กระบองเพชรสวมวิญญาณ
ถึงบ้าน
"กลับมาแล้วค่ะ"
ฉันชื่อ น้ำแข็ง เป็นสาวโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนชื่อดังในเรื่องค่าเทอมเป็นแสน ถ้าฉันไม่ตั้งใจเรียนกับที่นี่ ฉันก็เสียดายเงินพ่อแม่น่าดู อ๋อ อยากบอก ไม่ใช่คนหัวดีนะคะ ก็ต้องพยายามสิคะ
ฉันถอดรองเท้านักเรียนบาจาบริษัทรองเท้าที่โด่งดังไว้ในที่เก็บสองชั้น ชั้นบนมีรองเท้าน้องชาย น้องชายฉันอยู่ระดัประถมหก เขาเดินมาหาฉัน ลงบันไดมาด้วยเสียงฝีเท้าอันนุ่มนิ่ม
"พี่น้ำฮะ กระบองเพชรห้องพี่มันมาอยู่ที่ห้องผมได้ไง"
คำถามนี้ไม่ทันให้ฉันตั้งตัว เรื่องประหลาดเหรอ "พี่ไม่ทราบ พี่ไม่ได้เป็นคนย้ายมันนะ"
"ผมว่ามันน่าจะอยู่ข้างนอกดีกว่านะฮะ ผมจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ"
"อือ จ้ะๆ พี่จะเก็บไว้ริมหน้าต่างห้องพี่"
คุณแม่ทำอาหารเย็นในห้องครัว "น้ำแข็ง ลูกชอบสตูไหม"
"ค่ะ"ฉันตอบรับแบบอัตโนมัติ เพราะอะไร เพราะว่าอาหารที่แม่ทำเปรียบได้กับเชฟดังในฝรั่งเศส หุหุ ชมเกินไป อาหารที่แม่ทำอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหารไทยหรือต่างชาติ เพราะว่าแม่ดูวิธีทำที่ซอง ซะงั้น = =
แล้วอาหารเย็นก็ได้รับประทานจนเกลี้ยง น้องชายฉันทานไข่เจียวอย่างเอร็ดอร่อยหมดเกลี้ยง
"หนูขอขึ้นไปที่ห้องหนูนะคะ" ฉันกล่าวกับแม่
"จ้ะอย่าลืมทำการบ้านล่ะจ๊ะ"แม่เตือนหน้าที่ที่นักศึกษาต้องรู้
พอฉันก้าวขาตรงบันไดก็หยุด เพราะว่าลืมกระบองเพชรที่ปลูกในถ่วยเล็กมันวางไว้ตรงที่เก็บรองเท้า ฉันหยิบมันอย่างทะนุถนอม"เกือบลืม แหะๆ"
ที่ห้องสี่เหลี่ยมของฉัน เตียง โต๊ะ หน้าต่าง ที่พื้นเป็นสีครีมโซดา(เขียวอย่างหนึ่ง) นี่มันห้องโนบิตะหรือเปล่า? ฉันสงสัย
ฉันวางกระบองเพชรไว้ที่หัวนอน การบ้านขี้เกียจทำ เลยมีเวลามองกระบองเพชร
ฉันจะมองดูมันทุกคืน มันมีรูปร่างกลม หนามแหลมของมันยิ่งดูยิ่งสง่า
"ถ้าฉันเป็นเจ้า ฉันคงสุขสบาย"
ทำไมนะ ชีวิตกระบองเพชรทำให้ฉันอิจฉา
และแล้วคืนนี้ ฉันผลอยหลับไป มีคนมาปลุกฉันให้ตื่น ทำให้ฉันหาวแล้วบ่น
"แม่ มีอะไรคะ อุ๊ย หนูต้องทำการบ้าน"
"แม่ แม่อะไรกัน ฉันเอง" เสียงผู้ชายคนหนึ่ง สวมหมวกสวมเสื้อผ้าคาวบอยตะวันตก
"พี่บาส พี่บาสที่เสียไป ทำไมพี่ปรากฏตัวได้"
"ฉันหรอเสียชีวิต เข้าใจอะไรผิดล่ะ ที่นี่คือ ม้านั่งริมบาร์"
"แต่หนูขอบอกนะ ว่าหนูไม่เคยรักพี่นะ พี่วุ่นวายกับหนูมามากพอแล้ว แล้วที่นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ล่ะ" ฉันสับสนกับสิ่งรอบกาย
"เข้าไปในบาร์กันก่อนไหมน้ำ"พี่บาสบอกเหมือนวางแผน
และฉันก็ไม่เห็นอะไรในบาร์ ในนี้ว่างเปล่า แต่สิ่งที่อยู่ข้างมุมของห้องคือ สภาพศพไร้วิญญาณของชายหนุ่ม
"ไม่จริง พี่เบิ้ล พี่คนนี้ที่เสียไปด้วยอุบัติเหตุไฟฟ้าดูด"
"เธอรักเขา เขาไม่รักเธอ แต่ฉันขอบอกอะไรให้ ไฟดูดอะไร ข่าวลือเท่านั้น ฆาตรกรรมต่างหาก"
"พี่เบิ้ลถูกใครฆ่า"
