สวัสดีครับ .
ขอทักทายกันก่อน รีวิวนี้เป็นรีวิวครั้งแรก รวมถึงเป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตของเราด้วย เป็นประเทศที่ใฝ่ฝันมานาน แต่ก็ไม่ได้ไปสักที ก่อนหน้านี้ไปประเทศอื่นจะไปกับทัวร์ตลอด และเวลาไม่เคยพอสำหรับการซึมซับบรรยากาศของแต่ละประเทศเลย
เราเริ่ม..จองตั๋วโปรของ Fly Scoot ตอนสิ้นเดือน พ.ค. แต่ด้วยความที่เราจองตั๋วเครื่องบินไปก่อน โดยยังไม่รู้เลยว่า ช่วงเดือนกันยาเป็นยังไง!! เลยต้องมานั่งกังวลเพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงทิ้งท้ายหน้าฝนและไต้ฝุ่นของญี่ปุ่น(20-25/9/18)
แต่ก็เออจองไปแล้ว ไม่สนใจ ยังไงก็ต้องไปให้ได้ วางแผนเดินทางต่อเลยดีกว่า
***ทริปนี้เราอยู่ในโตเกียวตลอดทริป พักสี่คืนในโตเกียวและหนึ่งคืนในนาริตะ ทำให้ได้ซึบซับโตเกียวที่ชอบได้สมใจ 5 วันเต็มๆ
การเดินทาง
เราเดินทางด้วยสายการบิน Fly Scoot เครื่องค่อนข้างใหญ่และนั่งสบายในระดับโลว์คอสต์ ออกเดินทางจาก
สนามบินดอนเมือง เวลา 00:45 AM เดินทางถึง นาริตะ 08:50 AM ลงจากเครื่องผ่าน ตม. รับกระเป๋า เดินทางเข้าเมือง
เราเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองโตเกียวโดยใช้ Keisei Skyliner เนื่องจากอยากถึงให้ไวที่สุด เพื่อเก็บของแล้วเที่ยวต่อเลย
ถึงสนามบินนาริตะ.
เรามาซื้อตั๋ว Keisei Skyliner โดยเดินมาที่ Narita Terminal 2 ลงมาที่ชั้น B1F จะมีบูทของ Keisei ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วแบบต่างๆ ได้ที่จุดนี้
โดย Keisei Skyliner จะระบุที่นั่ง ขบวน ตามบัตรเลยนะครับ มาตรงเวลาเป๊ะ มีข้อดีอีกอย่างที่นอกจากทำเวลาได้ไวแล้วคือ มีทีเก็บกระเป๋าด้านหลังขบวนด้วย ทำให้เราสะดวกตอนนั่ง สบายๆ ไม่ต้องมาคอยจับกระเป๋า
รถไฟมาแล้ววว.. เฮ้ยย!! ไม่ใช่ขบวนนี้
มาแล้ว!! ขบวนนี้แหละ Keisei Skyliner ขบวนที่เราจะเดินทางเข้าโตเกียวกัน
โดยเราพักกันที่ Ueno ปลายทางของเราคือ สถานี Keisei Ueno ใช้เวลาประมาณ 41 นาที
ภาพนี้ถ่ายระหว่างเดินไปที่พัก เพื่อเอากระเป๋าไปฝาก การนำทางใช้ Google Map ในโทรศัพท์ล้วนๆ เลยครับ ไม่มีหลง ถ้าเดินถูกทาง เพราะเขาอธิบายไว้ละเอียดพอสมควร 5555
ที่พักสองคืนแรกเราชื่อ Ueno Touganeya Hotel จองผ่าน Booking.com ครับ
สำหรับผมการจองค่อนข้างสะดวกนะครับ เข้าใจง่ายดี ถนัดเว็บนี้เลยจองผ่านทางนี้ ไม่ได้มีส่วนได้เสียครับ
ใจจริงอยากจะจองสี่คืนเลย แต่ดันเต็มก่อนเลยต้องย้ายไปโรงแรมอื่นอีกสองคืน
พอถึงที่พักคุยกับพนักงาน ชำระเงินเสร็จ รีบขึ้นไปเก็บกระเป๋า ไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้าที่พักและเส้นทางไว้เลยครับ
นี่คือห้องน้ำของโรงแรมครับ เล็กๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่อยู่ได้ ไม่ลำบาก มีเครื่องใช้ให้ครบ
ส่วนพื้นที่ห้องก็ค่อนข้างเล็กครับ แต่ดูรีวิวมาแล้ว ก็ไม่ตกใจ อยู่ได้สบายๆ
เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย ..
