รอบนี้ตั้งใจมาเก็บสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีโดยเฉพาะเลย รอบที่แล้วได้ไปล่องเรือเที่ยวชม 3 วัดฝั่งสังขละบุรี ด้วยความที่อยากจะมาเที่ยวเมืองกาญอีกในช่วงปลายปี แถมตั้งใจไว้ว่าอยากมาเดินเที่ยวงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ อัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มาแรงและเชื่อว่าทุกคนคงจะน่าจะรู้จักกันดี มาดูโปรแกรมในทริปนี้กันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

โปรแกรมเที่ยวเมืองกาญ 2 วัน 1 คืน
วันแรก 9 ธันวาคม 2561
10.00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพ
12.00 น. แวะร้านมีนาคาเฟ่
14.30 น. ไหว้พระวัดถ้ำแก้วกาญจนภิเษก
15.00 น. แวะชมต้นจามจุรียักษ์
16.00 น. ทานข้าวเย็นที่หาดทรายชุกโดน
18.00 น. Check In ที่พัก นิต้าราฟท์ เฮ้าส์
17.00 น. งานแสดงแสง สี เสียง สัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว

วันที่ 2 10 ธันวาคม 2561
09.00 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองกาญ (ศาลหลักเมืองและกำแพงเมืองกาญ)
10.00 น. ผัดไทยไร้เส้น ร้านซุ่นเฮง
12.00 น. กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

หลังจากได้โปรแกรมเบื้องต้นด้านบนแล้ว อดใจไม่ไหว เคลียร์ทุกอย่าง จัดกระเป๋า รอวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างเดียวเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เช้าวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม วันแสนสุดสบาย ออกสายหน่อยคงไม่เป็นไร ไปหนักเอาตอนเย็นงานสะพานข้ามแม่น้ำแควเลยแล้วกัน ออกจากกทม. เกือบ 10 โมงเช้า ไปถึงเมืองกาญเกือบเที่ยง ใช้เวลาในการเดินทางประมาณสองชั่วโมง สถานที่แรกที่พวกเราจะไปกันนั้นขอเป็นร้านกาแฟดังของจังหวัดกาญจนบุรีกันก่อนเลยแล้วกัน

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว กับร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ใกล้กับวัดถ้ำเสือ วิวทุ่งนาอันแสนเขียวขจี อย่างร้านมีนาคาเฟ่นั่นเอง ตัวร้านตั้งอยู่ในอำเภอท่าม่วง ก่อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เป็นร้านกาแฟริมทุ่งนาหลังวัดถ้ำเสือ


การเดินทางมาที่นี่ง่ายมาก ก่อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้เส้นทางเดียวกันกับวัดถ้ำเสือ โดยผ่านด้านหน้าวัด จากนั้นให้ขับรถตรงไป ทางถนนด้านหลัง จะเจอกับถนนที่มีสะพานให้ข้ามไป จากนั้นเลี้ยวซ้ายขับไปตามถนนเลียบลำคลองเล็กๆ ไปจนสุดถนน แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ร้านจะอยู่ริมข้างทาง สามารถมองเห็นเด่นชัดเลย

ทางร้านมีที่จอดรถเพียงพอกับลูกค้า หากไม่มีที่จอด สามารถจอดริมข้างทางทั้งสองฝั่งได้เลย โดยทางร้านไม่เก็บค่าที่จอดรถแต่อย่างใด (วันที่เราไปรถเยอะมาก ล้นออกมาจอดริมถนนเลย สุดยอดจริงๆ) เมื่อเราจอดรถเสร็จ เดินข้ามถนนมายังตัวร้าน ซึ่งตัวร้านออกแบบเรียบง่าย ใช้ปูนเปือย ทาด้วยสีเทาดำ ตกแต่งร้านด้วยกระจกรอบด้านและโคมไฟแสงสีส้มและมีต้นข้าวประดับรอบโคมไฟ ทำให้ร้านดูสวยงามและโดดเด่นขึ้นไปอีก




