ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 29 : เบื้องหลัง
https://pantip.com/topic/38391928
======================================================================================
ตอนที่ 30 : โปรเฟสเซอร์ ปะทะ นักปราชญ์มากรู้
“รู้ตัวจนได้นะครับ” แอลตัวปลอมที่อยู่บนรถเข็นพูดขึ้นมา เขาค่อย ๆ ดึงวิกผมยาวที่สวมใส่ออก ปรากฏเป็นทรงผมสั้นแบบธรรมดา
ซึ่งใบหน้าของเขากับแอลเหมือนกันมากทีเดียว ต่างกันแค่ทรงผมเท่านั้น
“หน้าเหมือนฉันจริง ๆ ตอนที่เห็นทีแรกนึกว่าส่องกระจกเลย” แอลที่ตอนนี้ลงมาจากหลังของโปรเฟสเซอร์ แจ็คพูดขึ้นมาบ้าง เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ธรรมดา โดยมีสาวห้าวผมทอง จิน และสาวสวย เมย์อยู่ด้านข้าง
และเหตุที่ทำให้แอลพอพบเห็นใบหน้าของชายคนนี้ตอนเดินออกมาที่ตึกร้างแล้วต้องตกตะลึงก็คือ หน้าเหมือนเขานั่นเอง
โปรเฟสเซอร์ แจ็คในมาดหนุ่มผมยาวมัดรวบหันมองแอลตัวปลอมนั้น แล้วค่อยพูดกับยูยะว่า
“อืม... ใช้ได้นี่ยูยะ หาคนได้หน้าเหมือนแอลทีเดียว”
ยูยะขณะนี้คล้ายจุกเสียดแน่นท้อง เพราะแผนการที่ตัวเองวางมาตลอดได้พังทลายลง แต่ก็ยังรักษาอาการพูดตอบแจ็คไปว่า
“หึ ของมันแน่อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนแอลอย่างเดียวหรอก เพราะเค้าเองก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน”
แจ็คและคนอื่นมองดูยูยะและแอลตัวปลอมเป็นตาเดียว
“ขอบคุณที่ชมครับพี่ยูยะ” แอลตัวปลอมรีบออกตัวทันที “ต้องขอโทษพี่ยูยะด้วยที่ผมแสดงเป็นแอลได้ไม่ดีพอ”
“เอาเถอะ ตอนนี้นายต้องแสดงฝีมืออย่างอื่นแล้วล่ะ ไอ้สองคนนั่นก็แพ้ไปแล้วด้วย”
“ครับ” แอลตัวปลอมยิ้ม “อย่างไรผมต้องขอแนะนำตัวให้ทุกท่านรู้จักก่อนนะครับ” เขาพูดพลางหันหน้าไปหาเหล่านักเรียนประจิมสวัสดิ์ “ผมมีชื่อว่า ภูมิน เป็นหนึ่งในสมุนสังกัดของผู้คุมกฎ ท๊อปสปีด ยูยะที่มาแทนซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาครับ”
ท่าทางของเขาเวลาพูดดูนอบน้อมมากทีเดียว
“สุภาพจริง ๆ นะแก” แจ็คว่า
“ครับ ผมก็เป็นแบบนี้แหละครับคุณแจ็ค หรือคุณจักรพงษ์ สี่ขุนพลเจ้าของฉายา โปรเฟสเซอร์”
“หือ.. แกรู้ชื่อจริงฉันด้วยหรือ?”
“ครับ ก็ไม่เห็นยากเลยครับ แค่เข้าดูในฐานข้อมูลของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ก็รู้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่คุณก็ร้ายนะครับ เล่นกลับมาแบบก่อนกำหนด แถมมาในมาดใหม่ ไม่ตรงกับรูปที่อยู่ในข้อมูล ผมเลยไม่รู้ว่าเป็นคุณ”
แจ็คมองหน้าแอลตัวปลอมหรือภูมิน แล้วหันไปพูดกับปรีและคนอื่นว่า
“พรรคพวก ฉันขอจัดการไอ้แอลตัวปลอมนี่ละกัน”
“ก็ได้แจ็ค” ปรีตอบ แล้วเขาก็หันหน้าไปประจันกับยูยะ
แต่หนุ่มผมทองกลับหันหลังกลับ ก้าวเดินไปทางด้านหลังภูมินที่ยังนั่งอยู่บนรถเข็น แล้วเอนหลังผิงผนังโรงยิมพลางเอามือกอดอก
แล้วหนุ่มผมทองก็พูดขึ้นว่า
“ภูมิน... นายจัดการพวกนี้ได้หรือไม่?”
