โตเกียวดิสนีย์แลนด์..Again and again

ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ใช่นักเดินทางตัวยง แต่ความที่ลูกสาวเป็นสาวกดิสนีย์ แล้วบ้านเราไม่มีดิสนีย์แลนด์ เวลาไปเที่ยว ก็จะมีเป้าหมายชื่อดิสนีย์แลนด์นำมาเลย มีโอกาสได้ไปสำรวจดิสนีย์แลนด์มากับนาง 4 แห่ง สารภาพว่าประทับใจโตเกียวดิสนีย์แลนด์ที่สุด จนต้องกลับไปอีก (และก็ยังอยากจะกลับไปอีก สาวแว่น) เราสองแม่ลูกไม่ใช่สายเครื่องเล่น ลูกสาวจะเน้นหาคาแรคเตอร์ ส่วนคุณแม่ก็ตื่นตาตื่นใจกับความพิเศษของที่นี่ เลยขอนำความ "โตเกียวดิสนีย์แลนด์โอนลี่" มาเล่าสู่กันนะคะ เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ค่ะ

เริ่มที่บัตรก่อนนะคะ เราซื้อบัตรกับ HIS ได้เป็นกระดาษ A4 มาแล้วไปแลกบัตรแข็งหน้าทางเข้า ปีนี้เขาฉลองครบ 35 ปีโตเกียวดิสนีย์แลนด์ เลยออกบัตรน่ารักน่าสะสม เราได้มา 5 ลายแบบนี้ค่ะ แลกในราคา 200 เยน ตรงเคาน์เตอร์บัตรก่อนเข้า

ดิฉันรู้สึกว่า แฟนๆดิสนีย์ชาวญี่ปุ่นเองที่มาเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์มีความน่ารัก และแสดงความชื่นชม หลงใหล ในตัวการ์ตูนที่พวกเขาปลื้มอย่างเปิดเผยและไม่แคร์สื่อ ดิสนีย์แลนด์โตเกียวเป็นเหมือนอาณาจักรที่พวกเขาได้ปลดปล่อยความปลื้มออกมา แต่พวกเขาก็ทำอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและไม่เป็นพิษเป็นภัยค่ะ

เราจะเห็นเด็กวัยรุ่นมากันเป็นคู่ เป็นทีม เยอะมาก แล้วก็แต่งตัวด้วยเครื่องแบบสินค้าจากช้อปดิสนีย์เลย ประมาณว่า..ซื้อจากร้านตรงข้างเข้า แกะป้าย แล้วใส่เลยสนับสนุนผลงานกันสุดๆ มีทั้งชายและหญิง ที่คาดผมที่เป็นรูปหูมินนี่ลายจุดนั้น ธรรมดามากค่ะ เราจะเห็นทั้งเสื้อและกางเกงตามแบบตัวการ์ตูนดังเลย แล้วพวกเขาก็จะไปไหนมาไหนพร้อมๆ กัน สไตล์วัยรุ่น มาตั้งกล้องถ่ายรูปกันหน้าปราสาท หน้าตาร่าเริงเบิกบาน ดูแล้วมีความสุขไปด้วย อันนี้สารภาพว่าตอนไปที่ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ หรือ ปารีส เราจะไม่เห็นภาพแบบนี้

ส่วนคนที่มาเดี่ยวก็ไม่น้อยหน้าค่ะ รักใครชอบใคร แสดงออกมาแบบเปิดเผย ถ้าเราเป็นคาแรคเตอร์การ์ตูนตัวนั้นเดินออกมา ก็คงปลื้ม
๑โตเกียวดิสนีย์แลนด์โอนลี่ค่ะ อมยิ้ม04