"พี่เบิ้ลถูกพี่บาสฆ่าเองล่ะ และพี่อยากให้เรื่องราวจบด้วยเราสอง มาสิจ๊ะ"มันวิ่งไล่ฉัน ฉันวิ่งหนีไปนอกบาร์ ไกลออกไป ไกลออกไป
พี่บาสส่งเสียงดังไล่ฉัน"จำไว้ ไม่รักฉัน รักผู้ชายที่มันรักเธอสิ ไอ้เบิ้ลมันเป็นเกย์"
ณ ทะเลทราย
แฮก แฮก
"ทะ ทะเลทรายเหรอ นี่ฉันหลงทาง ที่นี่มัน ร้อน ร้อนจัง หิวน้ำ"
รอบกายเป็นทรายร้อนระอุ ฉันเดินไปเจอกระบองเพชร "น่ารัก ถ้าฉันมีกล้องฉันจะถ่ายรูป แต่ก่อนอื่น ฉันไม่มีอุปกรณ์"
ฉับพลัน "หิวน้ำ"
"ใครพูดกับฉัน หรือว่า..." ใช่แล้ว กระบองเพชรบอกว่าหิวน้ำ
"ตายแล้ว ที่นี่มันไม่มีอะไรเลยนะ ฝนจ๋า ฝนจงตก"ฉันอธิษานไปงั้นๆ แดดส่องกลางหน้าผาก เหงื่อไหล เสื้อผ้าโทรม ถ้าที่นี่มีโอเอซิสอยู่ ฉันจะได้รักษาชีวิตกระบองเพชร
"เธอชอบกระบองเพชรเหรอ"เจ้ากระบองเพชรมีรูปร่างวงรี มันมีแขนสองแขน ไร้ขา มันคงอยู่อย่างนี้มาหลายสัปดาห์ ไม่มีน้ำให้
"จ้ะ ฉันชอบกระบองเพชร"ฉันตอบคำถามให้สิ่งที่ฉันรัก"หลังจากที่พี่เบิ้ลเสียไป ฉันก็มีแต่กระบองเพชรนี่แหละที่ช่วยรับฟังเรื่องราวของฉัน คุณกระบองเพชรคะ หนูอยากทราบคำตอบของพี่เบิ่ลค่ะ เผื่อคุณกระบองเพชรผู้วิเศษจะบอกได้ พี่เบิ้ลชอบใคร"
"ฉันไม่รู้หรอก เพราะฉันไม่ได้สุขสบายยอย่างที่เธอคิด ฉัน หิว กระหายน้ำจนทนไม่ไหวแล้ว "
ภาพตรงหน้าฉัน ปรับเปลี่ยนกระบองเพชรเป็นร่างพี่เบิ้ลล้มนอนคว่ำเหมือนสลบ
"ผะ พี่เบิ้ล พี่เป็นอะไรหรือเปล่า"
"เป็นวิญญาณที่สิงอยู่กับกระบองเพชร ฉะฉะฉัน...."เบิ้ลหมดเรี่ยวแรงพูด พูดอย่างเชื่องช้า
"วิญญาณสิงในกระบองเพชร กะ กระบองเพชร ทำไม ทำไมน่ากลัว"
"น้ำแข็ง ตื่นๆ"อ๊ะ เสียงคุณแม่หนิ "น้ำแข็งโวยวายอะไรคนเดียว ตีสี่ยันตีห้า รู้ไหม แม่นอนไม่ค่อยหลับก็เลยมา"
"แม่ แม่จ๋า หนูกลัวกระบองเพชร"ฉันโผเข้ากอดแม่ ตัวสั่นไปหมด
"พี่สาวครับ พี่เอากระบองเพชรมาไว้ห้องผมอีกแล้วนะครับ"น้องชายฉันที่ตื่นมาก็เจอเรื่องประหลาด
ฉันหันกลับไปดูหัวเตียง กระบองเพชรไม่อยู่ ปริศนานี้ไขไม่ออก "พี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"พี่ครับ แต่นอกจากถ้วยกระบองเพชรแล้ว มีข้อความจากไหนไม่รู้ เป็นกระดาษถูกถ้วยกระบองเพชรทับเอาไว้"
ฉันรับกระดาษนั้นมาอ่าน
"รักนะ สุดหล่อ"
ฉันแทบช็อค ข้อความจากกระบองเพชร ในฝันพี่เบิ้ลบอกว่าสิงอยู่ในกระบองเพชรหนิ ถ้างั้น วิญญาณเบิ้ลมาบอกให้รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริง เขารักน้องชายฉัน เขาเป็นเกย์
===================================
อีกโลกหนึ่งของจู๊ด
"อึ๋ย 1.59"
เสียงหลงเสียงนี้คือเสียงพระเอกอย่างผมนามว่าจู๊ดที่สายตาจ้องมองสมุดพกมัธยม ตั้งแต่ผมเข้าศิลป์คำนวณมาจะมีแต่ตกต่ำและก็ตกต่ำ
"มันไม่ง่ายอย่างที่คิด"
ผมเป็นนักเรียนตกต่ำทั้งเกรดเรียนต้ำ เกรดชีวิตดูจะต่ำตามไปไหนตามๆกัน
เพื่อนผม จูไลน์ กับการเรียน 3.5 ที่เคียงข้างผมเสมอเข้ามา แว่นหนาเตอะของมันยี่ห้อแกงการูก็ดันสะท้อนแสงพระอาทิตย์ นัยน์ตานั้นเยือกเย็นกว่าผู้ใด เขาบอกผมว่า
"ดีแล้ว"
ผมก็ฉุนเลยสิ
"ดีอะไรกัน?"
