สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การไปทำ Miradry ว่าไปทำมาแล้ว ผลเป็นยังไงบ้าง ณ ตอนนี้
เราไปทำมาโดยเสียเงินเองทุกบาททุกสตางค์นะคะ หาข้อมูลเจอในอินเตอร์เน๊ต
แล้วก็คิดๆๆๆ อ่ะลอง ดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย..
ต้องบอกก่อนว่า เราเป็นคนมีปัญหากลิ่นตัวแรงมาก ตั้งแต่เด็กแล้ว
ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนกินอาหารรสจัดอะไร คือเราไม่ค่อยกินอาหารเผ็ดหรือ มีกลิ่นฉุน
แต่เวลาออกไปเจอแดด เจออากาศร้อนทีไร ต่อให้แค่ครึ่งชั่วโมง กลิ่นก็มาแรงมากจ้า เสียความมั่นใจมากๆ
จริงๆก่อนไปทำ เราลองใช้มาหมดแล้วทั้ง สารส้ม เต่าเยียบโลก โคลโรล โรลออนอะไรที่ว่าดี ก็ไปสรรหามาใช้หมด
ที่ล่าสุดคิดว่าใช้แล้วเอาอยู่มากๆ คือ เอาอยู่ที่สุดเท่าที่ใช้มา ก็คือ โรลออนของยี่ห้อ Chaisiri ค่ะ
แต่นั่นแหละ การไม่มีกลิ่นเต่าเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันมากๆ ไม่มีกิล่นแบบพยายามน้อยลงก็ยังดี
ตอนแรกคิดว่าจะไปทำเลเซอร์กำจัดขน คิดเอาเองว่ามันน่าจะช่วยเรื่องกลิ่นตัวได้
พอโทรไปสอบถามที่โรงพยาบาล รวมถึงอ่านกระทู้ และข้อมูลที่เพื่อนๆลงไว้
ก็มาสรุปได้ว่า การเลเซอร์กำจัดขน มันไม่น่าจะทำให้กลิ่นหายไปได้ ก็แอบเศร้า
บางคนก็มีเคยไปแก้ปัญหานี้โดยการไปโบท็อก หรือ ผ่าตัดต่อมเหงื่อต่อมกลิ่น
แต่เหมือนสุดท้ายก็ยังไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร
แต่เราก็ยังไม่หมดสิ้นความพยายาม หาอะไรอ่านไปเรื่อยๆ
จนมาเจอกับวิธีการกำจัดกลิ่นกายถาวรของ รัตตินันท์คลินิค ที่เรียกว่า MIRADRY
ราคาแอบแรงส์ค่ะ แต่คือเราตัดสินใจว่า ยังไงก็อยากลอง
ราคาที่ไปทำมา เดือนธันวาคม 2561 นั่น มีโปรโมชั่น Like&Share ผ่านFacebook ค่ะ ราคาลดแล้วเหลือ 35,000 บาท (เราบอกในนี้ได้ใช่ไหมคะ ถ้าไม่ได้ช่วยเตือนเรานะ จิเอาออกค่า)
เพื่อนๆตอนไปทำ ลองสอบถามโปรโมชั่นอีกทีนะคะ
เราแอดไลน์ไปสอบถามรายละเอียดก่อน ถามเยอะมากกกกก
สุดท้ายแอดมินขอเบอร์โทรศัพท์ไป บอกจะให้เจ้าหน้าที่โทรมาอธิบายรายละเอียดค่ะ
ซึ่งเราก็ว่าดี ก่อนทำเราอยากได้ข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประกอบการตัดสินใจเสียตังค์
ได้ความมาตามด้านล่างค่ะ.....
การเตรียมตัวก่อนไปทำ:
- โกนขนรักแร้ก่อนถึงวันนัดทำสัก 2-3 วัน
- วันที่ไปทำ ไม่ต้องทาโรลออนหรืออะไรไปเลย ขอเพียวๆค่ะ
- ใส่เสื้อแบบติดกระดุมหน้าไปจะดีกว่า เพื่อเวลาทำเสร็จจะได้ใส่เสื้อได้ง่ายๆ
- อันนี้เราแนะนำเองนะ ถ้ามีเพื่อนไปด้วย ช่วยขับรถกลับจะดีนะ เราจะได้ประคบน้ำแข็งไปได้เต็มที่
- หลังทำ 2-3 วัน แนะนำให้ประคบเย็นให้ได้มากที่สุด เราแนะนำว่าทำในช่วงที่จะมีวันหยุดก็ดีนะคะ (อันนี้แล้วแต่ความสะดวก)
วันทำ: เราไปทำมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561

