เพียงชายคนนี้ ไม่ใช่ผู้วิเศษ..

สังเกตอะไรไหมครับ ในตอนที่เรามีมินโญ่เล่ต์และคาริอุสเป็นผู้รักษาประตู ทุกครั้งที่เวลาทั้งคู่ทำพลาดแบบไม่ควรพลาด แฟนหงส์บางท่านจะเอ่ยถึงชื่อชื่อหนึ่งอยู่บ่อยๆ พร้อมกับย้ำว่าน่าจะหาคนอื่นมาทำหน้าที่แทนได้แล้ว ครั้นเมื่อเราได้อลิสซง เบคเกอร์มาเฝ้าเสา ฟอร์มระดับโลกของอลิสทำให้เราต่างยกย่องในฝีมือการเซฟประตู แต่กลับลืมชื่อคนคนนั้นไปไม่มีคำชื่นชม ทั้งๆที่ชายคนนี้ก็ยังทำงานในหน้าที่เดิมอยู่เสมอ ไม่ได้หายไปไหนเลย

ชายที่ชื่อ จอห์น อัชเตอเบิร์ก โค้ชผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล

อัชเตเบิร์กเริ่มงานกับทีมเยาวชนในสมัยของราฟา เบนิเตซ ก่อนที่คิง เคนนี่จะโปรโมทให้เลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่ในทีมชุดใหญ่ และก็ทำหน้าที่นี้ในยุคของรอดเจอร์สจนมาถึงปัจจุบันกับคลอปป์ ซึ่งเมื่อคลอปป์มารับงานที่ลิเวอร์พูล ถึงแม้ว่าจะได้นำทีมงานคู่ใจมาด้วยทั้งปีเตอร์ คราเวียร์ซ และ เซลโก้ บูวัช แต่อัชเตอเบิร์กก็ยังคงได้ทำหน้าที่เดิมต่อไปในถิ่นแอนฟิลด์ ไม่มีใครในสโมสรสงสัยในความสามารถของจอห์น คำถามจึงมีว่า เป็นเพราะจอห์นทำหน้าที่โค้ชได้ไม่ดี หรือเพราะเรามีโกล์ที่ไม่เก่งพอกันแน่ ?

บรู้ซ กร้อบเบลล่า อดีตยอดโกล์ของเราเคยวิพากษ์วิจารณ์อัชเตอเบิร์กถึงการทำงานมาแล้ว และก็เคยยอมรับว่าสนใจที่จะมารับงานในตำแหน่งนี้แทนอัชเตอเบิร์กด้วยถ้าได้รับข้อเสนอจากหงส์แดง บรู้ซเคยให้สัมภาษณ์กับBBCไว้ว่า “แต่ก่อนผมมักจะวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้รักษาประตูของเรา แต่ผมจะหยุดพูดแล้ว เพราะผมคิดว่าคนที่ควรโดนตำหนิคือจอห์น อัชเตอเบิร์ก โค้ชของเรามากกว่า และถ้าภายในสองปีนี้อัชเตอเบิร์กไม่สามารถทำให้มินโญ่เล่ต์กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้ง เค้าก็ไม่ควรจะอยูที่นี่อีกต่อไป”

ถึงจะโดนวิจารณ์หนักจากหลายๆคน แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ควรรู้ก็คือ อัชเตอเบิร์กเป็นผู้ที่เชียวชาญเกี่ยวกับตำแหน่งผู้รักษาประตูเพียงคนเดียวในพรีเมียร์ลีค ที่ได้UEFA Pro Licence และเป็นสต๊าฟเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จากยุคของเบรนดอน รอดเจอร์ส
และถ้าจะวิจารณ์ด้วยความเป็นธรรมแล้ว การที่ผู้รักษาประตูพากันฟอร์มตกในช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินความสามารถของอัชเตอเบิร์กในเรื่องของการโค้ชเลยแม้แต่น้อย

มันมีแทคติคของผู้รักษาประตูมากมายเวลาที่อยู่ในสนาม เช่นการใช้ภาษากายในการสื่อสารของคุณ การแสดงความเป็นตัวตนของคุณในสนามอย่างมั่นใจเพื่อที่จะควบคุมเกมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมันก็เกี่ยวกับการตัดสินใจที่ถูกต้องรวดเร็วด้วยเช่นกัน หนึ่งในคำวิจารณ์เกี่ยวกับมินนี่ก็คือ มินโญเล่ต์จะไม่ค่อยออกคำสั่งในบริเวณกรอบเขตโทษ ไม่ดุดันมากพอ หรือจะพูดว่ามินนี่เงียบเกินไปก็ได้ ในช่วงที่มินนี่อยู่ในฟอร์มที่ไม่ค่อยดี อัชเตอเบิร์กบอกว่า”เราคุยกัน และพยายามหาวิธีการฝึกซ้อมที่เข้มข้นและดุดันมากขึ้น”

