
ในการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ นอกจากการวางจุดคัทลอสที่เหมาะสมแล้ว อีกฝั่งที่สำคัญ
ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ การกำหนดจุดทำกำไร เทรดเดอร์หลายๆคนที่พยายามค้นหาวิธีเพิ่มพื้นที่
แห่งการทำกำไรนี้
ในระยะยาว ผลการเทรดของหลายคนที่ไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากขนาดการทำกำไรน้อยกว่า
การขาดทุน นั่นทำให้ผลเฉลี่ยการทำกำไรของเทรดเดอร์เหล่านั้นมีค่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยการขาดทุนนั่นเอง
ทำไมเทรดเดอร์เหล่านั้นจึงทำเช่นนั้น ? มีหลากหลายเหตุผลที่อธิบายได้ โดยหลักๆ แล้วผมสรุป
ได้เป็น 3 ประเด็น คือ
1. เทรดเดอร์ไม่มีจุดทำกำไรที่ตั้งไว้ในใจ : มันเป็นการยากมากๆที่จะไปที่ไหน หากคุณไม่รู้ปลายทางที่จะไป
ซึ่งเช่นเดียวกันกับการเป็นเทรดเดอร์ที่ดี คุณต้องมีเป้าหมายการทำกำไรก่อนที่จะทำกำไรตามเป้าหมาย
เมื่อคุณไม่มีเป้าหมายการทำกำไรในใจ สิ่งแวดล้อมตลาดจะรบกวนสมาธิในการถือสถานะของคุณ นั่นเป็นสาเหตุ
ของการปิดสถานะที่เร็วเกินไป จงเรียนรู้การตั้งเป้าหมายการทำกำไร แล้วการเทรดของคุณจะง่ายขึ้นมากครับ
2. เทรดเดอร์ไม่แน่ใจในระบบการเทรดของตัวเขาเอง : เทรดเดอร์หน้าใหม่มักจะทำการเทรดผิดพลาดโดยการเทรด
ตามระบบการเทรดของคนอื่น หรือตามบทวิเคราะห์คนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่ก็อปปี้การเทรดนั้นๆ โดยไม่เข้าใจ
พื้นฐานการตัดสินใจในระบบที่ตัวเองเทรดตามอยู่เลย
ในกรณีนี้ เทรดเดอร์จะขาดความมั่นใจเมื่อเจอกับการการแกว่ง ขึ้น-ลง ของราคาในตลาด นำไปสู่การปิดสถานะ
ในเวลาที่ไม่เหมาะสม
3. เทรดเดอร์กังวลเรื่องความเสี่ยงมากเกินไป : ขณะที่คุณกำลังจัดการกับความเสี่ยง จะมีความรู้สึกหนึ่ง
เกิดขึ้น นั่นคือการกลัวหรือกังวลเรื่องความเสี่ยงที่มากเกินไป จำไว้ว่า คุณไม่มีทางกำจัดความเสี่ยงได้แบบ
สมบูรณ์ หลักคิดคือ คุณแค่รู้ว่าความเสี่ยงที่เข้าไปคุ้มค่ากับการเสี่ยง ก็เพียงพอแล้ว
เช่น หากระดับความเสี่ยงของการเข้าถือสถานะครั้งนี้คือ 500 เหรียญ คุณมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทน 1,000
เหรียญ แต่มีความน่าจะเป็นอีก 75% ที่คุณจะได้ 2,000 เหรียญ หากคุณถือสถานะต่อไปอี คุณจะทนถือสถานะต่อ
เพื่อความน่าจะเป็น 75% นั้นหรือไม่ ?
หลายคนเลือกที่จะปิดสถานะ ทำกำไร 1,000 เหรียญ ละทิ้งโอกาส 75% ที่จะได้กำไร 2,000 เหรียญ ซึ่งเป็นกำไร
ที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในการอดทนถือสถานะต่อไป ใช่แล้วครับ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กลัวว่ากำไรจะหายไป
สิ่งที่สำคัญไปกว่าการได้กำไรน้อยลง คือ ผลจากการเทรดครั้งนี้จะส่งผลต่อแนวคิดของเทรดเดอร์
และหากกำไรที่เทรดเดอร์ควรจะได้ ( ตลาดปรับทิศ จากกำไร เป็นขาดทุนหรือเท่าทุน ) แต่กลับไม่ได้
เขาจะโทษตัวเองที่ไม่ยอมคว้ากำไรที่เห็นไว้ก่อน ซึ่งจะสร้างสภาพจิตใจที่ผิดในการเทรด เขาลืมไปว่า
การเทรดคือส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ คือคุณต้องเสี่ยงบ้างนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทรดเดอร์ปิดสถานะเพื่อล็อคกำไรไว้แล้ว เขาจะเข้าใจผิดว่านี่คือการจัดการกับความเสี่ยง
ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้จัดการกับความเสี่ยงเลย เขาเพียงลดสภาวะความกดดันจากภาวะตลาด
ให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเท่านั้นเอง
เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในการถือสถานะที่ได้เปรียบอยู่ เทรดเดอร์ต้องสร้างความเชื่อมั่นในความสามารถ
ของตัวเอง...ให้ได้
ผมขอยกตัวอย่าง เมื่อคุณขับรถ ..ผมมั่นใจว่าคุณมั่นใจในความสามารถตัวเองมากพอที่จะควบคุมรถ
ไม่ว่าสภาพถนนที่จะเจอด้านหน้าจะเป็นอย่างไร คุณไม่ตระหนกและหยุดขับรถเพราะว่าความกังวลเล็กน้อย
เหล่านั้น คุณแค่ขับไปเรื่อยๆจนถึงที่หมาย
นั่นคือวิธีการที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเทรดเช่นกัน คำถามคือ เราจะสร้างความมั่นใจนั้นได้อย่างไร ?
