ปีนี้ใครเจออะไร และได้อะไรจากบทเรียนนั้นมาบ้าง มาแชร์กันค่ะ
1.ชีวิตที่วางแผนกับไม่วางแผนมันต่างกัน ถ้าวางแผนมันจะเห็นภาพคร่าวๆ จะรับมือทัน เจอปัญหาก็ไม่ช็อก และไม่รู้สึกหนักมาก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันน่าจะเกิดขึ้น อันนี้เราทำPlannerค่ะ และปีหน้าก็จะลองทำงบการเงินส่วนบุคคล ส่วนของplanner ทำมา2ปีแล้ว สำเร็จตามแผนไม่ตามแผนบ้าง แต่มันช่วยให้ชีวิตมีจุดหมายมากขึ้น พบว่าplanner ไม่ต้องเป็นเล่มๆก็ได้นะคะ อาจจะเป็นแอพแจ้งเตือน หรืออะไรที่ทำให้เราเห็นมันบ่อย ส่วนตัวเหมาะกับplannerที่เป็นโปสเตอร์ใหญ่ๆ จะได้เห็นทุกวัน ไม่ลืมจุดหมายตัวเอง
2.อย่าไปยึดติดความสำเร็จมาก บางอย่างเราพยายามจนสุดแล้วมันไม่เป็นอย่างใจ มันคือความสำเร็จแล้ว ต่างกับที่มันไม่เป็นอย่างใจเพราะพยายามไม่พอ บางทีมันไม่สำเร็จตอนนี้เพราะประสบการณ์อะไรเรายังไม่พอ โตขึ้นอีกหน่อยทำเรื่องเดิม บางทีก็สำเร็จได้ง่ายๆ
3.ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
อย่าคาดหวังกับอะไรมากไป ทุกอย่างมันมีข้อด้อยของมันอยู่ ถ้าเรารับได้ในจุดนี้ เราจะเททุกสิ่งน้อยลง และไม่กลายเป็นคนเสพติดความสมบูรณ์แบบ ชีวิตมันจะง่ายขึ้นมาก
4. เราไม่ได้เก่งที่สุด
โลกใบนี้ใหญ่มาก มีคนเก่งกว่าเราเยอะมาก และมีทักษะความเก่งอยู่หลายด้าน ต่อให้เราเก่งที่สุดในด้านนี้ ก็ไม่เก่งที่สุดในอีกด้านของอีกคนอยู่ดี เราไม่ได้เก่งหรอก เราแค่อาจจะทำมันได้ ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตนั่นแหละ
5.หัวร้อนหัวเราไหม้
การที่เราหัวร้อนมันหัวคือหัวเรา ยิ่งโกรธ เรายิ่งเผาตัวเอง เวลาโกรธเราจะทำจะพูดอะไรสติมันจะหลุด และส่งผลเสียในระยะยาว มันจะลงที่เราหมด ไม่ได้ตกอยู่ที่เขา อย่าทำอะไรลงไปตอนโกรธเด็ดขาด เราอาจจะเสียสิ่งที่สร้างมาภายในไม่กี่วินาทีเพราะความโกรธ หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ให้ออกจากสถานการณ์นั้นไปก่อน เช่นเดินออกจากห้อง ออกจากแชท ออกไปไกลๆคู่กรณี เพราะตอนโกรธคู่กรณีไม่ใช่คนที่เราโกรธแล้ว แต่คือตัวเรา
และระวังการไปหัวร้อนกับคนที่อายุมากกว่าเรา สำหรับวัฒนธรรมไทยแล้ว เราจะผิดเสมอ ไม่ว่าเราจะถูกหรือผิดก็ตาม การไม่ตอบโต้เลยยังดีเสียกว่า
6.ความสัมพันธ์มันเหนือกว่าคำว่าถูกผิด บางทีเราก็พยายามแต่จะหาว่าใครถูกใครผิด แล้วลืมนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันไป
7. มีชีวิตให้ห่างคนเกรี้ยวกราด เลวร้ายเข้าไว้ แต่อย่าเกลียดเขา คนร้ายๆมีอยู่จริง เรามักพบว่ามันมีเหตุผลบางอย่าง มีอดีตบางเรื่องที่ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเป็นคนแบบนั้น หากไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยขัดเกลาเขาได้ ให้ออกห่างไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
