" ยะเนิบทริป " ทริปเรื่อยๆ ทริปเอื่อยๆ เรื่อยไปชลบรี ^_^

พาพันได้อั่งเปาพลุสวัสดีคร้า วันนี้นังงูพิษมีเรื่องเล่า เรื่องราวท่องเที่ยวมาแบ่งปันกันอีกแล้วคร้าาา เริ่มเล้ยยยย เม่าออกรถ
เนื่องจากหลายเดือนที่ผ่านมาเราและเพื่อนทำงานกันค่อนข้างหนักหน่วง ก็เลยพาลอยากพักผ่อน แต่ด้วยความล้า ก็เลยคิดกันว่าเอาแบบสบายๆ ไม่เร่งรีบ กินๆ นอนๆ พอนะ ขอไม่ ป่า เขา ลำเนา ไพร สุดท้ายก็มาจบที่ชลบุรี
เรานัดเจอกันที่แมคโครกิ่งแก้ว ด้วยความจริงที่ว่าเราไม่ได้คิดกันเลยว่าจะไปส่วนไหนของชลบุรี รู้แต่ว่าได้จองที่พักไว้แล้ว แม้แต่แผนที่ที่จะไปที่พักเราก็ไม่ได้ดู มันก็เลยเกิดภาพตามด้านล่าง ซึ่งก็คือจิ้มๆ กดๆ หาเลยจร้า ว่าจะไปส่วนไหน ไปยังงัย สุดยอดไปเล้ยย สุดท้ายเราก็หาได้สัก 2-3 ที่ ที่คาดว่าจะแวะ แล้วจะรออัลไลล่ะค่ะ ไปค่ะ
ที่แรกตามรอยรีวิวค่ะ เดือนตำถาด 24 ชั่วโมง เป็นร้านส้มตำยำลาบ ดูจากรีวิวบรรยากาศดี ก็เลยตกลงกันว่าจะไปลองค่ะ คือเราไปถึงกันค่อนข้างเช้าประมาณ 10 โมงกว่าๆ เราก็คุยกันว่ามาเช้าขนาดนี้ เราจะกินส้มตำกันเหรอ พอขับรถเข้าไปที่ไหนได้ รถจอดกันแน่นเลยค่ะ สรุปคือส้มตำเขาก็กินตอนเช้าด้วยนะเออ เราหาที่นั่ง ใจอยากได้เป็นศาลาใบจากริมน้ำที่มีชื่อเป็นจังหวัดๆ ต่างๆ แต่เต็มหมดค่ะ เราเลยได้โซนกรุงเทพ ก็นั่งสบาย ลมเย็น จนอยากจะหลับค่ะ
ก็สั่งอาหารมากินกันนิดหน่อยค่ะ เน้นถ่ายรูปมากกว่า อาหารสำหรับเราก็ธรรมดาค่ะ แต่ที่ได้ใจคือวิวเค้าดีจริงๆ
หลังจากเสร็จสรรพกับการกินแล้ว เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่พักค่ะ แต่ก็คิดว่า กินคาว ไม่กินหวาน มันไม่ด๊ายยยย ก็เลย จิ้มๆ กดๆ จนได้ที่นี่ค่ะ A' la Campagne Pattaya ส่วนที่เป็นโซนเบเกอรี่ Tea Factory เป็นร้านน่ารักๆ ที่นี่ครบวงจรทั้งอาหาร เครื่องดืม บรรยากาศฟาร์ม แต่เราไม่ชมฟาร์มค่ะ ไปดื่มกาแฟ กับ เบเกอรี่เบาๆ พอล้างปากค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อ คราวนี้ตั้งใจว่าจะไปที่พักเลย เพราะอยากนั่งสบายๆแล้ว ที่พักเราเลือก "The Boathouse" บางเสร่ เป็นสไตล์โฮมสเตย์ ซึ่งเราก็แอบหวั่นใจ เพราะตอนจองน้องร่วมทริปบอกว่าไม่มีที่จอดรถในโฮมสเตย์ แต่จะมีที่ที่สามารถจอดรถได้ และ เดินแค่ 200 เมตรก็จะถึงที่พักอมยิ้ม13ตรงนี้ประทับใจมากเพราะเจ้าของโฮมสเตย์บอกตั้งแต่แรกที่จองเลยค่ะอมยิ้ม13 ทีนี้เราก็ทำใจละว่าได้จอดริมถนนแน่ๆ ก็นะจองแล้วนี่ ก็ต้องไปต่อ ผลปรากฏว่าเค้าให้จอดรถในบริเวณบ้านของเค้าค่ะ คือดี และ โล่งใจมาก ฮ่าๆๆ ด่านแรกสำหรับเราผ่านละ ขั้นต่อไปคือขนของแล้วก็เดินๆ
เพี้ยนลาเวนเดอร์ ถึงแล้วคร้าาาาา ประโยคแรกที่พวกเราพึมพำเบาๆ คือดี คือดี และ คือดีคะ
" The Boathouse " บางเสร่ ที่พักแนวโฮมสเตย์เก๋ๆ ที่มีห้องพักยื่นไปในทะเล มีมุมให้ถ่ายรูปพอสมควร
พอไปถึงเราก็ไม่ทำอะไรค่ะ ถ่ายรูปห้อง กับรอบๆที่พักเล็กน้อยๆ ห้องพักที่นี่ถูกซอยจากบ้าน 1 หลัง ซึ่งมีไม่มากนะคะ แนะนำว่าจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนค่ะ มีห้อง 2 แบบ คือมีแอร์ แต่ไม่มีห้องน้ำต้องใช้ห้องน้ำรวม กับห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัวซึ่งจะมี 2 ห้องคือห้องสำหรับ 2-3 คน กับห้อง 4-5 คนค่ะ เราเลือก 2-3 คน มีอ่างอาบน้ำฟินๆ ให้นอนแช่น้ำชมวิววทะเลด้วยค่ะ
ภายนอก และ ในบริเวณบ้านที่เป็นส่วนกลางเค้าจัดได้น่ารักมากๆ ค่ะ มีจักรยานไว้รอบริการให้ปั่นด้วยนะเออ
เราก็นั่งเล่น นอนเล่น ถ่ายรูปกันนิดหน่อย รอเวลาอาหารเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตกล้าวววว
ที่นี่สามารถจองโต๊ะ และ สั่งอาหารพร้อมระบุเวลาที่เราจะทานได้ด้วยนะคะ เราเลือกเวลาที่ประมาณ 6 โมงค่ะ อาหารมาล้าววว ดีใจเหมือนได้แก้ว ฮ่าๆๆ คือ อาหารที่นี่ อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างค่ะ โดยเฉพาะส้มตำหลวงพระบาง ฟินสุดๆไปเลย
ที่ไม่มีอาหารทะเลแบบเต็มรูปแบบนะคะ ถ้าอยากทานก็สามารถสั่งได้ เค้าจะไปซื้อมาให้ มีน้ำเปล่าขวดเล็กๆ บริการฟรีทุกขวดค่ะ สำหรับมนุษย์รักน้ำเปล่าแบบเราฟินเลยค่ะ ก็มีนั่งกินลมชมวิวกันนิดหน่อย ก็นอนค่ะ แขกที่มาพักทุกคนรักษามารยาทการอยู่ร่วมกันดีมากพอเริ่มมืดๆ ก็เงียบแล้วค่ะ เราเองหัวถึงหมอนก็วิญญาณหลุดล่องไปเลยยยย
flower เช้าแล้วววววว เรากับเพื่อนๆ ก็รีบตื่นค่ะ เพราะตั้งใจจะไปเป็นโยคีสวัสดีพระอาทิตย์ตอนเช้าค่ะ ก็พากันตื่นมาออกกำลังกายเบาๆ รับแสงแดด
เพี้ยนชนแก้ว ได้เวลาอาหารเช้าแล้วค่ะ อ้ออ !! ลืมบอกไปว่าที่นี่อาหารเช้าจะมี 2 แบบให้เลือกนะคะคือไข่กะทะ กับ ไข่ดาวไส้กรอก ส่วนเครื่องเคียงจะเหมือนกัน ซึ่งก็เลือกไว้ก่อนเลยก็ได้ค่ะ เค้าจะเตรียมไว้ให้ตามรายการ และ เวลาที่เราจะทาน
อิ่มหนำสำราญแล้วเราก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดเตรียมกลับบ้านละคะ หมดเวลานั่งๆ นอนๆ แล้วเนอะ ที่นีมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมากค่ะ สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปน่าจะถูกใจ
เราเก็บตกบรรยากาศอีกนิดหน่อย ก็ถึงเวลาอันสมควรต้องเดินทางกลับค่ะ สำหรับทริปนี้เราประทับใจมากๆ กับที่พักค่ะ เจ้าของที่พัก และ น้องๆพนักงานบริการดีมาก อาหารอร่อย และ ถูกปากมากๆ ให้ความรู้สึกละเอียดอ่อน และ ใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละเมนุ สำหรับเรามันดีมากๆ บรรยากาศที่พักให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ ค่ะ นั่งๆ นอนๆ เราตัดสินใจในทันทีว่าจะไปอีกตอนปีใหม่ก็เลยถามทางน้องพนักงานไป กะว่าถ้าว่างจะจองเลย ปรากฏว่าเต็มค่ะ เอาเป็นว่าที่นี่มีซ้ำแน่นอน
พลุ สำหรับค่าใช้จ่ายในครั้งนี้
พาพันได้อั่งเปา เพี้ยนปูเสื่อ ค่าห้อง 1800 + เสริมเตียง 500
                                             การเดินทางระยะทางไปกลับ 327 กม อัตราการกินน้ำมัน 16 กม/ ลิตร เติมน้ำมันไป 500 บาท
                                             ค่าทางพิเศษ 115 บาท
                                             ค่าส้มตำที่เดือนส้มตำถาดและเครื่องดื่ม 460
                                             ค่ากาแฟและขนมที่ Tea Factory, A' la Campagne Pattaya 572
                                             อาหารเช้า + เย็นที่ The Boathouse   2460 อันนี้รวมทุกอย่างแล้วนะคะ
                                             ค่ากินอื่นๆ อีกจิปาถะ 987
                                             รวม 7290 คิดต่อหัว 7290/3 = 2430

เพี้ยนแช๊ะ สำหรับภาพความประทับใจในทริปนี้ ต้องขอบคุณเพื่อนคู่ใจนังงูพิษ SonyNex 6, GoproHero 6, Iphone 6+
นานาซื้อของ กับค่าใช้จ่าย เราก็ถึอว่ารับได้นะคะ แลกกับการพักผ่อนหย่อนใจในแบบที่เราต้องการ สุดท้ายขอปิดการแบ่งปันทริปท่องเที่ยวของนังงูพิษไปในวันนี้ ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาดู ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี่ นะคะ นมัสเต

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่