



4 สาวเล่าเรื่อง ขอรีวิวทริปพม่าวันที่ 16 -19 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา
ออกตัวก่อนว่าเราไม่เน้นสาระนะคะ เน้นลงรูปค่ะ
การเตรียมตัว
- เราจองตั๋วล่วงหน้าเกือบปีได้ราคา 2,370 บาท
เดินทางไปบ่ายวันที่ 16 เดินทางกลับตอนเย็นวันที่ 19 (3 คืน 4 วัน)
- ที่พักเราก็จองไว้แล้ว 3 คืน นอนไม่ซ้ำที่กันเลยจร้า ส่วนใหญ่มี Free wifi ให้ทุกที่แหละ
- การเดินทาง ติดต่อเช่ารถกับ Aung Ko (Car Rental) หาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละ
ตกลงราคาเหมาจ่าย 4 วัน เป็นเงิน 230 USD
เนื่องจากสถานที่ที่อยากไป มันหลายที่มาก เพราะฉะนั้น การมีรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด
- Pocket Money แลกเป็นเงินจ๊าดก็ใช้ง่ายดี แลกที่ไหนก็ได้ เรื่อง Rate อย่าคิดเยอะค่ะ เอาที่สะดวก
- internet เราซื้อซิมทูฟลาย AIS ค่ะ ซื้อที่ดอนเมืองก่อนขึ้นเครื่อง เน็ตแรงดี คุ้มค่าค่ะ
ถามว่าไปเที่ยวไหนบ้าง 55 เรา Plan ไว้หมดแล้ว ก็ดูจาก Google นี่แหละ
บอกเลยว่าคิวแน่นมาก …….พร้อมไปกันหรือยังคะ
..................................................................................................................
วันแรก
เดินทางถึงพม่าห้าโมงเย็น คนขับมารอแล้ว ชื่อว่า Aung Ko
รถที่มารับเป็นรถเก๋งกึ่งแวน นั่งหน้า 1 คน นั่งหลังได้ 3 คน สบาย ๆ หลวม ๆ ค่ะ
จากสนามบินไปชเวดากองใช้เวลานานพอสมควร
คนขับรถบอกว่าที่นี่รถติดหนึบหนับพอๆ กับกรุงเทพฯแหละ
(เค้าพูดภาษาอังกฤษนะคะ 55 can speak Thai นิดหน่อย )

ถึงแล้วค่ะ เจดีย์ชเวดากอง เสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 จ๊าด
สำหรับคนที่ใส่กางเกงขายาวแต่รัดมากเกินไป หรือใส่ยีนส์ขาด ๆ เค้าจะให้นุ่งผ้าถุงทับ
ถ้าไม่ได้เตรียมมา เค้ามีให้ยืมฟรีค่ะ แต่ต้องจ่ายค่ามัดจำไว้
ตอนค่ำแสงก็ไฟสวยไปอีกแบบ จากนี้ไปก็กดชัตเตอร์รัว ๆ ค่ะ
คนเยอะมาก ๆ ต้องหาจังหวะให้ได้นะคะ……เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

จากนั้นเข้าพักที่ The Vibe Inn เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ในซอยย่านไชน่าทาวน์
เช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหาอะไรกินกันค่ะ
เดินออกจากซอยโรงแรมไปสักพัก ก็จะเจอร้านอาหารแนว ๆ โต้รุ่งบ้านเรา

แต่จะเป็นอาหารสไตล์บาร์บีคิว ที่เสียบเอาไว้เป็นไม้ ๆ และก็นั่งดื่ม
คนเต็มทุกร้านค่ะ ฝรั่งก็เยอะนะ ว่าแล้วก็สั่งเบียร์พม่ามาลองซักขวด
รสชาตินุ่มดี ขวดเดียวก็ได้ที่ ดื่มแล้ว….ก็กลับไปนอนซะ

.....................................................................................................................
วันที่สอง
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยเมนูอาหารเช้าของโรงแรม รสชาติเหมือนโจ๊กหมูใส่เส้นหมี่ซั่ว มีความอูมามิ

