เสธ.แมว บอกเอือม ป.ป.ช.เกินเยียวยา ปลุกคนไทยเข้าคูหาพิพากษาแก้รัฐธรรมนูญ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1294959
เสธ.แมว เอือม ป.ป.ช.เกินเยียวยา ปลุกเข้าคูหาพิพากษาแก้รัฐธรรมนูญ เย้ยพรรคหนุนคสช.โยนหินเลื่อนเลือกตั้ง-กลัวแพ้ เชื่อกกต.ยึดคิวเดิม
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พล.ท.
ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยและอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงมติ 5:3 นาฬิการหรูของเพื่อนพล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมไม่ผิด ว่า ถือเป็นเรื่องเศร้าส่งท้ายปีเก่า ซึ่งพี่น้องประชาชนก็มิได้คาดหวังเรื่องสปิริตจากผู้มีอำนาจอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของป.ป.ช.อยู่ในขั้นสุดที่จะเยียวยาได้ สิ่งที่น่ากังวลมากคือเรื่องนี้เริ่มลุกลามส่งผลไปถึงความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการสรรหาป.ป.ช.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งในครั้งนี้พี่น้องประชาชนคงจะพิพากษาให้ซีกฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ เพื่อประสงค์ให้เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการสรรหาป.ป.ช. เพื่อนำความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยกลับคืนมา
พล.ท.
ภราดร กล่าวว่า ส่วนในเรื่องกระแสข่าวเลื่อนการเลือกตั้งนั้น ยังไม่ได้ยินจากปาก กกต. เป็นเพียงกระแสข่าวที่ออกมาจากปีกพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งประเมินได้ว่าปีกดังกล่าวยังไม่มีความพร้อมและกลัวแพ้การเลือกตั้ง จึงประสงค์จะดึงเวลาออกไปจนกว่าฝ่ายตนเองจะพร้อมและได้เปรียบ แต่คงไม่ง่ายที่จะได้ดั่งใจ เพราะกกต.ได้เคยยืนยันกับพี่น้องประชาชนไปแล้วว่ามีความพร้อม 100% ที่จะจัดการเลือกตั้งได้ตั้งแต่ 24 ก.พ.62 เป็นต้นไป จึงเชื่อมั่นว่ากกต. จะยังคงปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“อนาคตใหม่” ชี้ เลื่อนเลือกตั้งอีก ยิ่งบั่นทอนความนิยม “คสช.”
https://www.matichon.co.th/politics/news_1294827
“อนาคตใหม่” ชี้เลื่อนเลือกตั้งยิ่งบั่นทอนความนิยม “คสช.”
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม น.ส.
พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคมีความกังวลมาตลอด กรณีหากการเลื่อนจะเลือกตั้งออกไป แม้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะบอกว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เมื่อมีกระแสข่าวเลื่อนเลือกตั้งปรากฎขึ้นมาอีก ตนเชื่อว่า ยิ่งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ที่เสียหายของ คสช. และพรรคการเมืองที่เป็นนอมินี และพรรคที่สนับสนุนให้แย่ลงกว่าเดิม เพราะปัจจุบันประชาชนเองก็มีปัญหาจากการบริหารงานของรัฐบาลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ตนเชื่อว่า จะยิ่งเป็นการบั่นทอนความนิยมของทางคสช.ไปในตัวอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า การมีกระแสข่าวลักษณะนี้ออกมาเป็นการพยายามเบี่ยงประเด็น กรณีการทำหน้าที่ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ น.ส.
พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล ว่าจะมองอย่างไร แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง ตนคิดว่า การใช้กระแสข่าวด้านแย่ กลบ ข่าวที่แย่กว่า นั้นเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดนัก
“พรรคอนาคตใหม่พร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเหลือเวลาหาเสียงเพียง 58 วันจากนี้ ถือว่าน้อยอยู่แล้ว ขณะที่รายละเอียดการหาเสียง จาก กกต. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน และเชื่อว่าคงไม่มีพรรคการเมืองไหนสนับสนุนการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก เว้นแต่กลุ่มที่รู้กำหนดการณ์ หรือ รายละเอียดจาก กกต.ล่วงหน้า แม้การเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกจะยิ่งทำให้พรรคการเมืองอื่นมีความได้เปรียบในการหาเสียงเพิ่ม แต่เราไม่ขอรับความได้เปรียบนั้น เพราะเราต้องการนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศไทยให้เร็วที่สุด” น.ส.
