การปลด"มูรินโญ่"เป็นทางออกของแมนยูจริงหรอ?

มูรินโญ่
          การที่มูรินโญ่ 1 ในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในการคุมทุกสโมสร
แชมป์ลีค ปอร์โต้ 2 สมัย เชลซี 2 สมัย อินเตอร์ 2 สมัย เรอัล มาดริด 1 สมัย เชลซี รอบสอง 1 สมัย
          เปรียบเทียบผลงานเกมลีคของมูรินโญ่ 111 นัดหลังสุด แมน ยูไนเต็ดและเชลซี แพ้รวม 27 นัด
265 นัดกับทีม เชลซี, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ แพ้รวม 27 นัด
          เปอร์เซนต์ชนะต่อเกมของมูรินโญ่กับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 59.67%   โชเซ่ มูรินโญ่ 58.33% (จากสถิติไม่ได้แย่เลย แต่ผลงานช่วงหลังทำให้เขาโดนปลด)
          จากสถิติที่เห็นคือ มูรินโญ่สามารถพาสโมสรข้างต้นคว้าแชมป์ลีคมาแล้วมากมาย แต่ทำไมมูรินโญ่กลับทำแชมป์ลีคให้กับแมนยูไม่ได้ละ แล้วอะไรที่ฉุดให้มูรินโญ่ไม่สามารถพาทีมขึ้นมาประสบความสำเร็จได้
          ต่อไปจะเป็นความคิดเห็นของตัวผมเอง ข้อความสีเทา.
มูรินโญ่ไม่ได้สิทธิ์ขาดในเรื่องการซื้อตัวและการทำทีม การที่คนอย่างมูรินโญ่ที่มีแบบแผนการทำทีมตายตัวแต่กลับทำไม่ได้กับแมนยู มูรินโญ่เป็นคนที่เริ่มสร้างทีมจากแผงหลังขึ้นมา เข้าจึงต้องการซื้อกองหลังระดับเกรดAเท่านั้น ซึ่งตลาดครั้งล่าสุดเขาแสดงความต้องการว่าเขาต้องการกองหลังมาตลอดเพราะกองหลังที่มีอยู่ไม่ได้ทำให้เขาไว้วางใจได้เลย แต่เขากลับได้แบ็คขวาดาวรุ่งกับกองกลางมา ก็จริงอยู่ที่ว่าไบญี่และลินเดเลิฟเขาเป็นคนที่ซื้อเข้ามา แต่2คนนี้โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมาตลอด กองหลังที่มีอยู่ก็ต้องลุ้นว่าวันไหนจะเล่นดีหรือเล่นแย่ นี่คือความไม่แน่นอน กุนซืออย่างมูรินโญ่ไม่ชอบความไม่แน่นอนนี้ จนทำให้ออกมาพูดและแอบแขวะบอร์ดบริหาร (เมื่อเปรียบเทียบกันเป๊ปที่เข้ามาแล้วลงทุนกับกอง200กว่าล้าน ผู้รักษาประตูเมื่อซื้อมาแล้วไม่ดีอย่างบราโว่ เป๊ปก็ซื้อจัดการซื้อเอแดร์สันทันที คร็อปที่รู้ว่าปัญหาของทีมอยู่ที่กองหลังก็จัดการซื้อกองหลังราคาสถิติโลก หรือผู้รักษาประตูอดีตสถิติโลก) ในเมื่อนักเตะเกมรับไม่ได้อย่างที่ต้องการแล้วเรามาต่อกันที่ตัวรุก มาติชคนนี้คือคนที่มูรินโญ่ต้องการแน่นอนและเข้ามาก็สร้างความแตกต่างเกมตรงกลางให้กับแมนยูได้เยอะมาก ลูกากูก็เป็นอีกหนึ่งความร้อนลนของบอร์ดบริหาร แมนยูอยากได้ตัว โมราต้า ได้ทำการยื่นข้อเสนอให้กับรีลมาดริดแต่กลับโดนปฏิเสธกลับมาและมาดริดตั้งราคาโมราต้าไว้สูงถึง80ล้าน หนึ่งในเหตุผลที่มาดริดเล่นแง่กับแมนยูก็มาจากการที่พวกอยากได้ตัวเดเคอาแต่เข้ากลับไม่ได้ แมนยูจึงรีบหาตัวเลือกที่สองพวกเขามองไปหาลูกากู ที่ยิงกระจายให้กับกับทอฟฟี่สีน้ำเงิน และจัดการซื้อมาในราคา75ล้าน หลังจากนั้นโมรต้าก็ย้ายมาเชลซีด้วยค่าตัว 58 ล้าน อีกหนึ่งในนักเตะที่มูรินโญ่อยากได้ตัวคือโอซิลแต่บอร์ดกลับไปตัดหน้าแมนซิตี้คว้าตัวอเล็กซิสมาแทน มูรินโญ่อยากได้ตัวเปริซิสแต่กลับไม่ได้อีกเช่นเคย
