คลับควายเดย์ ตอนเหตุเกิดจากความเหงา (เรื่องจริงของทิพ)

กระทู้นี้ทิพ(ผู้หญิงตัวเล็กๆ)พิมพ์ขึ้นจากประสบการณ์จริงทั้งหมด เพื่อระบายความในใจเท่านั้นนะคะ

         ก่อนอื่นทิพอยากจะสุขสันต์วันเกิดให้กับบอยก่อนนะ เป็นประจำทุกปี แต่ตอนนี้ไม่สามารถอวยพรต่อไปอีกได้แล้วเพราะเฟสปลิวไปแล้ว น่าจะโดนคนใจร้ายบางคนกดรีพอร์ต ในเฟสนั้นมีรูปมากมายที่ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยวที่ต่างๆกับบอย ตอนแรกก็อยากได้คืนมามาก แต่ตอนนี้เฉยๆ  ซึ่งทุกปีนั้นทิพก็จะให้ของขวัญบอย ซื้อของให้บ้าง ซื้อของแล้วมาประดิษฐ์ทำเองบ่อยๆ หรือให้เป็นเงินก็เคยเพราะบอยชอบบ่นว่าต้องใช้เงินเพื่อเป็นค่าเดินทางมาหา-ทิพก็ต้องช่วยบอยออกด้วย
         ในเรื่องนี้มีตัวละครหลักอยู่ 3 คน  (ทิพ,บอย,น้องเอ็ม)  เราเรียนจบจากมหา’ลัยชื่อดังของรัฐในนครปฐมด้วยกัน  ทิพจบศึกษาฯ, บอยจบวิศวะฯทั้งป.ตรีและโท, เอ็มจบอักษรฯ   ทิพคบกับบอยมาได้4-5ปีแล้ว และเอ็มก็คือแฟนเก่าของบอย
         ประมาณต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว(ปีครึ่ง) ทิพได้ไปหาบอยที่ห้องพักสมบูรณ์ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งขณะนั้นบอยทำงานเป็นQCที่โรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่ง เรื่องในวันนั้นทิพจำได้แม่นยำว่าเป็นวันอะไรและวันที่เท่าไหร่เหมือนกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว บอยกำลังอาบน้ำอยู่ จากนั้นก็มีสายโทรเข้ามือถือของบอยที่วางอยู่บนโต๊ะ เสียงนั้นดังนานมากจนทิพต้องไปดูและรับสาย เสียงในสายนั้น-ทิพจำได้แม่นยำว่าเป็นเสียงของเอ็ม(ซึ่งบอยพร่ำบอกกับทิพอยู่บ่อยครั้งว่าไม่ได้ติดต่อกันแล้ว) เสียงของเอ็มดูท่าทางร่าเริง/มีความสุขพร้อมเปิดเพลงไปด้วย ไม่เหมือนคนที่นานๆถึงได้คุยกัน ทิพวางสายไปด้วยความช็อค เอ็มก็โทรกลับมาใหม่แต่คราวนี้ไม่มีเสียงเพลงแล้ว ทิพก็ยังคงช็อคอยู่ ในขณะนั้นสมองของทิพก็ไม่ทำงานและชาไปหมดทั้งตัว ทันใดนั้นบอยก็ออกมาจากห้องน้ำ ตบหัวทิพแล้วหยิบมือถือจากมือของทิพไปคุยกับเอ็มข้างนอกห้องตรงลานจอดรถ ทิพร้องไห้และก็เดินตามไป สักพักเอ็มก็ให้บอยเปิดสปีกเกอร์โฟนให้คุยกันทั้ง3คน เอ็มเรียกทิพว่ามันพร้อมกับบ่นว่าทำไมบอยจึงต้องให้ทิพมาอยู่ที่ห้องด้วย? และเอ็มก็ถามขึ้นมาประโยคนึงที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากระหว่างทิพกับบอย ทิพก็ยังช๊อคอยู่-พูดอะไรไม่ออกเลย แต่คำตอบที่บอยให้กับเอ็มไปนั้นเป็นคำโกหก