Official Website: http://www.omahazoo.com/

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในภาคกลางอเมริกา สวนสัตว์ โอมาฮา เฮนรี ดอร์ลี ซู (Omaha's Henry Doorly Zoo) ใน เนบราสก้า



ภาคกลางอเมริกาไม่ค่อยมีคนแนะนำการท่องเที่ยว เพราะมันห่างไกลจากศูนย์กลางการบินจากไทยไปอเมริกา ซึ่งจากไทยมาก็จะเข้าที่ริมฝั่งตะวันตก อย่างลอสเองเจิลลิสเสียเป็นส่วนมาก คนเลยเที่ยวที่ลอสเองเจิลลิส ซานฟราน ซานดิเอโก หรือไม่ก็ริมฝั่งตะวันออก อย่างนิวยอร์ค

ตอนนี้ อีวีเอ แอร์ (EVA Air) มีศูนย์อยู่ที่ชิคาโก แบบบินจากไทย ต่อเครื่องไทเป ลงที่ชิคาโก แค่สองต่อ ค่าตั๋วไม่แพง สะดวกสุดๆ สำหรับคนที่จะมาเที่ยวแถวกลางๆประเทศ ในเน็ตไม่ค่อยมีคนแนะนำภาษาไทยในสถานที่ท่องเที่ยวแถบนี้ เลยอยากรวบรวมเขียนเป็นประสบการณ์จากที่เราเคยไปมา รูปประกอบบางรูปก็เอามาจากในเน็ต บางส่วนก็เป็นของเราเองที่ได้ถ่ายไว้

เดินทางทางเครื่องบินจากชิคาโกไปโอมาฮาจะประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถ้านั่งรถเช่าจะประมาณเจ็ดชั่วโมง ถ้ามาเป็นหมู่คณะนั่งรถเช่าจะประหยัดไปเยอะ เมื่อยก็หยุดตามทาง หาอะไรกิน ชมบ้านเมืองสองข้างทาง ต้องขับผ่านรัฐไอโอวา ก่อนเข้าเนบราสก้า

​เราเป็นคนชอบเที่ยวสวนสัตว์ ถ้า มีลูกมีหลาน เด็กๆ อยากให้พาเค้าเที่ยวสวนสัตว์ กับครอบครัว หรือไปกับโรงเรียนก็ได้ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่เด็กๆ จะมีไว้ในความทรงจำ ขนาดเราโตจนแก่แล้ว ยังจำความประทับใจตอนเที่ยวสวนสัตว์กับครอบครัว และสมัยเรียนปอหนึ่งกับเพื่อนๆ ได้เลย สวนสัตว์ที่นี่ สัตว์ดูดี มีความสุข บรรยากาศเด็กๆ มาเที่ยวกับครอบครัว เด็กๆ มาเที่ยวกับพ่อแม่ บางทีก็ปู่ย่า(ตายาย) ทางสวนสัตว์บางที่จะขายตั๋วแบบสมาชิกให้ครอบครัวพ่อแม่และลูกๆ หรือ ปู่ย่า(ตายาย)และหลานๆ รัฐและภาคเอกชนให้การสนับสนุนให้เด็กๆ เที่ยวสวนสัตว์ มีเงินสนับสนุนจากรัฐ และเงินบริจาคจากองค์การกุศล และบุคคล มีป้ายประกาศอุปการะคุณ ชื่อตึกต่างๆ เป็นชื่อผู้ที่สนับสนุนทุนบริจาค ทำให้สวนสัตว์แห่งนี้มีความ ยิ่งใหญ่ สวยงาม อลังการ มีสัตว์มากมายที่จัดแสดงให้ความรู้แก่เด็กๆ และประชาชนทั่วไป ผู้เขียนประทับใจมาก ที่ได้มีโอกาสเที่ยวสวนสัตว์หลายๆ แห่งในอเมริกา แต่ละที่มีความน่าสนใจ และโดดเด่นแตกต่างกัน ไป ในตอนต่อไป ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องเที่ยวสวนสัตว์แห่งอื่นๆ อีก

