เคยได้ยกกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/38339474 ว่าไทยเราเป็นเจ้าภาพสาธยายฯ ใจก็นึกว่าเขาสาธยายนี่ คืออะไร เขาทำอะไรกัน ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ใจก็นึกอยากไปอีกเพราะเคยอธิษฐานไว้
ครั้งแรก ที่เดินทางไปสักการะสังเวชนียสถาน 4 เมื่อ 5-14 พย. 61 ขึ้นเครื่อง Airbus A320 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ(ไกลแท้ ) 18.10 น. ไปลงสนามบินลักเนา นิวยอร์คของอินเดีย ราวๆ 21.00 น. (ทริปนี้ขอผ่านไปก่อนครับ ถ้ามีเวลาจะมาเล่าประสบการณ์ในครั้งถัดไป)
ครั้งนั้น ที่ได้ไปนั่งปฏิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็ได้อธิษฐานย้ำๆหลายครั้งว่า ด้วยบุญที่กระทำมาดีแล้ว ก็ขอให้ได้กลับมานั่งปฏิบัติธรรมยาวๆ สักครั้งนึงในชีวิต แล้วก็สมหวังดังใจ อะไรจะเร็วปานนั้น เมื่อเจ้าของบริษัททัวร์ที่ใจดีใจกุศล มอบตั๋วเครื่องบิน AirAsia พร้อมที่พัก 8 วัน 7 คืน ให้ไปร่วมงานได้ทุกวัน แล้วก็ร่วมกิจกรรมกับเขาทีนี้หละจะได้รู้กันว่า คำว่า"สาธยาย" นี่ คืออะไรกัน ตามมากันครับ
ครั้งที่ 2 เมื่อ 9-16 ธค. 61 ขึ้นเครื่อง Airbus A320 จากดอนเมือง 08.45 น. ถึง 10.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไปกับสายการบินที่เพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ เครื่องลงที่ Gaya Airport ห่างจากพุทธคยา เพียง 20 นาที ก็ถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ 1 ในสังเวชนียสถาน 4
มีผู้เดินทางร่วมกันแสวงบุญ หลายกลุ่ม หลายคณะ และก็ได้เจอะเจอกันอีกที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ถึงแล้ว ก็เข้าพื้นที่พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้กัน
ช่วงนี้ พุทธศาสนิกชน จะหลั่งไหลมาที่พิธี และสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระพุทธเมตตา ไม่ขาดสาย ตั้งแต่ 05.00 - 21.00 น.
ถ้าจะร่วมงานสาธยาย ก็ไปลงทะเบียนกับจนท. อาสาสมัครจากเมืองไทย ก็จะได้รับ บัตรพร้อมสายคล้องคอ หนังสือสวดมนต์ ซึ่งถูกจัดพิมพ์เป็นภาษาบาลี 4 คือ Thai / Roman / Bengali / Myanmar
ปีนี้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพยกทศชาติชาดก ส่วนหนึ่งจากพระไตรปิฏก ขึ้นมาใช้ในการสาธยาหรือสวดมนต์นั่นเองโดยในแต่ละวัน จะมีพระของแต่ละประเทศผลัดเปลี่ยน เป็นผู้นำต้นเสียง เท่าที่เห็นนอกจากพระไทยแล้ว ก็มีพระจาก อินเดีย เนปาล ศรีลังกา เมียนมา ลาว กัมพูชา ทิเบต และที่ท่านได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามประเทศต่างๆก็มาร่วมกันสวดมนต์กัน สวดกันช่วง 08.00-16.00 น.
จากนั้น ก็อยู่ร่วมสวดสาธยาย ผิดบ้างถูกบ้างก็ว่าไปเรื่อยๆ เพราะภาษาบาลีนี่ ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร ก็กล้อมแกล้มไปเรื่อยๆ
กองทัพ ต้องเดินด้วยท้อง
ที่สนามกีฬาการาจักรมีการสร้างโดมใหญ่ เป็นสถานที่ให้บริการภัตตาหารพุทธบริษัท 4 ที่ได้ลงทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งเช้า (06.00-09.00 น. และเพล 10.30-13.00 น. เป็นอาหารพื้นเมือง ที่ไม่เจือด้วยเนื้อสัตว์ แม่ครัว เป็นคนไทย มาจากหลายๆภาค
วันที่ ๑๒ ธค. วันปิดก็มาถึง มีพระตัวแทนจากประเทศต่างๆ ต่างมาแสดงปาฐกถาสั้นๆประทับใจอย่างไร ฝากข้อคิดบ้าง กล่าวปิดโดยคุณวังโม ดิ๊กซี ผู้จัดงาน ประธานมูลนิธิสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ (ซึ่งเป็นหญิงอยู่ไกลจาก สหรัฐอเมริกา )
และวัดไทยพุทธคยา โดยพระเดชพระคุณ พระธรรมโพธิวงศ์ ได้มอบปัจจัยที่ศรัทธาพุทธบริษัทชาวไทยได้ร่วมบุญมา จำนวนทั้งสิ้น ๔๙๖,๐๐๐ บาท
ให้กับ คุณวังโม ดิ๊กซี สำหรับการจัดงานสาธยายพระไตรปิฎกพุทธคยานานาชาติ ครั้งที่ ๑๔ ในปีนี้ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อใช้ในปีต่อไป
ปีหน้า ฟ้าใหม่ คณะสงฆ์จากประเทศเวียตนาม เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน
ไว้บุญมีพอก็ขอให้ได้พบกันใหม่อีก เอาบุญทุกๆบุญ มาฝากด้วยครับ
ขอบคุณ : ข้อมูลและภาพ เพจ :วัดไทยพุทธคยา ๙๓๕ งานเผยแผ่พระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล
: การเดินทางและที่พัก ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติธรรมหรรษา โดย ธรรมหรรษาทัวร์(ดร.เบิร์ท)
และขอบคุณทุกๆกำลังทรัพย์ที่ฝากไปสร้างวัดใหม่ วัดไทยโพธิวิหาร ประเทศอินเดีย
@งานสาธยายพระไตรปิฎกพุทธคยานานาชาติครั้งที่ 14 @สถานที่ตรัสรู้ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ คยา อินเดีย เขาสาธยายอะไรกัน?
