สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงที่มีความฝันเเละรักการขี่มอเตอร์ไซค์ครับ
เเม้ครอบครัวจะไม่สนับสนุน ขนาดที่ว่ายอมออกรถเก๋งให้ เเต่ด้วยความใจรัก ผมเก็บเงินเเละซื้อมอเตอร์ไซค์คันเเรกเป็นของตัวเอง(เเอบซื้อ)
ตอนได้รถผมยังขี่ไม่เป็นด้วยซ้ำครับ เกิดมาจักรยานยังไม่เคยขี่ ก็นั่งหัดอยู่เกือบเดือนจนมั่นใจว่าขี่เเข็ง (หัดล้ม หัดเบรค หัดใช้เอ็นจิ้นท์ หัดเเก้อาการ) ถึงไปทำใบขับขี่ เเละทุกครั้งที่ขี่ผมใส่เซฟตี้เต็มตัวตลอดครับ หมวก เสื้อการ์ด รองเท้า ถุงมือยาว การ์ดเข่า (ตั้งใจว่าถ้ายังขับอยู่จะไปซื้อเรซซิ่งสูทมาใส่เพิ่มอีก บ้าเซฟตี้ขนาดพี่ที่รู้จักล้อว่าเซฟตี้เเพงกว่ารถเเล้วครับ)
เเละวันนึงความก็เเตกครับ เเน่นอนว่าผมโดนกดดันทั้งจากทางครอบครัวเเละเเฟน สุดท้ายต้องขายรถไป
ช่วงนั้นยอมรับว่า จิตตกมากครับ ขับรถติดๆเจอเวฟเเทรกไปยังมองตามเลย5555 มันอยากขี่ เเต่เห็นครอบครัวกับเเฟนมีความสุขผมก็ยินดีครับ
จนถึงจุดนึงก็ไม่รู้คิดไงไปเเอบออกเพิ่มใหม่อีกคัน เเล้วก็ขี่มาจนถึงทุกวันนี้ โดยรอบนี้ทางครอบครัวก็รู้เเล้วครับ คุณพ่อคุณเเม่เข้าใจผมเป็นอย่างดี ใจท่านผมคิดว่าก็คงอยากจะห้ามเเต่คงเห็นเเล้วว่าห้ามไม่ได้ ว่าง่ายๆคือไม่ห้ามเเต่ไม่สนับสนุน เเต่ก็ไม่ได้ทะเลาะไรกันครับ เพราะผมไม่ได้เอารถมาจอดบ้านอยู่เเล้ว เอาไปจอดห้องเช่าที่เช่าไว้จอด เวลาจะขี่ก็ขับรถออกจากบ้านไปเอาเซฟตี้กับรถที่ห้องเอา ท่านก็เลยไม่ว่าไร เเต่ก็บอกตลอดว่าขับรถดีๆ
เเต่ที่มีปัญหาคือเเฟนครับ เเน่นอนว่าเธอคือคนที่ผมอยากจะใช้ชีวิตร่วมด้วยต่อไป มีลูกมีครอบครัว ซึ่งไม่โอเคกับเรื่องที่ผมขี่มอเตอร์ไซต์มากๆ ผมเองก็เข้าใจครับว่าการขี่มอเตอร์ไซค์มีความเสี่ยง ต่อให้พื้นฐานผมจะขี่เเข็งระดับนึง ไม่ประมาท ไม่ห้าว ใส่เซฟตี้เต็ม เเต่เกิดอะไรขึ้นก็ถึงเนื้อถึงตัวก่อนเลย ไม่เหมือนรถยนต์ ซึ่งเธอห่วงตรงนั้นเเหละครับ เราทะเลาะกันหนักมาก เเละเป็นเรื่องใหญ่ๆเรื่องเดียวที่ทะเลาะ สุดท้ายเธอตัดสินใจบอกเลิกผมครับ ซึ่งก็เลิกกันดีครับ เพราะเราทั้งคู่เข้าใจว่ามันเกิดจากความคิดที่ไม่ตรงกันในจุดนี้
