ่อม ข้อมูลที่เรามีในโทรศัพท์หายหมด เราไม่ได้ใช้โทรศัพท์ตัวเองมา 4 วันแล้ว หุ้นอะไรเราเช็กไม่ได้ เล่น line ศูนย์รวมการติดต่อกับที่ทำงานไม่ได้ (เราทำงานที่ไม่เป็นเวลา)
ปล. sd card เรายังอยู่ดี(ตัวนี้ไม่ได้กันน้ำนะแต่ข้อมูลอยู่ครบ)ก็ยังดีมีมีข้อมูลตอนเราถ่ายรูปพอเป็นหลักฐานหากยื่นเรื่องกับ สคบ
สุดท้ายนี้เดี๋ยวเรามาเพิ่มเติมอีกทีถ้าเราเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน