เปิดใจ เข้ม หัสวีร์ ขึ้นเเท่น พระเอกเเถวหน้า

         จากเด็กหนุ่มบ้านนาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาหางานทำ ฟังดูแล้วชีวิตของ “เข้ม” หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล ไม่แตกต่างจากคนทั่วไปซึ่งต้องการค้นหาความสำเร็จ สิ่งที่เจ้าตัวตั้งหวัง คือความฝันที่จะทำให้ครอบครัวมีความสุข วันนี้หลังจากที่ได้รับโอกาสก้าวเข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7HD พร้อมกับเปิดตัวเป็นพระเอกละครเรื่องแรก “ไฮโซสะออน” ผลงานจากค่าย “มีเดีย ซีน” ทำให้วันนี้เข้มกลายเป็นที่รู้จัก แถมมีละครต่อเนื่อง อีก 3 เรื่อง คือ จ้าวสมิง, หัวใจลูกผู้ชาย และตะกรุดโทน เรียกได้ว่าขึ้นแท่นพระเอกแถวหน้าของช่องอย่างรวดเร็ว เอาล่ะ ว่าแล้วเราไปคุยกับเข้มกันเลยดีกว่า

กลายเป็นหนุ่มฮอตไปแล้ว ชีวิตมีความเปลี่ยนแปลงบ้างไหม?
“เรื่องความเปลี่ยนแปลง อย่างแรกคือเขารู้จักเรามากขึ้นมีมาทักทายมาขอถ่ายภาพมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเรียกผมว่าพี่ดิน หรือไอดิน ซึ่งเป็นตัวละครที่ผมรับบทในไฮโซสะออนครับ ผมดีใจมาก ๆ เพราะถือว่าทุกคนอินกับตัวละครที่ผมเล่น ส่วนชีวิตประจำวันของผม ต้องบอกว่าไม่ได้เปลี่ยนนะครับ คือทำงานถ่ายละคร และไปเรียน แต่อาจจะได้พักผ่อนน้อยกว่าเดิม บางวันอาจจะนอนประมาณ 4 ชม. เพื่อไปทำงาน แรก ๆ ผมก็ปรับตัวไม่ได้ เพลียบ้าง ก็จะมีมางีบในกองละคร ช่วงที่ได้พักเบรกสัก 10-20 นาที เพื่อชาร์จพลัง ส่วนเรื่องสุขภาพ ผมค่อนข้างดูแลตัวเองพอสมควรครับ อย่างอาหารจะมีคุมบ้าง แล้วก็เน้นว่าถ้ามีเวลาจะไปออกกำลังกาย วันไหนมีงานสาย ๆ จะไปวิ่งหรือปั่นจักรยานตอนเช้า ๆ ที่สวนสาธารณะแถวบ้านบ้างสัก 30 นาที เป็นอย่างน้อยครับ”

ตัวตนของเข้ม จริง ๆ แล้วเป็นคนแบบไหน?
“ผมเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา ตลก ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะ ผมว่าการได้เห็นคนอื่นหัวเราะ มีรอยยิ้ม มันก็สร้างพลังให้เรานะครับ ซึ่งผมคิดว่าการให้คนรู้จักเราในแบบที่ตัวเราเป็นคือสิ่งที่ดีที่สุด เราเล่น เรามีความสุข เราสนุกในการทำงาน แต่ทั้งหมดแล้วเราก็ต้องรู้จักกาลเทศะ รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ด้วยครับ ถามว่าการที่ตัวเรามีชื่อเสียงขึ้น แล้วเราจำเป็นต้องเปลี่ยนบุคลิกของตนเองไหม ผมว่าไม่จำเป็น ผมเชื่อว่าให้คนรู้จักเราในแบบที่ตัวเราเป็นตั้งแต่แรกดีที่สุดแล้วครับ”

ถูกแซวว่าเป็นพระเอกลูกรักคนใหม่ ช่องดันสุด ๆ?
“ผมว่าช่องน่าจะมองว่าละครแต่ละเรื่องที่มอบให้ผม เป็นเพราะมีคาแรกเตอร์ที่เหมาะสมมากกว่าครับ ถามว่ากดดันไหม ไม่นะครับ ผมมองว่า ทุก ๆ คนในช่อง ต่างคนต่างมีหน้าที่ มีงานเหมือนกันอยู่แล้วครับ ตัวผมเองเป็นเด็กน้อยเพิ่งเข้ามา ก็ได้รับโอกาสตรงนี้ ตามจังหวะและโอกาสซึ่งผมก็ตั้งใจทำทุกโอกาสให้ดีที่สุดครับ (มีคนแซวว่า เส้นทางของเข้ม เหมือนของ เวียร์-ศุกลวัฒน์) ดีใจครับ แต่ไม่อยากให้เปรียบเทียบกัน เพราะพี่เวียร์เองก็เป็นต้นแบบในการทำงานของผมหลายอย่าง ตัวผมยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่เวียร์เป็นส่วนตัวนะครับ แต่มีโอกาสได้พบหน้ากันในช่องบ้างครับ”

เข้ามาทำงานตรงนี้เข้มได้รับคำสอนจากพี่ ๆ นักแสดงท่านอื่น ๆ บ้างไหม?
 “มากมายเลยครับ ผมมีงานละคร ไฮโซสะออน, จ้าวสมิง, หัวใจลูกผู้ชาย และตะกรุดโทน พี่ ๆ นักแสดงซึ่งได้ร่วมงานจากทุก ๆ เรื่องสอนผมเยอะมาก ๆ อย่างพี่แอมป์-พีรวัศ ผมร่วมงานกับพี่เขาในละครหัวใจลูกผู้ชาย ก็จะสอนในเรื่องของการใช้ชีวิต การวางตัว การทำงาน พ่อเอก-รังสิโรจน์ ซึ่งผมรับบทเป็นลูกของพี่เขาในละครเรื่องจ้าวสมิง พี่เขาก็จะสอนอย่างเรื่องความเข้าใจตัวละคร ยังมีอีกหลายท่านที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อ ผมได้รับการแนะนำและคำสอนที่ดี ซึ่งนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะสิ่งที่ทุกคนย้ำเหมือนกัน นั่นคือเรื่องของ 1.เวลา คือเวลาไม่สามารถย้อนคืนได้ 2.วาจา คือคำพูดถ้าเราพูดออกไปแล้วเราไม่สามารถทำได้ มันก็จะเป็นผลเสียต่อเรา และ 3.สิ่งสำคัญที่สุดคือการนอบน้อมถ่อมตนครับ”

ทำงานหนักขนาดนี้ เรื่องหัวใจฮอตตามงานด้วยมั้ย?
“จริง ๆ ก็ไม่มีมานานแล้วครับ เพราะตอนนี้พอมีเวลาผมก็อยากพักผ่อน อยากนอนมากที่สุด คือผมยังไม่พร้อมที่จะมีใครเข้ามาหรอกครับ ส่วนสเปก ผมชอบผู้หญิงตัวสูง ขายาว ยิ้มเก่ง เป็นผู้หญิงทำงานขยัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีคุยกับใครเป็นพิเศษ เพราะทุกวันของผมมีแค่งาน กับเรื่องเรียน”

ได้ข่าวมาว่ารับงานละครพร้อมกันหลายเรื่อง แต่เข้มก็ไม่ดร็อปเรียน?
“ไม่ครับ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งต้องขอบคุณอาจารย์ และเพื่อน ๆ ทุกคนมาก ๆ อย่างที่บอกครับว่าผมโชคดีที่มีเพื่อนที่ดี นี่ผมก็เพิ่งสอบเสร็จไป ผมตั้งใจอยากเรียนจบปริญญาตรีให้ได้ เพราะคุณตาผมอยากเห็นใบปริญญาของผม ผมเคยให้สัญญากับคุณตาไว้ว่า ผมจะเอาใบปริญญามาฝากแกให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้ผมจะเป็นคนแรกในครอบครัวที่เรียนจบปริญญาครับ”

ปีใหม่นี้เข้มจะทำอะไรบ้าง?
“ผมมีนัดกับคุณตากับคุณแม่ไว้ครับ ว่าเราจะไปเที่ยวทะเลกันทั้งครอบครัว คุณตาผมจะมาจากบึงกาฬเลย ตั้งใจจะพาไปพักผ่อน ผมไม่ได้เจอท่านหลายเดือนแล้ว เพราะว่าเราทำงานตลอด จะมีก็แต่วิดีโอคอลคุยกัน ที่บ้านส่วนมากจะห่วงเรื่องที่ผมทำงานหนัก แต่ผมโชคดีที่คุณแม่มาพักอยู่ด้วยกัน ท่านก็จะคอยดูแลผมตลอด อย่างวันไหนมีเวลา คุณแม่ก็จะทำ ส้มตำ กับ ทำไข่ดาว ซึ่งสองอย่างนี้เป็นเมนูโปรดของผมให้ผมกิน แค่นี้ก็มีความสุขสุด ๆ แล้วครับ”

ฝากไปถึงแฟนละคร รวมถึงน้อง ๆ ที่อยากเดินตามรอยของเข้ม?
“ผมต้องขอขอบคุณแฟนละครทุกคนมาก ๆ ครับ ที่ให้โอกาสและติดตามผลงานของผม ชอบในการแสดงของผม เป็นกำลังใจให้ผมได้ก้าวต่อ ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ถามว่าผมมีท้อบ้างไหม แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยถอย ส่วนหนึ่งของกำลังใจคือคุณแม่ ที่จะบอกให้ผมสู้ ผมอยากบอกกับน้อง ๆ ที่มีความฝัน สิ่งสำคัญคืออย่ากลัว อย่าท้อ และถ้ามีโอกาสเข้ามาถึงตัวเองเมื่อไหร่ ต้องทำโอกาสนั้นด้วยความตั้งใจที่สุดครับ”
      
แม้วันนี้ “เข้ม” หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล จะประสบความสำเร็จ แต่เจ้าตัวก็ยังย้ำกับตนเองเสมอว่า นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของถนนสายบันเทิง ยังมีอีกหลายเส้นทางที่เขาจะก้าวไปด้วยความตั้งใจ เพราะทุกโอกาสที่เข้ามาคือจุดเปลี่ยนของชีวิต เราก็ขอให้ความตั้งใจของพระเอกคนนี้เป็นอย่างที่หวังในเร็ววันนี้นะจ๊ะ.
... อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/entertainment/683702
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่