อะลืมบอกก ทริปนี้ด้วยความที่เราไม่มีเวลาศึกษามากนัก ทำให้ไม่ได้ศึกษา Pass รถไฟมาเลย
เราจึงตัดสินใจซื้อบัตร Suica เป็น IC Card แบบเติมเงิน เพื่อเดินทางในโตเกียวทั้งหมดครับ จะไปไหนแตะอย่างเดียว
เงินหมดก็เติม ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อบัตรของแต่ละสถานี
***แต่ถ้าใครมีเวลา ลองศึกษาการเดินทางเพิ่มเติมดีกว่าครับ เพื่อประหยัดงบประมาณ ฮ่าๆๆ
สถานที่แรกของทริปเราคือ วัดเซนโซจิครับ ใครมาก็ไป เราไม่ไปได้ไง
เดินไปที่สถานีรถไฟ Ueno Station ขึ้นสาย Ginza Line ไปลงสถานี Asakusa Station
เจอเด็กๆกำลังดินทางไปทัศนศึกษากัน
มาถึงสถานี Asakusa อย่าเพิ่งรีบไปวัด มาชมวิวกันก่อนครับ
เดินมาอาคาร Tourist Information กดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 8 จะมีจุดชมวิวฟรีครับ !
ข้างบนเราสามารถชมวิวของถนนคนเดินหน้าวัด ที่นักท่องเที่ยวเดินกันเข้าสู่วัด
หันมาอีกมุม ก็จะเห็นวิวของ Tokyo Sky Tree ตึกสำนักงานใหญ่เบียร์อาซาฮีและแม่น้ำ Sumida
นอกจากนี้ด้านบนยังมี คาเฟ่เล็กๆ ไว้นั่งชิลๆ ด้วยนะครับ
มาต่อกันที่เส้นทางเดินเข้าวัด ก็จะมีร้านขายของกินและของที่ระลึกตลอดเส้นทาง
ยังไม่ทันถึงไหน แวะกินก่อนเลยครับ หมูทอดชุบแป้งเจ้าอร่อย ร้าน Asakusa Menchi
ตามรีวิวพันทิปนี่ละ อร่อยจริงๆครับ ชอบมากเลย
กินคาวเสร็จ กินหวานต่อเลย ไอติมชาเขียว ใกล้ๆร้านหมูทอดครับ อร่อยมากๆ เช่นกัน ห้ามพลาดด
แอบส่องสาวๆ ญี่ปุ่นใส่ชุดกิโมโนมาเดินเล่นกันครับ
กินจนพอใจแล้ว เราเดินเข้าวัดกันต่อ วันแรกนี้ผมเจอฝนทั้งวันเลยนะครับ ค่อนข้างทุลักทุเล แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ลุยครับ!
โชคยังเข้าข้างบ้างเพราะฝนตกไม่หนัก ทำให้เราพอถ่ายรูปได้ เดินเที่ยวกันต่อได้
[CR] 6 วัน 5 คืนในโตเกียว l เดิน ช็อป ถ่ายรูป กินเต็มพลัง!!
ขอทักทายกันก่อน รีวิวนี้เป็นรีวิวครั้งแรก รวมถึงเป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตของเราด้วย เป็นประเทศที่ใฝ่ฝันมานาน แต่ก็ไม่ได้ไปสักที ก่อนหน้านี้ไปประเทศอื่นจะไปกับทัวร์ตลอด และเวลาไม่เคยพอสำหรับการซึมซับบรรยากาศของแต่ละประเทศเลย
เราเริ่ม..จองตั๋วโปรของ Fly Scoot ตอนสิ้นเดือน พ.ค. แต่ด้วยความที่เราจองตั๋วเครื่องบินไปก่อน โดยยังไม่รู้เลยว่า ช่วงเดือนกันยาเป็นยังไง!! เลยต้องมานั่งกังวลเพราะช่วงที่ไปเป็นช่วงทิ้งท้ายหน้าฝนและไต้ฝุ่นของญี่ปุ่น(20-25/9/18)
แต่ก็เออจองไปแล้ว ไม่สนใจ ยังไงก็ต้องไปให้ได้ วางแผนเดินทางต่อเลยดีกว่า
***ทริปนี้เราอยู่ในโตเกียวตลอดทริป พักสี่คืนในโตเกียวและหนึ่งคืนในนาริตะ ทำให้ได้ซึบซับโตเกียวที่ชอบได้สมใจ 5 วันเต็มๆ
การเดินทาง
เราเดินทางด้วยสายการบิน Fly Scoot เครื่องค่อนข้างใหญ่และนั่งสบายในระดับโลว์คอสต์ ออกเดินทางจาก
สนามบินดอนเมือง เวลา 00:45 AM เดินทางถึง นาริตะ 08:50 AM ลงจากเครื่องผ่าน ตม. รับกระเป๋า เดินทางเข้าเมือง
เราเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองโตเกียวโดยใช้ Keisei Skyliner เนื่องจากอยากถึงให้ไวที่สุด เพื่อเก็บของแล้วเที่ยวต่อเลย
ถึงสนามบินนาริตะ.
