อยากง้อแฟนจะทำยังไงดี
ตามหัวเรื่องเลยค่ะ เราอยากง้อแฟน แฟนเราอายุน้อยกว่าเรา 11 ปี เราคบกันได้ปีนึงพอดี แต่มันก็ทำให้มีเรื่องที่เราทะเลาะกันหนักมากจนทำให้เราหลุดคำพูดแรงๆออกไป ตอนเราจะเริ่มคบกัน เราเองเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เข้าทำงานในบริษัทที่เพื่อนทำงานอยู่แล้วแฟนเราคนนี้เค้าก็ทำงานอยู่ในแผนกเดียวกัน ตอนแรกเราก็เป็นเพื่อนกันไม่มีอะไรมาก เราก็เห็นว่าน้องนิสัยดีน่าคบ พอรู้จักกันไปสักพักก็ได้ใกล้ชิดกัน ตอนเเรกเราไม่คิดจะคบเพราะคนรอบตัวดูถูกเราว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี กร้านโลก เพราะเราเป็นแม่หม้ายลูกติด แต่ลูกเราโตหมดแล้วนะ มันเลยไม่ใช่ปัญหา ช่วงแรกเราสร้างกำแพงไว้สูงมากเพราะกลัวว่าสุดท้ายก็ต้องเจ็บอีก แต่ด้วยความใกล้ชิดช่วงที่รถเราเข้าอู่น้องก็มาส่งเราที่บ้านค่อนข้างบ่อยจนเราสนิทกันมากขึ้นและเปิดใจคบกัน
ปัญหาที่เราทั้งคู่จะต้องเจอ มีอยู่มากมาย ทั้งจากคนที่ทำงาน ทั้งจากครอบครัว เรารู้ว่าครอบครัวเค้ารับไม่ได้ที่ลูกชายคนเดียวจะมาคบกับแม่หม้ายอย่างเราแถมเรายังไม่สามารถมีลูกให้ได้เพราะเราเป็นมะเร็ง เราเคยบอกเค้าแล้วว่าคนในครอบครัวเค้ารับไม่ได้กับเรื่องนี้หรอก แต่เค้าบอกให้เราอดทน สักวันเค้าจะทำให้ที่บ้านยอมรับ ในหนึ่งปีที่ผ่านมามีทะเลาะกันไม่เข้าใจกันแต่เราก็ปรับความเข้าใจกันได้ ช่วงที่คบกันแฟนเก่าเราที่เมืองนอกเค้าก็ยังช่วยเหลือเราเรื่องเงินที่เราจะต้องผ่อนบ้าน มันเป็นพันธะสัญญาระหว่างเรากับแฟนเก่าเราที่เค้ารู้สึกผิดต่อเราว่าเค้าจะช่วยเราจนกว่าเราจะสามารถหาเงินได้มากพอจะผ่อนบ้านเองได้ ขอย้อนกลับไปเรื่องนี้นิดนึง หลายคนคงสงสัยว่าแฟนเก่าเราเค้าจะรู้สึกผิดเรื่องอะไร เค้ารู้สึกผิดต่อเราที่เค้าหลอกเราว่าเค้าหย่ากับภรรยาแล้ว และกำลังดำเนินการเรื่องแต่งงานให้เรา เราอยู่กับเค้าเกือบแปดปี ปีสุดท้ายที่เราตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยเพราะรู้ว่าเค้าไม่คิดจะหย่าขาดจากภรรยาเพราะไม่อยากแบ่งทรัพย์สินที่มี พอเค้ารู้ว่าเราทราบเรื่องทั้งหมดและคิดจะกลับไทยเค้าก็สัญญากับเราว่าจะช่วยเหลือเราให้ถึงที่สุด ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทยสองปี เค้าก็ไม่เคยคิดจะมาหาเรา มีแต่ส่งเงินให้ทุกเดือนเพื่อผ่อนบ้าน มีแชทคุยกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่คุยก็จะมีคำถามเดิมๆว่า เมื่อไหร่จะหาเงินได้พอจะผ่อนบ้านเอง เราก็พยายามอยู่ที่จะรีไฟแนนท์บ้านเพื่อที่จะได้ผ่อนน้อยลง และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เรากับแฟนทะเลาะกันเพราะเค้าไม่เข้าใจ เราทำงานเงินเดือน 25,000 ค่าผ่อนบ้าน 25,000 ถ้าเราไม่มีคนช่วยเราก็ไม่สามารถผ่อนเองได้ ตอนเราซื้อบ้านเราคิดว่าเราสามารถทำงานได้และหาเงินได้มากพอ แต่โชคร้ายที่เราเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัด หลังจากผ่าตัดเราก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ เราเลยตัดสินใจกลับเมืองไทย
ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็จะมีเรื่องนี้ขึ้นมาตลอดว่าเราแอบคุยกับแฟนเก่าบ้าง เราแอบเจอแฟนเก่าบ้าง แต่จริงๆแล้วเราไม่เคยเจอกันเลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย แล้วที่เราต้องแอบคุยเพราะไม่อยากให้ไม่สบายใจ เราเคยรับโทรศัพท์ต่อหน้าเค้า เค้าก็ไม่พอใจใส่เรา ทั้งที่เราไม่มีอะไรจะปิดบัง
ออกนอกเรื่องไปไกลละ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เมื่อตอนต้นเดือนเราทะเลาะกับแฟนเราเพราะเราไปช่วยงานเค้า แล้วเราต้องใช้คอมพิวเตอร์เค้า เค้าสั่งเราไว้ว่าห้ามเปิดเฟสบุ๊คเค้าดู ทั้งที่ปกติไม่เคยสั่ง เราก็สงสัย พอสบโอกาสเราก็เปิดดู เราเห็นเค้าโพสว่าเค้ารอใครสักคนกลับมาทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ (เรารู้ว่าเค้ากับแฟนเก่าเค้ารักกันมาก) ไม่ใช่แค่โพสเดียว แต่โพสหลายครั้ง เราก็เก็บความไม่พอใจเอาไว้ พอตอนเช้าเราขอแอดเฟสบุ๊คไปเพื่อพิสูจน์ว่าเค้าบริสุทธิ์ใจกับโพสนั้นมั้ย ผลคือ เค้าถามกลับมาว่าแอดเฟสไปต้องการอะไร เราทะเลาะกันเรื่องนี้ จนไม่คุยกันหลายวัน วันนึงเค้าเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์ ซึ่งมีคำว่าโสดและสดมากในรปป เราโมโหมากเราเลยไลน์ไปว่าเค้า ยอมรับว่าเราใช้คำพูดแรง เราโพสหน้าไทม์ไลน์ด่าเค้า แต่เราก็ลบออกนะ เรารู้ว่าเราผิด วันต่อมาเราก็ส่งข้อความไปขอโทษ แต่เค้าไม่ยกโทษให้ แถมเค้าบอกว่าตอนนี้เราทำให้ที่บ้านเค้าแตกแยกเพราะผู้ใหญ่ในครอบครัวอยากให้เลิก หลังจากวันนั้นเราพยายามง้อเค้าทุกวิถีทาง แต่เค้าบล็อคเราหมดทุกทาง เฟส ไลน์ โทรศัพท์ ทุกทาง เราเลยส่งอีเมลหาเค้าเกือบทุกวัน บอกว่าเราสำนึกผิดแล้วที่เราใช้คำพูดแรงๆ เราอธิบายเค้าว่าช่วงที่เราหงุดหงิดง่ายเพราะเราต้องรักษาโรคมะเร็งที่มันกำลังกลับมา เราเคยบอกเค้าว่าเราต้องไปส่องกล้อง แต่หลังจากนั้นเราไม่บอกเค้าว่าเราต้องไปตัดชิ้นเนื้อและต้องฉายแสง เพราะไม่อยากให้เค้าเครียดไปกับเรา ปัญหาที่บ้านและกิจการของเค้ามันก็เยอะพอแล้ว แต่เค้ากลับตอบเรามาว่า อย่าสร้างเรื่องเพื่อให้ง้อเค้า เราเลยบอกว่าเราเป็นมะเร็งเค้าก็รู้ เราจะสร้างเรื่องทำไม การที่เราไม่บอกเพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้กลับกลายเป็นว่าเราสร้างเรื่อง เราต้องต่อสู้กับมะเร็งและโรคซึมเศร้าที่เค้าก็รับรู้มาตลอดก่อนที่เราจะคบกัน เราต่อสู้กับสิ่งพวกนี้คนเดียว ปัญหามากมายไม่ว่าจะเรื่องการเงิน เรื่องลูก เรื่องงาน เราแต่ไม่อยากให้เค้าต้องมารับปัญหาจากเรา
เราหมดปัญญาแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงให้เค้ากลับมา ทุกวันนี้มองไปทางไหนเราก็เห็นแต่ภาพเดิมๆที่มีเค้าเต็มไปหมด ตอนออกไปเจอเพื่อนก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่พออยู่คนเดียวมันก็คิดขึ้นมาอีก ต่อหน้าคนอื่น ทุกคนจะเห็นว่าเราเข้มแข็ง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเราเจ็บปวดแค่ไหน เราจะทำยังไงให้เค้ายกโทษและกลับมาหาเรา