"เพราะมันไม่ใช่ศูนย์"
เพื่อนผมมันจับไหล่ผม มันยักไหล่ คุณจะเห็นเหมือนผมหรือไม่ มันหัวดีกว่าแล้วไม่ได้อวดเกรดให้ใคร
ผมบอก"เออ ถูกของเอ็งไอ้จูไลน์ แต่เอ็งสอบได้ที่หนึ่งหรอวะ? เฮ้ย เอ็งเรียนยังไง"
จูไลน์ปล่อยไหล่ผม ขยับแว่นหนาๆด้วยมือซ้ายก่อนจะลดระดับลงเอานิ้วชี้มาแตะที่คาง อธิบายมาว่า
"ก็กรูรู้จักชีวิตที่มีอนาคต และชอบสายศิลป์คำนวณดี ลองถามไอ้โอ๊ตศิลป์ฝรั่งเศสสิ กรูไม่เอาภาษาให้ปวดหัว แต่โอ๊ตเรียนภาษาเก่งเว้ย เห็นมันบอกว่าเรียนในทางที่ชอบแล้วจะเกิดความตั้งใจ"
แสดงว่า ถ้าผมไม่เก่งแล้ว ทำไมผมมาเรียน คงเป็นเพราะพื้นฐานมัธยมต้นที่ทำให้ผมตัดสินใจมาเรียนแล้ว
จูไลน์มันหันหลังให้ก่อนกล่าว
"ถ้าเอ็งไม่ชอบคณิตศาสตร์แต่แรก ไม่เอาภาษา คงไม่พ้นศิลป์สังคม"
"โอย ก็ฉันไม่เอาสังคมก็มันต้องท่องจำหนิ"
"คิดอนาคตหรือยัง?"
ผมก้มหน้า ไม่ตอบคำถามนั้น เดินออกห้องเรียนมายังระเบียง นี่คือชั้นที่สองของอาคาร ต้นชมพู่สูงถึงระเบียงชั้นนี้ ผมก็เด็ดออกมาชิม ก่อนจะโยนลงถังขยะสีเหลืองย่างแม่นยำ
"จู๊ด" เสียงของโอ๊ต เพื่อนอีกคนที่เรียนภาษา
"เออโอ๊ต ว่าไงวะ" "เคยคิดอนาคตไหมว่า ตั้งใจจะทำอะไร"
ชายหนุ่มอย่างผมเลือกมาทางนี้ยังไม่ได้คำตอบใดๆในชีวิตตัวเอง นี่โอ๊ตยิงคำถามที่ดูไม่ค่อยแตกต่างจากจูไลน์เลยแฮะ น้ำแข็งแห่งความหวังในจิตใจเหมือนถูกลมเป่าให้ละลายกลายเป็นน้ำเหลว หรือชีวิตนี้มันคว้าน้ำเหลวอยู่แบบนี้
"ขอเอาไปคิดคืนนึงก่อนว่ะ ไอ้โอ๊ต นี่เอ็งเป็นทางภาษาเอ็งคงไปต่างประเทศใช่ไหม"
โอ๊ตเป็นหนุ่มแว่นอีกคนที่เรียนเก่งๆ ในระดับ และไอคิวที่มีสูงกว่าจูไลน์เพื่อนซี้แสบซ่าส์ โอ๊ตไม่ได้ทำตัวซ่าส์เหมือนผมกับจูไลน์ แต่ผมกับจูไลน์ที่คบกันอาจจะมีอนาคตมหาวิทยาลัยที่ต่างออกไป สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน ถึงจะเรียนคนละที่
"เราจะเข้าอักษร จุฬา"
"โห เอ็งทำได้จริงๆนะ"
"ก็คนมันชอบทางนี้"
จูไลน์กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่ในห้องเรียน ผมกับโอ๊ตมองข้างล่าง เด็กชายเด็กหญิงต่างเดินพกหนังสือเล่มหนาต่างๆ มีกระเป๋าหนังสีดำสะพาย
"ดูมีอนาคตทุกคน เก่ง เก่งเหลือเกิน" ผมก้มหน้ากำมือแน่น โอ๊ตมองใบไม้ปลิวสไวไปกับสายลมแห่งฤดูฝน
......
....