เช็คเอ้าท์เรียบร้อย รอคนขับรถมารับ ระหว่างรอก็เดินสัมผัสบรรยากาศยามเช้าในตลาด

จากนี้ไปก็เป็นการเดินทางไปเมืองหงสาวดี ไกลจากย่างกุ้งพอสมควรค่ะ
ระหว่างทาง แวะถ่ายรูปสุสานสงครามเทาเกียน กันหน่อย….
สวยงาม อารมณ์ประมาณสุสานทหารที่กาญจนบุรีบ้านเรา

ถึงเมืองหงสาวดีแล้วค่ะ ที่แรก เจดีย์ไจ๊ปุ่น (พระสี่ทิศ)
ค่าเที่ยวชมเมืองหงสาซื้อตั๋วคนละ 10,000 จ๊าด ครั้งเดียวสามารถเข้าชมได้ทุกที่ในเมืองหงสาวดี

มหาเจดีย์ Maha Zayde Pagoda


พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว (พระนอน)


พระราชวังบุเรงนอง พระสุพรรณกัลยา อันนี้ไฮไลท์




เจดีย์ชเวมอดอร์ (พระธาตุมุเตา)


คนขับรถบอกว่าครูบาบุญชุ่มจะมาที่นี่ คนพม่านับถือท่านมากค่ะ จึงมีคนมากันรอเยอะอย่างที่เห็น

บ่ายแล้วหิวมาก คนขับพาไปร้านอาหารไทยในเมืองหาสา
มีทั้งแบบบุฟเฟต์และตามสั่ง อร่อยเลยทีเดียว ราคาไม่แพง บริการดีใช้ได้
ชื่อร้าน “หงสาวดี” 4 คน หมดไป 23,000 จ๊าด เท่านั้น
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อนะคะ จุดหมายอยู่ที่เมืองไจ๊โถ่ เพื่อไปพระธาตุอินแขวนตอนเช้า
ใช้เวลาเดินทางพอสมควร ข้ามแม่น้ำสะโตงเข้าสู่รัฐมอญ ขับไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง

คืนนี้นอนโรงแรมบาวกาเธดดิห์ ที่ใกล้กับสถานีรถรับ-ส่งพระธาตุอินแขวน
เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินตลาดหาอะไรกิน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้กิน 55
ทุกคนเลยตกลงใจว่าเราควรกลับไปกินมาม่าที่ห้อง

..................................................................................................................
วันที่สาม
วันนี้มี Plan ขึ้นพระธาตุอินแขวนแต่เช้า แดดจะได้ไม่ร้อนมาก


การรอคิวขึ้นรถ ก็มีแย่งชิงที่นั่งกันหน่อย จุดนี้ต้องใช้ทักษะนิดนึง

การขึ้นพระธาตุอินแขวนจะต้องนั่งรถโดยสารแบบนี้เท่านั้น
เพราะมีมันความแคบและชันมาก แถมยังเป็นเลนส์สวนด้วย
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เค้ามีทักษะและความชำนาญค่ะ
ระหว่างจะมีพนักงานเก็บค่าโดยสาร ทั้งขาขึ้น และขาลง คนละ 4,000 จ๊าด
และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงยอดเขาอย่างปลอดภัย
ทางเดินขึ้นไปพระธาตุก็จะมีซุ้มสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ไว้ให้ทำบุญตลอดทาง
ระหว่างก็มีหนุ่มน้อยพม่า 2 คน เดินตามมาค่ะ
เค้าบอกว่าจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ 55 (พูดภาษาไทยได้แต่ไม่ค่อยชัด)
หลังจากที่สงสัยอยู่นานก็ถึงบางอ้อ เนื่องจากบริเวณพระธาตุ เค้าห้ามใส่รองเท้าขึ้นไปค่ะ
ดังนั้น ทุกคนจะต้องถอดรองเท้าไว้ และจะมีบริการรับฝากรองเท้า อยู่ที่บันไดทางขึ้น

แต่เด็กทั้งสองเค้า เตรียมถุงพลาสติก มาใส่รองเท้าให้พวกเราค่ะ
พร้อมกับนำทางขึ้นไปพระธาตุ อืม….อย่างเนี้ยะเหรอที่เรียกว่าบอดี้การ์ด 55
ถึงแล้วค่ะพระธาตุอินแขวน ผู้หญิงเค้าจะไม่อนุญาตให้เข้าไปใกล้พระธาตุนะคะ ต้องสักการะอยู่ข้างนอก

