ปรึกษาเรื่องการหย่าร้าง

อาจจะยาวไปหน่อยนะคะ แต่อยากให้ทราบเรื่องราวทั้งหมดค่ะ

เรากับสามีสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย อยู่กินกันมา 22 ปี มีลูกชาย 1 คนอายุ 20 ปี


เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เราหยิบโทรศัพท์ผิดเผลอไปหยิบของสามี แล้วก็ต้องตกใจเพราะข้อมูลที่ค้างอยู่หน้าจอเป็นบทสนทนาทางไลน์ ระหว่างสามีกับเด็กผู้หญิงอายุราวๆ 15-16 ปี คนหนึ่ง เด็กคนนั้นเรียกสามีเราว่า "พ่อ"   
บทสนทนาก็ดูสนิทสนมเหมือนพ่อลูกทั่วไป นอกจากบทสนทนา ก็มีรูปถ่ายของสามีกับเด็กคนนั้น มีรูปนึงที่เราสังเกตเห็นชื่อ-นามสกุลที่ปักไว้ที่หน้าอกเสื้อ ชุดนร. ของเด็กคนนั้น  นามสกุลเดียวกับเราซึ่งใช้นามสกุลของสามี

เราคิดว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นลูกลับของสามีแน่นอน และสามีก็คงส่งเสียดูแลในฐานะบุตร บทสนทนาที่ดูสนิทสนมก็ทำให้คาดเดาได้ว่าไปมาหาสู่กันบ่อยแน่ๆ หลังจากที่ใช้เวลาตั้งสติอยู่หลายชั่วโมง
พอตอนค่ำ เราถามสามีว่าเด็กคนนี้เป็นใคร
ตอนแรกสามีตอบแบบละล่ำละลักว่าเป็นลูกบุญธรรม แต่พอถูกคาดคั้นหนักขึ้น ที่สุดก็ยอมรับว่าเป็นลูก และที่ไม่ยอมบอกเราก่อนหน้านี้ เพราะแม่และพี่สาวสามีแนะนำว่าไม่ให้บอก  
บอกตามตรงว่าเราช็อคมาก ปกปิดมาสิบกว่าปีทำได้อย่างไร  เราไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้เลย อีกทั้งสามีก็กลับมานอนที่บ้านทุกคืน

เราตัดสินใจหย่า แต่ตอนนี้สามีหลบหน้า ฝากบอกกับลูกไว้ว่าจะไปเยี่ยมแม่เค้าที่ต่างจังหวัด  เราอยากหย่าขาดจากสามีให้เร็วที่สุด จึงทำหนังสือหย่าที่ระบุรายละเอียดการจัดการทรัพย์สิน ส่งไปให้เขาทางไลน์ เราแจ้งไปด้วยว่า ถ้าต้องการโต้แย้งแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ให้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรมาทางไลน์หรือทางเมลล์ เราจะได้พิจารณาว่าจะยอมรับได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันได้ หลังเปิดปีใหม่จะได้นัดนายทะเบียนทำเรื่องหย่ากันให้เรียบร้อย เขาส่งข้อความตอบกลับมาว่า "คงต้องโต้แย้ง ถ้าจะทำกันขนาดนี้" แล้วก็ไม่ส่งอะไรมาอีกเลย

จึงอยากสอบถามว่า

1.       ถ้าสามีไม่ยอมเซ็นหนังสือหย่า ไม่ยอมไปเจอนายทะเบียนเพื่อเซ็นใบหย่า แล้ว  เราสามารถใช้ วิธีฟ้องหย่าแทนได้ ใช่มั้ยคะ
2.       ถ้าเราจะฟ้องชู้ ใช้เวลานานมั้ย ควรทำก่อนหย่า หรือทำไปพร้อมๆกับหย่า (แล้วทั้งลูกเรากับลูกลับของสามี ต้องเข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีมั้ยคะ คือเราไม่อยากให้เด็กๆต้องรับรู้รับฟังความเลวของพ่อเค้าค่ะ)  
3.      อยากให้ช่วยแนะนำทนายให้ด้วยได้มั้ยคะ อยากได้ทนายที่สามารถให้คำปรึกษาและช่วยเหลือได้จริงๆ เพราะตอนนี้เหลือแค่เรากับลูกชายเท่านั้น เราไม่อยากปรึกษาลูก แค่ลูกต้องมารับรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ก็แย่เต็มทีแล้ว

4.      เรากับสามีก็แยกกระเป๋าเงินกัน ในช่วงแรกสามีเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมด เราจ่ายเฉพาะเรื่องส่วนตัวของเราเท่านั้น ที่เหลือก็เก็บหมด พอแต่งไป 7-8 ปี เราได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนเพิ่ม จึงช่วยเค้าออกค่าใช้จ่ายและไม่ได้ตั้งเป็นกฎว่าใครออกค่าอะไร  เอาตามสะดวก แต่ก็ยังมีเงินส่วนตัวเหลือเก็บ  แล้วเงินเก็บพวกนั้นเราก็นำไปบริหารให้เงินทำงาน เราบริหารจัดการเองทั้งหมด  จนถึงปัจจุบันเงินต้น+ผลกำไรตรงจุดนี้ก็มากพอสมควร
เราจึงอยากทราบว่าเงินตรงนี้ถีอเป็นสิมสมรสที่ต้องแบ่งครึ่งกันหรือไม่  ถ้าต้องเป็นสินสมรส แต่ไม่อยากให้ลูกลับของสามี มีสิทธิในส่วนนี้ ต้องทำอย่างไรคะ

5.       ในกรณีที่ทั้ง พี่สาว และแม่สามี รับทราบเรื่อง แต่แนะนำให้สามีปิดบังเรากับลูกชาย จะเอาผิดใดๆ ได้บ้างคะ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่