ภูมินยกมือข้างหนึ่งขึ้น พร้อมบอกว่า
“ไม่น่ามีปัญหาครับ”
“อืม... งั้นก็ดี ฉันจะดูการต่อสู้ของนายอยู่ตรงนี้ละกัน”
ดูท่ายูยะจะให้ภูมินต่อสู้แทน แต่ท่าจะหนักเพราะคู่ต่อสู้ไม่ได้มีแค่ปรีกับแจ็ค ยังมีใหญ่ เจมส์ ป๊อกกี้ เชน แม็กกี้ รวมทั้งสองยักษ์ และเรที่มาดูการต่อสู้ด้วย
“ดูเหมือนยูยะมันมั่นใจในตัวไอ้นี่มากทีเดียว” เฮอมิต ใหญ่พูดขึ้นมา
“อืม...” ปรีพยักหน้า “แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้สี่ขุนพลคนสุดท้ายก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเค้าก็ต้องการจะจัดการมันเองซะด้วย”
แจ็คดันนิ้วไปที่หว่างคิ้วคล้ายดันแว่น ทั้งที่ตอนนี้เขาไม่ได้สวมแว่นอยู่ ซึ่งอาจทำไปเพราะความเคยชิน แล้วค่อยพูดขึ้นมาว่า
“ถูกแล้วจักรพรรดิ ไอ้นี่ฉันคนเดียวก็พอ พวกนายรอสู้กับยูยะดีกว่า”
ท่าทางฝ่ายประจิมสวัสดิ์ก็เช่นกัน พวกเขาไม่ใช้พวกมากรุมกลุ้มทำร้ายภูมิน ให้โปรเฟสเซอร์ แจ็คเป็นคนจัดการเพียงคนเดียว
ดังนั้น การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นก็เป็นการปะทะกันระหว่างภูมินที่ปลอมเป็นแอล กับโปรเฟสเซอร์ แจ็ค หนึ่งในสี่ขุนพล
แจ็คเหม่อมองดูภูมินที่ตอนนี้ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น แล้วพูดขึ้นว่า
“นี่นาย...จะไม่ลุกขึ้นมาสู้หรือ... หรือว่านาย...”
“ไม่ใช่หรอกครับ” ภูมินสวนบอกทันที “พอดีผมเห็นว่าเก้าอี้รถเข็นตัวนี้สุดยอด เลยไม่อยากลุกขึ้นน่ะครับ”
“งั้นหรือ... นายจะสู้กับฉันโดยที่นั่งรถเข็นนี่เหรอ?”