แล้วก็ไม่พลาดที่จะไหว้ขอพรเทพทันใจ

บอดี้การ์ดหนุ่ม แนะนำว่าวิวข้างล่างถ่ายรูปสวยกว่า และก็ขอเป็นคนถ่ายรูปให้ด้วย
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วก็เตรียมตัวกลับค่ะ เราให้ทิปน้องไปเป็นเงินจ๊าด
เพราะให้เงินบาทก็ไม่เอา ให้เงินดอลล่าร์ก็ไม่เอา บอกว่าเอาไปซื้อข้าวไม่ได้

ขาลงจากเขา รถโดยสารจะเริ่มขึ้นมารับประมาณ 11 โมงเช้า
จุดนี้ก็ต้องแย่งกันค่ะ ไม่มีคิว ไม่มีลำดับ อะไรทั้งนั้น
กลับมาเช็คเอ้าท์ที่โรงแรม แล้วเดินทางกลับย่างกุ้งค่ะ
ระหว่างทางก็เก็บได้อีกที่ Kyalk Paw Law Pagoda เจดีย์ที่มีชื่อเสียงของรัฐมอญ สไตล์เจดีย์แบบพุทธคยา


กลับไปกินข้าวกลางวันร้านหงสาวดี ที่เดิม มื้อนี้ค่าข้าว 32,500 จ๊าด
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อ แวะวัดพระหินอ่อน/หินขาว (Kyauk Taw Gyee Pagoda)


พระเขี้ยวแก้ว (Swe taw Myat Pagoda) ค่าเข้าชมคนละ 3,000 จ๊าด

หมดแรงแล้วค่ะสำหรับวันนนี้ คืนสุดท้ายขอพักหรูนิสนึงนะคะ โรงแรมเมอร์ช้านต์ อาร์ต บูทิก โฮเต็ล
เค้ามีค็อกเทลฟรีคนละดริ๊งที่ดาดฟ้าโรงแรม บรรยากาศดี วิวสวยงาม

.................................................................................................................
วันที่สี่
วันสุดท้ายนี่บีบหัวใจมาก เพราะยังเหลืออีก 7 ที่
ต้องเก็บให้ครบก่อนขึ้นเครื่อง
เริ่มต้นที่เจดีย์ดีชเวดากอง เพื่อมาเก็บบรรยากาศตอนเช้า

วัดเจดีย์กลางน้ำ (Syriem) ค่าเหมาเรือทั้งลำ 5,000 จ๊าด ค่าเข้าชมคนละ 3,000 จ๊าด



วัดไจ้เค้าน์ เทพทันใจที่เป็นองค์ประธานองค์แรกของพม่า (Kyaik khauk Pagoda) ค่าเข้าชมคนละ 2,500 จ๊าด


เจดีย์โบตะตาว ขอพรเทพทันใจ อันนี้ไฮไลท์ เช่นกัน ค่าเข้าคนละ 6,000 จ๊าด


จากนั้น ข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อไปขอพรเทพกระซิบ

วัดงาทัตจี พระตาหวาน

และแล้วก็ถึงวัดสุดท้าย วัดเจ้าทัตจี พระนอน

ครบทุกที่แล้วนะคะ หิวมากด้วยจุดนี้ ขอกินข้าวขึ้นก่อนเครื่องกลับบ้านเรา
แล้วก็ให้คนขับรถพาไปร้านอาหารไทยอีกตามเคย เค้าพามาที่ร้าน Sabai บรรยากาศดี อาหารอร่อยค่ะ
สรุปโดยภาพรวมนะคะ
เราประทับใจกับความสวยงามและอลังการของวัดที่นี่มาก ๆ
ถึงแม้ไม่ได้ลองอาหารพม่า แต่อาหารไทยที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้บ้านเราเลย
ประทับใจคนขับรถที่สามารถควบคุมเวลาได้ดีมาก แถมเป็นช่างภาพให้พวกเราด้วย
โอกาสหน้าถ้าจะมาอีก ขอเลือกมาในช่วงหน้าหนาวดูบ้าง
หวังว่ากระทู้นี้จะให้ความบันเทิง และเป็นแนวทางสำหรับทุกคนนะคะ