คินนั้นผมอยู่ในห้องนอน ชุดนอนที่ใส่เป็นลายทางชมพูอ่อนพื้นขาวอมเทา แฟชันอะไรนี่ไม่ได้เหมือนที่ผมมี ช่างมันเถอะ เสื้อผ้ามันยังไงก็ได้
ผมยังไม่หลับนะครับ นั่งเก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะไม้มะฮอคกานี เก้านี้หนังนุ่มสีแดง มีที่เอนหลัง
"จุฬา...."
ผมเผลอเปล่งคำหนึ่ง คำนี้มาจากโอ๊ต คณะอักษรศาสตร์
"อยากเข้าจุฬาเหมือนกัน"
เมื่อคิด อนาคตต้องกระทำตามจุดหมายของความหวังว่ามันต้องตั้งใจเรียนให้ได้ทุกวัน
ผมส่ายหน้าให้กับความคิดอันลึกซึ้ง
"ไม่ได้หรอก"
1.59 เป็นเกรดขั้นต่ำของคนไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นไปได้ 3.5 ของจูไลน์ยังไม่เหมาะกับจุฬาด้วยซ้ำไป นี่คือเกมส์ในชีวิตจริง
ผมหงายหลังลงเตียงนอน หมอนรับศีรษะอย่างนุ่มนวล ผมมองเพดาน มือขวาขยับไปคว้ารีโมตสีดำที่มันถูกทิ้งบนเตียงแล้วยกไปชี้ข้างหน้า ที่เพดานปรับเปลี่ยนผนังปูนสีครีมให้เป็นกระจกใสสะอาด วิวท้องฟ้ายามค่ำเนี่ย หมู่ดาวเจ็ดดวงเรียงเป็นรูปอะไรที่คล้ายๆการ์ตูนญี่ปุ่นยุคคลาสสิคเรื่องหนึ่ง แนวบู๊
ผมหลับตา จริงๆกะจะนอนแต่การบ้านมีให้ทำ ผมจึงต้องฝืนลุกไปห้องครัว ชงกาแฟดื่มในเวลานี้
"ตัวเลข ...อืมนะ เราจะทำงานอะไรสำหรับสิ่งที่เราตัดสินใจมาแล้ว"
ผมอ่านหนังสือบทที่สี่ของหนังสือคณิตศาสตร์ และก็เริ่มรู้ว่าผมไม่เข้าใจอะไรกับวิชานี้เลย เมื่ออ่านดู เรื่องเซ็ทจัดระเบียบที่ผ่านไปแล้วเข้ามาผสมผสานตรรกศาสตร์ เชื่อมโยงกับฟังค์ชัน กราฟพาราโบลาคว่ำและหงาย
คืนนั้นผมนอนคว่ำสลบไปกับเตียงเหมือนพาราโบลามันสั่งให้ผมคว่ำไม่ต่างกัน
ณ เวลาสี่ทุ่มยี่สิบ เพดานยังคงคาภาพดาวเจ็ดดวงระยิบระยับ เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งผ่านไป แต่จู๊ดไม่ได้สะดุ้งหรือตื่นนอน
ฝนได้ตกลงมาแล้ว
.......
...
วันถัดไปของโรงเรียน
"จูไลน์ จูไลน์"
เสียงโอ๊ตในตอนเช้าที่โรงเรียน
"อ้าวโอ๊ต
" จูไลน์หันขวาไปทัก โอ๊ตที่เรียกชื่อนั้นวิ่งมา ก้มเพราะเหนื่อยแรง
"อะไรโอ๊ต"
"จู๊ดหายไปจากโลกแล้ว"
คำพูดนั้นของโอ๊ตทำให้จูไลน์ชะงักไปหลายวินาที โอ๊ตเงยหน้ามามอง
"นายลองบอกหน่อย มันคืออะไร"
"กรูเป็นเพื่อนมันแต่กรูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อนเอย ทำไมแกหายไปจากชีวิตพวกเรา"
"จูไลน์ เกิดอะไรขึ้นกับจู๊ด"
ในสนามกว้างๆของโรงเรียน เพื่อนๆต่างเข้ามาสมทบพื้นที่จูไลน์ยืนกับโอ๊ตศิลป์ภาษา จูไลน์ยังคงบอกว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องนี้
ครูประจำชั้นของจูไลน์ขึ้นเวทีแล้วกล่าวให้นักศึกษาทุกคนสงบนิ่ง
"นักเรียนจงยืนไว้อาลัย"
ในเวลานั้นจูไลน์ก็หลับตา ไม่เข้าใจวกับเหตุการณ์นี้เลย
จากนั้นแม้กระทั่งทางบ้านก็เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไอ้จู๊ดได้สถานะบุคคลสูญหายตามหลักกฎหมายเอกชน
ที่ไหนสักแห่ง จู๊ดลืมตา ต้องปรับสายตากับภาพตอนตื่น กองฟืนกองไฟข้างๆ
มีผ็หญิงชรา สีผมเป็นสีเงินทั้งหมด จมูกที่ดูแหลมก็มีสภาพเหี่ยว นัยน์ตาสีฟาง