“ครับ” ภูมินแย้มยิ้ม
“งั้นก็ได้ ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นไง เพราะไม่ว่ายังไงฉันจะแก้แค้นพวกนายที่มาทำเพื่อนฉัน”
“ได้เลยครับ สามารถลงมือได้เต็มที่เลย”
“อืม...” แจ็คพยักหน้าแล้วเคลื่อนตัวพุ่งเข้าใส่ภูมินบนรถเข็นอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่าหนุ่มรวบผมกลับไม่ถึงตัว ภูมินบังคับเก้าอี้รถเข็นถอยไปด้านหลังด้วยความเร็วกว่า หลบหลีกได้อย่างสบาย
แจ็คหันหน้าไปมองพูดว่า “ไม่เลวนี่”
จากนั้นเขาก็เคลื่อนตัวอีก โดยครั้งนี้เขาพุ่งไปทางด้านข้างของเก้าอี้รถเข็น
แต่ครั้งนี้ก็เป็นเช่นเดิม แจ็คเข้าไม่ถึงตัว ภูมินบังคับคันโยกที่เท้าแขนเก้าอี้ ปล่อยตะขอพร้อมเชือกพุ่งไปอีกฝั่งของโรงยิม ยึดเหนี่ยวกับเสา แล้วดึงตัวหลบได้อย่างไม่มีปัญหา
“นี่นายใช้รถเข็นกลไกได้ด้วยหรือ?” แจ็คเห็นว่าภูมินหลบได้จึงพูดขึ้นมา เพราะเก้าอี้รถเข็นที่เขาสร้างนี้ค่อนข้างซับซ้อน ถ้าไม่ใช่เขาหรือแอล ไม่อาจบังคับได้โดยง่ายแน่
แต่ภูมินกลับบังคับได้ เขาเคลื่อนรถเข็นหันประจันหน้าแจ็ค แล้วพูดขึ้นว่า
“ก็ไม่เห็นยากนี่ครับ การบังคับก็ธรรมดา ไม่เห็นมีอะไรเลย”
แจ็คจ้องมองเขา “นี่..แสดงว่านายก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะรถเข็นนี้ หากไม่ศึกษามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และไม่ทดลองใช้ให้เคยชิน ไม่สามารถบังคับได้ชำนาญอย่างนี้หรอก”
“ขอบคุณที่ชมครับคุณแจ็ค คุณได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของประจิมสวัสดิ์ ผมเองก็เช่นกัน ผมเองก็ถือว่าเป็นผู้รอบรู้อันดับหนึ่งของจักรวรรดิบูรพาเหมือนกัน ฉายาของผมคือ นักปราชญ์มากรู้”
“หือ...” แจ็คมอง “นายคือ นักปราชญ์มากรู้ ผู้ได้คะแนนสูงสุดตอนแข่งขันโครงงานช่างระดับประเทศหรือ?”
“คุณรู้ด้วยหรือครับ” ภูมินบอก “นั่นเป็นการแข่งประกวดโครงงานของกลุ่มเทคนิก คุณอยู่สายวิทย์-คณิตคงไม่ได้ลงแข่งสินะ เสียดายนะครับที่ตอนนั้นเราไม่ได้เจอกัน เลยไม่รู้ว่าใครเป็นอันดับหนึ่งกันแน่”
เฮอมิต ใหญ่ที่มองดูการต่อสู้อยู่เบื้องหลังแจ็คพูดขึ้นมาบ้าง “มันนี่เอง...ที่ฉายานักปราชญ์มากรู้ ตอนนั้นฉันก็ไปแข่งในนามโรงเรียนก็ไม่ได้รับรางวัลอะไร แต่โครงงานของนักปราชญ์มากรู้ร้ายกาจมากทีเดียว ได้อันดับหนึ่งและคะแนนท๊อปตั้งแต่มีการประกวดมา แต่เนื่องจากตอนรับรางวัลมันกลับไม่อยู่ ไม่รู้หายตัวไปไหน จึงไม่มีใครเคยเห็นหน้า แต่ผู้คนก็เรียกหาเจ้าของโครงงานนี้ว่า นักปราชญ์มากรู้”
ที่แท้แล้วภูมินก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน แม้ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา แต่เขาก็มีความเป็นอัจฉริยะไม่แพ้แอลที่มีใบหน้าเหมือนกัน จนผู้คนในโรงเรียนจักรวรรดิบูรพาต่างให้ฉายาว่า นักปราชญ์มากรู้