[CR] ย่างกุ้ง…นุ่งผ้าถุงเข้าวัด 2018
4 สาวเล่าเรื่อง ขอรีวิวทริปพม่าวันที่ 16 -19 พ.ย. 61 ที่ผ่านมา
ออกตัวก่อนว่าเราไม่เน้นสาระนะคะ เน้นลงรูปค่ะ
การเตรียมตัว
- เราจองตั๋วล่วงหน้าเกือบปีได้ราคา 2,370 บาท
เดินทางไปบ่ายวันที่ 16 เดินทางกลับตอนเย็นวันที่ 19 (3 คืน 4 วัน)
- ที่พักเราก็จองไว้แล้ว 3 คืน นอนไม่ซ้ำที่กันเลยจร้า ส่วนใหญ่มี Free wifi ให้ทุกที่แหละ
- การเดินทาง ติดต่อเช่ารถกับ Aung Ko (Car Rental) หาข้อมูลจากในพันทิปนี่แหละ
ตกลงราคาเหมาจ่าย 4 วัน เป็นเงิน 230 USD
เนื่องจากสถานที่ที่อยากไป มันหลายที่มาก เพราะฉะนั้น การมีรถส่วนตัวจะสะดวกที่สุด
- Pocket Money แลกเป็นเงินจ๊าดก็ใช้ง่ายดี แลกที่ไหนก็ได้ เรื่อง Rate อย่าคิดเยอะค่ะ เอาที่สะดวก
- internet เราซื้อซิมทูฟลาย AIS ค่ะ ซื้อที่ดอนเมืองก่อนขึ้นเครื่อง เน็ตแรงดี คุ้มค่าค่ะ
ถามว่าไปเที่ยวไหนบ้าง 55 เรา Plan ไว้หมดแล้ว ก็ดูจาก Google นี่แหละ
บอกเลยว่าคิวแน่นมาก …….พร้อมไปกันหรือยังคะ
..................................................................................................................
วันแรก
เดินทางถึงพม่าห้าโมงเย็น คนขับมารอแล้ว ชื่อว่า Aung Ko
รถที่มารับเป็นรถเก๋งกึ่งแวน นั่งหน้า 1 คน นั่งหลังได้ 3 คน สบาย ๆ หลวม ๆ ค่ะ
จากสนามบินไปชเวดากองใช้เวลานานพอสมควร
คนขับรถบอกว่าที่นี่รถติดหนึบหนับพอๆ กับกรุงเทพฯแหละ
(เค้าพูดภาษาอังกฤษนะคะ 55 can speak Thai นิดหน่อย )
ถึงแล้วค่ะ เจดีย์ชเวดากอง เสียค่าเข้าชมคนละ 10,000 จ๊าด
สำหรับคนที่ใส่กางเกงขายาวแต่รัดมากเกินไป หรือใส่ยีนส์ขาด ๆ เค้าจะให้นุ่งผ้าถุงทับ
ถ้าไม่ได้เตรียมมา เค้ามีให้ยืมฟรีค่ะ แต่ต้องจ่ายค่ามัดจำไว้
ตอนค่ำแสงก็ไฟสวยไปอีกแบบ จากนี้ไปก็กดชัตเตอร์รัว ๆ ค่ะ
คนเยอะมาก ๆ ต้องหาจังหวะให้ได้นะคะ……เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
จากนั้นเข้าพักที่ The Vibe Inn เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ในซอยย่านไชน่าทาวน์
เช็คอินเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปหาอะไรกินกันค่ะ
เดินออกจากซอยโรงแรมไปสักพัก ก็จะเจอร้านอาหารแนว ๆ โต้รุ่งบ้านเรา
แต่จะเป็นอาหารสไตล์บาร์บีคิว ที่เสียบเอาไว้เป็นไม้ ๆ และก็นั่งดื่ม
คนเต็มทุกร้านค่ะ ฝรั่งก็เยอะนะ ว่าแล้วก็สั่งเบียร์พม่ามาลองซักขวด
รสชาตินุ่มดี ขวดเดียวก็ได้ที่ ดื่มแล้ว….ก็กลับไปนอนซะ
วันที่สอง
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยเมนูอาหารเช้าของโรงแรม รสชาติเหมือนโจ๊กหมูใส่เส้นหมี่ซั่ว มีความอูมามิ