ทิพคิดในใจว่าบอยคงจะแคร์เอ็มมากถึงได้คุยกันนานขนาดนี้ด้วยความโกรธจึงตบหน้าบอยไป1-2ครั้ง และบอกบอยให้ไปเปิดประตูห้องเพื่อที่ทิพจะได้เก็บของกลับบ้าน โดยปกติแล้วนิสัยของบอยจะถือเรื่องศักดิ์ศรีเป็นสำคัญจึงไม่ขอโทษแม้ตัวเองจะทำผิดก็ตาม ทิพก็ยังคงร้องไห้อยู่ แต่อาจด้วยความที่บอยโกรธทิพที่รับสายมือถือบอย ตบหน้าบอย และครั้งล่าสุดที่ทิพไม่ยอมให้บอยยืมเงิน3,000ไปพรีออเดอร์น้ำหอมเพราะทิพกลัวว่าจะไม่ได้คืน(ครั้งก่อนที่ยืมไปก็คืนยากมาก เงินเดือนออกก็ไม่คืน-บอกว่าให้พ่อแม่หมดแล้ว) ด้วยความรักแล้วทิพจึงทำร้ายร่างกายบอยไม่ได้ เราจึงยื้อยุดฉุดกระชากกันทำให้ทิพช้ำไปหมดทั้งตัว ซึ่งเหมือนกับว่าทิพรู้สึกเจ็บปวดเป็น2เท่าเพราะตอนบ่ายวันนั้นประจำเดือนเพิ่งมาด้วยเลยปวดท้องหนักมาก จากนั้นบอยก็จับทิพลากถูไถกับพื้นออกไปนอกห้อง ทิพก็ร้องแต่ร้องได้ไม่เต็มเสียงนัก บอยวิ่งกลับเข้าห้อง ทิพก็วิ่งตาม บอยปิดประตูงับข้อมือซ้ายของทิพอย่างเต็มแรงจนมือของทิพห้อยและเหมือนกับว่ามันจะหักไปแล้ว(ทิพเคยแขนหักมาเมื่อตอนเด็ก) บอยเปิดประตูออก ทิพจึงรีบเข้าไปในห้องด้วยท่ายืน จากนั้นบอยก็แทงเข่าเข้าที่กลางอกจนทิพล้มลงไปงอตัวกับพื้น บอยก็ยังอยากที่จะเตะทิพซ้ำ ต่อมาทิพนอนพักบนพื้นซักพัก บอยก็หลับบนเตียง แต่ใจทิพก็กลัวว่าบอยจะทำร้ายทิพอีกก็เลยเก็บของทั้งหมดออกมาจากห้องขณะนั้นเป็นเวลาตี2กว่า ทิพสะพายเป้เดินแบบสะบักสะบอมออกมาข้างหน้าหอพักตรงข้างถนนซึ่งระแวกนั้นเป็นที่เวิ้งว้าง ส่วนใหญ่เป็นป่า และไม่มีคนเลย รถที่วิ่งผ่านไป-มาก็แทบไม่มี ใจก็กะว่าจะเดินไปถึงตลาดที่เป็นที่จอดวินรถตู้ชื่อว่าMK ซึ่งทิพใช้เวลาเดินทางถึงกทม.ประมาณ3-4 ชม. แต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะไปไม่ถึง(คงจะหลงทางซะก่อน) ขณะนั้นมือถือทิพที่เหลือแบตน้อยเต็มที เพราะความกลัว-ทิพก็ได้โทรหาเพื่อนๆแต่ไม่มีใครรับสายเลย ยกเว้นยายแอม(เพื่อนรูมเมทตอนเรียน)บอกว่าให้ไปหลบอยู่ภายในหอพักก่อน ทันใดนั้นก็มีมอเตอร์ไซด์2คัน ซ้อน2และ3คนมาจอดรถแซว ทิพกลัวมากจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในหมู่บ้านข้างๆหอพัก หมู่บ้านนั้นคล้ายๆกับว่ายังสร้างไม่เสร็จหรือร้างก็ไม่แน่ใจ และมีผู้ชายกลุ่มใหญ่นั่งล้อมวงกันดื่มเหล้าอยู่ในป้อมตรงกลางข้างหน้าหมู่บ้านนั้นด้วย เมื่อมอเตอร์ไซด์ที่แซวไปแล้ว ทิพจึงรีบออกมาและวิ่งไปนั่งลงหลบที่พื้นในร้านที่เป็นเพิงหน้าหอพัก ซึ่งทิพก็กลัวอีกเพราะตรงนั้นมีหนูและแมลงสาบอยู่ด้วย ก็เลยออกมาที่โล่งนั่ง,ยืน,เดินอยู่แถวๆนั้น เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาประมาณตี4ครึ่งก็มีรถตู้มาจอดตรงข้ามหอพัก ทิพตัดสินใจเดินเข้าไปถาม คนขับ:ได้จองที่นั่งไว้ไหม ทิพ:ไม่ค่ะ จากนั้นทิพก็ขึ้นไปนั่งข้างๆคนขับรถเพื่อที่จะไปซื้อตั๋วที่ตลาด ต่อมาได้คิวกลับกทม.