สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ
นี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรก มีข้อผิดพลาดอะไรแนะนำได้นะคะ
เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดหลังสอบเสร็จถือว่าเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อนเลยว่า คืนแรกเราไปเที่ยวนครนายก คืนที่สองเราขึ้นไปกางเต้นท์นอนบนเขาใหญ่ บรรยากาศดีมาก
วันที่ 16 /12/18 วันแรกเราจะเที่ยวที่นครนายก
นั่งรถไฟจากกรุงเทพไปปราจีน ราคาประมาณ 30 บาท(ไปปราจีนเพราะเราไปเอารถยนต์ที่บ้านจ้า) ถึงปราจีนประมาณ 11.00 โมงกว่าๆ จากนั้นเราก็เดินทางไป รีสอร์ทที่เราจองไว้ เราจองราคา 800 บาท ที่พักเราชื่อ นาวารีสอร์ท ห้องสะอาดโอเคมาก เราประทับใจ
เมื่อทำการเช็คอินที่พักแล้วเราก็ขอพักในห้องสักพักเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง
สักประมาณบ่ายสามของวันที่ 16 เราก็ขับรถออกไปหาอะไรกิน กินข้าวข้างทางอาหารตามสั่งที่ขับรถผ่านพอใจร้านไหนก็เลือกนั่งได้เลย
จากนั้นก็ไปเที่ยวที่ ทุ่งนามุ้ย จ.นครนายก ค่าเข้าคนละ 10 บาท เป็นบรรยากาศธรรมชาติล้วนๆ ทุ่งนามีสะพานไม้ข้ามเดินชมบรรยากาศธรรมชาติของทุ่งนา ของ จ.นครนายก
นอกจากจะมีธรรมชาติแล้วยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอาหารที่ชาวบ้านเอามาขายต่างๆ
พอตกเย็นหน่อยเราก็ไปเดินตลาดเท่ง
กินข้าวที่นั้น เดินเล่นที่นั้น จากนั้นก็กลับที่พักเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
17/12/18
(อธิบายคราวว่าวันนี้เราแวะซื้อของ แวะเที่ยวเขื่อน ก่อนที่จะขึ้นเขาใหญ่ ปล.เวลาเราใส่เป็นตัวเลขกลมๆไว้)
เช็คเอ้าจากที่พัก 11.00 น.
ตื่นมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเช็คเอ้าจากห้องพักและเก็บทำภาระเพื่อขึ้นไปเขาใหญ่อีกด้วย
ก็แวะกินข้าวข้างทางเหมือนเดิมจ้า เลือกร้านที่เราคาดว่าจะพึงพอใจ เพราะมันมีหลายร้านให้เลือก พอกินเสร็จ
เติมน้ำมัน 800 บาท (เพราะมีน้ำมันเก่าอยู่แล้ว)
13.00 น. เข้าแม็คโค นครนายก
ซื้อหมูหมักแช่แข็ง ถุงละ 145 บาท เป็นหมูสเต็กหมัก(จัดมา2ถุง)
ลูกชิ้นที่เสียบไม้คล้ายๆลูกชิ้นทิพย์(แต่ไม่ใช่ ราคาจำไม่ได้)
ซื้อน้ำ น้ำแข็ง ขนมที่กิน
จากนั้นก็เอาหมูที่ซื้อมา ใส่โฟมไว้หลังรถ
14.00 น.ขับรถเที่ยวเขื่อนขุนด่าน จ.นครนายก
ที่เลือกไปเพราะ ก็ธรรมชาติอีกแหละ ทริปนี้มาสายธรรมชาติละไปให้สุด แต่ละที่วิวก็จะต่างกันออกไป
มีบริการนั่งรถชมสันเขื่อน กับล่องเรือ แต่เราไม่ได้นั่งเพราะกลัวขึ้นเขาใหญ่ไม่ทัน ทำการถ่ายรูปถ่ายวิวที่ต้องการ
