ความรู้ภาษาอังกฤษที่อยากให้มีไว้ก่อนเข้าปี 2019

กระทู้สนทนา
กระทู้สุดท้ายก่อนสิ้นปี!

ไม่อยากให้วันนี้ผ่านไปเฉย ๆ เพราะมันคือวันสุดท้ายของปี แต่วันสุดท้ายเราก็ไม่ควรเรียนเรื่องอะไรหนัก ๆ เลยทำโพสต์นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสรุปใจความสำคัญที่ผมเขียนมาตลอดทั้งปี

พูดง่าย ๆ คือ มันคือ "สิ่งที่ควรรู้ก่อนผ่านปีนี้ไป"

ทั้งหมดมีเขียนเป็นโพสต์และกระทู้ไว้ ลองหาอ่านได้ แต่วันนี้อ่านโพสต์นี้จบและเข้าใจมันบ้างแต่ถือว่าปีนี้ทำได้ดีแล้ว

มาเริ่มกันเลย

- เรื่องแรกที่ผมเขียนตอนเปิดเพจนี้คือ "การเรียนภาษาอังกฤษจากซีรีส์" ใจความสำคัญคืออยากให้ทุกคนเริ่มฝึกดูซีรีส์และภาพยนต์แบบ soundtrack และดูเป็นซับอังกฤษ เลิกทุกอย่างที่เป็นภาษาไทย วิธีนี้มันดีเพราะมันไม่น่าเบื่อ เราได้เรียนและดูหนังไปด้วย แต่บางครั้งอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวละครกำลังคุยกัน ผมมีกระทู้คำศัพท์อยู่หลายเรื่อง ลองไปเริ่มฝึก listening ดู ถ้าอยากฟังภาษาอังกฤษให้ออก มันต้องดูซีรีส์!

- เรื่องสำคัญที่สุดที่เขียนมาคือ "Oxford 3000 Keywords" คำศัพท์ 3000 คำที่เป็นใจความสำคัญของภาษาอังกฤษ ทุกคนควรเริ่มศึกษาและท่องมันให้เป็นกิจวัตร มันดีมากจริง ๆ! สนับสนุนให้ทุกคนที่เรียนภาษาอังกฤษท่องมันไว้ แล้ววกิลจะพัฒนาได้เร็ว

- ภาษาอังกฤษถ้าไม่เรียนแกรมมาร์ เราก็จะเรียนเรื่อง Word stress, final sounds, intonation, linking sound แทน เรื่องเหล่านี้เป็นใจความสำคัญของ speaking skill ดังนั้นถ้าเบื่อแกรมมาร์ ก็ให้เปิดเรื่องพวกนี้อ่าน จะได้มีสำเนียงที่เป๊ะเว่อร์

- เราสามารถเก่งภาษาโดยไม่ต้องคุยกับใครก็ได้จริง! แต่สกิลที่จะไม่ค่อยพัฒนาคือความมั่นใจ (confidence) เพราะฝึกคนเดียว พูดคนเดียว! เวลาต้องคุยกับคนอื่นมันอาจจะเขิน ๆ หน่อย แต่เราสามารถพูดภาษาอังกฤษให้เก่งแบบเจ้าของภาษาโดยการฝึกพูดคนเดียวได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าหากไม่มีเงินไปเรียนต่างประเทศ จะพูดอังกฤษเป๊ะไม่ได้ ตั้งใจฝึกก็พอ

- หัวใจหลักของ English grammar คือ Part of speech หรือชนิดของคำ มันสำคัญจริง ๆ ถ้าจะเก่งแกรมมาร์ต้องเริ่มจากเรื่องนี้ ต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อน ซึ่งมันมีเยอะมากกก ดังนั้น Part of speech ควรเป็นหัวข้อที่เราต้องทบทวนทุกวันเลย

- แกรมมาร์ที่ชอบเจอในข้อสอบจะอยู่ในสี่หัวข้อใหญ่คือ Participle phrases, clauses, verbs that are followed by gerunds and to-infinitives และ comparative (การเติม -er หรือ the most) มีให้อ่านเยอะเลย ใครจะสอบต้องทบทวนให้แม่น

- ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติให้เริ่มหัดใช้ phrasal verbs, idioms และ collocations มาแต่งประโยคบ่อย ๆ เพราะคำเหล่านี้เป็นภาษาพูด เป็นสิ่งที่เราจะเจอเวลาเดินตามท้องถนน ดังนั้นให้ฝึกแต่งประโยคจากคำเหล่านี้ทุกวัน!