​เริ่มต้นก็ตี๋ตั๋วเข้าสวนสัตว์กัน ราคาขึ้นกับฤดูกาลด้วย ฤดูใบไม้ร่วง2018 ผู้ใหญ่ราคา $18.95 เด็ก $12.95 ผู้สูงอายุ 65 ขึ้น $17.95 เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีเข้าฟรี ที่จอดรถฟรี เปิด เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น เปิดทุกวันยกเว้นวันคริสมาสต์
เช็คราคาและเวลาที่อัพเดทได้ที่ http://www.omahazoo.com/hours-and-admission
จะซื้อออนไลน์ตามลิงค์ หรือตรงทางเข้าก็ได้ ตอนเข้าให้รับเอาแผนที่มาประกอบการชมสวนสัตว์ด้วย

มาดูแผนที่กัน เที่ยวเดินตามแผนที่ สัญลักษณ์ในแผนที่ จุดที่มีร้านอาหารจะเป็นส้อม


อันนี้ก็เป็นเครื่องหมายต่างๆ เรียงจากบนลงล่าง ซ้ายไปขวา แผนที่สวนสัตว์ ร้านขายของที่ระลึก ห้องน้ำ สถานพยาบาล ห้องให้นมเด็กเล็ก รั้ว ป้ายรถพ่วง รางรถไฟ ตู้เอทีเอ็ม ที่เช่ารถเข็นเด็ก


จากทางเข้าหลัก ด้านหน้า ด้านขวามือจะเป็นที่ขายตั๋ว ลึกเข้าไปอีกนิดทางด้านขวาจะเป็นห้องน้ำก่อนเข้าประตูผ่าน ผ่านประตูทางเข้ามาแล้ว ศูนย์บริการลูกค้าอยู่ขวามือ ร้านที่ระลึกอยู่ด้านซ้ายมือ ถัดมามีตู้เอทีเอ็ม ร้านอาหาร ที่เช่ารถเข็นเด็ก ห้องน้ำ และ โรงหนังของสวนสัตว์ โลซิเออ ไจแอนท์ สกรีน เทียเทอร์ (Lozier Giant Screen Theater) หนังจะเป็นประเภทสารคดีสัตว์
แนะนำให้เดินไปทางด้านซ้าย จุดแรกที่อยากให้แวะก่อนจะเหนื่อยคือ โดมทะเลทราย ดีเซิร์ท โดม (Desert Dome) และ อาณาจักรกลางคืน คิงส์ดอม ออฟ เดอะ ไนท์ (Kingdoms of the Night)


​โดมทะเลทราย เป็นสัญลักษณ์ของ สวนสัตว์โอมาฮา เฮนรี ดอร์ลี ซู ที่สวนสัตว์อื่นไม่มี เพราะฉะนั้นต้องเข้าอันนี้ก่อน เผื่อไม่สามารถเดินเที่ยวได้ทั่ว ก็ได้เที่ยวอันนี้แล้ว


จากนี้ไปได้แปลบทบรรยายจากเวปไซท์ทางการของสวนสัตว์ หากไม่ถูกต้องสละสลวย ขออภัยไว้ด้วย

(เริ่มบทแปล)
โดมทะเลทราย (ดีเซิร์ท โดม Desert Dome)
เป็นอาคารบรรยากาศทะเลทรายภายในโดม ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นโดมใสผิวโค้ง และกลายเป็นสัญลักษณ์(แลนด์มาร์ค)ของเมืองโอมาฮา ภายในโดมจะมีพืชและสัตว์จากทะเลทรายสามที่ในโลก ทะเลทราย นามิบ (Namib Desert) จากแอฟริกาใต้ แรดเซนเตอร์ (Red Center) จากออสเตรเลีย ทะเลทรายโซโนราน (Sonoran Desert) จาก อเมริกาภาคตะวันตกเฉียงใต้ มีพื้นที่ในโดม 84,000 ตร ฟุต สองชั้น ชั้นละ 42,000 ตร ฟุต ชั้นล่างของโดมทะเลทราย จะเป็น อาณาจักรกลางคืน (Kingdoms of the Night) เป็นที่แสดงสัตว์ ที่ออกหากินกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

​ทะเลทรายสามแห่งจะแบ่งด้วยภูเขาตรงกลางโดม ภูเขาสูง 55 ฟุต รอบๆ ภูเขาตรงกลางจะมีพืชพันธุ์ต่างๆ ในทะเลทราย ประกอบด้วย ซัคคูแลนท์ (succulents พืชชนิดหนึ่ง) ปาล์ม ต้นแมสควิส (mesquite ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) หญ้า สมุนไพร ไม้พุ่ม พืชใกล้สูญพันธุ์ แวลวิทเซีย (Welwitshcia พืชชนิดหนึ่ง) พบได้แต่ที่ทะเลทรายนามิบ ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นทะเลทรายเก่าแก่และมีความหลากหลายทางชีววิทยาทะเลทรายมากที่สุดในโลก