          ความระอุของนักเตะและผู้จัดการทีมการที่นักเตะแบ่งเป็นฝ่าย ป็อกบาเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าระดับโลกแต่ทัศนคติระดับ อบต. เมื่อครั้งมูรินโญ่คุมปอร์โต้มูรินโญ่เคยดร็อปนักเตะซุปเปอร์สตาร์ของทีมอย่างเดโก้เพราะฟอร์มไม่ดี แต่ความเป็นมืออาชีพของเดโก้เขากลับไม่ทำตัวมีปัญหาหรืออกมาพูดอะไรกับสื่อ เขากลับก้มหน้าก้มตาซ้อม และเมื่อเขาได้โอกาศในการลงสนามเขาก็เล่นได้ตามมาตรฐานของเขา มูรินโญ่ก็แมนพอที่ว่าเมื่อคุณทำผลงานดีคุณก็ได้เป็นตัวจริง หรือจะผู้รักษาประตูที่เคยทำผิดกฏสโมสร(ทั้งที่เขาออกมาบอกว่าเขาไม่ได้ทำผิดกรณีให้สัมภาษกับสื่อ สื่อนึง)จนโดนแบนแต่เขาก็ไม่ได้ออกมาโวยวายเขาก้มหน้าก้มตาซ้อม และเมื่อเขากลับมาจากการโดนแบนมูรินโญ่ก็ให้เขาลงสนามเหมือนเดิม แต่ป็อกบามันไม่เป็นเช่นนั้นป็อกบาพยายามแสดงพฤติกรรมว่าเขาไม่ชอบมูรินโญ่และการทำทีมของเขาที่บางครั้งโดนจับไปเล่น B2B หรือ DMC ทัศนคติในการเล่นของป็อกบาก็แย่เช่นกันบางจังหวะเขาควรจะเล่นเกมเร็วแต่เขากลับดึงบอลเล่นท่าก่อนจนทีมตรงข้ามเซ็ตเกมรับทัน บางจังหวะก็เล่นสกิลจนผู้เล่นตรงข้ามเข้ามากดดันแล้วก็ส่งบอลไปให้เพื่อนไม่ต่างอะไรกับการโยนขี้ให้เพื่อนเลย หรือจะจังหวะยิงทิ้งยิงขว้าง ทีมกำลังบุกกำลังเข้าทำอยู่หน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่งแทนที่ป็อกบาจะค่อยๆเซ็ตบอลเข้าทำ แต่เขาเลือกยิงไกล ได้ลุ้นบ้างไม่ได้ลุ้นบ้างแต่ส่วนใหญ่จะได้แค่เสียว
ในเมื่อมีนักเตะหนึ่งคนเริ่มรุกขึ้นมาต่อต้านผู้จัดการทีมแล้ว และมูรินโญ่ไม่สามารถจัดการนักเตะให้อยู่ในกำมือได้ (นักเตะอาจมีบอร์ดหนุนหลัง) ทีมก็เริ่มแย่ มูรินโญ่นอกจากจะต้องสู้กับทีมตรงข้ามแล้วยังต้องสู้กับทีมตัวเองอีกมันจะเป็นเช่นไร
          เริ่มต้นซีซั่น 2018-2019 ทีมก็เล่นในรูปแบบเดิมคือเน้นเกมรับ แต่ทีมก็ยังเสียประตูอยู่เรื่อยๆ มูรินโญ่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเอาแม็คโทมิแนร์ไปยืนเซ็นเตอร์หรือการที่ให้กองกลางลงไปคอยช่วยกองหลังแต่ก็ไม่สำเร็จ หรือจะปัญหาเรื่องแบ็คซ้ายขวา แบ็คซ้ายได้ชอว์กลับมา แต่แบ็คขวาที่ซื้อมาอย่างดาโร่ก็เจ็บ จนต้องเอานักเตะที่อายุแตะเลข3แล้ว และเป็นปีกมาก่อนมาเป็นแบ็ค ทำให้เกมรับด้านข้างของแมนยูไม่ได้ดีเลย เราจะเห็นได้ว่า4กองหลังตัวจริงของแมนยูเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่เคยเหมือนกันสักนัด ในเมื่อกองหลังเปลี่ยนไปทุกนัดความเขาใจกันและความสเถียนมันไม่มี ภาระหนักก็ตกไปอยู่ที่เดเกอาที่พยายามเซฟให้แมนยูแต่ก็เสียประตูเป็นว่าเล่น (สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นคือปีที่แล้วเดเกอาเซฟได้ก็จะรุกมาตะโกนหรือปลุกใจเพื่อนแต่ปีนี้เซฟได้เขากลับทำหน้าเครียดและเล่นต่อแทบจะไม่มีการตะโกนหรือตีมือเพื่อนเลย) แล้วกองกลางก็ยังมีก้างอันใหญ่อย่างป็อกบา แต่ในเมื่อคุณทำผลงานดีมูรินโญ่ก็จะให้คุณลง แต่ช่วงหลังเขากลับทำผลงานได้ไม่ดีและโดนดร็อป ทีมกลับเล่นดีขึ้น