"คุณยายยยยยย ผมฝันว่าผมเป็นนักเรียน"
..............................เบรคแตก
"กระบองเพชรสวมวิญญาณ" "อีกโลกหนึ่งของจู๊ด" (เรื่องสั้นเก่าๆของผู้แต่ง)
ถึงบ้าน
"กลับมาแล้วค่ะ"
ฉันชื่อ น้ำแข็ง เป็นสาวโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนชื่อดังในเรื่องค่าเทอมเป็นแสน ถ้าฉันไม่ตั้งใจเรียนกับที่นี่ ฉันก็เสียดายเงินพ่อแม่น่าดู อ๋อ อยากบอก ไม่ใช่คนหัวดีนะคะ ก็ต้องพยายามสิคะ
ฉันถอดรองเท้านักเรียนบาจาบริษัทรองเท้าที่โด่งดังไว้ในที่เก็บสองชั้น ชั้นบนมีรองเท้าน้องชาย น้องชายฉันอยู่ระดัประถมหก เขาเดินมาหาฉัน ลงบันไดมาด้วยเสียงฝีเท้าอันนุ่มนิ่ม
"พี่น้ำฮะ กระบองเพชรห้องพี่มันมาอยู่ที่ห้องผมได้ไง"
คำถามนี้ไม่ทันให้ฉันตั้งตัว เรื่องประหลาดเหรอ "พี่ไม่ทราบ พี่ไม่ได้เป็นคนย้ายมันนะ"
"ผมว่ามันน่าจะอยู่ข้างนอกดีกว่านะฮะ ผมจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ"
"อือ จ้ะๆ พี่จะเก็บไว้ริมหน้าต่างห้องพี่"
คุณแม่ทำอาหารเย็นในห้องครัว "น้ำแข็ง ลูกชอบสตูไหม"
"ค่ะ"ฉันตอบรับแบบอัตโนมัติ เพราะอะไร เพราะว่าอาหารที่แม่ทำเปรียบได้กับเชฟดังในฝรั่งเศส หุหุ ชมเกินไป อาหารที่แม่ทำอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาหารไทยหรือต่างชาติ เพราะว่าแม่ดูวิธีทำที่ซอง ซะงั้น = =
แล้วอาหารเย็นก็ได้รับประทานจนเกลี้ยง น้องชายฉันทานไข่เจียวอย่างเอร็ดอร่อยหมดเกลี้ยง
"หนูขอขึ้นไปที่ห้องหนูนะคะ" ฉันกล่าวกับแม่
"จ้ะอย่าลืมทำการบ้านล่ะจ๊ะ"แม่เตือนหน้าที่ที่นักศึกษาต้องรู้
พอฉันก้าวขาตรงบันไดก็หยุด เพราะว่าลืมกระบองเพชรที่ปลูกในถ่วยเล็กมันวางไว้ตรงที่เก็บรองเท้า ฉันหยิบมันอย่างทะนุถนอม"เกือบลืม แหะๆ"
ที่ห้องสี่เหลี่ยมของฉัน เตียง โต๊ะ หน้าต่าง ที่พื้นเป็นสีครีมโซดา(เขียวอย่างหนึ่ง) นี่มันห้องโนบิตะหรือเปล่า? ฉันสงสัย
ฉันวางกระบองเพชรไว้ที่หัวนอน การบ้านขี้เกียจทำ เลยมีเวลามองกระบองเพชร
ฉันจะมองดูมันทุกคืน มันมีรูปร่างกลม หนามแหลมของมันยิ่งดูยิ่งสง่า
"ถ้าฉันเป็นเจ้า ฉันคงสุขสบาย"
ทำไมนะ ชีวิตกระบองเพชรทำให้ฉันอิจฉา
และแล้วคืนนี้ ฉันผลอยหลับไป มีคนมาปลุกฉันให้ตื่น ทำให้ฉันหาวแล้วบ่น
"แม่ มีอะไรคะ อุ๊ย หนูต้องทำการบ้าน"
"แม่ แม่อะไรกัน ฉันเอง" เสียงผู้ชายคนหนึ่ง สวมหมวกสวมเสื้อผ้าคาวบอยตะวันตก
"พี่บาส พี่บาสที่เสียไป ทำไมพี่ปรากฏตัวได้"
"ฉันหรอเสียชีวิต เข้าใจอะไรผิดล่ะ ที่นี่คือ ม้านั่งริมบาร์"
"แต่หนูขอบอกนะ ว่าหนูไม่เคยรักพี่นะ พี่วุ่นวายกับหนูมามากพอแล้ว แล้วที่นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่ล่ะ" ฉันสับสนกับสิ่งรอบกาย
"เข้าไปในบาร์กันก่อนไหมน้ำ"พี่บาสบอกเหมือนวางแผน
และฉันก็ไม่เห็นอะไรในบาร์ ในนี้ว่างเปล่า แต่สิ่งที่อยู่ข้างมุมของห้องคือ สภาพศพไร้วิญญาณของชายหนุ่ม
"ไม่จริง พี่เบิ้ล พี่คนนี้ที่เสียไปด้วยอุบัติเหตุไฟฟ้าดูด"
"เธอรักเขา เขาไม่รักเธอ แต่ฉันขอบอกอะไรให้ ไฟดูดอะไร ข่าวลือเท่านั้น ฆาตรกรรมต่างหาก"
"พี่เบิ้ลถูกใครฆ่า"