อยากง้อแฟนจะทำยังไงดี
ตามหัวเรื่องเลยค่ะ เราอยากง้อแฟน แฟนเราอายุน้อยกว่าเรา 11 ปี เราคบกันได้ปีนึงพอดี แต่มันก็ทำให้มีเรื่องที่เราทะเลาะกันหนักมากจนทำให้เราหลุดคำพูดแรงๆออกไป ตอนเราจะเริ่มคบกัน เราเองเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เข้าทำงานในบริษัทที่เพื่อนทำงานอยู่แล้วแฟนเราคนนี้เค้าก็ทำงานอยู่ในแผนกเดียวกัน ตอนแรกเราก็เป็นเพื่อนกันไม่มีอะไรมาก เราก็เห็นว่าน้องนิสัยดีน่าคบ พอรู้จักกันไปสักพักก็ได้ใกล้ชิดกัน ตอนเเรกเราไม่คิดจะคบเพราะคนรอบตัวดูถูกเราว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดี กร้านโลก เพราะเราเป็นแม่หม้ายลูกติด แต่ลูกเราโตหมดแล้วนะ มันเลยไม่ใช่ปัญหา ช่วงแรกเราสร้างกำแพงไว้สูงมากเพราะกลัวว่าสุดท้ายก็ต้องเจ็บอีก แต่ด้วยความใกล้ชิดช่วงที่รถเราเข้าอู่น้องก็มาส่งเราที่บ้านค่อนข้างบ่อยจนเราสนิทกันมากขึ้นและเปิดใจคบกัน
ปัญหาที่เราทั้งคู่จะต้องเจอ มีอยู่มากมาย ทั้งจากคนที่ทำงาน ทั้งจากครอบครัว เรารู้ว่าครอบครัวเค้ารับไม่ได้ที่ลูกชายคนเดียวจะมาคบกับแม่หม้ายอย่างเราแถมเรายังไม่สามารถมีลูกให้ได้เพราะเราเป็นมะเร็ง เราเคยบอกเค้าแล้วว่าคนในครอบครัวเค้ารับไม่ได้กับเรื่องนี้หรอก แต่เค้าบอกให้เราอดทน สักวันเค้าจะทำให้ที่บ้านยอมรับ ในหนึ่งปีที่ผ่านมามีทะเลาะกันไม่เข้าใจกันแต่เราก็ปรับความเข้าใจกันได้ ช่วงที่คบกันแฟนเก่าเราที่เมืองนอกเค้าก็ยังช่วยเหลือเราเรื่องเงินที่เราจะต้องผ่อนบ้าน มันเป็นพันธะสัญญาระหว่างเรากับแฟนเก่าเราที่เค้ารู้สึกผิดต่อเราว่าเค้าจะช่วยเราจนกว่าเราจะสามารถหาเงินได้มากพอจะผ่อนบ้านเองได้ ขอย้อนกลับไปเรื่องนี้นิดนึง หลายคนคงสงสัยว่าแฟนเก่าเราเค้าจะรู้สึกผิดเรื่องอะไร เค้ารู้สึกผิดต่อเราที่เค้าหลอกเราว่าเค้าหย่ากับภรรยาแล้ว และกำลังดำเนินการเรื่องแต่งงานให้เรา เราอยู่กับเค้าเกือบแปดปี ปีสุดท้ายที่เราตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยเพราะรู้ว่าเค้าไม่คิดจะหย่าขาดจากภรรยาเพราะไม่อยากแบ่งทรัพย์สินที่มี พอเค้ารู้ว่าเราทราบเรื่องทั้งหมดและคิดจะกลับไทยเค้าก็สัญญากับเราว่าจะช่วยเหลือเราให้ถึงที่สุด ตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทยสองปี เค้าก็ไม่เคยคิดจะมาหาเรา มีแต่ส่งเงินให้ทุกเดือนเพื่อผ่อนบ้าน มีแชทคุยกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่คุยก็จะมีคำถามเดิมๆว่า เมื่อไหร่จะหาเงินได้พอจะผ่อนบ้านเอง เราก็พยายามอยู่ที่จะรีไฟแนนท์บ้านเพื่อที่จะได้ผ่อนน้อยลง และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เรากับแฟนทะเลาะกันเพราะเค้าไม่เข้าใจ เราทำงานเงินเดือน 25,000 ค่าผ่อนบ้าน 25,000 ถ้าเราไม่มีคนช่วยเราก็ไม่สามารถผ่อนเองได้ ตอนเราซื้อบ้านเราคิดว่าเราสามารถทำงานได้และหาเงินได้มากพอ แต่โชคร้ายที่เราเป็นมะเร็ง ต้องผ่าตัด หลังจากผ่าตัดเราก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ เราเลยตัดสินใจกลับเมืองไทย
ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็จะมีเรื่องนี้ขึ้นมาตลอดว่าเราแอบคุยกับแฟนเก่าบ้าง เราแอบเจอแฟนเก่าบ้าง แต่จริงๆแล้วเราไม่เคยเจอกันเลยตั้งแต่กลับมาเมืองไทย แล้วที่เราต้องแอบคุยเพราะไม่อยากให้ไม่สบายใจ เราเคยรับโทรศัพท์ต่อหน้าเค้า เค้าก็ไม่พอใจใส่เรา ทั้งที่เราไม่มีอะไรจะปิดบัง
ออกนอกเรื่องไปไกลละ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เมื่อตอนต้นเดือนเราทะเลาะกับแฟนเราเพราะเราไปช่วยงานเค้า แล้วเราต้องใช้คอมพิวเตอร์เค้า เค้าสั่งเราไว้ว่าห้ามเปิดเฟสบุ๊คเค้าดู ทั้งที่ปกติไม่เคยสั่ง เราก็สงสัย พอสบโอกาสเราก็เปิดดู เราเห็นเค้าโพสว่าเค้ารอใครสักคนกลับมาทั้งที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ (เรารู้ว่าเค้ากับแฟนเก่าเค้ารักกันมาก) ไม่ใช่แค่โพสเดียว แต่โพสหลายครั้ง เราก็เก็บความไม่พอใจเอาไว้ พอตอนเช้าเราขอแอดเฟสบุ๊คไปเพื่อพิสูจน์ว่าเค้าบริสุทธิ์ใจกับโพสนั้นมั้ย ผลคือ เค้าถามกลับมาว่าแอดเฟสไปต้องการอะไร เราทะเลาะกันเรื่องนี้ จนไม่คุยกันหลายวัน วันนึงเค้าเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในไลน์ ซึ่งมีคำว่าโสดและสดมากในรปป เราโมโหมากเราเลยไลน์ไปว่าเค้า ยอมรับว่าเราใช้คำพูดแรง เราโพสหน้าไทม์ไลน์ด่าเค้า แต่เราก็ลบออกนะ เรารู้ว่าเราผิด วันต่อมาเราก็ส่งข้อความไปขอโทษ แต่เค้าไม่ยกโทษให้ แถมเค้าบอกว่าตอนนี้เราทำให้ที่บ้านเค้าแตกแยกเพราะผู้ใหญ่ในครอบครัวอยากให้เลิก หลังจากวันนั้นเราพยายามง้อเค้าทุกวิถีทาง แต่เค้าบล็อคเราหมดทุกทาง เฟส ไลน์ โทรศัพท์ ทุกทาง เราเลยส่งอีเมลหาเค้าเกือบทุกวัน บอกว่าเราสำนึกผิดแล้วที่เราใช้คำพูดแรงๆ เราอธิบายเค้าว่าช่วงที่เราหงุดหงิดง่ายเพราะเราต้องรักษาโรคมะเร็งที่มันกำลังกลับมา เราเคยบอกเค้าว่าเราต้องไปส่องกล้อง แต่หลังจากนั้นเราไม่บอกเค้าว่าเราต้องไปตัดชิ้นเนื้อและต้องฉายแสง เพราะไม่อยากให้เค้าเครียดไปกับเรา ปัญหาที่บ้านและกิจการของเค้ามันก็เยอะพอแล้ว แต่เค้ากลับตอบเรามาว่า อย่าสร้างเรื่องเพื่อให้ง้อเค้า เราเลยบอกว่าเราเป็นมะเร็งเค้าก็รู้ เราจะสร้างเรื่องทำไม การที่เราไม่บอกเพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้กลับกลายเป็นว่าเราสร้างเรื่อง เราต้องต่อสู้กับมะเร็งและโรคซึมเศร้าที่เค้าก็รับรู้มาตลอดก่อนที่เราจะคบกัน เราต่อสู้กับสิ่งพวกนี้คนเดียว ปัญหามากมายไม่ว่าจะเรื่องการเงิน เรื่องลูก เรื่องงาน เราแต่ไม่อยากให้เค้าต้องมารับปัญหาจากเรา
เราหมดปัญญาแล้ว ไม่รู้จะทำยังไงให้เค้ากลับมา ทุกวันนี้มองไปทางไหนเราก็เห็นแต่ภาพเดิมๆที่มีเค้าเต็มไปหมด ตอนออกไปเจอเพื่อนก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่พออยู่คนเดียวมันก็คิดขึ้นมาอีก ต่อหน้าคนอื่น ทุกคนจะเห็นว่าเราเข้มแข็ง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเราเจ็บปวดแค่ไหน เราจะทำยังไงให้เค้ายกโทษและกลับมาหาเรา