ครั้งแรก ที่เดินทางไปสักการะสังเวชนียสถาน 4 เมื่อ 5-14 พย. 61 ขึ้นเครื่อง Airbus A320 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ(ไกลแท้ ) 18.10 น. ไปลงสนามบินลักเนา นิวยอร์คของอินเดีย ราวๆ 21.00 น. (ทริปนี้ขอผ่านไปก่อนครับ ถ้ามีเวลาจะมาเล่าประสบการณ์ในครั้งถัดไป)
ครั้งนั้น ที่ได้ไปนั่งปฏิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็ได้อธิษฐานย้ำๆหลายครั้งว่า ด้วยบุญที่กระทำมาดีแล้ว ก็ขอให้ได้กลับมานั่งปฏิบัติธรรมยาวๆ สักครั้งนึงในชีวิต แล้วก็สมหวังดังใจ อะไรจะเร็วปานนั้น เมื่อเจ้าของบริษัททัวร์ที่ใจดีใจกุศล มอบตั๋วเครื่องบิน AirAsia พร้อมที่พัก 8 วัน 7 คืน ให้ไปร่วมงานได้ทุกวัน แล้วก็ร่วมกิจกรรมกับเขาทีนี้หละจะได้รู้กันว่า คำว่า"สาธยาย" นี่ คืออะไรกัน ตามมากันครับ
ครั้งที่ 2 เมื่อ 9-16 ธค. 61 ขึ้นเครื่อง Airbus A320 จากดอนเมือง 08.45 น. ถึง 10.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ไปกับสายการบินที่เพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ เครื่องลงที่ Gaya Airport ห่างจากพุทธคยา เพียง 20 นาที ก็ถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ 1 ในสังเวชนียสถาน 4
ที่นี่เป็นสนามบินทหาร การเข้าเมืองค่อนข้างเข้มงวดกวดขันคิวกันยาวๆ ดีที่ได้แกงเขียวหวานไก่ของร้านศรีฟ้า บนเครื่องมาร้องท้องแล้ว
ก่อนออกจากสนามบินได้มากราบพระพุทธปฏิมากร ในสนามบิน ช่างงดงามมาก
มีผู้เดินทางร่วมกันแสวงบุญ หลายกลุ่ม หลายคณะ และก็ได้เจอะเจอกันอีกที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
ถึงแล้ว ก็เข้าพื้นที่พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้กัน
ช่วงนี้ พุทธศาสนิกชน จะหลั่งไหลมาที่พิธี และสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระพุทธเมตตา ไม่ขาดสาย ตั้งแต่ 05.00 - 21.00 น.
ถ้าจะร่วมงานสาธยาย ก็ไปลงทะเบียนกับจนท. อาสาสมัครจากเมืองไทย ก็จะได้รับ บัตรพร้อมสายคล้องคอ หนังสือสวดมนต์ ซึ่งถูกจัดพิมพ์เป็นภาษาบาลี 4 คือ Thai / Roman / Bengali / Myanmar
ซาบซื้งเจ้าตูบเลยขอมานอนฟังสาธยายมนต์ด้วย
ด้านหน้าทางเข้าก็จะมี ขายดอกไม้ ดอกบัว แลกเงิน ขายใบโพธิ์ และของที่ระลึก มีวงดนตรีคนตาบอด พร้อมคนขอทาน
โทรศัพท์นำเข้าไม่ได้ ต้องฝากไม่เก็บค่าบริการ แต่ทำไมหน่อตอนไปรับของ จนท.ต้องแบมือแล้วบอกว่า น้ำใจ น้ำใจ อิ อิ
ทางเข้าต้องผ่านด่านที่ 1 ค้นตัว และสแกนกระเป๋าพร้อมค้นตัว ในด่านที่ 2
ปีนี้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพยกทศชาติชาดก ส่วนหนึ่งจากพระไตรปิฏก ขึ้นมาใช้ในการสาธยาหรือสวดมนต์นั่นเองโดยในแต่ละวัน จะมีพระของแต่ละประเทศผลัดเปลี่ยน เป็นผู้นำต้นเสียง เท่าที่เห็นนอกจากพระไทยแล้ว ก็มีพระจาก อินเดีย เนปาล ศรีลังกา เมียนมา ลาว กัมพูชา ทิเบต และที่ท่านได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามประเทศต่างๆก็มาร่วมกันสวดมนต์กัน สวดกันช่วง 08.00-16.00 น.