“อืม... ก็ดี” แจ็คพยักหน้า “อย่างนี้จะได้สมน้ำสมเนื้อหน่อย เผื่ออะดรีนาลีนจะได้หลั่งขึ้นบ้าง”
“อะดรีนาลีน คือสารที่กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วจนสามารถเพิ่มพลังกายขึ้น เหมือนตอนยกของเวลาไฟไหม้ใช่มั้ยครับ... แต่ผมว่าไม่ดีนะครับ อะดรีนาลีนถือว่าเป็นสารแห่งการแข่งขัน จะออกมาในช่วงวิกฤต แต่ถ้ามันออกมาบ่อยก็แย่นะครับ เพราะหัวใจคนเราปกติเต้นประมาณหกสิบครั้งต่อนาที จะให้เต้นเร็วเกินร้อยครั้งอย่างตอนที่อะดรีนาลีนหลั่งตลอดเวลาก็ตายสิครับ มันเร็วเกินไป ไม่มีช่วงจะให้เลือดไหลเวียนออกเลย ทำให้เป็นโรคเวียนหน้า ใจสั่น เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ แล้วอาจเป็นโรคประสาทได้นะครับ”
แจ็คนิ่งฟังสิ่งที่ภูมิน นักปราชญ์มากรู้พูด แล้วค่อยพูดตอบว่า
“ไม่เบานี่ รู้เรื่องอะดรีนาลีนซะละเอียดเลย ...ไม่เสียทีที่ฉายานักปราชญ์มากรู้ รู้มากจริง ๆ”
“ขอบคุณที่ชมครับ”
“แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้หลั่งอะดรีนาลีนแล้ว ที่หลั่งคงเป็นเอนโดรฟิน สารแห่งความสุขขึ้นมาแทน เพราะฉันเริ่มมีความสุขที่ได้จัดการคนอย่างนาย”
ว่าแล้วแจ็คก็พุ่งตัวเข้าหานักปราชญ์มากรู้ ภูมินทันที ครั้งนี้ภูมินไม่ได้บังคับเก้าอี้รถเข็นถอยหนี กลับเอียงรถเข็นให้ทรงตัวด้วยล้อเดียวแล้วบังคับให้หมุนแบบลูกข่างอย่างรวดเร็ว กระแทกแจ็คที่พุ่งเข้ามาจนกระเด็นออกไป
(มีต่อครับ)
TWO TOP สองอันตราย - [บทความวุ่นวายในประจิม] - ตอนที่ 30 : โปรเฟสเซอร์ ปะทะ นักปราชญ์มากรู้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
======================================================================================
ตอนที่ 30 : โปรเฟสเซอร์ ปะทะ นักปราชญ์มากรู้
“รู้ตัวจนได้นะครับ” แอลตัวปลอมที่อยู่บนรถเข็นพูดขึ้นมา เขาค่อย ๆ ดึงวิกผมยาวที่สวมใส่ออก ปรากฏเป็นทรงผมสั้นแบบธรรมดา
ซึ่งใบหน้าของเขากับแอลเหมือนกันมากทีเดียว ต่างกันแค่ทรงผมเท่านั้น
“หน้าเหมือนฉันจริง ๆ ตอนที่เห็นทีแรกนึกว่าส่องกระจกเลย” แอลที่ตอนนี้ลงมาจากหลังของโปรเฟสเซอร์ แจ็คพูดขึ้นมาบ้าง เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ธรรมดา โดยมีสาวห้าวผมทอง จิน และสาวสวย เมย์อยู่ด้านข้าง
และเหตุที่ทำให้แอลพอพบเห็นใบหน้าของชายคนนี้ตอนเดินออกมาที่ตึกร้างแล้วต้องตกตะลึงก็คือ หน้าเหมือนเขานั่นเอง
โปรเฟสเซอร์ แจ็คในมาดหนุ่มผมยาวมัดรวบหันมองแอลตัวปลอมนั้น แล้วค่อยพูดกับยูยะว่า
“อืม... ใช้ได้นี่ยูยะ หาคนได้หน้าเหมือนแอลทีเดียว”
ยูยะขณะนี้คล้ายจุกเสียดแน่นท้อง เพราะแผนการที่ตัวเองวางมาตลอดได้พังทลายลง แต่ก็ยังรักษาอาการพูดตอบแจ็คไปว่า
“หึ ของมันแน่อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนแอลอย่างเดียวหรอก เพราะเค้าเองก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน”
