'เฉลิม' นำทีมพท. ปราศรัยอุดรฯ ลั่นใช้ประชานิยมสู้ประชารัฐ เย้ยไม่ซื้ออาวุธมาเก็บให้เป็นสนิม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1287529
วันที่ 24 ธันวาคม ที่สวนศรีพันธุ์ บ้านหนองโอน หมู่ 9 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี นาย
อนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 2 พรรคเพื่อไทย จัดให้มีการรับสมัครสมาชิกพรรค และรับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก ต.บ้านขาว ต.นากว้าง ต.หมูม่น อ.เมือง จำนวนมาก โดยมี ร.ต.อ.
เฉลิม อยู่บำรุง ประธานณรงค์หาเสียงพรรคเพื่อไทย นาย
สุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกเสียงปรบมือตลอดเวลา ขณะที่นาย
ขวัญชัย สาระคำ เดินทางมาร่วมงานด้วย
ร.ต.อ.
เฉลิม กล่าวว่า ผลการสำรวจเมื่อเมื่อเช้าวันนี้ พรรคเพื่อไทยมีคะแนน 38.3% พรรคพลังประชารัฐมีเพียง 4.7% บอกได้เลยว่าแค่นี้ก็แพ้แล้ว คุยผลงานปราบปรามยาเสพติด ที่จัดการกับสารตั้งต้น ตัดเส้นทางเข้าประเทศ จับเข่าคุยแหล่งเงิน และป้องกัน-ปราบปรามในประเทศ แต่แปลกใจยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้เขียนเรื่องนี้ รัฐบาลนี้ใช้นโยบายประชารัฐ พรรคเพื่อไทยใช้ประชานิยม ก็เอาออกมาสู้กันดู กับงานที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ 30 บาทรักษาทุกโรค , กองทุนหมู่บ้าน , สินค้าโอทอป หรือ ทุนเรียนต่อต่างประเทศ 1 อำเภอ 1 ทุน ไม่ได้เอาเงินไปซื้ออาวุธ มาเก็บสะสมไว้จนเป็นสนิม เรื่องดำน้ำซื้อมาจะเอาทะเลที่ไหนดำ ถามด้วยว่าจะเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ ไปรบกับใครที่ไหน และนี่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน บ้านเมืองเขาก็สงบสุขหมดแล้ว จะไปชวนเข้ากลับมารบหรืออย่างไร
“เรื่องพฤติกรรมพรรคประชาธิปัตย์ และมูลเหตุของการปฏิวัติ ตั้งแต่การได้มาของตำแหน่งนายก ของนายชวน หลีกภัย ไม่ได้มาจากการชนะเลือกตั้ง ไม่ต่างอะไรกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ , เรื่อง สปก.4-01 ให้คนรวยและพรรคพวก , การสมัครเป็น สสร. เพื่อเป็น 99 อรหันต์ร่าง รธน.40 ของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่ได้รับเลือก มาถึงการตั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ผ่านการยุบพรรค ผ่านการปฏิวัติ ที่ได้เพราะการชุมนุม แต่เป็นการขนคนไป หาเหตุสร้างเรื่อง พร้อมกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทยด้วย” ร.ต.อ.
เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.
เฉลิม ยังกล่าวเรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรี ที่ไปก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากตำแหน่งซะวันนี้ เพราะเอาเปรียบคนอื่น มายืนซดหมัดต่อหมัดกัน พวกเหล่านี้ไม่กล้าออกมา เพราะพูดไม่เป็น ตอนอยู่ในสภาฯ ยังไม่กล้าเกาหัว เพราะกลัวประธานเข้าใจผิดคิดว่ายกมือเรียกให้พูด ตนเองชอบเป็นคนปะทะอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง[เผล่ะจัง] เลือกตั้งครั้งที่แล้วอุดรธานี เพื่อไทยได้รับเลือกตั้งยกทีม และเลือกตั้งครั้งนี้อุดรธานีก็จะยกทีม
จากนั้นร.ต.อ.
เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการออกปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เห็นพี่น้องประชานมีความสนใจ ตั้งแต่ไปจอดรถที่โรงแรม และไปที่ตลาด เขาก็ทักทาย ตนก็บอกว่าให้ช่วยพรรคเพื่อไทยด้วย ประชาชนเขาก็บอกว่า ไมต้องบอกเขาก็ช่วยอยู่แล้ว รอฟังเฉลิมมาหลายปี เพราะเห็นว่าเงียบไป ตนบอกว่า ตอนนั้นมีคำสั่ง คสช.หากไปคุยกับใครเกิน 5 คน เขาจับตนแน่ และก็รอจับตนอยู่ แต่ตนเป็นนักกฎหมาย ก็ไม่ให้พลาด จะจับตนได้ไม่มีทาง ตนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองเลย แค่พอมาปราศรัยวันนี้ รู้สึกอบอุ่น พี่น้องมาฟังการเมืองแล้วเข้าใจ เสียงปรบมือมันเป็นตัวบ่งบอกว่า พรรคเพื่อไทย โดยนายอนันต์ฯ จะได้กลับสู่สภาแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเขตเลือกตั้งที่ 2 อุดรธานี ประกอบด้วย อ.เพ็ญ ยกเว้น ต.นาทราย , อ.เมือง เฉพาะ ต.บ้านขาว , ต.นาข่า , ต.นากว้าง , ต.กุดสระ , ต.หนองบัว , ต.สามพร้าว , ต.หมูม่น และ ทต.นาข่า จะเป็นเขตการต่อสู้เข้มข้นของ 3 ผู้สมัคร คือ นาย
อนันต์ฯ เจ้าของพื้นที่เดิม , นพ.
วิชัย ชัยจิตวนิชกุล อดีต ส.ส.พื้นที่หลายสมัย แต่เว้นวรรคทางการเมืองเหตุยุบพรรค และกลับมารับราชการเป็น ผอ.รพ.เพ็ญ ลงสมัครพรรคพลังประชารัฐ และนาย
หรั่ง ธุระพล นายก อบต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา แพ้นาย
อนันต์เฉียดฉิว ลงสมัครพรรคภูมิใจไทย ทำให้วันนี้ ร.ต.อ.
เฉลิม ต้องลงพื้นที่ 2 จุด และวันที่ 26 ธันวาคมนี้ คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะลงพื้นที่ตลาดผ้าบ้านนาข่า เพื่อรักษาเก้าอี้ในเขตนี้ไว้
"ธนาธร" ทำโพล "เลิกเกณฑ์ทหาร-ลดนายพล"หรือไม่ ชาวเน็ตแห่หนุนท่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287656
เพจ “ธนาธร” ทำโพล “เลิกเกณฑ์ทหาร-ลดนายพล” ชาวเน็ตแห่หนุนท่วม 95 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ตั้งโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“คุณเลือกได้ พรรคอนาคตใหม่ เสนอนโยบาย ‘ปฏิรูปกองทัพ’ ให้เป็นกองทัพสมัยใหม่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ใช้วิธีสมัคร ยกเว้นเวลาเกิดศึกสงคราม, ปรับลดกำลังพลประจำการลงครึ่งหนึ่ง ให้เหลือเพียง 1.7 แสนนาย, ลดจำนวนนายพลจากปัจจุบัน 1,600 คน ให้เหลือเพียง 400 คน”
โดยล่าสุดมีผู้มาร่วมลงคะแนนแล้ว 2.61 หมื่นคน
เห็นด้วย ยกเลิกเกณฑ์ทหารร้อยละ 95
ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 5
มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี กดไลค์ 4.5 พันคน แสดงความคิดเห็น 260 คอมเม้นท์ และ 1,444 แชร์ ภายในระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมง โดยจะปิดโหวตภายอีก 6 วันข้างหน้า
งานเข้า! กกต.สั่งสนง. เร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287021
กกต. สั่งสนง. เร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน คาดรู้ผล 30-60 วัน แนะติดตามตั้งแต่ต้น หวั่นช้าจะถูกหยิบประเด็นทางการเมือง ปัดตอบคุณสมบัติหน.พรรค “อุตตม” อ้างยังไม่เห็นเรื่อง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวถึงกรณีคลิปที่มีการเผยแพร่อ้างว่ามีการแจกบัตรคนจนแต่โดนบังคับให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เหตุเกิดในพื้นที่จ.ยโสธรนั้น ว่า ถ้ามีเหตุอะไรต่างๆทั้งที่เกิดขึ้นก่อนการคลายล็อกเราก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ กรณีมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ให้ด้านสืบสวนสอบสวนแจ้งไปยังหน่วยข่าวทางจังหวัดเพื่อตรวจสอบซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 30-60 วันในการสรุปข้อเท็จจริง ก็จะทราบว่าเป็นความผิดตามข้อกฎหมายใด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทางสำนักงานได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อที่ประชุมกกต.รวมถึงกรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพปชร. หรือกรณีคลิปดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้ซักถามถึงขั้นตอนการทำงาน และให้แนวปฏิบัติว่าในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือมีการกระทำที่เสียงอาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย หากสำนักงานฯ ทราบล่วงหน้าก็ควรที่จะเข้าไปติดตามตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าพอเป็นข่าวก็เข้าไปแก้ไขให้ข่าวล่าช้าหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง และถ้าหากกรณีที่สำนักงานเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายแล้วก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีมูลก็ต้องเสนอให้กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน
พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ก็จะเริ่มจากการนำเสนอข่าวของสื่อ โดยครั้งที่แล้วได้มีการเชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล เป็นการค่อยๆก้าวเข้าไปของเจ้าพนักงานว่าได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เพื่อให้สามารถดำเนินการสืบสวนต่อไปได้ อย่างเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนที่มีการนำเสนอรูปผังที่นั่งในงาน เราก็ต้องเชิญสื่อที่นำเสนอข้อมูลดังกล่าวมาให้ข้อมูลว่าผังดังกล่าวได้มาจากไหน ได้มาจากใคร
เมื่อถามว่า หากพบว่าข้าราชการมีการบริจาคแล้วต่อมาพรรคพปชร.คืนเงินให้ถือเป็นความผิดหรือไม่ พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ การคืนเงินผิดหรือไม่ต้องไปดู เพราะเรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายทางอาญา ซึ่งถ้าพบว่ามีมูลความผิดทางอาญาก็จะมีวิธีดำเนินการหลายวิธีเช่น ส่งพนักงานสอบสวน ส่งอัยการ
เมื่อถามถึงกรณีที่นาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ร้องตรวจสอบนาย
อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. ที่สมัครเป็นสมาชิกหลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.
จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเรื่อง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง คงตรวจสอบไม่ยาก แต่โดยกฎหมายแล้วหากมีชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว ความเป็นสมาชิกจะนับย้อนไปถึงวันที่มายื่นขอยื่นจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
"วีระ สมความคิด" โพสต์หนุนหม่อมอุ๋ยต้านบิ๊กตู่สืบทอดอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287174
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นาย
วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ( คปต.) โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “
วีระ สมความคิด” ระบุว่า
“ผมเห็นว่าหากพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก การปฏิรูปที่เตรียมไว้ก็คงไม่สำเร็จเพราะความไม่กล้าตัดสินใจ เนื่องจากกลัวเสียคะแนนนิยม แม้ว่าจะมีผู้คัดค้านเพียงหยิบมือเดียว ฐานะการคลังของประเทศก็จะเสื่อมลงไปอีกเพราะขาดวินัยที่ดี คนไทยก็คงต้องทนฟังการพูดภาษาไทยที่ขัดหู รวบคำ และแข็งกระด้าง และต้องนั่งเป็นห่วงว่าเยาวชนอาจเลียนแบบตัวอย่างที่ไม่ดี ต้องนั่งใจเต้นว่า นายกรัฐมนตรีจะไปทำให้ประเทศไทยขายหน้าในเวทีโลกอีกหรือไม่
ต้องเป็นห่วงว่าจะมีการผลักดันให้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติซึ่งจะมีผลเสียต่อเศรษฐกิจอีกหรือไม่ และจะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ต้องเป็นห่วงว่าประเทศไทยจะถูกแทรกซึมในธุรกิจการค้าโดยประเทศมหาอำนาจบางประเทศหรือไม่ การให้ประโยชน์แก่กลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดกับพลเอกประยุทธ์ จะมีส่วนสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน และหากรวมเข้ากับความไม่พอใจในการที่ทหารมีอภิสิทธิ์เหนือพลเรือน ก็อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ด้วยเหตุเหล่านี้ ผมจึงไม่ต้องการให้พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเลย
ปล. จากบทความของ ม.ร.ว.
ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผมนาย
วีระ สมความคิด ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก เพราะประเทศชาติ...หายมามากพอแล้ว ท่านใดเห็นด้วยกับผม เราสามารถมาร่วมกันป้องกันคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจได้ครับ”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1924450417652801&id=181257625305431&__xts__%5B0%5D=68.ARCZGh5GQLoGzd1M-dhKIr0Pq6FTR7GknWdac9Bzy3Do4aR5WGkP-ovtSqz8YnAvQybkyZM4zP5niuDN5Dp8eMNNckgGd8of2Stxoy07VQNXluEZDiXVU15QBCdbITtm2bweF7bTEeSgq00de9NcucisX6UEFZ86tQktTw6Uhm1tr9YPl9drJIC_Pw8fSXZAUlCR0jwHn2SE9Vu4bp-EDIpMLgSndzU__dcwPS5s_uSVnpI9FaWaPaNoz43gTtbR6sHS6zm4VHtysq7p1bj0b_9My5rRcXuDaoyx4BXIGCw1Q_j6YYiVJYsfvWrx4H2LsF4NES0vYlBvGqB77P7A&__tn__=H-R
JJNY : 7in1 เฉลิมนำทีมปราศรัยอุดร/ธนาธรทำโพล/กกต.เร่งสอบ/วีระหนุนหม่อมอุ๋ย/ชายแดนหนองคายวูบ/ยอดปลาทูลด/ถนนยางส่อล่ม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1287529
วันที่ 24 ธันวาคม ที่สวนศรีพันธุ์ บ้านหนองโอน หมู่ 9 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอนันต์ ศรีพันธุ์ อดีต ส.ส.อุดรธานี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 2 พรรคเพื่อไทย จัดให้มีการรับสมัครสมาชิกพรรค และรับฟังข้อเสนอแนะจากสมาชิก ต.บ้านขาว ต.นากว้าง ต.หมูม่น อ.เมือง จำนวนมาก โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานณรงค์หาเสียงพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกเสียงปรบมือตลอดเวลา ขณะที่นายขวัญชัย สาระคำ เดินทางมาร่วมงานด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ผลการสำรวจเมื่อเมื่อเช้าวันนี้ พรรคเพื่อไทยมีคะแนน 38.3% พรรคพลังประชารัฐมีเพียง 4.7% บอกได้เลยว่าแค่นี้ก็แพ้แล้ว คุยผลงานปราบปรามยาเสพติด ที่จัดการกับสารตั้งต้น ตัดเส้นทางเข้าประเทศ จับเข่าคุยแหล่งเงิน และป้องกัน-ปราบปรามในประเทศ แต่แปลกใจยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้เขียนเรื่องนี้ รัฐบาลนี้ใช้นโยบายประชารัฐ พรรคเพื่อไทยใช้ประชานิยม ก็เอาออกมาสู้กันดู กับงานที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ 30 บาทรักษาทุกโรค , กองทุนหมู่บ้าน , สินค้าโอทอป หรือ ทุนเรียนต่อต่างประเทศ 1 อำเภอ 1 ทุน ไม่ได้เอาเงินไปซื้ออาวุธ มาเก็บสะสมไว้จนเป็นสนิม เรื่องดำน้ำซื้อมาจะเอาทะเลที่ไหนดำ ถามด้วยว่าจะเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ ไปรบกับใครที่ไหน และนี่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน บ้านเมืองเขาก็สงบสุขหมดแล้ว จะไปชวนเข้ากลับมารบหรืออย่างไร
“เรื่องพฤติกรรมพรรคประชาธิปัตย์ และมูลเหตุของการปฏิวัติ ตั้งแต่การได้มาของตำแหน่งนายก ของนายชวน หลีกภัย ไม่ได้มาจากการชนะเลือกตั้ง ไม่ต่างอะไรกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ , เรื่อง สปก.4-01 ให้คนรวยและพรรคพวก , การสมัครเป็น สสร. เพื่อเป็น 99 อรหันต์ร่าง รธน.40 ของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร แต่ไม่ได้รับเลือก มาถึงการตั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ผ่านการยุบพรรค ผ่านการปฏิวัติ ที่ได้เพราะการชุมนุม แต่เป็นการขนคนไป หาเหตุสร้างเรื่อง พร้อมกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทยด้วย” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวเรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรี ที่ไปก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากตำแหน่งซะวันนี้ เพราะเอาเปรียบคนอื่น มายืนซดหมัดต่อหมัดกัน พวกเหล่านี้ไม่กล้าออกมา เพราะพูดไม่เป็น ตอนอยู่ในสภาฯ ยังไม่กล้าเกาหัว เพราะกลัวประธานเข้าใจผิดคิดว่ายกมือเรียกให้พูด ตนเองชอบเป็นคนปะทะอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง[เผล่ะจัง] เลือกตั้งครั้งที่แล้วอุดรธานี เพื่อไทยได้รับเลือกตั้งยกทีม และเลือกตั้งครั้งนี้อุดรธานีก็จะยกทีม
จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการออกปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เห็นพี่น้องประชานมีความสนใจ ตั้งแต่ไปจอดรถที่โรงแรม และไปที่ตลาด เขาก็ทักทาย ตนก็บอกว่าให้ช่วยพรรคเพื่อไทยด้วย ประชาชนเขาก็บอกว่า ไมต้องบอกเขาก็ช่วยอยู่แล้ว รอฟังเฉลิมมาหลายปี เพราะเห็นว่าเงียบไป ตนบอกว่า ตอนนั้นมีคำสั่ง คสช.หากไปคุยกับใครเกิน 5 คน เขาจับตนแน่ และก็รอจับตนอยู่ แต่ตนเป็นนักกฎหมาย ก็ไม่ให้พลาด จะจับตนได้ไม่มีทาง ตนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองเลย แค่พอมาปราศรัยวันนี้ รู้สึกอบอุ่น พี่น้องมาฟังการเมืองแล้วเข้าใจ เสียงปรบมือมันเป็นตัวบ่งบอกว่า พรรคเพื่อไทย โดยนายอนันต์ฯ จะได้กลับสู่สภาแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเขตเลือกตั้งที่ 2 อุดรธานี ประกอบด้วย อ.เพ็ญ ยกเว้น ต.นาทราย , อ.เมือง เฉพาะ ต.บ้านขาว , ต.นาข่า , ต.นากว้าง , ต.กุดสระ , ต.หนองบัว , ต.สามพร้าว , ต.หมูม่น และ ทต.นาข่า จะเป็นเขตการต่อสู้เข้มข้นของ 3 ผู้สมัคร คือ นายอนันต์ฯ เจ้าของพื้นที่เดิม , นพ.วิชัย ชัยจิตวนิชกุล อดีต ส.ส.พื้นที่หลายสมัย แต่เว้นวรรคทางการเมืองเหตุยุบพรรค และกลับมารับราชการเป็น ผอ.รพ.เพ็ญ ลงสมัครพรรคพลังประชารัฐ และนายหรั่ง ธุระพล นายก อบต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา แพ้นายอนันต์เฉียดฉิว ลงสมัครพรรคภูมิใจไทย ทำให้วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องลงพื้นที่ 2 จุด และวันที่ 26 ธันวาคมนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จะลงพื้นที่ตลาดผ้าบ้านนาข่า เพื่อรักษาเก้าอี้ในเขตนี้ไว้
"ธนาธร" ทำโพล "เลิกเกณฑ์ทหาร-ลดนายพล"หรือไม่ ชาวเน็ตแห่หนุนท่วม
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287656
เพจ “ธนาธร” ทำโพล “เลิกเกณฑ์ทหาร-ลดนายพล” ชาวเน็ตแห่หนุนท่วม 95 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์ตั้งโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“คุณเลือกได้ พรรคอนาคตใหม่ เสนอนโยบาย ‘ปฏิรูปกองทัพ’ ให้เป็นกองทัพสมัยใหม่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ใช้วิธีสมัคร ยกเว้นเวลาเกิดศึกสงคราม, ปรับลดกำลังพลประจำการลงครึ่งหนึ่ง ให้เหลือเพียง 1.7 แสนนาย, ลดจำนวนนายพลจากปัจจุบัน 1,600 คน ให้เหลือเพียง 400 คน”
โดยล่าสุดมีผู้มาร่วมลงคะแนนแล้ว 2.61 หมื่นคน
เห็นด้วย ยกเลิกเกณฑ์ทหารร้อยละ 95
ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 5
มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี กดไลค์ 4.5 พันคน แสดงความคิดเห็น 260 คอมเม้นท์ และ 1,444 แชร์ ภายในระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมง โดยจะปิดโหวตภายอีก 6 วันข้างหน้า
งานเข้า! กกต.สั่งสนง. เร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287021
กกต. สั่งสนง. เร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน คาดรู้ผล 30-60 วัน แนะติดตามตั้งแต่ต้น หวั่นช้าจะถูกหยิบประเด็นทางการเมือง ปัดตอบคุณสมบัติหน.พรรค “อุตตม” อ้างยังไม่เห็นเรื่อง
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 24 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.กล่าวถึงกรณีคลิปที่มีการเผยแพร่อ้างว่ามีการแจกบัตรคนจนแต่โดนบังคับให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เหตุเกิดในพื้นที่จ.ยโสธรนั้น ว่า ถ้ามีเหตุอะไรต่างๆทั้งที่เกิดขึ้นก่อนการคลายล็อกเราก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ กรณีมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ให้ด้านสืบสวนสอบสวนแจ้งไปยังหน่วยข่าวทางจังหวัดเพื่อตรวจสอบซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 30-60 วันในการสรุปข้อเท็จจริง ก็จะทราบว่าเป็นความผิดตามข้อกฎหมายใด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาทางสำนักงานได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อที่ประชุมกกต.รวมถึงกรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพปชร. หรือกรณีคลิปดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้ซักถามถึงขั้นตอนการทำงาน และให้แนวปฏิบัติว่าในกรณีที่จะมีการจัดงานหรือมีการกระทำที่เสียงอาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย หากสำนักงานฯ ทราบล่วงหน้าก็ควรที่จะเข้าไปติดตามตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าพอเป็นข่าวก็เข้าไปแก้ไขให้ข่าวล่าช้าหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง และถ้าหากกรณีที่สำนักงานเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายแล้วก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีมูลก็ต้องเสนอให้กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ก็จะเริ่มจากการนำเสนอข่าวของสื่อ โดยครั้งที่แล้วได้มีการเชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล เป็นการค่อยๆก้าวเข้าไปของเจ้าพนักงานว่าได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เพื่อให้สามารถดำเนินการสืบสวนต่อไปได้ อย่างเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนที่มีการนำเสนอรูปผังที่นั่งในงาน เราก็ต้องเชิญสื่อที่นำเสนอข้อมูลดังกล่าวมาให้ข้อมูลว่าผังดังกล่าวได้มาจากไหน ได้มาจากใคร
เมื่อถามว่า หากพบว่าข้าราชการมีการบริจาคแล้วต่อมาพรรคพปชร.คืนเงินให้ถือเป็นความผิดหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ การคืนเงินผิดหรือไม่ต้องไปดู เพราะเรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายทางอาญา ซึ่งถ้าพบว่ามีมูลความผิดทางอาญาก็จะมีวิธีดำเนินการหลายวิธีเช่น ส่งพนักงานสอบสวน ส่งอัยการ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ร้องตรวจสอบนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร. ที่สมัครเป็นสมาชิกหลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเรื่อง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง คงตรวจสอบไม่ยาก แต่โดยกฎหมายแล้วหากมีชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว ความเป็นสมาชิกจะนับย้อนไปถึงวันที่มายื่นขอยื่นจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
"วีระ สมความคิด" โพสต์หนุนหม่อมอุ๋ยต้านบิ๊กตู่สืบทอดอำนาจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1287174
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ( คปต.) โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “วีระ สมความคิด” ระบุว่า
“ผมเห็นว่าหากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก การปฏิรูปที่เตรียมไว้ก็คงไม่สำเร็จเพราะความไม่กล้าตัดสินใจ เนื่องจากกลัวเสียคะแนนนิยม แม้ว่าจะมีผู้คัดค้านเพียงหยิบมือเดียว ฐานะการคลังของประเทศก็จะเสื่อมลงไปอีกเพราะขาดวินัยที่ดี คนไทยก็คงต้องทนฟังการพูดภาษาไทยที่ขัดหู รวบคำ และแข็งกระด้าง และต้องนั่งเป็นห่วงว่าเยาวชนอาจเลียนแบบตัวอย่างที่ไม่ดี ต้องนั่งใจเต้นว่า นายกรัฐมนตรีจะไปทำให้ประเทศไทยขายหน้าในเวทีโลกอีกหรือไม่
ต้องเป็นห่วงว่าจะมีการผลักดันให้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติซึ่งจะมีผลเสียต่อเศรษฐกิจอีกหรือไม่ และจะหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ต้องเป็นห่วงว่าประเทศไทยจะถูกแทรกซึมในธุรกิจการค้าโดยประเทศมหาอำนาจบางประเทศหรือไม่ การให้ประโยชน์แก่กลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดกับพลเอกประยุทธ์ จะมีส่วนสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน และหากรวมเข้ากับความไม่พอใจในการที่ทหารมีอภิสิทธิ์เหนือพลเรือน ก็อาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ด้วยเหตุเหล่านี้ ผมจึงไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเลย
ปล. จากบทความของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผมนายวีระ สมความคิด ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ต้องการให้พลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก เพราะประเทศชาติ...หายมามากพอแล้ว ท่านใดเห็นด้วยกับผม เราสามารถมาร่วมกันป้องกันคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจได้ครับ”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้