เช็คเอ้าท์เรียบร้อย รอคนขับรถมารับ ระหว่างรอก็เดินสัมผัสบรรยากาศยามเช้าในตลาด
จากนี้ไปก็เป็นการเดินทางไปเมืองหงสาวดี ไกลจากย่างกุ้งพอสมควรค่ะ
ระหว่างทาง แวะถ่ายรูปสุสานสงครามเทาเกียน กันหน่อย….
สวยงาม อารมณ์ประมาณสุสานทหารที่กาญจนบุรีบ้านเรา
ถึงเมืองหงสาวดีแล้วค่ะ ที่แรก เจดีย์ไจ๊ปุ่น (พระสี่ทิศ)
ค่าเที่ยวชมเมืองหงสาซื้อตั๋วคนละ 10,000 จ๊าด ครั้งเดียวสามารถเข้าชมได้ทุกที่ในเมืองหงสาวดี
มหาเจดีย์ Maha Zayde Pagoda
พระพุทธไสยาสน์ชเตาเลียว (พระนอน)
พระราชวังบุเรงนอง พระสุพรรณกัลยา อันนี้ไฮไลท์
เจดีย์ชเวมอดอร์ (พระธาตุมุเตา)
บ่ายแล้วหิวมาก คนขับพาไปร้านอาหารไทยในเมืองหาสา
มีทั้งแบบบุฟเฟต์และตามสั่ง อร่อยเลยทีเดียว ราคาไม่แพง บริการดีใช้ได้
ชื่อร้าน “หงสาวดี” 4 คน หมดไป 23,000 จ๊าด เท่านั้น
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อนะคะ จุดหมายอยู่ที่เมืองไจ๊โถ่ เพื่อไปพระธาตุอินแขวนตอนเช้า
ใช้เวลาเดินทางพอสมควร ข้ามแม่น้ำสะโตงเข้าสู่รัฐมอญ ขับไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
คืนนี้นอนโรงแรมบาวกาเธดดิห์ ที่ใกล้กับสถานีรถรับ-ส่งพระธาตุอินแขวน
เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ออกมาเดินตลาดหาอะไรกิน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้กิน 55
ทุกคนเลยตกลงใจว่าเราควรกลับไปกินมาม่าที่ห้อง
วันที่สาม
วันนี้มี Plan ขึ้นพระธาตุอินแขวนแต่เช้า แดดจะได้ไม่ร้อนมาก
การรอคิวขึ้นรถ ก็มีแย่งชิงที่นั่งกันหน่อย จุดนี้ต้องใช้ทักษะนิดนึง
การขึ้นพระธาตุอินแขวนจะต้องนั่งรถโดยสารแบบนี้เท่านั้น
เพราะมีมันความแคบและชันมาก แถมยังเป็นเลนส์สวนด้วย
แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ เค้ามีทักษะและความชำนาญค่ะ
ระหว่างจะมีพนักงานเก็บค่าโดยสาร ทั้งขาขึ้น และขาลง คนละ 4,000 จ๊าด
และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงยอดเขาอย่างปลอดภัย
ทางเดินขึ้นไปพระธาตุก็จะมีซุ้มสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ไว้ให้ทำบุญตลอดทาง
ระหว่างก็มีหนุ่มน้อยพม่า 2 คน เดินตามมาค่ะ
เค้าบอกว่าจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ 55 (พูดภาษาไทยได้แต่ไม่ค่อยชัด)
หลังจากที่สงสัยอยู่นานก็ถึงบางอ้อ เนื่องจากบริเวณพระธาตุ เค้าห้ามใส่รองเท้าขึ้นไปค่ะ
ดังนั้น ทุกคนจะต้องถอดรองเท้าไว้ และจะมีบริการรับฝากรองเท้า อยู่ที่บันไดทางขึ้น
แต่เด็กทั้งสองเค้า เตรียมถุงพลาสติก มาใส่รองเท้าให้พวกเราค่ะ
