จขกท.ตอนนี้เป็นแม่มีลูกชาย 2 คน เคยอยู่ยุโรปและย้ายกลับมาอยู่ไทยถาวรตอนนี้ เราสงสัยตลอดว่าทำไมคนไทยมีค่านิยมส่งลูกเข้าเรียนเร็วมาก โดยเฉลี่ย 2 ขวบขึ้นไป (อันนี้ จขกท.หมายถึงเข้าโรงเรียนแล้วเรียนจริง ไม่รวมที่บางคนเอาไปฝากเลี้ยงเฉยๆนะ) ที่ยุโรปเด็กจะเข้าอนุบาลอายุ 3 ขวบเต็มขึ้นไป พอที่จะฝึกให้ช่วยเหลือตัวเองได้ อันนี้ไม่ใช่ภาคบังคับจะเข้าหรือไม่ก็ได้ และส่วนนี้พ่อแม่จ่ายเองค่ะ ภาคบังคับจะเป็นประถมขึ้นไป เด็กที่ไปอนุบาลที่นี่ไม่ได้เรียนหรือเขียนหนังสือนะคะ จะไปทำกิจกรรมร่วมกัน ฝึกเข้าสังคม ระบายสี ร้องเพลง ฟังนิทาน ฯลฯ และส่วนใหญ่คือเล่น เป็นแบบนี้ 3 ปีจนกว่าจะเข้าประถม จะมีเตรียมให้คืออนุบาลปีสุดท้ายก่อนเข้าโรงเรียนนิดหน่อย พาไปทำกิจกรรมในโรงเรียนบ้าง แล้วเรียนจริงพร้อมกันคือ ป.1 อายุ 7 ปีขึ้นไป ประถมที่นี่ก็เรียนแค่ครึ่งวัน เพราะเขาบอกว่าตอนบ่ายเด็กจะไม่ค่อยมีสมาธิเรียน มีสอบตกซ้ำชั้นเหมือนเมืองไทย นี่คือระบบของที่นี่คร่าวๆ
มากันที่ลูก จขกท. ย้ายมาไทย อายุเกือบ 7 ปี ภาษาไทยคือฟังแม่ออกเป็นบางประโยค พูดแทบไม่ได้ จขกท.พูดกับลูกเป็นภาษาไทยตลอด แต่ลูกตอบกลับเป็นภาษาเยอรมันตลอดเหมือนกัน กลับมาได้เดือนหนึ่งเห็นลูกเบื่อเลยเอาไปเข้าโรงเรียนรัฐแถวบ้าน ได้อยู่อนุบาล 3 เพียง 2 เดือนแล้วปิดเทมอ เปิดภาคเรียนมาขึ้นป.1 เลย อย่าถามถึงพื้นฐาน ก ข ค เลย ระยะเวลา 2 เดือนได้มายังไม่ถึงครึ่ง คุณครูประถมกังวลมากกลัวเขาจะเรียนไม่ทันเพื่อน เปิดภาคเรียนลูกชายอยู่ ป.1 สองอาทิตย์ถัดจากนั้น ลูกชายอ่านหนังสือภาษาไทยได้ค่อนข้างดีเกินคาด จขกท.เองก็ช่วยสอนอ่านสะกดเวลาทำการบ้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่มาจากตัวลูกเรียนที่โรงเรียนเอง
ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าลูกฉลาด แต่เราคิดว่า 3 ปีที่โรงเรียนอนุบาลในยุโรป ยังไม่ได้สอนหนังสือ ทำให้สมองเขายังว่างเปล่า บวกกับเด็กมีพัฒนาการตามวัยปกติ 7 ปี เป็นวัยที่เด็กเริ่มสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะ 6 ปีที่ผ่านมาเขาได้เล่นเต็มที่แล้ว จขกท.คิดว่าเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ส่วนใหญ่เขาจะสมาธิสั้น สนใจอะไรได้ไม่นาน เขาจะเปลี่ยนไปสนใจอย่างอื่น
ตอนนี้ลูกชายเรียน ป.1 มาเกือบปี ผลการเรียนถือว่สใช้ได้สำหรับเด็กไม่มีพื้นฐาน อ่านภาษาไทยเก่งแล้วตอนนี้ เอามาแชร์กันค่ะ ส่วนตัว จขกท.คิดว่าในภาวะที่เด็กไม่มีความกดดันให้ต้องเรียนมากเกินความพอดี ทำให้เด็กสนใจที่จะเรียน หลังเรียนเขาก็มีเวลาที่จะเล่นหรือจะทำอะไรในแบบที่ตัวเขาชอบหรือสนใจ จขกท.เอง ได้เห็นระบบของเมืองนอกที่เด็กเรียนน้อยชั่วโมง แต่เด็กก็มีความรู้ดี กับระบบของไทยที่เรียนเยอะมาก แต่เด็กสอบประเมินได้คะแนนไม่ค่อยดี ก็เอามาปรับให้มันพอดีกับลูกเรา
เคยสงสัยไหม?เด็กไทยเรียนเยอะกว่าเด็กฝรั่งแต่สอบประเมินกลับได้คะแนนแย่กว่า?