- พอไปถึง พี่เค้าจะให้เปลี่ยนเสื้อเป็นแขนกุดของคลินิคค่ะ เสื้อตัวนี้ให้กลับบ้านไปเลย
- จากนั้น จะทำการทดสอบว่าต่อมเหงื่อ และ กลิ่น ของเรานั้น มันมากน้อยแค่ไหน
- พอทราบขอบเขตของต่อมเหงื่อแล้ว คุณหมอจะทำการฟิกตำแหน่งของต่อมเหงื่อเราค่ะ มันจะมีไซส์นะ ของเราใหญ่สุด คือ กลิ่นเลยแรงมากไง
- จากนั้นคุณหมอจะฉีดยาชาให้ค่ะ ในขั้นตอนนี้ก็จะเจ็บจี๊ดๆทนได้ค่ะ (แต่สัญญาว่ามันเจ็บน้อยกว่าฉีดยาชาคุณหมอฟัน)
- พอชัวร์แล้วว่ายาชาออกฤทธิ์ ก็เริ่มเอาเครื่อง MIRADRY ยิงคลื่นความร้อนลงไปตามจุดที่ฟิกไว้จนครบ ทำไม่เจ็บเลยค่ะเพราะมียาชาแล้ว 55+

เนื่องจากเราไปคนเดียว เลยไม่ได้รูปละเอียดนะคะ
ภาพนี้คือหลังจากทำเสร็จแล้ว (แขนซ้าย) ยังไม่ได้เช็ดแผนภาพการฟิกตำแหน่งออกค่ะ

ส่วนภาพนี้คืออีกข้าง (แขนขวา) ที่ทำก่อน แล้วลบแผนภาพการฟิกตำแหน่งออกไปส่วนนึงแล้ว
หลังทำเสร็จ:
- ได้น้ำแข็งก้อนมา 4 ก้อนค่ะ หลังทำเสร็จก็ประคบวนไป (เราขับรถกลับก็หนีบไว้ข้างซ้าย แล้วข้างขวาปล่อยไปก่อน ถึงบ้านค่อยหนีบน้ำแข็งต่อ)
- ได้ยาแก้อักเสบมาทาน 3 วัน
- คำแนะนำคือ หลังยาชาหมดฤทธิ์ เราจะรู้สึกแสบร้อน ให้ประคบเย็นวนไปค่ะ เราประคบจริงจัง 3 วัน
- ห้ามแช่น้ำ 2 อาทิตย์ ทั้งนี้ หมายรวมถึง การไปดำน้ำ ว่ายน้ำ แช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่บ้าน ประมาณนี้
- งดออกกำลังสัก 1-2 อาทิตย์
นัดดูอาการ:
- ทางคลินิคจะนัดดูอาการ 2 อาทิตย์ให้หลัง
- จะมีการทดสอบว่าต่อมเหงื่อ และ กลิ่น ของเรานั้น มันเหลืออยู๋มากน้อยแค่ไหนเช่นเดิม
- จากนั้น จะใช้เครื่องนวดให้ค่ะ เพื่อคลายต่อมน้ำเหลืองที่เป็นก้อนๆอยู่หน่อย พอนวดแล้วหายเลยค่ะ
ระหว่างรอการไป Follow up ที่รักแร้เราจะเหมือนเป็นก้อนๆ ไตๆค่ะ พี่ที่คลินิคบอกว่า มันจะเป็นแบบนั้น เพราะเราไปยุ่งกับต่อมเหงื่อ ต่อมกลิ่น มันก็ไปกระทบต่อมน้ำเหลืองด้วย พอเราไป Follow up ได้รับการนวด ก็โอเคค่ะ
ตอนนี้ผ่านไป 2 อาทิตย์กว่าๆแล้ว ไม่ได้ใช้โรลออนอะไรเลย ก็ไม่มีกลิ่นค่ะ
เราก็อยากดูระยะยาว หลายๆเดือนด้วย ว่าจะเป็นยังไง แต่ ณ ตอนนี้เราพอใจกับผลลัพท์ของมันนะ
ที่คลินิคบอกว่า บางคนทำครั้งเดียว บางคนทำสองครั้ง ยังไม่มีใครต้องทำเกิน 2
ถ้าเราทำครั้งเดียว แล้วพอใจกับผลลัพท์ คือ บางคนอาจไม่ได้กลิ่นหายไปปลิดทิ้ง แต่ลดลงแบบมากๆๆๆๆ แล้วโอเค ก็คือไม่ได้ต้องมาทำอีกนะคะ เราก็ใช้โรลออนบ้างได้ แต่ต้องเปลี่ยนขวดใหม่ค่ะ เนื่องจากขวดเก่ามันอาจมีเชื้อเต่าอยู่เนาะ เราเปิดของใหม่ใช้ ปลอดภัยกว่า
ด้านล่างนี้จะเอารูปมาให้ดูเพิ่มนะคะ
กรุณามองข้ามความดำคล้ำ T ^ T
วันที่ 2 (18 ธันวาคม 2561)