ประมาณ6โมงครึ่ง เมื่อกลับมาถึงจึงไปรพ.เพื่อรักษาข้อมือที่ทั้งชาและบวม เป็นหนักกว่าอวัยวะที่อื่นๆที่ถลอกและช้ำ ปรึกษาหมอ-เอ็กซเรย์ข้อมือแล้ว ทิพก็รับยามาเพียบเลย ส่วนใหญ่จะเป็นยาคลายกล้ามเนื้อ ครั้งนี้ทิพเสียค่าใช้จ่ายไปหลายพันบ. รักษาตัวกันไป-ครึ่งปีให้หลังก็เริ่มยกของได้บ้างและอาการชาก็น้อยลง เฮ้อ!ทิพเสียใจมากที่สุดกับการที่ซื่อสัตย์และให้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ผู้ชายคนนึงมีความสุข แต่เรากลับต้องมาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ แม้อยากจะลืมแค่ไหน แต่ก็ยังคิดถึงทุกวัน ซึ่งมันทรมานมากเหมือนการตายทั้งเป็น บาดแผลเป็นที่ข้อมือและเท้าก็ยังคงอยู่ แต่บาดแผลลึกในใจยิ่งใหญ่และชัดเจนมากกว่าบาดแผลทางกายหลายเท่านัก

         อันที่จริงทิพก็ต้องขอขอบคุณบูมกับอ้อมเพื่อนๆสโมฯด้วยนะ ที่ตั้งกลุ่ม5คนคุยกันในข้อความเฟส ทำให้ทิพได้รู้ว่าบอยมาคบกับทิพก็เพียงเพราะความเหงาเท่านั้น บอยเลือกที่จะจบกับทิพและคบกับเอ็มต่อไป จากนั้นทิพจึงขอให้บอยขอโทษทิพได้ แต่ลึกๆในใจทิพนี้ก็ดีใจกับความรักของทั้งคู่ด้วยเพราะถ้าไม่ใช่เอ็ม-ทิพก็คงจะเสียใจมากกว่านี้เป็นแน่ ถ้าทิพจะห่วงบอยก็ด้วยเรื่องที่ยังบริหารเงินของตัวเองไม่เป็น ไม่ประหยัด จะซื้อน้ำหอมแต่ไม่มีเงินก็ต้องมายืมทิพ(ซึ่งมีเพื่อนบอกว่าบอยซื้อให้เอ็ม แต่ทิพคิดว่าคงไม่ใช่หรอก เอ็มก็น่าจะมีงานมีเงินใช่ไหม คำถามต่อมาในหัวทิพก็คือทำไมบอยไม่ยืมเงินเอ็ม อาจเพราะว่าทิพคงโง่และชอบใจอ่อนมั้ง) มือถือบอยก็ต้องซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วอีกเมื่อไหร่ถึงจะได้แต่งงานกับเอ็มซะที แต่เรื่องนี้ทิพคงจะไม่ต้องเป็นกังวลมากเพราะถ้าบอยรักเอ็มจากใจจริงแล้วก็ต้องไม่คลาดกันแน่

         ย้อนไปประมาณ10ปีก่อนเราทั้ง3คนเจอกันขณะที่ทำงานให้กับสโมสรน.ศ.ซึ่งขณะนั้นมีชื่อว่า “สโมสาลี่” แต่ทิพก็ไม่ได้รู้จักเอ็มเป็นการส่วนตัว เรื่องที่เกี่ยวกับเอ็ม-บอยจะเล่าให้ทิพฟังเอง ในขณะที่เรียนอยู่นั้นบอยจีบทิพก่อนแต่ทิพไม่ตกลงเพราะเพื่อนไม่เชียร์(เพื่อนเชียร์ให้คบกับอีกคนมากกว่า) เอ็มก็เลยจีบบอยและบอยก็ตกลงคบด้วย(บอยเล่าให้ทิพฟัง)..... จากนั้นเวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนทุกคนจบป.ตรี  บอยเรียนต่อป.โท ส่วนทิพและเอ็มทำงาน  เอ็มแอบไปมีความสัมพันธ์ลับๆหรือกิ๊กในที่ทำงานจนบอยจับได้และบอยก็ให้โอกาสเอ็มเสมอมา แต่เอ็มก็ยังไม่หยุดทำเช่นนั้น(บอยเล่าให้ทิพฟัง)  หลังจากนั้นบอยก็จีบทิพโดยบอกทิพว่าบอยเลิกกับเอ็มเด็ดขาดแล้ว ทิพก็ตกลงคบด้วย ซึ่งทิพก็ได้ถามบอยบ่อยว่าได้ติดต่อกับเอ็มบ้างมั้ย-บอยก็ตอบว่าไม่ทุกครั้งไป จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทิพเผอิญเห็นข้อความเฟสที่บอยส่งถึงเอ็มว่าคิดถึง บอยก็ปฏิเสธว่าเรื่องมันนานมาแล้ว...  บอยชวนทิพไปที่คณะและทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆที่เรียนด้วยกัน ซึ่งมีน้องติ๊ก น้องปัด น้องวา... ต๋อง(เพื่อนสโมฯ)  เวลาผ่านมาบอยก็จบป.โท แต่จบช้าไปปีนึง จากนั้นบอยก็ได้ไปบวชที่วัดเขาวังราชบุรีใกล้ๆบ้านบอยประมาณครึ่งปีได้ถ้าทิพจำไม่ผิด รู้สึกว่านานมากนะ แต่เราก็ยังโทรศัพท์คุยกันทุกวัน ส่วนใหญ่ก็คุยถึงเรื่องชีวิตประจำวันทั่วไป และในวันหนึ่งทิพก็ได้ไปหาพระบอยที่วัดด้วย

         ฝากถึงบอย ตอนแรกทิพก็มีคำถามมากมายอยากที่จะถามบอยว่าทำไมบอยถึงทำกับทิพแบบนี้ ทำไมถึงยืมเงินทิพแทนที่จะเป็นเอ็ม บลาๆๆ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้วเพราะไม่ได้อยากจะรู้อะไรอีกแล้ว ต้องการแค่ให้ในชาตินี้จบๆตัดขาดกันไปแบบถาวร ที่บอยทิ้งทิพแล้วบอกว่าทิพไม่มีอนาคตและไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ เราคิดว่าบอยเนี่ยน่าเป็นห่วงมากกว่านะเพราะยังบริหารเงินไม่เป็นเลย มีเงินเดือนมากกว่าทิพแต่กลับมาขอยืมเงินทิพไปใช้จ่ายกับสิ่งต่างๆที่ฟุ่มเฟือย ขอคืนเงินก็ยาก-บอกว่าให้พ่อแม่หมดแล้ว เอิ่ม!แล้วเมื่อไหร่จะได้แต่งงานกับเอ็ม และที่พิมพ์คำขอโทษส่งๆมาในข้อความกลุ่มเฟส ทิพไม่ให้อภัยเด็ดขาด ชาตินี้ไม่ขอพบเจอ ถ้าทิพตายแล้วจะไปหาเอง-ไม่ต้องมางาน-ไม่ต้องเผาผี แล้วหากยังไม่สิ้นเวรสิ้นกรรมต่อกัน เราก็จะได้เจอกันอีกในชาติหน้าแน่นอน
         ฝากถึงน้องเอ็ม เราไม่ได้มีเรื่องบาดหมางใจต่อกัน เอ็มอาจจะเข้าใจผิดเลยด่าว่าพี่ว่ามัน โรคจิต โรคประสาทบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าพี่ไม่รู้เรื่องเลยว่าบอยกลับไปคุยกับเอ็มแล้ว เค้าปิดพี่หมดทุกอย่าง เฟสก็ตั้งค่าไม่ให้พี่เห็นจนพี่ก็เพิ่งมารู้จากเพื่อนว่าบอยลงรูปคู่กับเอ็มที่ไปงานรับปริญญาบอย-พี่ก็ไปแต่เราไม่ได้เจอกัน อันที่จริงเราไม่ควรรู้สึกไม่ชอบกันเพียงเพราะโดนบอยปั่นหัวพูดถึงอีกฝ่ายในทางไม่ดีแล้วก็หลงเชื่อ  