ขับรถไปเขาใหญ่แวะ อ่างเก็บน้ำวังบอน
ถ่ายรูปอีกเช่นเคย 55555 เจ้าของกระทู้ชอบถ่ายรูปมากจ้า ถ่ายเสร็จละไปไม่ช้านะจ๊ะ
15.00 เดินทางมาถึงทางขึ้นเขาใหญ่แล้ว ฝั่งนครนายก
เสียค่าเข้า คนละ 50 บาท รถยนต์ 100 บาท
ขับรถก็สักพักใหญ่ๆเลยกว่าจะถึง จุดกางเต้นท์ ลำตะคอง ระหว่างทางก็เจอสัตว์บ้าง เช่นลิง และขี้ช้าง
เวลาประมาณ 15.40 (เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว)
ถึงจุดกางเต้นท์ที่ลำตะคอง เราก็เช่าเต้นท์
เราเช่าเต้นใหญ่นอนได้ 2-4 คน ราคา 225 บาท
เช่าแผ่นรองนอน 2 อัน อันละ 20 บาท
เช่าเต่าไว้ย่างหมู 1 เตา เตาละ 30 บาท
เช่าที่ย่าง 1 อัน อันละ 20 บาท
เช่าพลาสติกไว้ปู 1 อัน อันละ 40 บาท
ถ่านถุงละ 20 (เราซื้อจากข้างล่างไปแล้ว)
ทำการกางเต้นท์ ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย 555 ดูเต้นท์ข้างๆบ้าง แต่สุดท้ายก็สำเร็จ ตอนแรกคิดไว้กางเต้นท์เสร็จจะไปขับรถเที่ยวต่อแต่มันเริ่มมืดก็เลยไม่ไป
บรรยากาศก็จะมีน้องกวางเดินมาให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ มีลิง (ปล. ดูแลของให้ดีๆนะจ๊ะ) สัตว์ก็ไม่กลัวคนและไม่ควรให้อาหารสัตว์ด้วยนะคะ
พอเริ่มมืดสักหน่อย ก็เริ่มทำการปิ้งย่างที่เตรียมมา วันที่เราเต้นท์ข้างๆนิสัยดีมาก เราไม่รู่จักกันเลยแต่เราทักทายกัน แบ่งอาหารที่ทุกคนเตรียมมาให้กัน ก็น่ารักอีกแบบนะคะ
พอเริ่มดึกอากาศเริ่มหนาวก็เขานอนตั้งแต่ 3 ทุ่มเราเอาโฟมน้ำแข็งไว้นอกเต้นท์และขนมที่เปิดปากถุงแล้ว
นอนไปสักพักเริ่มได้ยินเสียงจากนอกเต้นท์ เปิดออกไปดู น้องกวางจ้า กินขนมบิตกิตรสช็อคโกแลตเราไปหมดถุงเลย น้องเก่งมากเปิดกล่องโฟมใส่น้ำแข็งได้ น้องเอาน้ำส้มมารีออกมาจากกล่องโฟมได้ 55555 ก็ต้องย้ายของละนอนต่อ
พอเริ่มดึกสักเที่ยงคืน อุณหภูมิต่ำสุดน่าจะ 14-15 องศา แบบนี่จนถึงเช้ามืด
18/12/18
เราตื่นตั้งแต่ตีห้า ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อแขนยาวทำธุระส่วนตัว เตรียมพร้อมที่จะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่เขาใหญ่
06.00 เราออกเดินทางไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผ่าเดียวดาย จากอากาศหนาวเดินลงบันไดไปผาทำเอาเราเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่บรรยากาศก็คุ้มอ่ะ สวยจ้า
ต่อไปที่ผาตรอมใจ ไม่ติดไม่ฝันว่าจะเจอทะเลหมอกที่นี้ คือสวยมาก สวยจริงๆ ดูรูปเลยละกัน
ปล.ยังมีส่วนที่เป็นน้ำตก เดี๋ยวมาต่อให้น๊าถ้ามีคนสนใจ ^^
