สวัสดีคะ เราทำงานอยู่ในร้านแบรนเนมนึงที่ตปท. ที่ร้านมีเรามีแหม่ม2 เอเซีย2 . เกริ่นก่อนว่า ทีมเราไม่มีคำว่าทีมเวริค์ ความรู้สึกเหมือนมี2ทีม ทีมแหม่ม กับทีมเอเซีย ด้วยความที่1ในแหม่มนั้นเป็นเมเนเจอร์ ทำให้การทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ที่ทำงานของเรากับเพื่อนร่วมงานคนจีนยากกกเนื่องด้วยความยุติธรรมไม่มี.
เรื่องมีอยู่ว่า ขอแทนแหม่มคนที่มีปัญหาด้วย ว่าG มีวันนึงเราทำงานกับG และมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสาร Gโกรธมากพูดคล้ายๆว่าเราทำงานพลาดและอาจจะพามันซวยไปด้วย(ขอไม่พูดถึงว่าเอกสารไรนะคะ) ด้วยความที่เรามีปัญหากับG มาเนิ่นนาน เราจึงไม่ตอบโต้ หรือแก้ตัวใดๆ แต่เราเลือกที่จะเช้คเอกสารย้อนหลังด้วยตัวของเราเองทั้งหมดว่าท้ายที่สุดแล้วเราเป็นคนพลาดเองหรือเป็นปัญหาจากระบบ หลังจากที่เช้คจนได้คำตอบแล้วว่าเป็นที่ระบบ กระดาษเหล่านั้นเราไม่ได้ทิ้งในขยะที่ทำงาน แต่เอาไปใส่ล็อคเกอร์ของเราโดยที่เราไม่ได้ล้อค(ปกติก็ไม่เคยล้อคทำงานมา3ปี)เพราะว่าไม่อยากมานั่งอธิบายให้Gหรือให้เมเนเจอร์ฟัง
เพราะยังไงเสีย เขาทั้งสองก็ไม่มีทางเข้าใจเราเลยตัดปัญหาด้วยการเก็บเอกสารไว้ในพื้นที่ส่วนตัวของเรา.
วันรุ่งขึ้นเพื่อนร่วมงานคนจีนส่งข้อความมาบอกว่าG เจอเอกสารที่เรายัดใส่ไว้ในล็อกเกอร์ Gโกรธธธธธมากกก ถึงขนาดโทรหาHR และHead office ซึ่งความรู้สึกแรกของเราคือ เรายิ้มมุมปาก และคิดในใจว่า G เข้าไปในล้อคเกอร์ของเรามันมีความผิดแน่ๆ! แต่!!! คดีมันกลับกลายเป็นว่าทุกคนซับพอร์ตG แม้กระทั่งHead office ซึ่งเขาก็มาถามเราว่าทำแบบนี้ทำไม ทำไมต้องทำลับหลัง เราก็ตอบไปตามตรง เขาก็ฟัง แต่ไม่มีใครเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงของเราเลย เพราะสำหรับฝรั่งแล้วนี่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย.
ตอนนี้เริ่มสงสัยว่าความจริงแล้วหรือปัญหามันมาจากเราจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน G ก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องของส่วนตัวเราหรือเปล่า หรือท้ายที่จริงG คอยเลื่อยขาเก้าอี้เรามาตลอด
ตอนนี้ไม่อยากเจอหน้าแหม่มสองคนนั้น และยังต้องไปทานข้าวปีใหม่กันอีก ใจเราไม่อยากไปเลย แต่ก็มานั่งคิดว่าถ้าเราไม่ไปคนอื่นจะมองเราว่าเราไม่สมาร์ทหรือเปล่า สำหรับเราเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ
เมื่อเพื่อนร่วมงานฝรั่งแอบมาเปิดล็อกเกอร์เราแล้วเจอเอกสารที่เราซ่อนไว้
เรื่องมีอยู่ว่า ขอแทนแหม่มคนที่มีปัญหาด้วย ว่าG มีวันนึงเราทำงานกับG และมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสาร Gโกรธมากพูดคล้ายๆว่าเราทำงานพลาดและอาจจะพามันซวยไปด้วย(ขอไม่พูดถึงว่าเอกสารไรนะคะ) ด้วยความที่เรามีปัญหากับG มาเนิ่นนาน เราจึงไม่ตอบโต้ หรือแก้ตัวใดๆ แต่เราเลือกที่จะเช้คเอกสารย้อนหลังด้วยตัวของเราเองทั้งหมดว่าท้ายที่สุดแล้วเราเป็นคนพลาดเองหรือเป็นปัญหาจากระบบ หลังจากที่เช้คจนได้คำตอบแล้วว่าเป็นที่ระบบ กระดาษเหล่านั้นเราไม่ได้ทิ้งในขยะที่ทำงาน แต่เอาไปใส่ล็อคเกอร์ของเราโดยที่เราไม่ได้ล้อค(ปกติก็ไม่เคยล้อคทำงานมา3ปี)เพราะว่าไม่อยากมานั่งอธิบายให้Gหรือให้เมเนเจอร์ฟัง
เพราะยังไงเสีย เขาทั้งสองก็ไม่มีทางเข้าใจเราเลยตัดปัญหาด้วยการเก็บเอกสารไว้ในพื้นที่ส่วนตัวของเรา.
วันรุ่งขึ้นเพื่อนร่วมงานคนจีนส่งข้อความมาบอกว่าG เจอเอกสารที่เรายัดใส่ไว้ในล็อกเกอร์ Gโกรธธธธธมากกก ถึงขนาดโทรหาHR และHead office ซึ่งความรู้สึกแรกของเราคือ เรายิ้มมุมปาก และคิดในใจว่า G เข้าไปในล้อคเกอร์ของเรามันมีความผิดแน่ๆ! แต่!!! คดีมันกลับกลายเป็นว่าทุกคนซับพอร์ตG แม้กระทั่งHead office ซึ่งเขาก็มาถามเราว่าทำแบบนี้ทำไม ทำไมต้องทำลับหลัง เราก็ตอบไปตามตรง เขาก็ฟัง แต่ไม่มีใครเข้าใจถึงเจตนาที่แท้จริงของเราเลย เพราะสำหรับฝรั่งแล้วนี่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย.
ตอนนี้เริ่มสงสัยว่าความจริงแล้วหรือปัญหามันมาจากเราจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน G ก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องของส่วนตัวเราหรือเปล่า หรือท้ายที่จริงG คอยเลื่อยขาเก้าอี้เรามาตลอด
ตอนนี้ไม่อยากเจอหน้าแหม่มสองคนนั้น และยังต้องไปทานข้าวปีใหม่กันอีก ใจเราไม่อยากไปเลย แต่ก็มานั่งคิดว่าถ้าเราไม่ไปคนอื่นจะมองเราว่าเราไม่สมาร์ทหรือเปล่า สำหรับเราเรื่องนี้ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน เพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