หลังจากเลิกกันได้เดือนนึงอาจจะด้วย ความผูกพันธ์เพราะคบกันมานาน หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เธอตัดสินใจกลับมาคุยกับผมเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้ง
(ตลอดเวลาที่เลิกกันก็คุยกันเเบบเพื่อนปกติครับ) โดยครั้งนี้เธอยื่นเงื่อนไขว่าจะไม่ห้ามผมอีก เเต่ขอว่าถ้าเเต่งงานมีลูกเเล้วอยากให้เราเลิกขี่
ซึ่งอาจจะเป็นกรณีที่พบเห็นได้ทั่วๆไปครับ เพราะพี่ๆหลายคนที่ผมรู้จักก็เลิกขี่เพราะมีลูก เเต่ผมรู้สึกลึกๆว่าผมเลิกไม่ได้ครับต่อให้อยากเลิกก็ตาม
ยอมรับตรงๆว่าตอนนี้ผมเคว้งมากครับ เพราะก็เข้าใจทั้งเหตุเเละผลขงเธอดี เเละเห็นดีเห็นงามด้วย เเละเชื่อว่าถ้าผมเลิกขี่ทุกคนจะมีความสุขครับ
เเต่หัวใจลึกๆผมรู้ดีว่าผมเลิกยากครับ ก็มันรักไปเเล้ว5555
ที่เข้ามาตั้งกระทู้ถามในวันนี้ อยากจะขอข้อคิดหรือคำเเนะนำจากพี่ๆครับ เผื่อมีพี่ๆท่านไหนที่เลิกขี่เพราะเหตุผลเดียวกับที่ผมเจอ
อยากรบกวนช่วยให้ข้อคิดหรือข้อเเนะนำ หรือเเชร์เรื่องราวก็ได้ครับ ขอบคุณครับ
มีพี่ๆท่านไหนเลิกขี่มอเตอร์ไซต์เพราะมีครอบครัวมีลูกไหมครับ
เข้าเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงที่มีความฝันเเละรักการขี่มอเตอร์ไซค์ครับ
เเม้ครอบครัวจะไม่สนับสนุน ขนาดที่ว่ายอมออกรถเก๋งให้ เเต่ด้วยความใจรัก ผมเก็บเงินเเละซื้อมอเตอร์ไซค์คันเเรกเป็นของตัวเอง(เเอบซื้อ)
ตอนได้รถผมยังขี่ไม่เป็นด้วยซ้ำครับ เกิดมาจักรยานยังไม่เคยขี่ ก็นั่งหัดอยู่เกือบเดือนจนมั่นใจว่าขี่เเข็ง (หัดล้ม หัดเบรค หัดใช้เอ็นจิ้นท์ หัดเเก้อาการ) ถึงไปทำใบขับขี่ เเละทุกครั้งที่ขี่ผมใส่เซฟตี้เต็มตัวตลอดครับ หมวก เสื้อการ์ด รองเท้า ถุงมือยาว การ์ดเข่า (ตั้งใจว่าถ้ายังขับอยู่จะไปซื้อเรซซิ่งสูทมาใส่เพิ่มอีก บ้าเซฟตี้ขนาดพี่ที่รู้จักล้อว่าเซฟตี้เเพงกว่ารถเเล้วครับ)
เเละวันนึงความก็เเตกครับ เเน่นอนว่าผมโดนกดดันทั้งจากทางครอบครัวเเละเเฟน สุดท้ายต้องขายรถไป
ช่วงนั้นยอมรับว่า จิตตกมากครับ ขับรถติดๆเจอเวฟเเทรกไปยังมองตามเลย5555 มันอยากขี่ เเต่เห็นครอบครัวกับเเฟนมีความสุขผมก็ยินดีครับ