แขนซ้าย

แขนขวา มีแอบช้ำบ้าง ไม่ต้องตกใจค่ะ เดี๋ยวหายๆ
วันที่ 3 (19 ธันวาคม 2561)

แขนซ้าย

แขนขวา
วันที่ 7 (23 ธันวาคม 2561)

แขนซ้าย

แขนขวา
วันที่ 14 (30 ธันวาคม 2561) - 1 วันหลังจาก Follow up

แขนซ้าย

แขนขวา
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาเยอะๆแบบเรานะคะ
อีกหลายๆเดือนข้างหน้า จะมาอัพเดทนะคะว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว
[CR] MIRADRY กำจัดกลิ่นกายแรง บ๊ายบายน้องเต่า
เราไปทำมาโดยเสียเงินเองทุกบาททุกสตางค์นะคะ หาข้อมูลเจอในอินเตอร์เน๊ต
แล้วก็คิดๆๆๆ อ่ะลอง ดีกว่าไม่ได้ลองทำอะไรเลย..
ต้องบอกก่อนว่า เราเป็นคนมีปัญหากลิ่นตัวแรงมาก ตั้งแต่เด็กแล้ว
ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนกินอาหารรสจัดอะไร คือเราไม่ค่อยกินอาหารเผ็ดหรือ มีกลิ่นฉุน
แต่เวลาออกไปเจอแดด เจออากาศร้อนทีไร ต่อให้แค่ครึ่งชั่วโมง กลิ่นก็มาแรงมากจ้า เสียความมั่นใจมากๆ
จริงๆก่อนไปทำ เราลองใช้มาหมดแล้วทั้ง สารส้ม เต่าเยียบโลก โคลโรล โรลออนอะไรที่ว่าดี ก็ไปสรรหามาใช้หมด
ที่ล่าสุดคิดว่าใช้แล้วเอาอยู่มากๆ คือ เอาอยู่ที่สุดเท่าที่ใช้มา ก็คือ โรลออนของยี่ห้อ Chaisiri ค่ะ
แต่นั่นแหละ การไม่มีกลิ่นเต่าเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันมากๆ ไม่มีกิล่นแบบพยายามน้อยลงก็ยังดี
ตอนแรกคิดว่าจะไปทำเลเซอร์กำจัดขน คิดเอาเองว่ามันน่าจะช่วยเรื่องกลิ่นตัวได้
พอโทรไปสอบถามที่โรงพยาบาล รวมถึงอ่านกระทู้ และข้อมูลที่เพื่อนๆลงไว้
ก็มาสรุปได้ว่า การเลเซอร์กำจัดขน มันไม่น่าจะทำให้กลิ่นหายไปได้ ก็แอบเศร้า
บางคนก็มีเคยไปแก้ปัญหานี้โดยการไปโบท็อก หรือ ผ่าตัดต่อมเหงื่อต่อมกลิ่น
แต่เหมือนสุดท้ายก็ยังไม่ได้ผลมากเท่าที่ควร
แต่เราก็ยังไม่หมดสิ้นความพยายาม หาอะไรอ่านไปเรื่อยๆ
จนมาเจอกับวิธีการกำจัดกลิ่นกายถาวรของ รัตตินันท์คลินิค ที่เรียกว่า MIRADRY