มากันที่ลูก จขกท. ย้ายมาไทย อายุเกือบ 7 ปี ภาษาไทยคือฟังแม่ออกเป็นบางประโยค พูดแทบไม่ได้ จขกท.พูดกับลูกเป็นภาษาไทยตลอด แต่ลูกตอบกลับเป็นภาษาเยอรมันตลอดเหมือนกัน กลับมาได้เดือนหนึ่งเห็นลูกเบื่อเลยเอาไปเข้าโรงเรียนรัฐแถวบ้าน ได้อยู่อนุบาล 3 เพียง 2 เดือนแล้วปิดเทมอ เปิดภาคเรียนมาขึ้นป.1 เลย อย่าถามถึงพื้นฐาน ก ข ค เลย ระยะเวลา 2 เดือนได้มายังไม่ถึงครึ่ง คุณครูประถมกังวลมากกลัวเขาจะเรียนไม่ทันเพื่อน เปิดภาคเรียนลูกชายอยู่ ป.1 สองอาทิตย์ถัดจากนั้น ลูกชายอ่านหนังสือภาษาไทยได้ค่อนข้างดีเกินคาด จขกท.เองก็ช่วยสอนอ่านสะกดเวลาทำการบ้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่มาจากตัวลูกเรียนที่โรงเรียนเอง
ส่วนตัวไม่ได้คิดว่าลูกฉลาด แต่เราคิดว่า 3 ปีที่โรงเรียนอนุบาลในยุโรป ยังไม่ได้สอนหนังสือ ทำให้สมองเขายังว่างเปล่า บวกกับเด็กมีพัฒนาการตามวัยปกติ 7 ปี เป็นวัยที่เด็กเริ่มสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะ 6 ปีที่ผ่านมาเขาได้เล่นเต็มที่แล้ว จขกท.คิดว่าเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ส่วนใหญ่เขาจะสมาธิสั้น สนใจอะไรได้ไม่นาน เขาจะเปลี่ยนไปสนใจอย่างอื่น
ตอนนี้ลูกชายเรียน ป.1 มาเกือบปี ผลการเรียนถือว่สใช้ได้สำหรับเด็กไม่มีพื้นฐาน อ่านภาษาไทยเก่งแล้วตอนนี้ เอามาแชร์กันค่ะ ส่วนตัว จขกท.คิดว่าในภาวะที่เด็กไม่มีความกดดันให้ต้องเรียนมากเกินความพอดี ทำให้เด็กสนใจที่จะเรียน หลังเรียนเขาก็มีเวลาที่จะเล่นหรือจะทำอะไรในแบบที่ตัวเขาชอบหรือสนใจ จขกท.เอง ได้เห็นระบบของเมืองนอกที่เด็กเรียนน้อยชั่วโมง แต่เด็กก็มีความรู้ดี กับระบบของไทยที่เรียนเยอะมาก แต่เด็กสอบประเมินได้คะแนนไม่ค่อยดี ก็เอามาปรับให้มันพอดีกับลูกเรา