8.ชีวิตที่ไม่มีปัญหามันดี แต่ชีวิตแบบนั้นมันไม่มีอยู่จริง
ทุกคนมีปัญหาเป็นของตัวเอง ส่วนที่แก้ไม่ได้ก็อยู่ที่ว่าเรายอมรับและอยู่กับมันได้มากแค่ไหน ส่วนที่แก้ได้เราก็พยายามแก้ไป ทำได้มากแค่ไหนเราก็มีความสุขขึ้นมากแค่นั้น ชีวิตที่มีปัญหาน้อยๆหรือแทบไม่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาเลยนี้มันดีมากๆ ถ้ามีอะไรหนักใจก็รีบเคลียร์ให้มันจบๆไป อาจต้องสูญเสียอะไรในชีวิตไปให้กับปัญหานั้นบ้าง ก็ถือว่าเป็นค่าครู
9.รีบมองหาจุดบกพร่องของตัวเองแล้วรีบแก้ไข บางทีปัญหาใหญ่มากเกิดขึ้นเพราะจุดบกพร่องเล็กๆที่เราละเลยนี้ เรามักพาตัวเองไปชนกับปัญหา เพราะมองข้ามจุดบกพร่องของตัวเอง เช่นขับรถไปชนคนอื่นเพราะชอบใจลอย ทะเลาะใหญ่โตกับเพื่อน เพราะเป็นคนพูดไม่คิดก่อนตลอด
10. เราจะได้ในสิ่งที่เราเป็น
11. เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วจริงๆ และต้องเรียนรู้การอยู่กับคนวัยนี้ ส่วนใหญ่ต้องการการเคารพ เอาใจใส่ บางทีก็เหมือนเด็กๆ ถ้าไม่สนใจก็จะงอแง และเป็นวัยที่คิดเยอะ ต้องพูดก่อนคิดทุกคำ เพราะเขาคิดทุกคำ
12.อยู่กับคนที่มีความดีๆ ชีวิตมันดีขึ้นจริงๆ
13.เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว
14.ความรักมันอธิบายไม่ได้สักที เลิกอธิบายมันเถอะ
บทเรียนจากปี 2018 ปีนี้ให้อะไรกับเราบ้างมาแบ่งปันกันค่ะ
1.ชีวิตที่วางแผนกับไม่วางแผนมันต่างกัน ถ้าวางแผนมันจะเห็นภาพคร่าวๆ จะรับมือทัน เจอปัญหาก็ไม่ช็อก และไม่รู้สึกหนักมาก เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามันน่าจะเกิดขึ้น อันนี้เราทำPlannerค่ะ และปีหน้าก็จะลองทำงบการเงินส่วนบุคคล ส่วนของplanner ทำมา2ปีแล้ว สำเร็จตามแผนไม่ตามแผนบ้าง แต่มันช่วยให้ชีวิตมีจุดหมายมากขึ้น พบว่าplanner ไม่ต้องเป็นเล่มๆก็ได้นะคะ อาจจะเป็นแอพแจ้งเตือน หรืออะไรที่ทำให้เราเห็นมันบ่อย ส่วนตัวเหมาะกับplannerที่เป็นโปสเตอร์ใหญ่ๆ จะได้เห็นทุกวัน ไม่ลืมจุดหมายตัวเอง
2.อย่าไปยึดติดความสำเร็จมาก บางอย่างเราพยายามจนสุดแล้วมันไม่เป็นอย่างใจ มันคือความสำเร็จแล้ว ต่างกับที่มันไม่เป็นอย่างใจเพราะพยายามไม่พอ บางทีมันไม่สำเร็จตอนนี้เพราะประสบการณ์อะไรเรายังไม่พอ โตขึ้นอีกหน่อยทำเรื่องเดิม บางทีก็สำเร็จได้ง่ายๆ
3.ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ
อย่าคาดหวังกับอะไรมากไป ทุกอย่างมันมีข้อด้อยของมันอยู่ ถ้าเรารับได้ในจุดนี้ เราจะเททุกสิ่งน้อยลง และไม่กลายเป็นคนเสพติดความสมบูรณ์แบบ ชีวิตมันจะง่ายขึ้นมาก
4. เราไม่ได้เก่งที่สุด