แจ็คและคนอื่นมองดูยูยะและแอลตัวปลอมเป็นตาเดียว
“ขอบคุณที่ชมครับพี่ยูยะ” แอลตัวปลอมรีบออกตัวทันที “ต้องขอโทษพี่ยูยะด้วยที่ผมแสดงเป็นแอลได้ไม่ดีพอ”
“เอาเถอะ ตอนนี้นายต้องแสดงฝีมืออย่างอื่นแล้วล่ะ ไอ้สองคนนั่นก็แพ้ไปแล้วด้วย”
“ครับ” แอลตัวปลอมยิ้ม “อย่างไรผมต้องขอแนะนำตัวให้ทุกท่านรู้จักก่อนนะครับ” เขาพูดพลางหันหน้าไปหาเหล่านักเรียนประจิมสวัสดิ์ “ผมมีชื่อว่า ภูมิน เป็นหนึ่งในสมุนสังกัดของผู้คุมกฎ ท๊อปสปีด ยูยะที่มาแทนซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาครับ”
ท่าทางของเขาเวลาพูดดูนอบน้อมมากทีเดียว
“สุภาพจริง ๆ นะแก” แจ็คว่า
“ครับ ผมก็เป็นแบบนี้แหละครับคุณแจ็ค หรือคุณจักรพงษ์ สี่ขุนพลเจ้าของฉายา โปรเฟสเซอร์”
“หือ.. แกรู้ชื่อจริงฉันด้วยหรือ?”
“ครับ ก็ไม่เห็นยากเลยครับ แค่เข้าดูในฐานข้อมูลของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ก็รู้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว แต่คุณก็ร้ายนะครับ เล่นกลับมาแบบก่อนกำหนด แถมมาในมาดใหม่ ไม่ตรงกับรูปที่อยู่ในข้อมูล ผมเลยไม่รู้ว่าเป็นคุณ”
แจ็คมองหน้าแอลตัวปลอมหรือภูมิน แล้วหันไปพูดกับปรีและคนอื่นว่า
“พรรคพวก ฉันขอจัดการไอ้แอลตัวปลอมนี่ละกัน”
“ก็ได้แจ็ค” ปรีตอบ แล้วเขาก็หันหน้าไปประจันกับยูยะ
แต่หนุ่มผมทองกลับหันหลังกลับ ก้าวเดินไปทางด้านหลังภูมินที่ยังนั่งอยู่บนรถเข็น แล้วเอนหลังผิงผนังโรงยิมพลางเอามือกอดอก
แล้วหนุ่มผมทองก็พูดขึ้นว่า
“ภูมิน... นายจัดการพวกนี้ได้หรือไม่?”
ภูมินยกมือข้างหนึ่งขึ้น พร้อมบอกว่า
“ไม่น่ามีปัญหาครับ”
“อืม... งั้นก็ดี ฉันจะดูการต่อสู้ของนายอยู่ตรงนี้ละกัน”
ดูท่ายูยะจะให้ภูมินต่อสู้แทน แต่ท่าจะหนักเพราะคู่ต่อสู้ไม่ได้มีแค่ปรีกับแจ็ค ยังมีใหญ่ เจมส์ ป๊อกกี้ เชน แม็กกี้ รวมทั้งสองยักษ์ และเรที่มาดูการต่อสู้ด้วย
“ดูเหมือนยูยะมันมั่นใจในตัวไอ้นี่มากทีเดียว” เฮอมิต ใหญ่พูดขึ้นมา
“อืม...” ปรีพยักหน้า “แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้สี่ขุนพลคนสุดท้ายก็อยู่ที่นี่แล้ว แถมเค้าก็ต้องการจะจัดการมันเองซะด้วย”
แจ็คดันนิ้วไปที่หว่างคิ้วคล้ายดันแว่น ทั้งที่ตอนนี้เขาไม่ได้สวมแว่นอยู่ ซึ่งอาจทำไปเพราะความเคยชิน แล้วค่อยพูดขึ้นมาว่า
“ถูกแล้วจักรพรรดิ ไอ้นี่ฉันคนเดียวก็พอ พวกนายรอสู้กับยูยะดีกว่า”
ท่าทางฝ่ายประจิมสวัสดิ์ก็เช่นกัน พวกเขาไม่ใช้พวกมากรุมกลุ้มทำร้ายภูมิน ให้โปรเฟสเซอร์ แจ็คเป็นคนจัดการเพียงคนเดียว
ดังนั้น การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นก็เป็นการปะทะกันระหว่างภูมินที่ปลอมเป็นแอล กับโปรเฟสเซอร์ แจ็ค หนึ่งในสี่ขุนพล
แจ็คเหม่อมองดูภูมินที่ตอนนี้ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น แล้วพูดขึ้นว่า
“นี่นาย...จะไม่ลุกขึ้นมาสู้หรือ... หรือว่านาย...”