ผมมีทิปง่ายๆ มาแนะนำดังนี้
1. สร้างภาพในจินตนาการของคุณขึ้นมาว่า เมื่อการเทรดเดินทางมาถึงจุดที่คุณจะต้องตัดสินใจ
ในจินตนาการคุณจะตัดสินใจเช่นไร ? จำไว้ว่า " No pain No gain " คุณต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย
จากแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากสภาวะของตลาดให้ได้ ในระยะยาวมันจะคุ้มค่า
2. ค่อยๆปรับไปทีละนิด การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถใช้เวลาเพียงข้ามคืนได้ คุณต้องทำทีละนิด
ทำไปเรื่อย แต่ไม่หยุด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย จำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงทีละนิดนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
แบบฝึกหัดหนึ่งที่เทรดเดอร์สามารถทำได้ คือ แบ่งไม้เทรดให้เล็กลง เป็น 2 ไม้ เมื่อถึงจุดตัดสินใจที่ต้อง
อดทนถือต่อให้ปิด 1 ไม้ หลังจากนั้นค่อยๆลดส่วนที่ต้องปิดก่อนให้เล็กลงๆ เรื่อยๆ ทำซ้ำๆ จนคุณสามารถ
ทนถือสถานะต่อไปด้วยความมั่นใจในที่สุด
เครดิต Mr.pipslow babypips อนุสรณ์ จ. เรียบเรียง โปรดชี้แนะเพิ่มเติมครับ
เพจเฟสบุ้ค thaipips เพราะชีวิตคือการลงทุน เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเทรดครับ
เทรดเดอร์จะเพิ่มความมั่นใจให้มากพอที่จะทำกำไรให้มากขึ้นได้อย่างไร ? อ่านเล่นๆครับ
ในการเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ นอกจากการวางจุดคัทลอสที่เหมาะสมแล้ว อีกฝั่งที่สำคัญ
ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ การกำหนดจุดทำกำไร เทรดเดอร์หลายๆคนที่พยายามค้นหาวิธีเพิ่มพื้นที่
แห่งการทำกำไรนี้
ในระยะยาว ผลการเทรดของหลายคนที่ไม่สามารถทำกำไรได้ เนื่องจากขนาดการทำกำไรน้อยกว่า
การขาดทุน นั่นทำให้ผลเฉลี่ยการทำกำไรของเทรดเดอร์เหล่านั้นมีค่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยการขาดทุนนั่นเอง
ทำไมเทรดเดอร์เหล่านั้นจึงทำเช่นนั้น ? มีหลากหลายเหตุผลที่อธิบายได้ โดยหลักๆ แล้วผมสรุป
ได้เป็น 3 ประเด็น คือ
1. เทรดเดอร์ไม่มีจุดทำกำไรที่ตั้งไว้ในใจ : มันเป็นการยากมากๆที่จะไปที่ไหน หากคุณไม่รู้ปลายทางที่จะไป
ซึ่งเช่นเดียวกันกับการเป็นเทรดเดอร์ที่ดี คุณต้องมีเป้าหมายการทำกำไรก่อนที่จะทำกำไรตามเป้าหมาย
เมื่อคุณไม่มีเป้าหมายการทำกำไรในใจ สิ่งแวดล้อมตลาดจะรบกวนสมาธิในการถือสถานะของคุณ นั่นเป็นสาเหตุ
ของการปิดสถานะที่เร็วเกินไป จงเรียนรู้การตั้งเป้าหมายการทำกำไร แล้วการเทรดของคุณจะง่ายขึ้นมากครับ
2. เทรดเดอร์ไม่แน่ใจในระบบการเทรดของตัวเขาเอง : เทรดเดอร์หน้าใหม่มักจะทำการเทรดผิดพลาดโดยการเทรด
ตามระบบการเทรดของคนอื่น หรือตามบทวิเคราะห์คนใดคนหนึ่ง หรือแม้แต่ก็อปปี้การเทรดนั้นๆ โดยไม่เข้าใจ
พื้นฐานการตัดสินใจในระบบที่ตัวเองเทรดตามอยู่เลย
ในกรณีนี้ เทรดเดอร์จะขาดความมั่นใจเมื่อเจอกับการการแกว่ง ขึ้น-ลง ของราคาในตลาด นำไปสู่การปิดสถานะ
ในเวลาที่ไม่เหมาะสม
3. เทรดเดอร์กังวลเรื่องความเสี่ยงมากเกินไป : ขณะที่คุณกำลังจัดการกับความเสี่ยง จะมีความรู้สึกหนึ่ง
เกิดขึ้น นั่นคือการกลัวหรือกังวลเรื่องความเสี่ยงที่มากเกินไป จำไว้ว่า คุณไม่มีทางกำจัดความเสี่ยงได้แบบ
สมบูรณ์ หลักคิดคือ คุณแค่รู้ว่าความเสี่ยงที่เข้าไปคุ้มค่ากับการเสี่ยง ก็เพียงพอแล้ว
เช่น หากระดับความเสี่ยงของการเข้าถือสถานะครั้งนี้คือ 500 เหรียญ คุณมั่นใจว่าจะได้รับผลตอบแทน 1,000
เหรียญ แต่มีความน่าจะเป็นอีก 75% ที่คุณจะได้ 2,000 เหรียญ หากคุณถือสถานะต่อไปอี คุณจะทนถือสถานะต่อ
เพื่อความน่าจะเป็น 75% นั้นหรือไม่ ?