โลกใบนี้ใหญ่มาก มีคนเก่งกว่าเราเยอะมาก และมีทักษะความเก่งอยู่หลายด้าน ต่อให้เราเก่งที่สุดในด้านนี้ ก็ไม่เก่งที่สุดในอีกด้านของอีกคนอยู่ดี เราไม่ได้เก่งหรอก เราแค่อาจจะทำมันได้ ต้องเรียนรู้ไปตลอดชีวิตนั่นแหละ
5.หัวร้อนหัวเราไหม้
การที่เราหัวร้อนมันหัวคือหัวเรา ยิ่งโกรธ เรายิ่งเผาตัวเอง เวลาโกรธเราจะทำจะพูดอะไรสติมันจะหลุด และส่งผลเสียในระยะยาว มันจะลงที่เราหมด ไม่ได้ตกอยู่ที่เขา อย่าทำอะไรลงไปตอนโกรธเด็ดขาด เราอาจจะเสียสิ่งที่สร้างมาภายในไม่กี่วินาทีเพราะความโกรธ หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ให้ออกจากสถานการณ์นั้นไปก่อน เช่นเดินออกจากห้อง ออกจากแชท ออกไปไกลๆคู่กรณี เพราะตอนโกรธคู่กรณีไม่ใช่คนที่เราโกรธแล้ว แต่คือตัวเรา
และระวังการไปหัวร้อนกับคนที่อายุมากกว่าเรา สำหรับวัฒนธรรมไทยแล้ว เราจะผิดเสมอ ไม่ว่าเราจะถูกหรือผิดก็ตาม การไม่ตอบโต้เลยยังดีเสียกว่า
6.ความสัมพันธ์มันเหนือกว่าคำว่าถูกผิด บางทีเราก็พยายามแต่จะหาว่าใครถูกใครผิด แล้วลืมนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันไป
7. มีชีวิตให้ห่างคนเกรี้ยวกราด เลวร้ายเข้าไว้ แต่อย่าเกลียดเขา คนร้ายๆมีอยู่จริง เรามักพบว่ามันมีเหตุผลบางอย่าง มีอดีตบางเรื่องที่ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะเป็นคนแบบนั้น หากไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยขัดเกลาเขาได้ ให้ออกห่างไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
8.ชีวิตที่ไม่มีปัญหามันดี แต่ชีวิตแบบนั้นมันไม่มีอยู่จริง
ทุกคนมีปัญหาเป็นของตัวเอง ส่วนที่แก้ไม่ได้ก็อยู่ที่ว่าเรายอมรับและอยู่กับมันได้มากแค่ไหน ส่วนที่แก้ได้เราก็พยายามแก้ไป ทำได้มากแค่ไหนเราก็มีความสุขขึ้นมากแค่นั้น ชีวิตที่มีปัญหาน้อยๆหรือแทบไม่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาเลยนี้มันดีมากๆ ถ้ามีอะไรหนักใจก็รีบเคลียร์ให้มันจบๆไป อาจต้องสูญเสียอะไรในชีวิตไปให้กับปัญหานั้นบ้าง ก็ถือว่าเป็นค่าครู
9.รีบมองหาจุดบกพร่องของตัวเองแล้วรีบแก้ไข บางทีปัญหาใหญ่มากเกิดขึ้นเพราะจุดบกพร่องเล็กๆที่เราละเลยนี้ เรามักพาตัวเองไปชนกับปัญหา เพราะมองข้ามจุดบกพร่องของตัวเอง เช่นขับรถไปชนคนอื่นเพราะชอบใจลอย ทะเลาะใหญ่โตกับเพื่อน เพราะเป็นคนพูดไม่คิดก่อนตลอด
10. เราจะได้ในสิ่งที่เราเป็น
11. เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วจริงๆ และต้องเรียนรู้การอยู่กับคนวัยนี้ ส่วนใหญ่ต้องการการเคารพ เอาใจใส่ บางทีก็เหมือนเด็กๆ ถ้าไม่สนใจก็จะงอแง และเป็นวัยที่คิดเยอะ ต้องพูดก่อนคิดทุกคำ เพราะเขาคิดทุกคำ
12.อยู่กับคนที่มีความดีๆ ชีวิตมันดีขึ้นจริงๆ
13.เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว
14.ความรักมันอธิบายไม่ได้สักที เลิกอธิบายมันเถอะ