ดิฉันกับลูกสาวไปถึงดิสนีย์แลนด์กันตอนแปดโมงนิดๆ ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสของหน้าหนาว แต่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ปรากฎว่ามีผู้มาเที่ยวชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก มาถึงตั้งแต่ก่อนหน้านั้น แล้วก็พากันมานั่งตามทางเพื่อรอชมพาเหรดกันเรียบร้อยแล้ว อันนี้คือปูเสื่อ กางร่ม นั่งรอชมกันอย่างมีระเบียบจริงๆ ไม่การบังวิวกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย ในวันที่ฝนตกซึ่งนั่งกับพื้นก็ต้องเปียก ดิฉันไม่มีเสื่อ มีชาวญี่ปุ่นหยิบยื่นถุงพลาสติกขนาดใหญ่จากช้อปดิสนีย์ให้รองนั่งด้วย คือน่าชื่นชมและน่าประทับใจจริงๆ ค่ะ
อาคารที่เห็นด้านหลังคือโซน World Bazaar ซึ่งสองฟากด้านในจะเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกมากมาย มีร้านอาหาร ร้านกาแฟด้วยค่ะ
มีความสงบเรียบร้อย

ตัดภาพมาที่อาหารการกินภายในดิสนีย์แลนด์โตเกียวกันบ้างนะคะ ด้วยความที่สวนสนุกกว้างใหญ่ ก็จะมีรถเข็นขายฮอตด็อก ป๋อปคอร์น ไอศกรีม อยู่ทั่วไป
ความน่ารักของแพคเกจป๊อปคอร์นคือแบบนี้ค่ะ แอบถ่ายของหนูน้อยแถวนั้นมา
นอกจากนี้ ก็จะมีร้านสไตล์ฟาสต์ฟู้ดให้เข้าไปเลือกซื้อหาอาหารเป็นเซ็ตด้วย ถ้าจะรับประทานอาหารญี่ปุ่นแท้เป็นมื้อ เป็นเรื่องเป็นราวก็มีค่ะ ร้านโปรดที่ดิฉันและลูกสาวอุดหนุนกันทั้งวันก็คือร้านนี้นะคะ


ชื่อร้านฮิวอี้ ดิวอี้ ลิวอี้ ซึ่งเป็นหลานๆ ของโดนัลด์ ดั๊ก ตั้งอยู่ในโซน Toon Town เวลาคิวยาวพนักงานเขาจะใบเมนูมาให้เราสั่งไว้เลย มีภาษาอังกฤษกำกับค่ะ ชุดที่เราว่าเวิร์กมากก็คือชุดเบอร์เกอร์กุ้ง ซึ่งจะมาพร้อมมันฝรั่งทอดและเครื่องดื่ม จะซื้อแต่เบอร์เกอร์อย่างเดียวก็ได้ค่ะ (ราคาชุดละ 930 เยน) หน้าร้านจะมีตู้กระจกใส่ตัวอย่างหน้าตาอาหารไว้ให้ดูด้วย

อีกร้านหนึ่งที่แนะนำให้ลองก็คือ ร้านนี้นะคะอยู่ตรงติดทางออกมุ่งหน้าปราสาทใหญ่ ชื่อ Refreshment's Corner ตกแต่งแบบวินเทจหน่อยๆ

เมนูหลักคือชุดฮอตดอกสเปเชียล ราคา 950 เยน ฮ้อตด็อกรสชาติดี (ยาวเลยขนมปังอีกจ้า) ขนมปังนุ่มอร่อย อาหารชุดที่นี่เขาจะบรรจุใส่ถาดกระดาษให้ สามารถถือเดินไปหาที่นั่งรับประทานได้ทั่ว หรือ จะไปนั่งทานตอนรอดูพาเหรดก็ได้ค่ะ มีคนทำเยอะเลย ประหนึ่งมาปิกนิค หนุ่มแว่น

แพคเกจเป็นลายฉลอง 35 ปีของที่นี่ค่ะ


ในส่วนของคาแรคเตอร์นั้น ที่นี่ดูจะมีออกมาให้ได้เห็นและให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดกันเยอะมากค่ะ ทั้งเจ้าหญิง เจ้าชาย พระเอก นางเอก ตัวการ์ตูนต่างๆ จากเรื่องราวและเทพนิยายที่เป็นลิขสิทธิ์ดิสนีย์ สวยสดงดงามตามท้องเรื่อง ราวกับออกมาจากในหนังสือกันเลย จากที่เห็นลูกสาวได้เข้าไป meet and greet กับคาแรคเตอร์ ก็พอจะยืนยันได้ค่ะ ว่าพวกเขาคือคาแรคเตอร์จริงๆ ในทุกกระเบียดนิ้ว กริยาท่าทาง การพูดจา ยิ่งถ้าเราคุ้นเคยกับเรื่องราวพวกเขา เวลาเข้าไปคุยด้วยจะสนุกสนานมาก