เรามาซื้อตั๋ว Keisei Skyliner โดยเดินมาที่ Narita Terminal 2 ลงมาที่ชั้น B1F จะมีบูทของ Keisei ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วแบบต่างๆ ได้ที่จุดนี้
โดย Keisei Skyliner จะระบุที่นั่ง ขบวน ตามบัตรเลยนะครับ มาตรงเวลาเป๊ะ มีข้อดีอีกอย่างที่นอกจากทำเวลาได้ไวแล้วคือ มีทีเก็บกระเป๋าด้านหลังขบวนด้วย ทำให้เราสะดวกตอนนั่ง สบายๆ ไม่ต้องมาคอยจับกระเป๋า
รถไฟมาแล้ววว.. เฮ้ยย!! ไม่ใช่ขบวนนี้
มาแล้ว!! ขบวนนี้แหละ Keisei Skyliner ขบวนที่เราจะเดินทางเข้าโตเกียวกัน
โดยเราพักกันที่ Ueno ปลายทางของเราคือ สถานี Keisei Ueno ใช้เวลาประมาณ 41 นาที
ภาพนี้ถ่ายระหว่างเดินไปที่พัก เพื่อเอากระเป๋าไปฝาก การนำทางใช้ Google Map ในโทรศัพท์ล้วนๆ เลยครับ ไม่มีหลง ถ้าเดินถูกทาง เพราะเขาอธิบายไว้ละเอียดพอสมควร 5555
ที่พักสองคืนแรกเราชื่อ Ueno Touganeya Hotel จองผ่าน Booking.com ครับ
สำหรับผมการจองค่อนข้างสะดวกนะครับ เข้าใจง่ายดี ถนัดเว็บนี้เลยจองผ่านทางนี้ ไม่ได้มีส่วนได้เสียครับ
ใจจริงอยากจะจองสี่คืนเลย แต่ดันเต็มก่อนเลยต้องย้ายไปโรงแรมอื่นอีกสองคืน
พอถึงที่พักคุยกับพนักงาน ชำระเงินเสร็จ รีบขึ้นไปเก็บกระเป๋า ไม่ได้ถ่ายรูปด้านหน้าที่พักและเส้นทางไว้เลยครับ
นี่คือห้องน้ำของโรงแรมครับ เล็กๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่อยู่ได้ ไม่ลำบาก มีเครื่องใช้ให้ครบ
ส่วนพื้นที่ห้องก็ค่อนข้างเล็กครับ แต่ดูรีวิวมาแล้ว ก็ไม่ตกใจ อยู่ได้สบายๆ
เมื่อเก็บของเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย ..
อะลืมบอกก ทริปนี้ด้วยความที่เราไม่มีเวลาศึกษามากนัก ทำให้ไม่ได้ศึกษา Pass รถไฟมาเลย
เราจึงตัดสินใจซื้อบัตร Suica เป็น IC Card แบบเติมเงิน เพื่อเดินทางในโตเกียวทั้งหมดครับ จะไปไหนแตะอย่างเดียว
เงินหมดก็เติม ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อบัตรของแต่ละสถานี
***แต่ถ้าใครมีเวลา ลองศึกษาการเดินทางเพิ่มเติมดีกว่าครับ เพื่อประหยัดงบประมาณ ฮ่าๆๆ
สถานที่แรกของทริปเราคือ วัดเซนโซจิครับ ใครมาก็ไป เราไม่ไปได้ไง
เดินไปที่สถานีรถไฟ Ueno Station ขึ้นสาย Ginza Line ไปลงสถานี Asakusa Station
เจอเด็กๆกำลังดินทางไปทัศนศึกษากัน
มาถึงสถานี Asakusa อย่าเพิ่งรีบไปวัด มาชมวิวกันก่อนครับ
เดินมาอาคาร Tourist Information กดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 8 จะมีจุดชมวิวฟรีครับ !
ข้างบนเราสามารถชมวิวของถนนคนเดินหน้าวัด ที่นักท่องเที่ยวเดินกันเข้าสู่วัด
หันมาอีกมุม ก็จะเห็นวิวของ Tokyo Sky Tree ตึกสำนักงานใหญ่เบียร์อาซาฮีและแม่น้ำ Sumida
นอกจากนี้ด้านบนยังมี คาเฟ่เล็กๆ ไว้นั่งชิลๆ ด้วยนะครับ
มาต่อกันที่เส้นทางเดินเข้าวัด ก็จะมีร้านขายของกินและของที่ระลึกตลอดเส้นทาง
ยังไม่ทันถึงไหน แวะกินก่อนเลยครับ หมูทอดชุบแป้งเจ้าอร่อย ร้าน Asakusa Menchi
ตามรีวิวพันทิปนี่ละ อร่อยจริงๆครับ ชอบมากเลย
กินคาวเสร็จ กินหวานต่อเลย ไอติมชาเขียว ใกล้ๆร้านหมูทอดครับ อร่อยมากๆ เช่นกัน ห้ามพลาดด
แอบส่องสาวๆ ญี่ปุ่นใส่ชุดกิโมโนมาเดินเล่นกันครับ
กินจนพอใจแล้ว เราเดินเข้าวัดกันต่อ วันแรกนี้ผมเจอฝนทั้งวันเลยนะครับ ค่อนข้างทุลักทุเล แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว ลุยครับ!
โชคยังเข้าข้างบ้างเพราะฝนตกไม่หนัก ทำให้เราพอถ่ายรูปได้ เดินเที่ยวกันต่อได้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้