สวัสดีค่ะ
มีเรื่องมาปรึกษาเพื่อนๆในพันทิปเพราะเราไม่รู้จะหันไปทางไหนดีค่ะ
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราทำงานอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาเอกชนเล็กๆที่บ้าน ตจว.ค่ะ ตอนแรกที่โรงเรียนนี้มีสาขาเดียว มีพนักงาน 3 คน เราเข้าไปในฐานะธุรการเรามีหน้าที่ทำเอกสารการเรียน จนทำได้เดือนกว่าเราได้รับหน้าที่หลายบทบาทในที่ทำงานนี้ เขาให้เราเข้าไปที่ออฟฟิศกรุงเทพเราก็ไป โดยที่ปล่อยให้แม่เราและลูกสาวอยู่บ้านกันลำพัง (ออฟฟิศที่กรุงเทพก็เป็นบริษัทอีกที่หนึ่งทำธุรกิจอีกด้านค่ะ แต่เป็นโรงเรียนเหมือนกัน) จนมาเมื่อเดือนกันยายนโรงเรียนเปิดสาขาที่2 ทำให้เราไปประจำที่นั่น เราเดินทางไปกลับจากที่ทำงานและบ้านประมาณ 30 กิโล (รวมแล้วก็ 60 Km.) ช่วงแรกเราขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเองไม่ได้เบิกค่าน้ำมัน ค่าเดินทางเพิ่ม จนมาวันหนึ่งเราได้ข้อเสนอจากทางที่ทำงานว่าจะออกเงินซื้อรถยนต์ให้ด้วยงบ 6 หมื่นเป็นเงินกู้นะคะโดยไม่มีดอกเบี้ย (ภายใต้เงื่อนไขถ้ายังเป็นพนักงานอยู่) ผ่านมาสักเดือนกว่าปัญหาเริ่มมาที่เราบ้าง (ด้วยความที่เจ้านายอาจจะคาดหวังว่าเราต้องทำได้ดีเท่าที่เขาต้องการ) แต่ด้วยภาระและงานที่เราทำคนเดียวตั้งแต่เปิดประตูสาขา ทำความสะอาดสาขา ทำชีทเรียนให้น้องๆ ที่มาสมัครเรียน คอยดูตารางคอร์ส และยังประสานงานกับฝ่ายบัญชี ประสานงานกับทางราชการเรื่องเอกสารที่จัดตั้งสาขา2 เรารู้ว่างานที่เขาให้เรามามันคือโอกาส แต่หลายครั้งที่งานมันไม่คืบหน้า มันทำให้เราไม่มีผลงานและโดนตำหนิ เราก็ปรับปรุง
บางเรื่องเราไม่สามารถที่จะทำได้เนื่องจากข้อมูลของโรงเรียน ของเจ้านาย เราไม่ครบถ้วน ปรึกษาพี่คนเก่าเขาก็บอกไม่รู้ เจ้านายก็ไม่เคยที่จะมาสนใจในสาขานี้เลย เด็กไม่ค่อยมีก็หาว่าเราไม่หาเด็กมา ทำไมเด็กน้อย แต่ทางเจ้านายไม่เคยเข้ามาซัพพอร์ต ไม่เคยถามไถ่สาขานี้เลย ถ้าไม่มีเข้ามาสอนก็แทบไม่ได้เจอเจ้านายเลย เราอยากรู้ว่าที่เขาบอกว่า ที่นี่อยู่แบบครอบครัว
แต่เรารู้สึกว่าตั้งแต่เราย้ายมาที่สาขา2 เราเป็นคนนอก เทศกาลคริสต์มาสทางสาขาใหญ่จัดต้นไม้ จัดสวยงาม แต่สาขา2 เงียบมากไม่มีใครใส่ใจ (ประเด็นนี้เราแค่รู้สึกเฉยๆ แต่ก็รู้สึกแหละ) อย่างวันนี้ทำบุญที่สาขา1 แต่สาขา2 ทำงานไม่ไ้ไปร่วมทำบุญด้วย นี่เหลือคะคำว่าครอบครัว เรารู้สึกว่าเราเป็นคนอื่นมากกว่า เราไม่รู้จะไปปรึกษาใคร
ที่นี่ไม่มีฝ่ายบุคคล (ตัวเราเองก็ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล) ประสานงานในเรื่องคนเข้าออกกับประกันสังคม
เรารู้สึกน้อยใจนะ แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าเขาจะยังไงก็ชั่งแค่เราทำหน้าที่ของเรา
ยังดีนะที่เรามีงานทำอยู่ แค่เขามีเงินเดือนให้ก็ดีแล้วนี่
เราก็ได้แต่คิดแค่นี้
แต่บางทีก็น้อยเนื้อต่ำใจ
รบกวนขอคำปรึษาหน่อยค่ะว่าเราต้องทำไงต่อ
เมื่อเรารักที่ทำงาน แต่ที่ทำงานไม่รักเรา
#ขอบคุณสำหรับท่านที่อ่านจนจบ
#กราบขออภัยถ้าหากคำตกหล่น พิมพ์ไม่ถูกบ้าง