มองไปรอบๆ ร้าน ยังไม่ทันไร ลูกค้าก็ทยอยเข้ามาในตัวร้านกันอย่างเนืองแน่น เราจึงต้องรีบสั่งเครื่องดื่มกันก่อนเลย ได้เอสเพรสโซ่เย็นและโกโก้เย็น รสชาติหอมกาแฟและอร่อยทั้งคู่เลย สดชื่นมากๆ


ด้านนอกร้านก็จะมีที่นั่งนิ่มๆ ให้ได้พิงและนอนกันอย่างสบายใจ ชมวิวสะพานทุ่งนาอันเขียวขจีแบบพาโรนามากันเลยทีเดียว ส่วนด้านข้างร้าน พื้นปูด้วยอิฐบลอกสี่เหลี่ยมสลับกับพื้นหญ้าเป็นลายตารางหมากรุก ดูเท่ห์ไปอีก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีพื้นที่ด้านบนของตัวร้านอีก เมื่อเราเดินขึ้นบันไดไปจะเป็นชั้นดาดฟ้า มีเพียงเก้าอี้บาร์ 8-10 ตัวให้เราได้นั่งชมวิวและถ่ายรูปกัน






ไปชมวิวและบรรยากาศกันดีกว่าม่ะ






สำหรับสถานที่นี้ ใช้เวลาในการนั่งชิว ชมวิวไปเกือบสองชั่วโมงเลย แฮ้ๆ เกือบลืมไปเลยว่าพวกเราจะต้องแวะไปที่อื่นอีก สำหรับรีวิวและรายละเอียดของร้านสามารถเข้าไปชมและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้นะ
https://pantip.com/topic/38388895

มาเมืองกาญทั้งที ขอเข้าวัดทำบุญกันสักหน่อย เลยเลือกวัดถ้ำแก้วกาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมีนาคาเฟ่เลย เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น


วัดถ้ำแก้วกาญจนาภิเษก ตั้งอยู่ที่หัวเขาแรด ตำบลเขาน้อย อำเภอท่าม่วง เป็นอีกหนึ่งวัดที่เมื่อเราขึ้นไปด้านบนเขาแล้ว จะเห็นวิวภูเขา ทุ่งนาและบรรยากาศอันเงียบสงบ ซึ่งวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเสือมากนัก เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม








เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของโรงโม่หิน ที่ระเบิดภูเขาหินปูนแห่งนี้เป็นวัตถุดิบ ท่ามกลางเสียงเล่าขานของชาวบ้านเล่าว่า ที่แห่งนี้มีถ้ำแก้วที่สวยงามตั้งอยู่ ชาวบ้านกับชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติในจังหวัดกาญจนบุรี จึงรวมตัวกันเรียกร้องให้มีการขุดถ้ำแก้วฯ  






เมื่อเราเดินเข้าไปยังวัด ด้านในจะมีถ้ำแก้วให้เราเขาไปชมความงดงามของหินที่เป็นหินผลึกเหมือนแก้ว ซึ่งต่างจากหินงอกหินย้อยทั่วไป ถือว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก ด้านในถ้ำมีแสงสว่างจากไฟสปอร์ตไลน์ อีกทั้งยังมีความสวยงามของหินควอทซ์ที่อยู่ภายในถ้ำที่ส่องประกายระยิบระยับคล้ายเกล็ดแก้วตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ บางจุดก็มีหิควอทซ์สีขาวเกาะตามผนังถ้ำคล้ายกับแม่คะนิ้งที่เกาะบนยอดหญ้าเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับอากาศที่เย็นสบายภายในถ้ำ ส่งผลให้หินเหล่านี้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น








เมื่อเราเดินชมความงดของหินผลึกกันเรียบร้อยแล้ว เดินขึ้นไปบนปากถ้ำ บนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบอำเภอท่าม่วง ที่มีทั้งไร่นา แม่น้ำและขุนเขาแบบ 180 องศากันเลยทีเดียว









การเดินทางไปสำนักสงฆ์ถ้ำแก้ว ใช้เส้นทางเดียวกับการไปวัดถ้ำเสือ หลังข้ามเขื่อนแม่กลองเมื่อถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายเข้าวัดถ้ำเสือ ให้ตรงไปจนถึงอีกหนึ่งแยกแล้วจึงเลี้ยวซ้าย ขับตามทางข้ามคลองชลประทาน จะพบป้ายบอกทางเป็นระยะจนกระทั่งถึงถ้ำแก้วกาญจนาภิเษก เปิดให้สักการะบูชาตั้งแต่ 08.00 น. ถึง 16.00 น.