พร้อมกับนำทางขึ้นไปพระธาตุ อืม….อย่างเนี้ยะเหรอที่เรียกว่าบอดี้การ์ด 55
ถึงแล้วค่ะพระธาตุอินแขวน ผู้หญิงเค้าจะไม่อนุญาตให้เข้าไปใกล้พระธาตุนะคะ ต้องสักการะอยู่ข้างนอก
แล้วก็ไม่พลาดที่จะไหว้ขอพรเทพทันใจ
บอดี้การ์ดหนุ่ม แนะนำว่าวิวข้างล่างถ่ายรูปสวยกว่า และก็ขอเป็นคนถ่ายรูปให้ด้วย
ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วก็เตรียมตัวกลับค่ะ เราให้ทิปน้องไปเป็นเงินจ๊าด
เพราะให้เงินบาทก็ไม่เอา ให้เงินดอลล่าร์ก็ไม่เอา บอกว่าเอาไปซื้อข้าวไม่ได้
ขาลงจากเขา รถโดยสารจะเริ่มขึ้นมารับประมาณ 11 โมงเช้า
จุดนี้ก็ต้องแย่งกันค่ะ ไม่มีคิว ไม่มีลำดับ อะไรทั้งนั้น
กลับมาเช็คเอ้าท์ที่โรงแรม แล้วเดินทางกลับย่างกุ้งค่ะ
ระหว่างทางก็เก็บได้อีกที่ Kyalk Paw Law Pagoda เจดีย์ที่มีชื่อเสียงของรัฐมอญ สไตล์เจดีย์แบบพุทธคยา
กลับไปกินข้าวกลางวันร้านหงสาวดี ที่เดิม มื้อนี้ค่าข้าว 32,500 จ๊าด
อิ่มแล้วก็เดินทางต่อ แวะวัดพระหินอ่อน/หินขาว (Kyauk Taw Gyee Pagoda)
พระเขี้ยวแก้ว (Swe taw Myat Pagoda) ค่าเข้าชมคนละ 3,000 จ๊าด
หมดแรงแล้วค่ะสำหรับวันนนี้ คืนสุดท้ายขอพักหรูนิสนึงนะคะ โรงแรมเมอร์ช้านต์ อาร์ต บูทิก โฮเต็ล
เค้ามีค็อกเทลฟรีคนละดริ๊งที่ดาดฟ้าโรงแรม บรรยากาศดี วิวสวยงาม
วันที่สี่
วันสุดท้ายนี่บีบหัวใจมาก เพราะยังเหลืออีก 7 ที่
ต้องเก็บให้ครบก่อนขึ้นเครื่อง
เริ่มต้นที่เจดีย์ดีชเวดากอง เพื่อมาเก็บบรรยากาศตอนเช้า
วัดเจดีย์กลางน้ำ (Syriem) ค่าเหมาเรือทั้งลำ 5,000 จ๊าด ค่าเข้าชมคนละ 3,000 จ๊าด
วัดไจ้เค้าน์ เทพทันใจที่เป็นองค์ประธานองค์แรกของพม่า (Kyaik khauk Pagoda) ค่าเข้าชมคนละ 2,500 จ๊าด
เจดีย์โบตะตาว ขอพรเทพทันใจ อันนี้ไฮไลท์ เช่นกัน ค่าเข้าคนละ 6,000 จ๊าด
จากนั้น ข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อไปขอพรเทพกระซิบ
วัดงาทัตจี พระตาหวาน
และแล้วก็ถึงวัดสุดท้าย วัดเจ้าทัตจี พระนอน
ครบทุกที่แล้วนะคะ หิวมากด้วยจุดนี้ ขอกินข้าวขึ้นก่อนเครื่องกลับบ้านเรา
แล้วก็ให้คนขับรถพาไปร้านอาหารไทยอีกตามเคย เค้าพามาที่ร้าน Sabai บรรยากาศดี อาหารอร่อยค่ะ
สรุปโดยภาพรวมนะคะ
เราประทับใจกับความสวยงามและอลังการของวัดที่นี่มาก ๆ
ถึงแม้ไม่ได้ลองอาหารพม่า แต่อาหารไทยที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้บ้านเราเลย
ประทับใจคนขับรถที่สามารถควบคุมเวลาได้ดีมาก แถมเป็นช่างภาพให้พวกเราด้วย
โอกาสหน้าถ้าจะมาอีก ขอเลือกมาในช่วงหน้าหนาวดูบ้าง
หวังว่ากระทู้นี้จะให้ความบันเทิง และเป็นแนวทางสำหรับทุกคนนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้