ขอบคุณที่เค้ามาอ่านน๊า
รีวิว เที่ยวนครนายก-เขาใหญ่ 2 คืน 3 วัน กางเต้นท์นอนลำตะคอง
นี้เป็นการเขียนกระทู้รีวิวครั้งแรก มีข้อผิดพลาดอะไรแนะนำได้นะคะ
เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดหลังสอบเสร็จถือว่าเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
ก่อนอื่นเราต้องขอบอกก่อนเลยว่า คืนแรกเราไปเที่ยวนครนายก คืนที่สองเราขึ้นไปกางเต้นท์นอนบนเขาใหญ่ บรรยากาศดีมาก
วันที่ 16 /12/18 วันแรกเราจะเที่ยวที่นครนายก
นั่งรถไฟจากกรุงเทพไปปราจีน ราคาประมาณ 30 บาท(ไปปราจีนเพราะเราไปเอารถยนต์ที่บ้านจ้า) ถึงปราจีนประมาณ 11.00 โมงกว่าๆ จากนั้นเราก็เดินทางไป รีสอร์ทที่เราจองไว้ เราจองราคา 800 บาท ที่พักเราชื่อ นาวารีสอร์ท ห้องสะอาดโอเคมาก เราประทับใจ
เมื่อทำการเช็คอินที่พักแล้วเราก็ขอพักในห้องสักพักเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง
สักประมาณบ่ายสามของวันที่ 16 เราก็ขับรถออกไปหาอะไรกิน กินข้าวข้างทางอาหารตามสั่งที่ขับรถผ่านพอใจร้านไหนก็เลือกนั่งได้เลย
จากนั้นก็ไปเที่ยวที่ ทุ่งนามุ้ย จ.นครนายก ค่าเข้าคนละ 10 บาท เป็นบรรยากาศธรรมชาติล้วนๆ ทุ่งนามีสะพานไม้ข้ามเดินชมบรรยากาศธรรมชาติของทุ่งนา ของ จ.นครนายก
นอกจากจะมีธรรมชาติแล้วยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอาหารที่ชาวบ้านเอามาขายต่างๆ
พอตกเย็นหน่อยเราก็ไปเดินตลาดเท่ง
กินข้าวที่นั้น เดินเล่นที่นั้น จากนั้นก็กลับที่พักเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้
17/12/18
(อธิบายคราวว่าวันนี้เราแวะซื้อของ แวะเที่ยวเขื่อน ก่อนที่จะขึ้นเขาใหญ่ ปล.เวลาเราใส่เป็นตัวเลขกลมๆไว้)
เช็คเอ้าจากที่พัก 11.00 น.
ตื่นมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเช็คเอ้าจากห้องพักและเก็บทำภาระเพื่อขึ้นไปเขาใหญ่อีกด้วย
ก็แวะกินข้าวข้างทางเหมือนเดิมจ้า เลือกร้านที่เราคาดว่าจะพึงพอใจ เพราะมันมีหลายร้านให้เลือก พอกินเสร็จ
เติมน้ำมัน 800 บาท (เพราะมีน้ำมันเก่าอยู่แล้ว)
13.00 น. เข้าแม็คโค นครนายก
ซื้อหมูหมักแช่แข็ง ถุงละ 145 บาท เป็นหมูสเต็กหมัก(จัดมา2ถุง)
ลูกชิ้นที่เสียบไม้คล้ายๆลูกชิ้นทิพย์(แต่ไม่ใช่ ราคาจำไม่ได้)
ซื้อน้ำ น้ำแข็ง ขนมที่กิน
จากนั้นก็เอาหมูที่ซื้อมา ใส่โฟมไว้หลังรถ
14.00 น.ขับรถเที่ยวเขื่อนขุนด่าน จ.นครนายก
ที่เลือกไปเพราะ ก็ธรรมชาติอีกแหละ ทริปนี้มาสายธรรมชาติละไปให้สุด แต่ละที่วิวก็จะต่างกันออกไป