"พี่เบิ้ลถูกพี่บาสฆ่าเองล่ะ และพี่อยากให้เรื่องราวจบด้วยเราสอง มาสิจ๊ะ"มันวิ่งไล่ฉัน ฉันวิ่งหนีไปนอกบาร์ ไกลออกไป ไกลออกไป
พี่บาสส่งเสียงดังไล่ฉัน"จำไว้ ไม่รักฉัน รักผู้ชายที่มันรักเธอสิ ไอ้เบิ้ลมันเป็นเกย์"
ณ ทะเลทราย
แฮก แฮก
"ทะ ทะเลทรายเหรอ นี่ฉันหลงทาง ที่นี่มัน ร้อน ร้อนจัง หิวน้ำ"
รอบกายเป็นทรายร้อนระอุ ฉันเดินไปเจอกระบองเพชร "น่ารัก ถ้าฉันมีกล้องฉันจะถ่ายรูป แต่ก่อนอื่น ฉันไม่มีอุปกรณ์"
ฉับพลัน "หิวน้ำ"
"ใครพูดกับฉัน หรือว่า..." ใช่แล้ว กระบองเพชรบอกว่าหิวน้ำ
"ตายแล้ว ที่นี่มันไม่มีอะไรเลยนะ ฝนจ๋า ฝนจงตก"ฉันอธิษานไปงั้นๆ แดดส่องกลางหน้าผาก เหงื่อไหล เสื้อผ้าโทรม ถ้าที่นี่มีโอเอซิสอยู่ ฉันจะได้รักษาชีวิตกระบองเพชร
"เธอชอบกระบองเพชรเหรอ"เจ้ากระบองเพชรมีรูปร่างวงรี มันมีแขนสองแขน ไร้ขา มันคงอยู่อย่างนี้มาหลายสัปดาห์ ไม่มีน้ำให้
"จ้ะ ฉันชอบกระบองเพชร"ฉันตอบคำถามให้สิ่งที่ฉันรัก"หลังจากที่พี่เบิ้ลเสียไป ฉันก็มีแต่กระบองเพชรนี่แหละที่ช่วยรับฟังเรื่องราวของฉัน คุณกระบองเพชรคะ หนูอยากทราบคำตอบของพี่เบิ่ลค่ะ เผื่อคุณกระบองเพชรผู้วิเศษจะบอกได้ พี่เบิ้ลชอบใคร"
"ฉันไม่รู้หรอก เพราะฉันไม่ได้สุขสบายยอย่างที่เธอคิด ฉัน หิว กระหายน้ำจนทนไม่ไหวแล้ว "
ภาพตรงหน้าฉัน ปรับเปลี่ยนกระบองเพชรเป็นร่างพี่เบิ้ลล้มนอนคว่ำเหมือนสลบ
"ผะ พี่เบิ้ล พี่เป็นอะไรหรือเปล่า"
"เป็นวิญญาณที่สิงอยู่กับกระบองเพชร ฉะฉะฉัน...."เบิ้ลหมดเรี่ยวแรงพูด พูดอย่างเชื่องช้า
"วิญญาณสิงในกระบองเพชร กะ กระบองเพชร ทำไม ทำไมน่ากลัว"
"น้ำแข็ง ตื่นๆ"อ๊ะ เสียงคุณแม่หนิ "น้ำแข็งโวยวายอะไรคนเดียว ตีสี่ยันตีห้า รู้ไหม แม่นอนไม่ค่อยหลับก็เลยมา"
"แม่ แม่จ๋า หนูกลัวกระบองเพชร"ฉันโผเข้ากอดแม่ ตัวสั่นไปหมด
"พี่สาวครับ พี่เอากระบองเพชรมาไว้ห้องผมอีกแล้วนะครับ"น้องชายฉันที่ตื่นมาก็เจอเรื่องประหลาด
ฉันหันกลับไปดูหัวเตียง กระบองเพชรไม่อยู่ ปริศนานี้ไขไม่ออก "พี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"พี่ครับ แต่นอกจากถ้วยกระบองเพชรแล้ว มีข้อความจากไหนไม่รู้ เป็นกระดาษถูกถ้วยกระบองเพชรทับเอาไว้"
ฉันรับกระดาษนั้นมาอ่าน
"รักนะ สุดหล่อ"
ฉันแทบช็อค ข้อความจากกระบองเพชร ในฝันพี่เบิ้ลบอกว่าสิงอยู่ในกระบองเพชรหนิ ถ้างั้น วิญญาณเบิ้ลมาบอกให้รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริง เขารักน้องชายฉัน เขาเป็นเกย์
===================================
อีกโลกหนึ่งของจู๊ด
"อึ๋ย 1.59"
เสียงหลงเสียงนี้คือเสียงพระเอกอย่างผมนามว่าจู๊ดที่สายตาจ้องมองสมุดพกมัธยม ตั้งแต่ผมเข้าศิลป์คำนวณมาจะมีแต่ตกต่ำและก็ตกต่ำ
"มันไม่ง่ายอย่างที่คิด"
ผมเป็นนักเรียนตกต่ำทั้งเกรดเรียนต้ำ เกรดชีวิตดูจะต่ำตามไปไหนตามๆกัน
เพื่อนผม จูไลน์ กับการเรียน 3.5 ที่เคียงข้างผมเสมอเข้ามา แว่นหนาเตอะของมันยี่ห้อแกงการูก็ดันสะท้อนแสงพระอาทิตย์ นัยน์ตานั้นเยือกเย็นกว่าผู้ใด เขาบอกผมว่า
"ดีแล้ว"
ผมก็ฉุนเลยสิ
"ดีอะไรกัน?"