พรรณิการ์ กล่าว
"วีระ" โพสต์แฉสื่อประจวบฯ โดนปลัดจังหวัดขู่ หลังรื้อคดีบิ๊ก ขรก. ปมโรงแรมเถื่อนหัวหิน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1294781
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นาย
วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “
Veera Somkwamkid” หลังจากมีผู้สื่อข่าว 3 ราย ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกข่มขู่ในห้องทำงานที่ศาลากลางจังหวัดว่า
“ถ้าใครทำให้ผมเดือดร้อน ผมจะดำเนินการทั้งในและนอกกฎหมาย สามารถดูได้จากที่ผ่านมาที่ผมเคยทำมาแล้ว” หลังจากเข้าไปสอบถามความคืบหน้ากรณีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งลงนามออกใบอนุญาตปลอมให้กับ โรงแรมในพื้นที่ อ.หัวหิน โดยระบุว่า ผู้สื่อข่าวหลายคนถูกอดีตปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ข่มขู่ในห้องทำงานบนศาลากลางฯ ได้มีการไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน แต่เมื่อพวกเขายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งอยู่ในศาลากลางฯเดียวกัน ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ เมื่อมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบข้าราชการในจังหวัด หน่วยงานของรัฐ(ศูนย์ดำรงธรรม)ก็ไม่ช่วยเหลือแล้วยังแสดงออกจนทำให้เชื่อว่ามีการช่วยปกป้องกันเสียอีก
“ประเทศนี้ หน่วยงานรัฐ องค์กรอิสระ พึ่งไม่ได้จริงๆ ประชาชนต้องช่วยตัวเอง ต้องช่วยกันเอง ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ประชาชนต้องออกมาผนึกกำลังกัน เพื่อจัดการกวาดล้างความเลวร้ายในสังคมไทยผมพร้อมแล้ว ท่านทั้งหลายพร้อมแล้วหรือยัง”
นาย
วีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลที่รับการร้องเรียนถึง คปต.แจ้งว่าเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย เข้าพบนาย
สมพร ปัจฉิมเพชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่ห้องทำงาน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด เมื่อผู้สื่อข่าวจะเดินทางกลับนายสมพร ได้กล่าวในทำนองข่มขู่ ผู้สื่อข่าวทั้ง 3 ราย เกรงว่าจะมีปัญหาไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้นาย
สมพรฯชี้แจงว่าการใช้วิธีการ “
นอกกฎหมาย” จะดำเนินการอย่างไร ด้วยวิธีใด จากนั้นเมื่อครบกำหนด 30 วันได้ไปทวงถาม แต่เจ้าหน้าที่ที่อ้างว่ายังไม่มีคำคอบ
“ล่าสุด นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามในหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ซึ่งพบว่าล่วงเลยกำหนดเวลา ตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้ศูนย์ดำรงธรรม จะต้องชี้แจงภายในเวลาที่กำหนด แต่เอกสารดังกล่าวไม่ได้แจ้งเหตุผลความล่าช้าให้ผู้ร้องทราบ ที่สำคัญในเอกสารการชี้แจง ข้อ 3 ปรากฏชื่อนายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ชี้แจงแทนนายสมพร โดยอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ระบุว่าไม่มีการข่มขู่ ขู่เข็ญ แต่ประการใด “
นาย
วีระกล่าวอีกว่า ผู้สื่อข่าวจึงร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 โดยแจ้งว่าผู้ร้องได้สอบถามเฉพาะบุคคล เพื่อให้นาย
สมพร ชี้แจงเท่านั้น ไม่ได้สอบถามบุคคลอื่น และ ขอให้ตรวจสอบสำเนาสาระบบการรับส่งเอกสารทั้งหมดระหว่างศูนย์ดำรงธรรมกับที่ทำการปกครองจังหวัด และนาย
สมพรเนื่องจากมีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำหนังสือร้องเรียนส่งถึงนาย
สมพรให้รับทราบก่อนหรือไม่ เพราะการร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2561 นายสมพรยังทำหน้าที่ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งย้ายไปทำหน้าที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2561 ระยะเวลาที่สอบถามถือว่ามีเพียงพอในการชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องสอบถาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1931431026954740&id=181257625305431&__xts__%5B0%5D=68.ARAyqAHlk6KUGd5VXEaSt6b5VlsPZ-BZ2Ks-G2fhjRj8xs6X7sMWabX8dCMgU_dLmMtujx1efBP6eTYvtW_E5g5QGZ9lUeBvgCUHFPT40uiLPNss5aHzU-1AVROqWpV_F-OjgMEt9-9DkqaL6W0Z4kIcljAmo_N4-ZiZBg-n_MSFMtFPEEBcP6-99IiQ6OsX05dYxq0mgvzp6hp46FixSzvYM4Sbfx4CSAHcVzbA75HaePY8CzSnv0nLcPICGJZkvXkwmMdIRT1Odvyylh_TwatFyjRVI_i-dkphnHkRtAC8bv_8Yi5pVzOCX03OvRldVbpbDDP_jOB12nHCKMqf7s5gmQ&__tn__=-R