“ไม่ใช่หรอกครับ” ภูมินสวนบอกทันที “พอดีผมเห็นว่าเก้าอี้รถเข็นตัวนี้สุดยอด เลยไม่อยากลุกขึ้นน่ะครับ”
“งั้นหรือ... นายจะสู้กับฉันโดยที่นั่งรถเข็นนี่เหรอ?”
“ครับ” ภูมินแย้มยิ้ม
“งั้นก็ได้ ฉันไม่สนหรอกว่านายจะเป็นไง เพราะไม่ว่ายังไงฉันจะแก้แค้นพวกนายที่มาทำเพื่อนฉัน”
“ได้เลยครับ สามารถลงมือได้เต็มที่เลย”
“อืม...” แจ็คพยักหน้าแล้วเคลื่อนตัวพุ่งเข้าใส่ภูมินบนรถเข็นอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่าหนุ่มรวบผมกลับไม่ถึงตัว ภูมินบังคับเก้าอี้รถเข็นถอยไปด้านหลังด้วยความเร็วกว่า หลบหลีกได้อย่างสบาย
แจ็คหันหน้าไปมองพูดว่า “ไม่เลวนี่”
จากนั้นเขาก็เคลื่อนตัวอีก โดยครั้งนี้เขาพุ่งไปทางด้านข้างของเก้าอี้รถเข็น
แต่ครั้งนี้ก็เป็นเช่นเดิม แจ็คเข้าไม่ถึงตัว ภูมินบังคับคันโยกที่เท้าแขนเก้าอี้ ปล่อยตะขอพร้อมเชือกพุ่งไปอีกฝั่งของโรงยิม ยึดเหนี่ยวกับเสา แล้วดึงตัวหลบได้อย่างไม่มีปัญหา
“นี่นายใช้รถเข็นกลไกได้ด้วยหรือ?” แจ็คเห็นว่าภูมินหลบได้จึงพูดขึ้นมา เพราะเก้าอี้รถเข็นที่เขาสร้างนี้ค่อนข้างซับซ้อน ถ้าไม่ใช่เขาหรือแอล ไม่อาจบังคับได้โดยง่ายแน่
แต่ภูมินกลับบังคับได้ เขาเคลื่อนรถเข็นหันประจันหน้าแจ็ค แล้วพูดขึ้นว่า
“ก็ไม่เห็นยากนี่ครับ การบังคับก็ธรรมดา ไม่เห็นมีอะไรเลย”
แจ็คจ้องมองเขา “นี่..แสดงว่านายก็ไม่ใช่ธรรมดา เพราะรถเข็นนี้ หากไม่ศึกษามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน และไม่ทดลองใช้ให้เคยชิน ไม่สามารถบังคับได้ชำนาญอย่างนี้หรอก”
“ขอบคุณที่ชมครับคุณแจ็ค คุณได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของประจิมสวัสดิ์ ผมเองก็เช่นกัน ผมเองก็ถือว่าเป็นผู้รอบรู้อันดับหนึ่งของจักรวรรดิบูรพาเหมือนกัน ฉายาของผมคือ นักปราชญ์มากรู้”
“หือ...” แจ็คมอง “นายคือ นักปราชญ์มากรู้ ผู้ได้คะแนนสูงสุดตอนแข่งขันโครงงานช่างระดับประเทศหรือ?”
