อยากมาแบ่งปันเรื่องการเรียนมหาวิทยาลัย​ และการทำงานของผมครับ

สวัสดีครับ​ ขอแนะนำตัวนิดนึง​ ผมเป็น​ Android​ Developer(Java + Kotlin) (คาดว่าตัวเอง)​มีความสามารถระดับปานกลาง(คำว่าปานกลางนี่ตอบยากนะครับว่าแค่ไหน  เพราะปานกลางของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน) เงินเดือนประมาณ​ 21k เพึ่งเริ่มงานมาได้​สามเดือน(พึ่งผ่านโปร) โดยลักษณะงานจะเป็นการแก้ไขโปรเจคเป็นรอบๆตาม​ Requirement ครับ


ในช่วงชีวิตของผมก่อนการทำงานเป็นคนขี้เกียจ​ ผมจบมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์​ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์​ ด้วย​เกรดประมาณ​ 2.6 โดยใช้เวลาเรียน​ 5  ปี​ ในช่วงการเรียนผมขี้เกียจมาก​ บางวิชาผมเข้าแค่ครึ่งเทอม​ บางวิชาก็เข้าเมื่ออยากเข้า​ หนังสือสอบไม่เคยอ่าน​ ถ้าอ่านก็ไม่เคยเกินชั่วโมง​ หรือไม่ก็อ่านหน้าห้องสอบตลอด​ เกรดในรายวิชาต่างๆผมได้เกรด​ 0​ (เรียนรายวิชานั้นๆไม่ผ่านโดยไม่ได้ถอนรายวิชา) รวม​ 15​ หน่วยกิต​จากทั้งหมดที่ผมลงเรียนไป​ 146  หน่วยกิต​ (ซึ่งจากมุมมองผมในตอนนี้ถือว่าเยอะมากครับ)​ ซึ่งนิสัยขี้เกียจของผมก็ดีขึ้นตอนเริ่มขึ้นปีสี่ิ​​ ผมเริ่มจัดระเบียบชีวิตให้ตัวเองได้มากขึ้น​ ​(ดีขึ้นในที่นี้​ หมายถึงขี้เกียจน้อยลงนะครับ​ 555) ซึ่งก็ไม่รู้โรคจิตอะไรผมลงวิชาภาคทุกตัวเป็นวิชาเลือกอิสระ​ ซึ่งก็โอเค​ ส่วนหนึ่งเพราะผมมองว่าน่าสนใจด้วย​
(การโดดเรียนไม่ใช่เรื่องดีนะครับ​ อย่าทำตามผม)​

ส่วนมุมมองด้านการทำงานในอนาคตขณะผมอยู่มหาวิทยาลัยคือ​ อยากได้งานสบายๆ​ ไม่เครียด​ ซึ่งตอนนั้นผมคิดแค่นี้จริงๆ​ ผมมองไม่เห็นอนาคตของตัวเองว่าอีกห้าปีสิบปีผมจะเป็นอะไรหรือยังไงด้วยซ้ำ​ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจนัก ก็ยังใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ


สำหรับตอนผมเริ่มทำงานผมรู้สึกว่างานค่อนข้างน้อย​ เวลาว่างมีมาก​ ซึ่งที่ทำงานมีการให้อิสระในการเลือกว่าจะทำอะไร​ ช่วงแรกผมก็นั่งฟังเพลงแล้วก็หาอะไรอ่านไปเรื่อยๆ​ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็กระทู้จากพันทิปนี่แหละ)​ ซึ่งผมก็เกิดความคิดที่ว่างานที่นี่โอเคใช้ได้เล​ย​ ​สบาย​ ไม่เครียด​ ไม่เหนื่อย​ จนกระทั่งผมเริ่มเกิดเศษเสี้ยวความคิดขึ้นมาว่า


…… สบายไปหรือเปล่า? ……


หลังจากทำไปหนึ่งเดือนผมเริ่มรู้สึกอึดอัด​ ผมพบว่าความสบายนี้ไม่เหมาะกับผมซักเท่าไหร่​ ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มด้อยคุณค่า​ ศักยภาพของผมเริ่มลดลง​ และขี้เกียจมากขึ้นจนเกินพอดี​ จนผมเพิ่งเริ่มรู้สึกว่าผมกำลังติดอยู่ใน  Comfort Zone เข้าให้แล้ว


หลังจากเริ่มตระหนักได้ผมก็หาอะไรมาทำบ้างในช่วงเวลาว่างในที่ทำงาน​ เช่น​ เข้าไปตอบคำถามใน Stackoverflow (ส่วนใหญ่ก็เข้าไปอ่านแล้วงงๆนั่นแหละ​555​ แต่ที่ตอบได้ก็มีบ้างนะ)​, ศึกษา​ ​Programming Language อื่นๆ(ผมกำลังศึกษาการเขียน​ Backend) เป็นต้น​ แต่พอทำไปได้พักนึงผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่


สิ่งที่ผมทำไปทำให้ผมมีความรู้มากขึ้นแต่ไม่ได้ช่วยให้ผมออกจาก​ Comfort Zone​ แต่อย่างไร​ มันเป็นเหมือนการฆ่าเวลามากกว่า(แต่เป็นการฆ่าเวลาที่มีประโยชน์)​ ผมจึงเริ่มมองที่ปัญหาจริงๆอีกครั้งนึง…


……. ปัญหาอยู่ที่งานที่ผมทำรึเปล่า?​……


งานที่ผมทำมีปัญหาตรงไหนกัน?


สภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับผมถือว่าดีมากครับ​ เพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นรุ่นพี่ทุกคนใจดีและเป็นกันเองมาก​ หัวหน้าก็ใจดีเหมือนกัน​ หลังจากขบคิดไปพักนึงผมก็พบว่าปัญหาจริงๆอยู่ที่ตัวผมเอง…


ผมไม่ได้ชอบงานยาก​ แต่มาถึงจุดนี้ผมรู้แล้วว่าผมต้องการพัฒนาตัวเอง​ ผมไม่อยากหยุดอยู่กับที่​ ผมไม่อยากตีค่าตัวเองว่าไร้ค่า​ ผมไม่ได้อยากสบายในลักษณะนี้​ ผมอยากก่าวไปข้างหน้า​


……. ตอนนี้ผมเห็นอนาคตตัวเองเป็นยังไง?......


หลังจากผมรู้สิ่งที่ผมต้องการแล้วผมบอกได้เลยว่า​สิ่งที่ผมเห็นในอนาคตยัง… เหมือนเดิม​ เพียงแต่ว่าผมรู้ว่าผมจะสบายขึ้นในอนาคต​ เอาจริงๆผมคิดว่าไม่มีใครมองเห็นอนาคตหรอกครับ(เพราะอนาคตคือสิ่งที่มองเห็นได้  แต่มองไม่เห็น​ ว่าแต่วลีนี้คุ้นๆอยู่นะ​ 555) ผมคิดว่าอนาคตที่เรารับรู้จริงๆคือสิ่งที่เราต้องการจะเป็นมากกว่าครับ​ เรารับรู้มันได้ชัดเจนมากขึ้น​ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น​ (สำหรับผมเห็นแค่ตัวเองสบายขึ้น​ และได้มีโอกาสเลี้ยงดูพ่อแม่ก็พอแล้วครับ)​


…… หลังจากพิมพ์มายืดยาวผมมีบทสรุปให้ตัวเองอย่างไร?.......


คำตอบคือยังไม่มีครับ​ แม้ผมคิดที่จะหางานใหม่แต่ก็ยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้นครับ​ ผมยังไม่มีคำตอบจริงๆให้ตัวเอง


โอเค​ ที่ผมอยากบอกก็หมดแล้ว​ ต่อมาผมอยากจะพูดอะไรนิดนึง


…… ผมเคยสงสัยว่าทำไมบางทีชอบมีคนมาบ่นว่างานสบาย​ แต่น่าเบื่อไม่ก็อยากออกจากงานนี้?.......


งานสบาย​ เงินดี​ แล้วไม่ดีหรือ? จะไปเสี่ยงทำไม​ เสี่ยงไปก็ไม่รู้ผลลัพธ์เป็นยังไง​ เมื่อก่อนผมก็คิดอย่างนั้น​จนผมเจอเข้ากับตัวเอง​(ถึงแม้เงินเดือนผมจะยังไม่เยอะก็เถอะ​555)​ ถึงสิ่งที่เจออาจจะไม่เหมือนกันหมด  แต่ผมคิดว่าผมเข้าใจคนเหล่านี้มากขึ้น​ แม้จะในบางแง่มุมก็ตาม


ผมคิดว่าการที่อยู่ใน​ Comfort Zone​ นี้ไม่ได้เป็นความคิดที่แย่นัก​ ในขณะที่การออกจาก​ Comfort Zone​ ก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน​ คำตอบเรื่องนี้ไม่มีผิดหรือถูก​ หรือถ้ามีคำตอบ​ ก็ตอบได้เพียงแค่ตัวเองเท่านั้น​ในเมื่อเราเอาตัวเองเป็นตัวแปรนึงในการหาคำตอบ


…….  สุดท้ายนี้ผมขอฝากอะไรไว้นิดนึงครับ​ ​……


พยายามระลึกไว้ครับว่าตัวเองควรทำอะไรบ้าง​ หรืออะไรควรทำไม่ควรทำ​ อยากเช่นการขี้เกียจของผม​ เพราะว่าทุกอย่างที่ทำมันจะมีผลลัพธ์ตามมาเสมอ​ อยู่ที่ว่าจะดีหรือร้าย


นอกจากนี้ในการตัวสินใจปัญหาต่างๆในชีวิตแนะนำให้พยายามเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก(ไม่นับเรื่องครอบครัวนะครับ)​ เพราะเวลามีปัญหาจะได้ไม่ต้องโทษคนอื่นรวมถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นตัวเองย่อมเป็นคนรู้ดีที่สุด​ แม้ว่าในบางครั้งคำตอบที่ได้อาจจะมาช้าบ้าง​ หรือผิดบ้างก็เถอะ


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ


ปล.​ ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่เลยครับว่าจะเอายังไงกับเรื่องงานตัวเองกันแน่​ 555

ปล2. มั่วบ้าง​ มึนบ้าง​ ออกทะเลบ้าง​ หรือมีคำผิดบ้างก็ขออภัยนะครับ​ 555

ปล3. Comfort Zone ของผมนี่ผมอาจจะเข้าใจความกมายจริงๆผิดก็ได้นะครับ​ สำหรับผมมันคือพื้นที่ๆเรารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่​ตรงจุดนั้น​ เพราะเราไม่กล้าที่จะเสี่ยงและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากออกไปจุดนั้น​ ซึ่งเป็นตัวที่ทำใก้เราเกิดความกังวลและหวาดกลัว


_________________________________________


ส่วนผมตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ครับว่าสุดท้ายแล้วผมจะออกจากงานตอนนี้เลยไหม​ เพราะไหนๆก็ผ่านโปรแล้ว​ แต่ในอีกแง่นึงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่ผมอาจจะได้เริ่มอะไรใหม่ๆ​ เนื่องจากตอนนี้ผมอายุกำลังจะ​ 24 ผมมองว่าโอกาสในการหางานยังมีอยู่พอสมควร​ ดังนั้นใครที่เผลอเข้ามาอ่านช่วยเป็นกำลังใจและให้คำแนะนำผมด้วยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่