JJNY : 4in1 เสธ.แมวเอือมป.ป.ช./อนค.ชี้เลื่อนลต.บั่นทอนความนิยม/วีระแฉสื่อประจวบฯโดนปลัดจว.ขู่/กำลังซื้อหดทุบเต็นท์รถมือ2
https://www.matichon.co.th/politics/news_1294959
เสธ.แมว เอือม ป.ป.ช.เกินเยียวยา ปลุกเข้าคูหาพิพากษาแก้รัฐธรรมนูญ เย้ยพรรคหนุนคสช.โยนหินเลื่อนเลือกตั้ง-กลัวแพ้ เชื่อกกต.ยึดคิวเดิม
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยและอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงมติ 5:3 นาฬิการหรูของเพื่อนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมไม่ผิด ว่า ถือเป็นเรื่องเศร้าส่งท้ายปีเก่า ซึ่งพี่น้องประชาชนก็มิได้คาดหวังเรื่องสปิริตจากผู้มีอำนาจอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของป.ป.ช.อยู่ในขั้นสุดที่จะเยียวยาได้ สิ่งที่น่ากังวลมากคือเรื่องนี้เริ่มลุกลามส่งผลไปถึงความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการสรรหาป.ป.ช.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งในครั้งนี้พี่น้องประชาชนคงจะพิพากษาให้ซีกฝ่ายประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ เพื่อประสงค์ให้เข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการสรรหาป.ป.ช. เพื่อนำความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยกลับคืนมา
พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ส่วนในเรื่องกระแสข่าวเลื่อนการเลือกตั้งนั้น ยังไม่ได้ยินจากปาก กกต. เป็นเพียงกระแสข่าวที่ออกมาจากปีกพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาล ซึ่งประเมินได้ว่าปีกดังกล่าวยังไม่มีความพร้อมและกลัวแพ้การเลือกตั้ง จึงประสงค์จะดึงเวลาออกไปจนกว่าฝ่ายตนเองจะพร้อมและได้เปรียบ แต่คงไม่ง่ายที่จะได้ดั่งใจ เพราะกกต.ได้เคยยืนยันกับพี่น้องประชาชนไปแล้วว่ามีความพร้อม 100% ที่จะจัดการเลือกตั้งได้ตั้งแต่ 24 ก.พ.62 เป็นต้นไป จึงเชื่อมั่นว่ากกต. จะยังคงปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนไม่มีการเปลี่ยนแปลง
“อนาคตใหม่” ชี้ เลื่อนเลือกตั้งอีก ยิ่งบั่นทอนความนิยม “คสช.”
https://www.matichon.co.th/politics/news_1294827
“อนาคตใหม่” ชี้เลื่อนเลือกตั้งยิ่งบั่นทอนความนิยม “คสช.”
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคมีความกังวลมาตลอด กรณีหากการเลื่อนจะเลือกตั้งออกไป แม้ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะบอกว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แต่เมื่อมีกระแสข่าวเลื่อนเลือกตั้งปรากฎขึ้นมาอีก ตนเชื่อว่า ยิ่งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ที่เสียหายของ คสช. และพรรคการเมืองที่เป็นนอมินี และพรรคที่สนับสนุนให้แย่ลงกว่าเดิม เพราะปัจจุบันประชาชนเองก็มีปัญหาจากการบริหารงานของรัฐบาลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ตนเชื่อว่า จะยิ่งเป็นการบั่นทอนความนิยมของทางคสช.ไปในตัวอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า การมีกระแสข่าวลักษณะนี้ออกมาเป็นการพยายามเบี่ยงประเด็น กรณีการทำหน้าที่ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวิจารณญาณส่วนบุคคล ว่าจะมองอย่างไร แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง ตนคิดว่า การใช้กระแสข่าวด้านแย่ กลบ ข่าวที่แย่กว่า นั้นเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดนัก
“พรรคอนาคตใหม่พร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเหลือเวลาหาเสียงเพียง 58 วันจากนี้ ถือว่าน้อยอยู่แล้ว ขณะที่รายละเอียดการหาเสียง จาก กกต. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน และเชื่อว่าคงไม่มีพรรคการเมืองไหนสนับสนุนการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก เว้นแต่กลุ่มที่รู้กำหนดการณ์ หรือ รายละเอียดจาก กกต.ล่วงหน้า แม้การเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกจะยิ่งทำให้พรรคการเมืองอื่นมีความได้เปรียบในการหาเสียงเพิ่ม แต่เราไม่ขอรับความได้เปรียบนั้น เพราะเราต้องการนำประชาธิปไตยกลับมาสู่ประเทศไทยให้เร็วที่สุด” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