ที่เราคุยกันมือถือบอยครั้งล่าสุดก็นานมาแล้วนะหลายเดือน พี่บอกชัดเจนแล้วใช่มั้ยว่าควบคุมให้ดี อย่าให้บอยโทรมาหาพี่หรือติดต่อพี่ได้อีก เมื่อเดือนก่อนก็ยังโทรมาอยู่เลย คือพี่ไม่เข้าใจว่าบอยโทรมาเองหรือเอ็มคิดจะลองใจพี่กับบอย แล้วก็ไม่ต้องเมมเบอร์ที่พี่โทรไปหรอกนะ มันเป็นเบอร์แม่พี่เอง ครั้งก่อนที่เอ็มเอาเบอร์พี่มาจากไหนก็ไม่รู้แล้วโทรมาแสร้งทำเป็นว่าโทรผิดเบอร์ พี่จำได้นะว่าเป็นเสียงเอ็ม-แต่ก็ไม่รู้เหตุผลที่เอ็มโทรมา เมื่อเมมเบอร์แล้วถึงมั่นใจเพราะไลน์เอ็มก็จะขึ้นมา มือถือแม่พี่ไลน์เอ็มก็ขึ้นเพราะเอ็มเมมเบอร์ใช่ไหม พี่จะขอให้หยุดเถอะนะมันไม่มีประโยชน์อะไร หากยังตามพี่อยู่แบบนี้ พี่บอกได้เลยว่าเอ็มกำลังมาผิดทาง คนที่เอ็มจะต้องระแวงระวังไม่ใช่พี่ เพราะที่บอยทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจพี่นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพี่ก็เป็นแค่ของเล่นของบอยเอาไว้แก้เหงาก็เท่านั้น พี่ไม่จำเป็นจะต้องลงสนามไปตบตี(ฝีปาก)กับผู้หญิงคนไหนเพื่อให้ผู้ชายหน้าไหนมาคบกับพี่หรอกนะ^^   สุดท้ายนี้ฝากไว้ว่าบอยแพ้กุ้งนะ แต่ยังไม่เคยให้ลองกินกั้ง และเค้าไม่ชอบให้จู้จี้จูกจิกด้วย ปล.พี่คิดว่าเอ็มกับบอยเหมาะสมกันมาก-พี่จะเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ
         ฝากถึงน้องๆป.โทของบอยโดยเฉพาะน้องวาและน้องปัด พี่มีเพื่อนน้อยมากและพี่คิดเอาเองว่าน้องรู้จักบอยมากที่สุดจึงมักจะปรึกษาปัญหาของพี่กับน้องๆบ้าง ขอบคุณมากนะที่รับฟังปัญหาของพี่และไปกินบุฟเฟ่กันในวันเกิดของพี่ทั้งๆที่น้องๆอาจจะไม่รู้ว่าเป็นวันเกิดของพี่ด้วยซ้ำ เพราะในชีวิตพี่ไม่เคยมีเพื่อนมากินข้าวในวันเกิดด้วยเลย-ของขวัญยิ่งไม่ต้องพูดถึง พี่แทบไม่เคยได้ ปล.ขอโทษน้องติ๊กที่อาจจะรำคาญพี่จึงอันเฟรนเฟสไป
         ฝากถึงครอบครัวและเพื่อนๆทุกคน ทิพขอโทษ-ทิพผิดเองที่ไม่เชื่อฟังคำทักท้วงว่าไม่ควรคบกับบอย ต้องสมน้ำหน้าตัวเอง จากนี้ทิพจะจำไว้เป็นบทเรียนราคาแพงของทิพ ขอบคุณจากใจจริงที่ยังมีเพื่อนที่อยู่เคียงข้างกันและหวังดีต่อกัน

การตั้งชื่อกระทู้นี้ต้องขอบคุณเพื่อนบูมที่แนะนำให้ทิพดูคลับฟรายเดย์บ่อยๆ จึงทำให้ทิพได้รู้ว่าความรักก็เป็นเช่นนี้นั่นเอง
ในใจก็หวังนะว่าเรื่องราวความรักของทิพจะได้ทำเป็นคลับฟรายเดย์ซักตอนขึ้นมาจริงๆ


หากความเชื่อใจและความซื่อสัตย์คือความรักแล้วโง่ เราก็เป็นคนโง่คนหนึ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่