ฉะนั้นการที่ปลดมูรินโญ่เป็นทางออกทั้งหมดของแมนยูจริงๆหรอ ?
การที่คุณไม่ชอบการทำทีมของมูรินโญ่แล้วต่อสัญญากับมูรินโญ่ทำไม ?
การเปลี่ยนผู้จัดการทีมอาจทำให้ทีมเล่นดีขึ้นจริงๆ แต่กุนซือใหม่ที่ไม่มีประสบการในการทำทีมเล่น ชปล. จะพาทีมไปได้ถึงไหน ?
เอ็ดคือคนที่ควรทำงานในตำแหน่งนี้ต่อจริงๆหรอ ?
ในเมื่อคุณบอกว่า DNA ของแมนยูคือการเดินหน้าบุกใส่คู่แข่งและไม่ยอมแพ้แต่ทำไมเลือก กุนซือเกมรับอย่างมูรินโญ่ละ ?
มูรินโญ่คือแพะรับบาปของแมนยู ?

          ปล. รอดูทีมต่อไปที่มูรินโญ่คุมได้เลย ผมว่ายังไงก็ประสบความสำเร็จถ้าเขาได้นักเตะที่เขาอยากได้ และเขาได้สิทธขาดในการทำทีม
นี่เป็นครั้งแรกในการเริ่มเขียนกระทู้ อาจจะมีการพูดวกวนหรือมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัย
ข้อมูลช่วงไหนผิดหรือถูกยังไงแย้งได้เลยนะครับ เรามาวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านแล้วเหมือนพยายามบอกว่ามูรินโญ่ไม่ผิดสักอย่าง แต่ทุกอย่างรอบตัวมูรินโญ่ผิดหมด

แน่นอนครับ ผมยอมรับว่าเอ็ดก็ทำงานมีข้อบกพร่อง
แต่เทียบเป็นสัดส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลว มูก็ยังต้องรับผิดชอบไปเยอะกว่าเอ็ดอยู่ดีครับ