หลายคนเลือกที่จะปิดสถานะ ทำกำไร 1,000 เหรียญ ละทิ้งโอกาส 75% ที่จะได้กำไร 2,000 เหรียญ ซึ่งเป็นกำไร
ที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในการอดทนถือสถานะต่อไป ใช่แล้วครับ เทรดเดอร์ส่วนใหญ่กลัวว่ากำไรจะหายไป
สิ่งที่สำคัญไปกว่าการได้กำไรน้อยลง คือ ผลจากการเทรดครั้งนี้จะส่งผลต่อแนวคิดของเทรดเดอร์
และหากกำไรที่เทรดเดอร์ควรจะได้ ( ตลาดปรับทิศ จากกำไร เป็นขาดทุนหรือเท่าทุน ) แต่กลับไม่ได้
เขาจะโทษตัวเองที่ไม่ยอมคว้ากำไรที่เห็นไว้ก่อน ซึ่งจะสร้างสภาพจิตใจที่ผิดในการเทรด เขาลืมไปว่า
การเทรดคือส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ คือคุณต้องเสี่ยงบ้างนั่นเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทรดเดอร์ปิดสถานะเพื่อล็อคกำไรไว้แล้ว เขาจะเข้าใจผิดว่านี่คือการจัดการกับความเสี่ยง
ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้จัดการกับความเสี่ยงเลย เขาเพียงลดสภาวะความกดดันจากภาวะตลาด
ให้เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเท่านั้นเอง
เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในการถือสถานะที่ได้เปรียบอยู่ เทรดเดอร์ต้องสร้างความเชื่อมั่นในความสามารถ
ของตัวเอง...ให้ได้
ผมขอยกตัวอย่าง เมื่อคุณขับรถ ..ผมมั่นใจว่าคุณมั่นใจในความสามารถตัวเองมากพอที่จะควบคุมรถ
ไม่ว่าสภาพถนนที่จะเจอด้านหน้าจะเป็นอย่างไร คุณไม่ตระหนกและหยุดขับรถเพราะว่าความกังวลเล็กน้อย
เหล่านั้น คุณแค่ขับไปเรื่อยๆจนถึงที่หมาย
นั่นคือวิธีการที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการเทรดเช่นกัน คำถามคือ เราจะสร้างความมั่นใจนั้นได้อย่างไร ?
ผมมีทิปง่ายๆ มาแนะนำดังนี้
1. สร้างภาพในจินตนาการของคุณขึ้นมาว่า เมื่อการเทรดเดินทางมาถึงจุดที่คุณจะต้องตัดสินใจ
ในจินตนาการคุณจะตัดสินใจเช่นไร ? จำไว้ว่า " No pain No gain " คุณต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนคลาย
จากแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากสภาวะของตลาดให้ได้ ในระยะยาวมันจะคุ้มค่า
2. ค่อยๆปรับไปทีละนิด การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่สามารถใช้เวลาเพียงข้ามคืนได้ คุณต้องทำทีละนิด
ทำไปเรื่อย แต่ไม่หยุด เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย จำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงทีละนิดนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
แบบฝึกหัดหนึ่งที่เทรดเดอร์สามารถทำได้ คือ แบ่งไม้เทรดให้เล็กลง เป็น 2 ไม้ เมื่อถึงจุดตัดสินใจที่ต้อง
อดทนถือต่อให้ปิด 1 ไม้ หลังจากนั้นค่อยๆลดส่วนที่ต้องปิดก่อนให้เล็กลงๆ เรื่อยๆ ทำซ้ำๆ จนคุณสามารถ
ทนถือสถานะต่อไปด้วยความมั่นใจในที่สุด
เครดิต Mr.pipslow babypips อนุสรณ์ จ. เรียบเรียง โปรดชี้แนะเพิ่มเติมครับ
เพจเฟสบุ้ค thaipips เพราะชีวิตคือการลงทุน เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเทรดครับ