บันทึกการเดินทางเมื่อปี พ.ศ. 2553
เริ่มต้นที่ประตูม้าลำปาง





บน ทล.1035





แวะวัดเจดีย์ซาวหลัง ซาว แปลว่า ยี่สิบ
เล่าว่า เมื่อ 500 ปี หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน
มีพระอรหันต์จากอินเดียสองรูป ได้จาริกเผยแผ่พระพุทธศาสนามาถึงยังที่นี่
ได้มีพญามิลินทร ได้มาสนทนาธรรมกับพระอรหันต์เถระทั้งสอง และมีความประสงค์จะทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา
พระอรหันต์ทั้งสองรูปได้ใช้มือลูบศีรษะ มีเส้นเกศาติดมือมารูปละสิบเส้น มอบให้พญามิลินทร
พญามิลินทรได้สร้างเจดีย์ขึ้นยี่สิบองค์ แล้วนำเอาเส้นเกศาบรรจุในเจดีย์องค์ละเส้น

วัดอยู่ทางด้านเหนือของเมืองเขลางค์
ด้านหน้าวัด หน้าอุโบสถ และหน้าเจดีย์หันไปทางตะวันออกเฉียงใต้ตรงไปสู่ฝั่งแม่น้ำวัง น่าจะบ่งบอกถึงเส้นทางหลักที่ใช้เดินทางคือทางน้ำ

สอดคล้องกับวัดในเมืองเมืองเขลางค์ ... เมืองลำปางรุ่น 1
สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1223   ผังเมืองมีลักษณะคล้ายรูปหอยสังข์ เป็นเมืองคู่แฝดของเมืองหริภุญชัย
โดยพระสุพรหมฤษีสร้างถวายพระเจ้าอนันตยศกุมาร หรือ อินทรเกิงการ โอรสของพระนางจามเทวี
ตั้งชื่อตามพราน เขลางค์ผู้หาที่ตั้งเมืองให้

มีเจดีย์ 20 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมหมู่เจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
มีซุ้มประตูสี่ด้าน สิงห์ นรสิงห์ เฝ้าประตูซุ้มประตูด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นวิหารพระเจ้าทันใจ





เป็นเจดีย์ล้านนาผสมพม่า
เจดีย์องค์กลาง
ฐานเขียงสี่เหลี่ยม ฐานเขียงย่อมุมสามชั้น
เรือนธาตุยืดตัวขึ้นแบบล้านนา เจดีย์ย่อมุมยี่สิบแปด สามชั้น มีซุ้มพระเจ้าทั้งสี่ด้าน
บัลลังก์ ก้านฉัตร ปล้องไฉน ปัทมบาทแบบพม่า ปลี ฉัตร





ออกจากวัดไปต่อยังอำเภอแจ้ห่ม แวะเขื่อนกิ่วลม จากหนังสือชาวเขื่อนของคุณมนันยาที่ชื่นชอบ ฝั่งด้านนี้เป็นฝั่งทะเลสาปของเขื่อน







วันนี้สุดปลายทางที่วัดอัคโขชัยคีรี อำเภอแจ้ห่ม ลำปาง