ทะเลทรายนามิบ (Namib Desert)
ส่วนแสดงประกอบด้วยเนินทรายสูง 30 ฟุต ใช้ทรายแดง 300 ตัน ที่นำมาจาก เหมือง ใกล้เมืองฟีนิกซ์ รัฐอริโซนา หน้าผามี คลิปสปริงเกอร์ (klipspringers สัตว์ชนิดหนึ่ง) และเมียร์เคท (meerkats สัตว์ชนิดหนึ่ง) ภายในถ้ำทะเลทราย มีสัตว์เลื้อยคลาน 21 สปีชี่ส์ จากแอฟริกา และออสเตรเลีย ประกอบด้วย งูมีพิษ ตัวอย่างเช่น เดท เอดเดอร์ (death adders งูชนิดหนึ่ง) แคปโคบรา (cape cobra งูเห่า) และ ไทพาน (taipan งูชนิดหนึ่ง) เป็นงูบนบกที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

แรดเซนเตอร์ (Red Center)
อยู่ในออสเตรเลีย เป็นทะเลทรายที่แปลก และแตกต่างจากที่อื่นในโลก มี วัลลาบี (wallabies สัตว์ชนิดหนึ่ง) อยู่ในออสเตรเลียที่เอเยอร์ รอค หรืออูลูรู  (Ayers Rock or Uluru เป็นสัญลักษณ์ แลนด์มาร์ค ของหินโมโนลิทิค (monolithic หินชนิดหนึ่ง) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีหิน เวฟรอค (Wave Rock) เป็นชิ้นแสดง หินแกรนิตหลากสี เกิดจาก น้ำละลายแร่ธาตุคล้ายเหล็ก

ทะเลทรายโซโนราน (Sonoran Desert)
อยู่ในประเทศอเมริกา ภาคตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือของแมกซิโก มีความหลากหลายทางชีววิทยาทะเลทรายเป็นที่สองของโลก มีโอซีลอท (ocelots แมวคล้ายเสือดาว) แพคคาริ (peccaries สัตว์ชนิดหนึ่ง) บอบแคท (bobcats สัตว์ชนิดหนึ่ง) งูหางกระดิ่ง เป็นสถานที่แสดงงูหางกระดิ่งภายในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ต้นกระบองเพชร ซากัวโร ( Saguaro กระบองเพชรชนิดหนึ่ง) ที่สูงและเกือบสูญพันธุ์ นกกระทา ในส่วนของหุบเขางูหางกระดิ่ง (Rattlesnake Canyon) มีสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำรวม 14 สปีชีส์ รวมทั้งงูหางกระดิ่ง

ซันรูมในโดมทะเลทราย (Desert Dome Sun Room)
ระหว่างออกจากโดมทะเลทราย จะมีห้องพิเศษ จัดแสดง สัตว์ในระยะฟักและตัวอ่อน ของสัตว์เลื้อยคลานและ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานในโครงการอนุรักษ์และวิจัยของสวนสัตว์ หน้าต่างและสกายไลท์ช่วยให้สัตว์เลื้อยคลานได้รับประโยชน์จากแสงอุลตร้าไวโอเลตของดวงอาทิตย์

​อูจีน ที มาโฮนี คิงดอมออฟเดอะไนท์ (Eugene T. Mahoney Kingdoms of the Night อาณาจักรกลางคืน)


เป็นที่จัดแสดงสัตว์ ที่ออกหากินกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ชั้นล่างของโดมทะเลทราย เวลากลางวันและกลางคืนจะสลับกัน (เข้าใจว่าตอนเข้าชมทำให้เป็นกลางคืน เวลาปิดสวนสัตว์ทำให้เป็นกลางวันเพื่อให้สัตว์พักผ่อน) เพื่อที่ผู้เข้าชมจะได้ดูพฤติกรรมสัตว์ ตามธรรมชาติของสัตว์หากินกลางคืน สัตว์พวกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงให้ตาใหญ่ขึ้นเพื่อช่วยให้มันมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมมืดๆ โครงสร้างอาคารเป็นส่วนเดียวกับโดมทะเลทราย ใช้เวลาประมาณหนึ่งปีในการก่อสร้างหลังจากเปิดในส่วนของโดมทะเลทรายไปแล้ว อาณาจักรกลางคืน มีพื้นที่ประมาณ 3/4 เอเคอร์ หรือมากกว่า 42,000 ตร ฟุต