มีบริการนั่งรถชมสันเขื่อน กับล่องเรือ แต่เราไม่ได้นั่งเพราะกลัวขึ้นเขาใหญ่ไม่ทัน ทำการถ่ายรูปถ่ายวิวที่ต้องการ
ขับรถไปเขาใหญ่แวะ อ่างเก็บน้ำวังบอน
ถ่ายรูปอีกเช่นเคย 55555 เจ้าของกระทู้ชอบถ่ายรูปมากจ้า ถ่ายเสร็จละไปไม่ช้านะจ๊ะ
15.00 เดินทางมาถึงทางขึ้นเขาใหญ่แล้ว ฝั่งนครนายก
เสียค่าเข้า คนละ 50 บาท รถยนต์ 100 บาท
ขับรถก็สักพักใหญ่ๆเลยกว่าจะถึง จุดกางเต้นท์ ลำตะคอง ระหว่างทางก็เจอสัตว์บ้าง เช่นลิง และขี้ช้าง
เวลาประมาณ 15.40 (เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว)
ถึงจุดกางเต้นท์ที่ลำตะคอง เราก็เช่าเต้นท์
เราเช่าเต้นใหญ่นอนได้ 2-4 คน ราคา 225 บาท
เช่าแผ่นรองนอน 2 อัน อันละ 20 บาท
เช่าเต่าไว้ย่างหมู 1 เตา เตาละ 30 บาท
เช่าที่ย่าง 1 อัน อันละ 20 บาท
เช่าพลาสติกไว้ปู 1 อัน อันละ 40 บาท
ถ่านถุงละ 20 (เราซื้อจากข้างล่างไปแล้ว)
ทำการกางเต้นท์ ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลย 555 ดูเต้นท์ข้างๆบ้าง แต่สุดท้ายก็สำเร็จ ตอนแรกคิดไว้กางเต้นท์เสร็จจะไปขับรถเที่ยวต่อแต่มันเริ่มมืดก็เลยไม่ไป
บรรยากาศก็จะมีน้องกวางเดินมาให้เราเห็นอยู่บ่อยๆ มีลิง (ปล. ดูแลของให้ดีๆนะจ๊ะ) สัตว์ก็ไม่กลัวคนและไม่ควรให้อาหารสัตว์ด้วยนะคะ
พอเริ่มมืดสักหน่อย ก็เริ่มทำการปิ้งย่างที่เตรียมมา วันที่เราเต้นท์ข้างๆนิสัยดีมาก เราไม่รู่จักกันเลยแต่เราทักทายกัน แบ่งอาหารที่ทุกคนเตรียมมาให้กัน ก็น่ารักอีกแบบนะคะ
พอเริ่มดึกอากาศเริ่มหนาวก็เขานอนตั้งแต่ 3 ทุ่มเราเอาโฟมน้ำแข็งไว้นอกเต้นท์และขนมที่เปิดปากถุงแล้ว
นอนไปสักพักเริ่มได้ยินเสียงจากนอกเต้นท์ เปิดออกไปดู น้องกวางจ้า กินขนมบิตกิตรสช็อคโกแลตเราไปหมดถุงเลย น้องเก่งมากเปิดกล่องโฟมใส่น้ำแข็งได้ น้องเอาน้ำส้มมารีออกมาจากกล่องโฟมได้ 55555 ก็ต้องย้ายของละนอนต่อ
พอเริ่มดึกสักเที่ยงคืน อุณหภูมิต่ำสุดน่าจะ 14-15 องศา แบบนี่จนถึงเช้ามืด
18/12/18
เราตื่นตั้งแต่ตีห้า ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อแขนยาวทำธุระส่วนตัว เตรียมพร้อมที่จะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่เขาใหญ่
06.00 เราออกเดินทางไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผ่าเดียวดาย จากอากาศหนาวเดินลงบันไดไปผาทำเอาเราเหนื่อยเหมือนกันนะ แต่บรรยากาศก็คุ้มอ่ะ สวยจ้า
ต่อไปที่ผาตรอมใจ ไม่ติดไม่ฝันว่าจะเจอทะเลหมอกที่นี้ คือสวยมาก สวยจริงๆ ดูรูปเลยละกัน
ปล.ยังมีส่วนที่เป็นน้ำตก เดี๋ยวมาต่อให้น๊าถ้ามีคนสนใจ ^^
ขอบคุณที่เค้ามาอ่านน๊า