“คุณรู้ด้วยหรือครับ” ภูมินบอก “นั่นเป็นการแข่งประกวดโครงงานของกลุ่มเทคนิก คุณอยู่สายวิทย์-คณิตคงไม่ได้ลงแข่งสินะ เสียดายนะครับที่ตอนนั้นเราไม่ได้เจอกัน เลยไม่รู้ว่าใครเป็นอันดับหนึ่งกันแน่”
เฮอมิต ใหญ่ที่มองดูการต่อสู้อยู่เบื้องหลังแจ็คพูดขึ้นมาบ้าง “มันนี่เอง...ที่ฉายานักปราชญ์มากรู้ ตอนนั้นฉันก็ไปแข่งในนามโรงเรียนก็ไม่ได้รับรางวัลอะไร แต่โครงงานของนักปราชญ์มากรู้ร้ายกาจมากทีเดียว ได้อันดับหนึ่งและคะแนนท๊อปตั้งแต่มีการประกวดมา แต่เนื่องจากตอนรับรางวัลมันกลับไม่อยู่ ไม่รู้หายตัวไปไหน จึงไม่มีใครเคยเห็นหน้า แต่ผู้คนก็เรียกหาเจ้าของโครงงานนี้ว่า นักปราชญ์มากรู้”
ที่แท้แล้วภูมินก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน แม้ไม่ได้มีตำแหน่งเป็นผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา แต่เขาก็มีความเป็นอัจฉริยะไม่แพ้แอลที่มีใบหน้าเหมือนกัน จนผู้คนในโรงเรียนจักรวรรดิบูรพาต่างให้ฉายาว่า นักปราชญ์มากรู้
“อืม... ก็ดี” แจ็คพยักหน้า “อย่างนี้จะได้สมน้ำสมเนื้อหน่อย เผื่ออะดรีนาลีนจะได้หลั่งขึ้นบ้าง”
“อะดรีนาลีน คือสารที่กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วจนสามารถเพิ่มพลังกายขึ้น เหมือนตอนยกของเวลาไฟไหม้ใช่มั้ยครับ... แต่ผมว่าไม่ดีนะครับ อะดรีนาลีนถือว่าเป็นสารแห่งการแข่งขัน จะออกมาในช่วงวิกฤต แต่ถ้ามันออกมาบ่อยก็แย่นะครับ เพราะหัวใจคนเราปกติเต้นประมาณหกสิบครั้งต่อนาที จะให้เต้นเร็วเกินร้อยครั้งอย่างตอนที่อะดรีนาลีนหลั่งตลอดเวลาก็ตายสิครับ มันเร็วเกินไป ไม่มีช่วงจะให้เลือดไหลเวียนออกเลย ทำให้เป็นโรคเวียนหน้า ใจสั่น เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ แล้วอาจเป็นโรคประสาทได้นะครับ”
แจ็คนิ่งฟังสิ่งที่ภูมิน นักปราชญ์มากรู้พูด แล้วค่อยพูดตอบว่า
“ไม่เบานี่ รู้เรื่องอะดรีนาลีนซะละเอียดเลย ...ไม่เสียทีที่ฉายานักปราชญ์มากรู้ รู้มากจริง ๆ”
“ขอบคุณที่ชมครับ”
“แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้หลั่งอะดรีนาลีนแล้ว ที่หลั่งคงเป็นเอนโดรฟิน สารแห่งความสุขขึ้นมาแทน เพราะฉันเริ่มมีความสุขที่ได้จัดการคนอย่างนาย”
ว่าแล้วแจ็คก็พุ่งตัวเข้าหานักปราชญ์มากรู้ ภูมินทันที ครั้งนี้ภูมินไม่ได้บังคับเก้าอี้รถเข็นถอยหนี กลับเอียงรถเข็นให้ทรงตัวด้วยล้อเดียวแล้วบังคับให้หมุนแบบลูกข่างอย่างรวดเร็ว กระแทกแจ็คที่พุ่งเข้ามาจนกระเด็นออกไป
(มีต่อครับ)