ทักษะการเป็นเจ้าคนนายคน มูเน้นพระเดชเป็นหลัก อาจจะถูกใจสายฮาร์ดคอร์หรือนักบอลแนวใจใหญ่แบบอิบรา ดรอกบา มาเต
แต่ถ้าคนที่เป็นลูกทีมคุณไม่ใช่แบบนั้น รู้ทั้งรู้ว่าพระเดชอย่างเดียวเอาไม่อยู่ต้องใช้พระคุณด้วย แต่มูก็ยังตั้งหน้าตั้งตาใช้พระเดชอย่างเดียวต่อไป

ตัวผู้เล่นไม่ได้ตามต้องการ เมื่อออกมาเรียกร้องมากๆแล้วเอ็ดก็ยังไม่ตอบรับ
สิ่งที่มืออาชีพควรจะทำมีแค่ 2 อย่างครับ
1. บอกลางานนั้นด้วยตนเอง เพราะแนวทางไปด้วยกันไม่ได้
2. ก้มหน้าก้มตาแก้ปัญหาแล้วพางานไปให้รอด
แต่สิ่งที่มูเลือกกลับเป็นเส้นทางที่ 3 คือพังงานนั้นซะเลยโดยการจัดตัวส่งๆ เล่นดีเปลี่ยนออกเล่นกระจอกเปลี่ยนเข้า
พอผลงานไม่ดีก็ได้ทีขี่แพะไล่ สัมภาษณ์ด่ากราดตั้งแต่ผู้เล่นที่เป็นเหยื่อไปจนถึงบอร์ดบริหารเพื่อส่งใจความว่า
"เห็นไหมเพราะคุณไม่ซัพพอร์ทผม ทีมเลยผลงานย่ำแย่ อยากให้ผลงานดี คุณก็ซื้อตัวมาใหม่ให้ผมสิ"

และในเดือน ธ.ค. ที่ผมเบื่อมากเวลาอ่านข่าวคือบรรดาคนรอบตัวมู บางทีก็อ้างว่าเพื่อนสนิทบ้าง บางทีก็อดีตโฆษกบ้าง
พากันดาหน้าออกมาให้สัมภาษณ์โยนทุกอย่างไปที่เอ็ดกันหมด
เรียกว่าโยนกันจน 11 คนที่ซื้อมานี่ไม่มีฝีมือมูสักคน เป็นฝีมือเอ็ดล้วนๆ
แต่หลักฐานใน Internet มีอยู่เยอะแยะ ตอนเซ็นซื้อตัวมูพูดว่ายังไงต่อนักเตะแต่ละคนที่ซื้อมา
ลอง Google ดูได้เลยครับว่า Source ของข้อมูลจำพวก "มูไม่ได้ต้องการ เอ็ดซื้อเองตามใจ" มันมาจากไหนบ้าง
มันเป็นเกมการเมืองนอกสนามที่เล่นใหญ่รัชดาลัยมาก
ผมว่าเรื่องนี้บอร์ดก็เอามาประกอบการตัดสินใจปลดด้วย เพราะมันขยายออกไปนอกสโมสรแล้ว และเหิมเกริมท้าทายอำนาจบอร์ดบริหารมากจนล้ำเส้น


ขอโทษครับที่บ่นยาว
กลับมาตอบคำถามของ จขกท. กันบ้าง ที่ถามว่า "การปลด"มูรินโญ่"เป็นทางออกของแมนยูจริงหรอ?"
คำตอบคือ.... เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม จริงๆก็ไม่ต้นลมหรอกเพราะไฟมันลามไปเยอะแล้ว
แต่ก็ต้องตัดแหล่งไฟอันแรกไปก่อนที่มันจะก่อเพลิงไหม้ไปมากกว่านี้
จากนั้นค่อยหาทางดับไฟที่กำลังลุกอยู่ แล้วค่อยๆป้องกันแหล่งไฟอื่นลุกขึ้นมา แล้วค่อยซ่อมแซมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่