ราคาแอบแรงส์ค่ะ แต่คือเราตัดสินใจว่า ยังไงก็อยากลอง
ราคาที่ไปทำมา เดือนธันวาคม 2561 นั่น มีโปรโมชั่น Like&Share ผ่านFacebook ค่ะ ราคาลดแล้วเหลือ 35,000 บาท (เราบอกในนี้ได้ใช่ไหมคะ ถ้าไม่ได้ช่วยเตือนเรานะ จิเอาออกค่า)
เพื่อนๆตอนไปทำ ลองสอบถามโปรโมชั่นอีกทีนะคะ
เราแอดไลน์ไปสอบถามรายละเอียดก่อน ถามเยอะมากกกกก
สุดท้ายแอดมินขอเบอร์โทรศัพท์ไป บอกจะให้เจ้าหน้าที่โทรมาอธิบายรายละเอียดค่ะ
ซึ่งเราก็ว่าดี ก่อนทำเราอยากได้ข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประกอบการตัดสินใจเสียตังค์
ได้ความมาตามด้านล่างค่ะ.....
การเตรียมตัวก่อนไปทำ:
- โกนขนรักแร้ก่อนถึงวันนัดทำสัก 2-3 วัน
- วันที่ไปทำ ไม่ต้องทาโรลออนหรืออะไรไปเลย ขอเพียวๆค่ะ
- ใส่เสื้อแบบติดกระดุมหน้าไปจะดีกว่า เพื่อเวลาทำเสร็จจะได้ใส่เสื้อได้ง่ายๆ
- อันนี้เราแนะนำเองนะ ถ้ามีเพื่อนไปด้วย ช่วยขับรถกลับจะดีนะ เราจะได้ประคบน้ำแข็งไปได้เต็มที่
- หลังทำ 2-3 วัน แนะนำให้ประคบเย็นให้ได้มากที่สุด เราแนะนำว่าทำในช่วงที่จะมีวันหยุดก็ดีนะคะ (อันนี้แล้วแต่ความสะดวก)
วันทำ: เราไปทำมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561
- จากนั้น จะทำการทดสอบว่าต่อมเหงื่อ และ กลิ่น ของเรานั้น มันมากน้อยแค่ไหน
- พอทราบขอบเขตของต่อมเหงื่อแล้ว คุณหมอจะทำการฟิกตำแหน่งของต่อมเหงื่อเราค่ะ มันจะมีไซส์นะ ของเราใหญ่สุด คือ กลิ่นเลยแรงมากไง
- จากนั้นคุณหมอจะฉีดยาชาให้ค่ะ ในขั้นตอนนี้ก็จะเจ็บจี๊ดๆทนได้ค่ะ (แต่สัญญาว่ามันเจ็บน้อยกว่าฉีดยาชาคุณหมอฟัน)
- พอชัวร์แล้วว่ายาชาออกฤทธิ์ ก็เริ่มเอาเครื่อง MIRADRY ยิงคลื่นความร้อนลงไปตามจุดที่ฟิกไว้จนครบ ทำไม่เจ็บเลยค่ะเพราะมียาชาแล้ว 55+
ภาพนี้คือหลังจากทำเสร็จแล้ว (แขนซ้าย) ยังไม่ได้เช็ดแผนภาพการฟิกตำแหน่งออกค่ะ
หลังทำเสร็จ:
- ได้น้ำแข็งก้อนมา 4 ก้อนค่ะ หลังทำเสร็จก็ประคบวนไป (เราขับรถกลับก็หนีบไว้ข้างซ้าย แล้วข้างขวาปล่อยไปก่อน ถึงบ้านค่อยหนีบน้ำแข็งต่อ)