[ข้อมูลเพิ่มเติม]
Facebook :: ถ้ำแก้วกาญจนภิเษก กาญจนบุรี  
เบอร์โทรศัพท์ :: 081-981-8826

จุดต่อไปที่พวกเราจะแวะไปชมกันนั้น เค้าว่ากันว่า เป็นต้นไม้ยักษ์ที่ใครๆ เห็นแล้วต้องอึ้ง เราจึงรีบขับรถไปชมกัน ซึ่งสถานที่นี้อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำแก้วเลย ขับรถต่อไปอีกเพียง 9 กิโลเมตรเท่านั้น


แถ่น แทน แท๊น ต้นจามจุรียักษ์หรือต้นก้ามปูยักษ์นั่นเอง อีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คของจังหวัดกาญจนบุรีที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ต้นจามจุรียักษ์นี้ตั้งอยู่ในอำเภอด่านมะขามเตี้ย บ้านกสิกรรม หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะสำโรง มีอายุมากกว่า 100 ปี ขนาด 10 คนโอบ รัศมีทรงพุ่ม เฉลี่ย 25.87 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางร่มเงา 51.75 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงยอด 20 เมตร มีพื้นที่ของพุ่มประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 4 วา เป็นต้นไม้ที่หาชมได้ยากมาก แหม...เห็นแล้วใจหาย มันใหญ่มาก แต่ก็น่าชื่นชมและควรแก่การอนุรักษ์ไว้ให้ยืนยาวนานมากที่สุด








การเดินทาง
เข้าไปในกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 (กองผสมสัตว์) กรมการสัตว์ทหารบก ผ่านวัดถ้ำมุนีย์นาถ เมื่อมาถึงกองการสัตว์ให้เข้าไปข้างใน ต้นจามจุรียักษ์จะอยู่ข้างในกรมการสัตว์ จะมีป้ายบอกตลอดทาง ไม่มีค่าเข้าชม (ชมฟรี) เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น.


หิวแล้วอะ ไปหาอะไรกินกันม่ะ "หาดทรายชุกโดน" ไง หาดทรายหรอ? กาญจนบุรีมีหาดทรายด้วยหรอ แอบงง 555+


แวะดิ รออะไร ไปก็ไป กินก็กิน หาอะไรลองท้องกันก่อน เลยแวะหาดทรายชุกโดน ซึ่งห่างจากต้นจามจุรียักษ์เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น อยากรู้ว่าที่โปรโมททางเฟสบุ๊คมันสวยงามมากแค่ไหน ต้องลองไปชมกัน

หาดทรายนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ซึ่งหลายคนคงยังไม่รู้จักและสถานที่แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อบำบัดน้ำเสียของชุมชนก่อนลงสู่แม่น้ำแม่กลอง เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนในรูปแบบสหกรณ์อีกด้วย

หาดทรายชุกโดน อ่านว่า หาด-ทราย-ชุก-กะ-โดน เป็นชายหาดน้ำจืดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ บริเวณชุมชนท่าน้ำชุกโดน ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี ลักษณะหาดทรายเป็นทรายละเอียด แนวชายหาดมีความยาวประมาณ 400 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีที่นั่งรอบชายหาด มีอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมน่าโดนอย่าง สวนสนุกลอยฟ้า เรือปั่น เรือพายและเล่นน้ำหน้าชายหาดอีกด้วย








ที่นั่งถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบม้านั่งผ้าใบและซุ้มนั่งหลังเล็กๆ เราเลือกซุ้มเพราะช่วงที่ไปฝนตกปรอยๆ คิดว่าถ้าฝนตกลงมาหนักจริงๆ เกรงว่าจะต้องย้ายไปย้ายมาอีก เลยเอาแบบนี้ดีกว่า แถมนั่งสบายกว่ากันเยอะ