จนถึงจุดนึงก็ไม่รู้คิดไงไปเเอบออกเพิ่มใหม่อีกคัน เเล้วก็ขี่มาจนถึงทุกวันนี้ โดยรอบนี้ทางครอบครัวก็รู้เเล้วครับ คุณพ่อคุณเเม่เข้าใจผมเป็นอย่างดี ใจท่านผมคิดว่าก็คงอยากจะห้ามเเต่คงเห็นเเล้วว่าห้ามไม่ได้ ว่าง่ายๆคือไม่ห้ามเเต่ไม่สนับสนุน เเต่ก็ไม่ได้ทะเลาะไรกันครับ เพราะผมไม่ได้เอารถมาจอดบ้านอยู่เเล้ว เอาไปจอดห้องเช่าที่เช่าไว้จอด เวลาจะขี่ก็ขับรถออกจากบ้านไปเอาเซฟตี้กับรถที่ห้องเอา ท่านก็เลยไม่ว่าไร เเต่ก็บอกตลอดว่าขับรถดีๆ
เเต่ที่มีปัญหาคือเเฟนครับ เเน่นอนว่าเธอคือคนที่ผมอยากจะใช้ชีวิตร่วมด้วยต่อไป มีลูกมีครอบครัว ซึ่งไม่โอเคกับเรื่องที่ผมขี่มอเตอร์ไซต์มากๆ ผมเองก็เข้าใจครับว่าการขี่มอเตอร์ไซค์มีความเสี่ยง ต่อให้พื้นฐานผมจะขี่เเข็งระดับนึง ไม่ประมาท ไม่ห้าว ใส่เซฟตี้เต็ม เเต่เกิดอะไรขึ้นก็ถึงเนื้อถึงตัวก่อนเลย ไม่เหมือนรถยนต์ ซึ่งเธอห่วงตรงนั้นเเหละครับ เราทะเลาะกันหนักมาก เเละเป็นเรื่องใหญ่ๆเรื่องเดียวที่ทะเลาะ สุดท้ายเธอตัดสินใจบอกเลิกผมครับ ซึ่งก็เลิกกันดีครับ เพราะเราทั้งคู่เข้าใจว่ามันเกิดจากความคิดที่ไม่ตรงกันในจุดนี้
หลังจากเลิกกันได้เดือนนึงอาจจะด้วย ความผูกพันธ์เพราะคบกันมานาน หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เธอตัดสินใจกลับมาคุยกับผมเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้ง
(ตลอดเวลาที่เลิกกันก็คุยกันเเบบเพื่อนปกติครับ) โดยครั้งนี้เธอยื่นเงื่อนไขว่าจะไม่ห้ามผมอีก เเต่ขอว่าถ้าเเต่งงานมีลูกเเล้วอยากให้เราเลิกขี่
ซึ่งอาจจะเป็นกรณีที่พบเห็นได้ทั่วๆไปครับ เพราะพี่ๆหลายคนที่ผมรู้จักก็เลิกขี่เพราะมีลูก เเต่ผมรู้สึกลึกๆว่าผมเลิกไม่ได้ครับต่อให้อยากเลิกก็ตาม
ยอมรับตรงๆว่าตอนนี้ผมเคว้งมากครับ เพราะก็เข้าใจทั้งเหตุเเละผลขงเธอดี เเละเห็นดีเห็นงามด้วย เเละเชื่อว่าถ้าผมเลิกขี่ทุกคนจะมีความสุขครับ
เเต่หัวใจลึกๆผมรู้ดีว่าผมเลิกยากครับ ก็มันรักไปเเล้ว5555
ที่เข้ามาตั้งกระทู้ถามในวันนี้ อยากจะขอข้อคิดหรือคำเเนะนำจากพี่ๆครับ เผื่อมีพี่ๆท่านไหนที่เลิกขี่เพราะเหตุผลเดียวกับที่ผมเจอ
อยากรบกวนช่วยให้ข้อคิดหรือข้อเเนะนำ หรือเเชร์เรื่องราวก็ได้ครับ ขอบคุณครับ