"เพราะมันไม่ใช่ศูนย์"
เพื่อนผมมันจับไหล่ผม มันยักไหล่ คุณจะเห็นเหมือนผมหรือไม่ มันหัวดีกว่าแล้วไม่ได้อวดเกรดให้ใคร
ผมบอก"เออ ถูกของเอ็งไอ้จูไลน์ แต่เอ็งสอบได้ที่หนึ่งหรอวะ? เฮ้ย เอ็งเรียนยังไง"
จูไลน์ปล่อยไหล่ผม ขยับแว่นหนาๆด้วยมือซ้ายก่อนจะลดระดับลงเอานิ้วชี้มาแตะที่คาง อธิบายมาว่า
"ก็กรูรู้จักชีวิตที่มีอนาคต และชอบสายศิลป์คำนวณดี ลองถามไอ้โอ๊ตศิลป์ฝรั่งเศสสิ กรูไม่เอาภาษาให้ปวดหัว แต่โอ๊ตเรียนภาษาเก่งเว้ย เห็นมันบอกว่าเรียนในทางที่ชอบแล้วจะเกิดความตั้งใจ"
แสดงว่า ถ้าผมไม่เก่งแล้ว ทำไมผมมาเรียน คงเป็นเพราะพื้นฐานมัธยมต้นที่ทำให้ผมตัดสินใจมาเรียนแล้ว
จูไลน์มันหันหลังให้ก่อนกล่าว
"ถ้าเอ็งไม่ชอบคณิตศาสตร์แต่แรก ไม่เอาภาษา คงไม่พ้นศิลป์สังคม"
"โอย ก็ฉันไม่เอาสังคมก็มันต้องท่องจำหนิ"
"คิดอนาคตหรือยัง?"
ผมก้มหน้า ไม่ตอบคำถามนั้น เดินออกห้องเรียนมายังระเบียง นี่คือชั้นที่สองของอาคาร ต้นชมพู่สูงถึงระเบียงชั้นนี้ ผมก็เด็ดออกมาชิม ก่อนจะโยนลงถังขยะสีเหลืองย่างแม่นยำ
"จู๊ด" เสียงของโอ๊ต เพื่อนอีกคนที่เรียนภาษา
"เออโอ๊ต ว่าไงวะ" "เคยคิดอนาคตไหมว่า ตั้งใจจะทำอะไร"
ชายหนุ่มอย่างผมเลือกมาทางนี้ยังไม่ได้คำตอบใดๆในชีวิตตัวเอง นี่โอ๊ตยิงคำถามที่ดูไม่ค่อยแตกต่างจากจูไลน์เลยแฮะ น้ำแข็งแห่งความหวังในจิตใจเหมือนถูกลมเป่าให้ละลายกลายเป็นน้ำเหลว หรือชีวิตนี้มันคว้าน้ำเหลวอยู่แบบนี้
"ขอเอาไปคิดคืนนึงก่อนว่ะ ไอ้โอ๊ต นี่เอ็งเป็นทางภาษาเอ็งคงไปต่างประเทศใช่ไหม"
โอ๊ตเป็นหนุ่มแว่นอีกคนที่เรียนเก่งๆ ในระดับ และไอคิวที่มีสูงกว่าจูไลน์เพื่อนซี้แสบซ่าส์ โอ๊ตไม่ได้ทำตัวซ่าส์เหมือนผมกับจูไลน์ แต่ผมกับจูไลน์ที่คบกันอาจจะมีอนาคตมหาวิทยาลัยที่ต่างออกไป สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน ถึงจะเรียนคนละที่
"เราจะเข้าอักษร จุฬา"
"โห เอ็งทำได้จริงๆนะ"
"ก็คนมันชอบทางนี้"
จูไลน์กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่ในห้องเรียน ผมกับโอ๊ตมองข้างล่าง เด็กชายเด็กหญิงต่างเดินพกหนังสือเล่มหนาต่างๆ มีกระเป๋าหนังสีดำสะพาย
"ดูมีอนาคตทุกคน เก่ง เก่งเหลือเกิน" ผมก้มหน้ากำมือแน่น โอ๊ตมองใบไม้ปลิวสไวไปกับสายลมแห่งฤดูฝน
......
....