รักบริษัท แต่บริษัทไม่รักเรา เราควรที่จะรักต่อไปไหม?? (ปรึกษาหน่อยค่ะ)
มีเรื่องมาปรึกษาเพื่อนๆในพันทิปเพราะเราไม่รู้จะหันไปทางไหนดีค่ะ
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราทำงานอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาเอกชนเล็กๆที่บ้าน ตจว.ค่ะ ตอนแรกที่โรงเรียนนี้มีสาขาเดียว มีพนักงาน 3 คน เราเข้าไปในฐานะธุรการเรามีหน้าที่ทำเอกสารการเรียน จนทำได้เดือนกว่าเราได้รับหน้าที่หลายบทบาทในที่ทำงานนี้ เขาให้เราเข้าไปที่ออฟฟิศกรุงเทพเราก็ไป โดยที่ปล่อยให้แม่เราและลูกสาวอยู่บ้านกันลำพัง (ออฟฟิศที่กรุงเทพก็เป็นบริษัทอีกที่หนึ่งทำธุรกิจอีกด้านค่ะ แต่เป็นโรงเรียนเหมือนกัน) จนมาเมื่อเดือนกันยายนโรงเรียนเปิดสาขาที่2 ทำให้เราไปประจำที่นั่น เราเดินทางไปกลับจากที่ทำงานและบ้านประมาณ 30 กิโล (รวมแล้วก็ 60 Km.) ช่วงแรกเราขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเองไม่ได้เบิกค่าน้ำมัน ค่าเดินทางเพิ่ม จนมาวันหนึ่งเราได้ข้อเสนอจากทางที่ทำงานว่าจะออกเงินซื้อรถยนต์ให้ด้วยงบ 6 หมื่นเป็นเงินกู้นะคะโดยไม่มีดอกเบี้ย (ภายใต้เงื่อนไขถ้ายังเป็นพนักงานอยู่) ผ่านมาสักเดือนกว่าปัญหาเริ่มมาที่เราบ้าง (ด้วยความที่เจ้านายอาจจะคาดหวังว่าเราต้องทำได้ดีเท่าที่เขาต้องการ) แต่ด้วยภาระและงานที่เราทำคนเดียวตั้งแต่เปิดประตูสาขา ทำความสะอาดสาขา ทำชีทเรียนให้น้องๆ ที่มาสมัครเรียน คอยดูตารางคอร์ส และยังประสานงานกับฝ่ายบัญชี ประสานงานกับทางราชการเรื่องเอกสารที่จัดตั้งสาขา2 เรารู้ว่างานที่เขาให้เรามามันคือโอกาส แต่หลายครั้งที่งานมันไม่คืบหน้า มันทำให้เราไม่มีผลงานและโดนตำหนิ เราก็ปรับปรุง
บางเรื่องเราไม่สามารถที่จะทำได้เนื่องจากข้อมูลของโรงเรียน ของเจ้านาย เราไม่ครบถ้วน ปรึกษาพี่คนเก่าเขาก็บอกไม่รู้ เจ้านายก็ไม่เคยที่จะมาสนใจในสาขานี้เลย เด็กไม่ค่อยมีก็หาว่าเราไม่หาเด็กมา ทำไมเด็กน้อย แต่ทางเจ้านายไม่เคยเข้ามาซัพพอร์ต ไม่เคยถามไถ่สาขานี้เลย ถ้าไม่มีเข้ามาสอนก็แทบไม่ได้เจอเจ้านายเลย เราอยากรู้ว่าที่เขาบอกว่า ที่นี่อยู่แบบครอบครัว
แต่เรารู้สึกว่าตั้งแต่เราย้ายมาที่สาขา2 เราเป็นคนนอก เทศกาลคริสต์มาสทางสาขาใหญ่จัดต้นไม้ จัดสวยงาม แต่สาขา2 เงียบมากไม่มีใครใส่ใจ (ประเด็นนี้เราแค่รู้สึกเฉยๆ แต่ก็รู้สึกแหละ) อย่างวันนี้ทำบุญที่สาขา1 แต่สาขา2 ทำงานไม่ไ้ไปร่วมทำบุญด้วย นี่เหลือคะคำว่าครอบครัว เรารู้สึกว่าเราเป็นคนอื่นมากกว่า เราไม่รู้จะไปปรึกษาใคร
ที่นี่ไม่มีฝ่ายบุคคล (ตัวเราเองก็ทำหน้าที่ฝ่ายบุคคล) ประสานงานในเรื่องคนเข้าออกกับประกันสังคม
เรารู้สึกน้อยใจนะ แต่อีกใจนึงก็รู้สึกว่าเขาจะยังไงก็ชั่งแค่เราทำหน้าที่ของเรา
ยังดีนะที่เรามีงานทำอยู่ แค่เขามีเงินเดือนให้ก็ดีแล้วนี่
เราก็ได้แต่คิดแค่นี้
แต่บางทีก็น้อยเนื้อต่ำใจ
รบกวนขอคำปรึษาหน่อยค่ะว่าเราต้องทำไงต่อ
เมื่อเรารักที่ทำงาน แต่ที่ทำงานไม่รักเรา
#ขอบคุณสำหรับท่านที่อ่านจนจบ
#กราบขออภัยถ้าหากคำตกหล่น พิมพ์ไม่ถูกบ้าง