อาณาจักรกลางคืน แบ่งส่วนจัดแสดงเป็นหลายส่วน แต่ละส่วนมีสภาพแวดล้อมต่างกัน ผู้เข้าชมจะผ่านหุบเขาเข้ามา พบ แนคเคท โมล แรท (naked mole rats สัตว์ชนิดหนึ่ง) และ ฟอสสา (fossa สัตว์ชนิดหนึ่ง) ต่อมาเป็นส่วน แอฟริกัน ไดโอรามา (African diorama) สถานที่ที่เด็กทุกวัย สามารถยืนภายในต้นบัวแบบ (Baobab tree ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) เพื่อเฝ้าดูการเปลี่ยนจากพลบค่ำเป็นตอนเย็น ส่วนจัดแสดง แอฟริกัน ไดโอรามา จัดแสดงสัตว์อย่าง แอดวาค (aardvarks สัตว์ชนิดหนึ่ง), สปริงฮาส (springhaas สัตว์ชนิดหนึ่ง) และ เกรทเตอร์ บุช เบบี (greater bush babies สัตว์ชนิดหนึ่ง) ว่ามีพฤติกรรมต่อกันอย่างไร
ผู้เข้าชมจะผ่านถ้ำเปียก (wet cave เวทเคฟ) จะเห็นหินงอกหินย้อยเข้าไปในบ่อลึกเหมือนว่าไม่มีทิ่สิ้นสุด แต่บ่อนี้ลึกจริงประมาณ 16 ฟุต เป็นที่อยู่ของปลาถ้ำตาบอด มีหินงอกหินย้อยถึง 2,400  อัน ในถ้ำ มีค้างคาวผลไม้ หางสั้น เป็นร้อยๆ ตัวบินไปมาในถ้ำค้างคาวใหญ่ (large bat cave ลาฟแบทเคฟ)

​เดินผ่านป่ายูคาลิปตัส ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับชีวิตกลางคืนของออสเตรเลีย ผ่าน ทาร์มา วัลลาบี (Tamar wallabies สัตว์ชนิดหนึ่ง) แอคชิดนา จงอยสั้น (short-beaked echidna สัตว์ชนิดหนึ่ง) ลำธารที่เต็มไปด้วยจระเข้น้ำจืด เต่า และ ปลา ต้นยูคาลิปตัสซึ่งได้ผ่านการรักษาไว้ซึ่งกลิ่นสดของยูคาลิปตัส ส่วนแสดงถ้ำค้างคาวแห้ง (dry bat cave ดรายแบทเคฟ) ไฟส่องสูงถึง 70 ฟุต เป็นบ้านของค้างคาว มากมายหลายสปีชีส์ บางชนิดกินผลไม้ กินเนื้อ หรือเลือด ถ้ำแห้งนี้ เป็นส่วนกลวงภายในของภูเขาตรงกลางโดมทะเลทราย

ส่วนแสดงปลักภายในอาคาร (indoor swamp) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ใต้ทรายของส่วนแสดงทะเลทรายนามิบิ ความจุ 160,000 แกลลอน พื้นที่ 1/4 เอเคอร์ มีทางเดินบนกระดานไม้ผ่านด้านบนของปลัก มีกระท่อมดักสัตว์ มีที่อยู่ของบีเวอร์ (beaver สัตว์ชนิดหนึ่ง) ต้นไซเปรซ (cypress ต้นไม้ชนิดหนึ่ง) และสัตว์ในปลักถึง 38 สปีชีส์ ที่อยู่อาศัยโดยปราศจากสิ่งกีดขวาง (รั้ว) ปลักเป็นบ้านของจรเข้อเมริกา (American alligators อเมริกา อัลลิเกเตอร์) ตัวเต็มวัย เก้าตัว ประกอบด้วย จรเข้ขาวเผือก (จำนวนเม็ดสีบนผิวไม่ค่อยมี) ที่ยืมมาจาก เออร์ดูบอน ซู ในนิวออร์ลีน มีห้าจิตรกรรมฝาผนังในส่วนของอาณาจักรกลางคืน ตู้คิออค (kiosks) เพื่อการศึกษา และสิ่งของจัดแสดง มีไฟส่องสว่างตลอดทาง

​(จบบทแปล)