คินนั้นผมอยู่ในห้องนอน ชุดนอนที่ใส่เป็นลายทางชมพูอ่อนพื้นขาวอมเทา แฟชันอะไรนี่ไม่ได้เหมือนที่ผมมี ช่างมันเถอะ เสื้อผ้ามันยังไงก็ได้
ผมยังไม่หลับนะครับ นั่งเก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะไม้มะฮอคกานี เก้านี้หนังนุ่มสีแดง มีที่เอนหลัง
"จุฬา...."
ผมเผลอเปล่งคำหนึ่ง คำนี้มาจากโอ๊ต คณะอักษรศาสตร์
"อยากเข้าจุฬาเหมือนกัน"
เมื่อคิด อนาคตต้องกระทำตามจุดหมายของความหวังว่ามันต้องตั้งใจเรียนให้ได้ทุกวัน
ผมส่ายหน้าให้กับความคิดอันลึกซึ้ง
"ไม่ได้หรอก"
1.59 เป็นเกรดขั้นต่ำของคนไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นไปได้ 3.5 ของจูไลน์ยังไม่เหมาะกับจุฬาด้วยซ้ำไป นี่คือเกมส์ในชีวิตจริง
ผมหงายหลังลงเตียงนอน หมอนรับศีรษะอย่างนุ่มนวล ผมมองเพดาน มือขวาขยับไปคว้ารีโมตสีดำที่มันถูกทิ้งบนเตียงแล้วยกไปชี้ข้างหน้า ที่เพดานปรับเปลี่ยนผนังปูนสีครีมให้เป็นกระจกใสสะอาด วิวท้องฟ้ายามค่ำเนี่ย หมู่ดาวเจ็ดดวงเรียงเป็นรูปอะไรที่คล้ายๆการ์ตูนญี่ปุ่นยุคคลาสสิคเรื่องหนึ่ง แนวบู๊
ผมหลับตา จริงๆกะจะนอนแต่การบ้านมีให้ทำ ผมจึงต้องฝืนลุกไปห้องครัว ชงกาแฟดื่มในเวลานี้
"ตัวเลข ...อืมนะ เราจะทำงานอะไรสำหรับสิ่งที่เราตัดสินใจมาแล้ว"
ผมอ่านหนังสือบทที่สี่ของหนังสือคณิตศาสตร์ และก็เริ่มรู้ว่าผมไม่เข้าใจอะไรกับวิชานี้เลย เมื่ออ่านดู เรื่องเซ็ทจัดระเบียบที่ผ่านไปแล้วเข้ามาผสมผสานตรรกศาสตร์ เชื่อมโยงกับฟังค์ชัน กราฟพาราโบลาคว่ำและหงาย
คืนนั้นผมนอนคว่ำสลบไปกับเตียงเหมือนพาราโบลามันสั่งให้ผมคว่ำไม่ต่างกัน
ณ เวลาสี่ทุ่มยี่สิบ เพดานยังคงคาภาพดาวเจ็ดดวงระยิบระยับ เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งผ่านไป แต่จู๊ดไม่ได้สะดุ้งหรือตื่นนอน
ฝนได้ตกลงมาแล้ว
.......
...
วันถัดไปของโรงเรียน
"จูไลน์ จูไลน์"
เสียงโอ๊ตในตอนเช้าที่โรงเรียน
"อ้าวโอ๊ต
" จูไลน์หันขวาไปทัก โอ๊ตที่เรียกชื่อนั้นวิ่งมา ก้มเพราะเหนื่อยแรง
"อะไรโอ๊ต"
"จู๊ดหายไปจากโลกแล้ว"
คำพูดนั้นของโอ๊ตทำให้จูไลน์ชะงักไปหลายวินาที โอ๊ตเงยหน้ามามอง
"นายลองบอกหน่อย มันคืออะไร"
"กรูเป็นเพื่อนมันแต่กรูก็ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อนเอย ทำไมแกหายไปจากชีวิตพวกเรา"
"จูไลน์ เกิดอะไรขึ้นกับจู๊ด"
ในสนามกว้างๆของโรงเรียน เพื่อนๆต่างเข้ามาสมทบพื้นที่จูไลน์ยืนกับโอ๊ตศิลป์ภาษา จูไลน์ยังคงบอกว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องนี้
ครูประจำชั้นของจูไลน์ขึ้นเวทีแล้วกล่าวให้นักศึกษาทุกคนสงบนิ่ง
"นักเรียนจงยืนไว้อาลัย"
ในเวลานั้นจูไลน์ก็หลับตา ไม่เข้าใจวกับเหตุการณ์นี้เลย
จากนั้นแม้กระทั่งทางบ้านก็เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไอ้จู๊ดได้สถานะบุคคลสูญหายตามหลักกฎหมายเอกชน
ที่ไหนสักแห่ง จู๊ดลืมตา ต้องปรับสายตากับภาพตอนตื่น กองฟืนกองไฟข้างๆ
มีผ็หญิงชรา สีผมเป็นสีเงินทั้งหมด จมูกที่ดูแหลมก็มีสภาพเหี่ยว นัยน์ตาสีฟาง
"คุณยายยยยยย ผมฝันว่าผมเป็นนักเรียน"
..............................เบรคแตก