สำหรับบริเวณพิธีที่อยู่หน้าต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็จะมีตัวแทนของพระจากประเทศที่เป็นต้นเสียงมานำสวด ส่วนด้านข้างๆ ก็จะมีเต้นท์ของแต่ละชาติกางและก็จะพุทธบริษัทของเขา นั่งสวดมนต์ร่วมกันในบทนั้นๆ เท่าที่เห็น ลามะจากธิเบต จะเยอะมาก อยากรู้เลยเข้าไปสอบถามท่านว่า แต่ละวันการลุกนั่งกราบไหว้ ท่านจะใช้เวลา หรือใช้จำนวนครั้ง ซึ่งได้คำตอบว่า อยู่ที่จะตั้งสัจจะอธิษฐานไว้อย่างไร เช่นอาจจะเป็นชั่วโมง หรือ จำนวนครั้ง สำหรับท่านที่ได้สอบถาม ท่านตั้งใจว่า ต้องให้ถึง 9 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกท่านหนึ่ง ก็บอกว่า 9 พันครั้ง เริ่มตั้งแต่ตี 5 เป็นต้นมา
จากนั้น ก็อยู่ร่วมสวดสาธยาย ผิดบ้างถูกบ้างก็ว่าไปเรื่อยๆ เพราะภาษาบาลีนี่ ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร ก็กล้อมแกล้มไปเรื่อยๆ
กองทัพ ต้องเดินด้วยท้อง
ที่สนามกีฬาการาจักรมีการสร้างโดมใหญ่ เป็นสถานที่ให้บริการภัตตาหารพุทธบริษัท 4 ที่ได้ลงทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งเช้า (06.00-09.00 น. และเพล 10.30-13.00 น. เป็นอาหารพื้นเมือง ที่ไม่เจือด้วยเนื้อสัตว์ แม่ครัว เป็นคนไทย มาจากหลายๆภาค
มีการการกล่าวคำถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน โดยคณะแม่ชีไทย การจัดสถานที่รับรองพระมหาเถระและพระเถระ คณะทำงานที่ด้านบน
ส่วนด้านล่างที่เห็นไกลๆ ก็สำหรับพระและผู้ร่วมงานทั่วไป
วันที่ ๑๒ ธค. วันปิดก็มาถึง มีพระตัวแทนจากประเทศต่างๆ ต่างมาแสดงปาฐกถาสั้นๆประทับใจอย่างไร ฝากข้อคิดบ้าง กล่าวปิดโดยคุณวังโม ดิ๊กซี ผู้จัดงาน ประธานมูลนิธิสาธยายพระไตรปิฎกนานาชาติ (ซึ่งเป็นหญิงอยู่ไกลจาก สหรัฐอเมริกา )
และวัดไทยพุทธคยา โดยพระเดชพระคุณ พระธรรมโพธิวงศ์ ได้มอบปัจจัยที่ศรัทธาพุทธบริษัทชาวไทยได้ร่วมบุญมา จำนวนทั้งสิ้น ๔๙๖,๐๐๐ บาท
ให้กับ คุณวังโม ดิ๊กซี สำหรับการจัดงานสาธยายพระไตรปิฎกพุทธคยานานาชาติ ครั้งที่ ๑๔ ในปีนี้ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เพื่อใช้ในปีต่อไป
ปีหน้า ฟ้าใหม่ คณะสงฆ์จากประเทศเวียตนาม เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน
ไว้บุญมีพอก็ขอให้ได้พบกันใหม่อีก เอาบุญทุกๆบุญ มาฝากด้วยครับ
ของฝาก : ตลาดผ้าและจำพวกเครื่องราง พระพุทธรูป และพวงกุญแจ สร้อยต่างๆ โดยเฉพาะสร้อยทองปลอม กำไล มีให้เลือกซื้อไปฝากคนที่บ้าน กระเป๋าหนังจามรีปักลายใบเล็ก แผงลอยข้างทาง ราคาไม่เกิน 100.- ต่อใบ สวยงามพระรามแปดจริงๆ
ขอบคุณ : ข้อมูลและภาพ เพจ :วัดไทยพุทธคยา ๙๓๕ งานเผยแผ่พระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล
: การเดินทางและที่พัก ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติธรรมหรรษา โดย ธรรมหรรษาทัวร์(ดร.เบิร์ท)
และขอบคุณทุกๆกำลังทรัพย์ที่ฝากไปสร้างวัดใหม่ วัดไทยโพธิวิหาร ประเทศอินเดีย