"วีระ" โพสต์แฉสื่อประจวบฯ โดนปลัดจังหวัดขู่ หลังรื้อคดีบิ๊ก ขรก. ปมโรงแรมเถื่อนหัวหิน
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1294781
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Veera Somkwamkid” หลังจากมีผู้สื่อข่าว 3 ราย ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกข่มขู่ในห้องทำงานที่ศาลากลางจังหวัดว่า “ถ้าใครทำให้ผมเดือดร้อน ผมจะดำเนินการทั้งในและนอกกฎหมาย สามารถดูได้จากที่ผ่านมาที่ผมเคยทำมาแล้ว” หลังจากเข้าไปสอบถามความคืบหน้ากรณีอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งลงนามออกใบอนุญาตปลอมให้กับ โรงแรมในพื้นที่ อ.หัวหิน โดยระบุว่า ผู้สื่อข่าวหลายคนถูกอดีตปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ข่มขู่ในห้องทำงานบนศาลากลางฯ ได้มีการไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน แต่เมื่อพวกเขายื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งอยู่ในศาลากลางฯเดียวกัน ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ เมื่อมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบข้าราชการในจังหวัด หน่วยงานของรัฐ(ศูนย์ดำรงธรรม)ก็ไม่ช่วยเหลือแล้วยังแสดงออกจนทำให้เชื่อว่ามีการช่วยปกป้องกันเสียอีก
“ประเทศนี้ หน่วยงานรัฐ องค์กรอิสระ พึ่งไม่ได้จริงๆ ประชาชนต้องช่วยตัวเอง ต้องช่วยกันเอง ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ประชาชนต้องออกมาผนึกกำลังกัน เพื่อจัดการกวาดล้างความเลวร้ายในสังคมไทยผมพร้อมแล้ว ท่านทั้งหลายพร้อมแล้วหรือยัง”
นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลที่รับการร้องเรียนถึง คปต.แจ้งว่าเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย เข้าพบนายสมพร ปัจฉิมเพชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ที่ห้องทำงาน ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัด เมื่อผู้สื่อข่าวจะเดินทางกลับนายสมพร ได้กล่าวในทำนองข่มขู่ ผู้สื่อข่าวทั้ง 3 ราย เกรงว่าจะมีปัญหาไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ในวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้นายสมพรฯชี้แจงว่าการใช้วิธีการ “นอกกฎหมาย” จะดำเนินการอย่างไร ด้วยวิธีใด จากนั้นเมื่อครบกำหนด 30 วันได้ไปทวงถาม แต่เจ้าหน้าที่ที่อ้างว่ายังไม่มีคำคอบ
“ล่าสุด นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงนามในหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทราบ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 ซึ่งพบว่าล่วงเลยกำหนดเวลา ตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้ศูนย์ดำรงธรรม จะต้องชี้แจงภายในเวลาที่กำหนด แต่เอกสารดังกล่าวไม่ได้แจ้งเหตุผลความล่าช้าให้ผู้ร้องทราบ ที่สำคัญในเอกสารการชี้แจง ข้อ 3 ปรากฏชื่อนายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้ชี้แจงแทนนายสมพร โดยอ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ระบุว่าไม่มีการข่มขู่ ขู่เข็ญ แต่ประการใด “
นายวีระกล่าวอีกว่า ผู้สื่อข่าวจึงร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2561 โดยแจ้งว่าผู้ร้องได้สอบถามเฉพาะบุคคล เพื่อให้นายสมพร ชี้แจงเท่านั้น ไม่ได้สอบถามบุคคลอื่น และ ขอให้ตรวจสอบสำเนาสาระบบการรับส่งเอกสารทั้งหมดระหว่างศูนย์ดำรงธรรมกับที่ทำการปกครองจังหวัด และนายสมพรเนื่องจากมีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำหนังสือร้องเรียนส่งถึงนายสมพรให้รับทราบก่อนหรือไม่ เพราะการร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2561 นายสมพรยังทำหน้าที่ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งย้ายไปทำหน้าที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2561 ระยะเวลาที่สอบถามถือว่ามีเพียงพอในการชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องสอบถาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้