- ได้ยาแก้อักเสบมาทาน 3 วัน
- คำแนะนำคือ หลังยาชาหมดฤทธิ์ เราจะรู้สึกแสบร้อน ให้ประคบเย็นวนไปค่ะ เราประคบจริงจัง 3 วัน
- ห้ามแช่น้ำ 2 อาทิตย์ ทั้งนี้ หมายรวมถึง การไปดำน้ำ ว่ายน้ำ แช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่บ้าน ประมาณนี้
- งดออกกำลังสัก 1-2 อาทิตย์
นัดดูอาการ:
- ทางคลินิคจะนัดดูอาการ 2 อาทิตย์ให้หลัง
- จะมีการทดสอบว่าต่อมเหงื่อ และ กลิ่น ของเรานั้น มันเหลืออยู๋มากน้อยแค่ไหนเช่นเดิม
- จากนั้น จะใช้เครื่องนวดให้ค่ะ เพื่อคลายต่อมน้ำเหลืองที่เป็นก้อนๆอยู่หน่อย พอนวดแล้วหายเลยค่ะ
ระหว่างรอการไป Follow up ที่รักแร้เราจะเหมือนเป็นก้อนๆ ไตๆค่ะ พี่ที่คลินิคบอกว่า มันจะเป็นแบบนั้น เพราะเราไปยุ่งกับต่อมเหงื่อ ต่อมกลิ่น มันก็ไปกระทบต่อมน้ำเหลืองด้วย พอเราไป Follow up ได้รับการนวด ก็โอเคค่ะ
ตอนนี้ผ่านไป 2 อาทิตย์กว่าๆแล้ว ไม่ได้ใช้โรลออนอะไรเลย ก็ไม่มีกลิ่นค่ะ
เราก็อยากดูระยะยาว หลายๆเดือนด้วย ว่าจะเป็นยังไง แต่ ณ ตอนนี้เราพอใจกับผลลัพท์ของมันนะ
ที่คลินิคบอกว่า บางคนทำครั้งเดียว บางคนทำสองครั้ง ยังไม่มีใครต้องทำเกิน 2
ถ้าเราทำครั้งเดียว แล้วพอใจกับผลลัพท์ คือ บางคนอาจไม่ได้กลิ่นหายไปปลิดทิ้ง แต่ลดลงแบบมากๆๆๆๆ แล้วโอเค ก็คือไม่ได้ต้องมาทำอีกนะคะ เราก็ใช้โรลออนบ้างได้ แต่ต้องเปลี่ยนขวดใหม่ค่ะ เนื่องจากขวดเก่ามันอาจมีเชื้อเต่าอยู่เนาะ เราเปิดของใหม่ใช้ ปลอดภัยกว่า
ด้านล่างนี้จะเอารูปมาให้ดูเพิ่มนะคะ
กรุณามองข้ามความดำคล้ำ T ^ T
วันที่ 2 (18 ธันวาคม 2561)
วันที่ 3 (19 ธันวาคม 2561)
วันที่ 7 (23 ธันวาคม 2561)
วันที่ 14 (30 ธันวาคม 2561) - 1 วันหลังจาก Follow up
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาเยอะๆแบบเรานะคะ
อีกหลายๆเดือนข้างหน้า จะมาอัพเดทนะคะว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้