- หนึ่งเรื่องที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เราสำเนียงดีคือ Nasality คือความขึ้นจมูกของเสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีใครพูดถึงเลย เรื่องนี้สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าต้องการให้สำเนียงเราฟังดูเป็นฝรั่งมากขึ้น ให้เปล่งเสียงขึ้นจมูกนิดหน่อย เหมือนคนเป็นหวัด สำเนียงเราจะชัดขึ้นมาก เป็นทริคเล็ก ๆ ให้ลองไปฝึกดู

- ทุกครั้งที่เจอคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้เราอ่านความหมายภาษาอังกฤษอังกฤษของมันด้วย เพราะมันจะช่วยให้เราจำคำศัพท์ได้ดีขึ้น dict แบบ eng-eng ที่ผมแนะนำคือ Collins, Oxford, Longman, Macmillan หากเป็นสำนวน (idiom) ก็ให้เปิดดูรูปภาพ เพราะมันจะทำให้ตีความหมายได้ง่าย จำไว้เลยว่าอย่าอ่านแค่ภาษาไทย จากนี้ให้ฝึกตีความแบบอังกฤษ-อังกฤษ

- แอปที่ควรมีติดโทรศัพท์ไว้คือ ThaiFastDict, BBC Learning English และ Macmillan สามแอปนี้ดีมาก ๆ โดยเฉพาะของ BBC ที่จะมี podcast ภาษาอังกฤษให้เราฟังหลากหลาย (ผมเขียนกระทู้สอนใช้แอปด้วยลองไปอ่านดู) ปีหน้าควรตั้งเป้าไปเลยว่าต้องฟังทุกวันอย่างน้อยวันละหนึ่งตอน!

- ภาษาอังกฤษแบบ Tinglish คือภาษาอังกฤษแบบไทย ๆ (หรือที่ผมเรียกว่า 'ภาษาทังกฤษ') เข้าใจกันในหมู่คนไทย และฝรั่งบางคนที่อยู่ไทยมานานแล้ว หลายคนอาจเคยได้ยินคนบ่นที่ว่า "เก่งแกรมมาร์แต่พูดแล้วฝรั่งงง" เหตุเพราะคนที่เก่งแกรมมาร์บางคน ไม่สนใจเรื่องสำเนียง พูดภาษาอังกฤษแบบ Tinglish ไปเลย แบบนั้นอาจจะสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติลำบาก แนะนำให้ฝึกปรับสำเนียงบาง อย่างน้อยก็เรื่อง word stress, final sounds และ intonation

- ใครที่ชอบถามว่า "เรียนนานแค่ไหนจะเก่ง" ต้องเลิกถามได้แล้ว จากนี้ให้จำไว้เลยว่าจะเก่งหรือไม่เก่งนั้นให้นับที่'ชั่วโมงการฝึก' เรียนมาสิบปีแต่ชั่วโมงการฝึกมารวมกันแล้วไม่ถึงสองเดือนมันก็เก่งได้แค่คนที่ตั้งใจฝึกทุกวันมาสองเดือน ผมเลยชอบเน้นย้ำเสมอว่าให้สร้างนิสัยการฝึกภาษาอังกฤษไว้ เขียนตารางให้ตัวเองเลยว่าวันไหนจะฝึกอะไรบ้าง แล้วจะเก่งเร็งเก่งช้าเดี๋ยวก็รู้เอง ใครยังไม่เริ่มทำควรเริ่มจากการเขียนตารางฝึกภาษาเลย

- ถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษให้'คล่อง' ให้เริ่มฝึกการแปลแบบ "free translation" หรือการแปลจากความหมาย แล้วเลิกแปลภาษาอังกฤษแบบคำต่อคำสักที! ฝรั่งเขาฟังไม่รู้เลิกหรอก จากนี้ลองฝึกตีความและแต่งประโยคจากความหมายของมัน โดยไม่ยึดติดกับโครงสร้างภาษา อาจจะยากหน่อย แต่เป็นเรื่องที่ต้องทำถ้าอยากจะเก่ง ฝึกแปลจากทุกอย่างรอบตัวนี้แหละ ตั้งแต่ฉลากสินค้ายันบทความจากหนังสือพิมพ์

- มีเว็ปไซต์ดี ๆ หลายเว็ปเลย แต่เว็ปที่ผมคิดว่ามันสุดยอดที่สุดคือ Engvid.com นี่แหละ ทุกคนต้องลองเปิดเข้าไปดูบ้าง มันคือการฝึก listening skill กับแกรมมาร์ไปพร้อมกัน ๆ และทุกครั้งที่จบบทเรียนเขาก็มีแบบทดสอบให้ทำด้วย ทุกอย่างฟรี(เหมือนเพจนี้แหละ!) ปีหน้าเข้าไปตามเก็บด้วยนะ และแน่นอนว่าอีกเว็ปที่ดีงามไม่แพ้กันคือ bbc.co.uk/learningenglish

เท่านี้แหละ เป็นหัวข้อหลัก ๆ ที่ผมเขียนในปีที่ผ่านมานี้ ใครที่พอได้อ่านผ่าน ๆ บ้างก็ถือว่าโอเค ใครที่เข้าใจทุกเรื่องแล้วถือว่าสุดยอดมาก! ปีหน้าผมจะจริงจังกว่านี้ และหวังว่าทุกคนจะจริงจังกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน

"ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างในวันนี้ รู้มากกว่าเมื่อวานนี้ก็พอ"
อัพเดตคำศัพท์ประจำวัน (Word of the Day!) ได้ทุกวันที่ Instagram: British Dad (@the.jgc) (https://www.instagram.com/the.jgc/)
Hello, Goodbye
JGC.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่