ที่ต้องว้าวกันเยอะๆ เลยก็คือ ร้านขายของในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ค่ะ คือ สองข้างทางในส่วน World Bazaar นั้นเต็มไปด้วยร้าน และ แต่ละร้านก็คนเต็ม ในโซนอื่นๆ ก็ยังมีร้านขายของอีกมากมาย สินค้าในแต่ละร้านจะแบ่งตาม theme ของร้านด้วยค่ะ บางร้านเน้นของเด็กเล็กๆๆ บางร้านเน้นของเจ้าหญิง ส่วนขนม เครื่องเขียน พวงกุญแจ เสื้อยืด หมวก เสื้อกันฝน ร่ม ฯลฯ มีให้เลือกกันสารพัดแบบ โดยเฉพาะคอลเล็คชั่นที่ทำพิเศษฉลองครบ 35 ปี เดินไปมุมไหน ก็จะเห็นคนที่มาเลือก มาลอง มาจับแล้วก็ได้ยินว่า คาวาอิ คาวาอิ ตลอดเวลาเลยค่ะ

อย่างตุ๊กตามินนี่เมาส์อย่างเดียวก็ ทำออกมาหลายแบบมาก ต้องใจแข็งมากๆ เลยค่ะ ไม่งั้นตามกลับบ้านหมดFacepalm

แม้จะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นหรือกด Fast Pass แต่เราก็ยังได้ชมโชว์ที่ชื่อ One Man's Dream ซึ่งเป็นการระลึกถึงความสร้างสรรของคุณวอล์ท ดิสนีย์ค่ะ เป็นการแสดงสดบนเวทีกึ่งกลางแจ้ง โดยนักแสดงนับร้อยชีวิต ร้อง เล่น เต้นประกอบเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ อลังการงานสร้างมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสลองไปชมนะคะ แฟนคลับดิสนีย์ตื้นตันกับที่มาที่ไปและ production แน่นอน

พาเหรดนั้นถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ รวมดาวดิสนีย์กันทีเดียวค่ะ รอบการแสดง คือ 10.40 น 15.40 น และมีพาเหรดพิเศษ Dreaming up เวลา 13.20 น อย่างที่เล่าไว้ตอนต้นค่ะ คือผู้คนพากันมาจับจองที่นั่งกันตั้งแต่แปดโมง ไม่ต้องนั่งแถวหน้าก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเช่นกันค่ะ ไม่มีใครยืนขึ้นบังแต่อย่างใด ดีงามมาก และนี่คืออันนาและเอลซ่า ณ Frozen ที่ราวกับหลุดออกมาจากอะนิเมชั่นเลยทีเดียว แม้ฝนโปรยและนางทั้งคู่ต้องมีเสื้อกันฝน ก็ยังน่ารัก
ที่ประทับใจเหมือนกันก็คือ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของดิสนีย์แลนด์ที่นี่ค่ะ แม้จะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่พวกเขาจะพยายามช่วยเหลือเรา และเต็มใจบริการตลอด ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เป็นมิตร มันคนละอารมณ์กับตอนไปดิสนีย์แลนด์ปารีส ซึ่งพนักงานเขาจะดูเหวี่ยงๆ นิดนึง หน้าตาบึ้งหน่อยๆ คงด้วยวัฒนธรรม ส่วนที่ฮ่องกงนั้น ด้วยความที่ปราสาทปิดซ่อมอยู่ สถานที่ค่อนข้างเล็ก ความตื่นตาตื่นใจก็ดูจะน้อยลงไปสำหรับดิฉัน ส่วนเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ ผู้คนไม่ได้เป็นระเบียบเหมือนที่โตเกียว เลยมีหลายอย่างที่บริหารจัดการคุมได้ไม่ดีนัก

โตเกียวดิสนีย์แลนด์จึงครองอันดับหนึ่งในใจสองแม่ลูกด้วยประการทั้งปวงตามนี้ละค่ะ เลยขอแบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจ ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่