หลังจากนั้น ลอริส คาริอุสได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม แต่ก็ได้ลงเล่นน้อยมาก(ในขณะนั้น) และต้องรอโอกาสอยู่นานกว่าที่คลอปป์จะตัดสินใจยกตำแหน่งมือหนึ่งให้คาริอุส มีคำถามเกิดขึ้นว่า การที่คาริอุสต้องใช้เวลานานขนาดนั้น เป็นเพราะผลจากการฝึกซ้อมของอัชเตอเบิร์กเอง หรือเพราะคาริอุสยังไม่แจ่มแจ๋วเพียงพอ ซึ่งช่วงที่ต้องเป็นตัวสำรองอยู่ข้างสนาม สถิติบ่งบอกว่าเปอเซนต์การเซฟประตูของคาริอุสไม่ดีเท่าของมินโญเล่ต์
ลอริส คาริอุส เคยถูกโหวตให้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดอันดับสองในบุนเดสลีกาก่อนที่เขาจะย้ายมาลิเวอร์พูล และก็มีข้อถกเถียงกันว่าบางทีคาริอุสอาจจะไม่ได้รับการฝึกฝนที่หนักและเข้มข้นเพียงพอ อย่างน้อยก็ให้อยู่ในระดับเดียวกับที่มินโญเล่ต์ฝึก แต่ด้วยอายุแค่24ปี ทำให้คาริอุสจะมีเวลาในการพัฒนาฝีมือมากกว่ามินโญเล่ต์ที่อายุจะครบ30ปี แต่แล้วความคาดหวังของสโมสรและความมั่นใจในฝืมือตัวเองของคาริอุสก็มีเวลาแค่เพียงช่วงสั้นๆ เมื่อแมทช์ชิงแชมป์UCLสิ้นสุดลง

มีความเป็นไปได้มากที่ลิเวอร์พูลจะมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่ในตลาดหน้าร้อนนี้(อลิสซง เบคเกอร์) ในขณะที่อัชเตเบิร์กก็จะยังได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งโค้ชผู้รักษาประตูต่อไป เพราะคลอปป์ยังคงเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจในโค้ชผู้รักษาประตูที่มีUEFA Pro Licenceเพียงหนึ่งเดียวของพรีเมียร์ลีคคนนี้เป็นอย่างมาก

เจอร์เก้น คลอปป์เองก็รับรู้ถึงคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น และได้ออกมาปกป้องหนึ่งในสต๊าฟโค้ชของเขาคนนี้ด้วยเช่นกัน
“ผมพอใจกับกลุ่มนักเตะในตำแหน่งผู้รักษาประตูของเรานะ และก็เชื่อมั่นในฝีมือของจอห์น อัชเตเบิร์ก ด้วย เพราะจอห์นทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมเลยที่นี่” “จอห์นเป็นคนที่ทำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเห็น ผมว่าเค้าคงจะทำงานตลอด 25 ชม. เป็นแน่” “ไม่มีเหตุผลเลยที่จะตำหนิการทำงานของจอห์น จอห์นเป็นพวกที่บ้าเรื่องผู้รักษาประตูมาก เขาทำงานไม่หยุดหย่อน ในขณะที่แฟนบอลบางคนที่นั่งดื่มอยู่ในผับ แล้วคิดว่าตัวเองรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล แต่ถ้าคุณลองไปถามพวกนี้ดูว่าโค้ชผู้รักษาประตูทำหน้าที่อะไรบ้าง พวกเค้าก็จะพากันบอกว่า ก็ซ้อมรับบอลกับป้องกันประตูยังไงล่ะ พวกเค้าไม่เคยรู้อะไรเลยเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆอีกมากมาย”

คลอปป์ยังกล่าวต่ออีกว่า “ผมมักจะเห็นจอห์นเป็นคนแรกที่ออฟฟิศเสมอ ไม่ว่าผมจะมาที่สโมสรเช้าแค่ไหนผมก็จะเห็นจอห์นนั่งอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับเปิดแลปทอปเฝ้าดูฟอร์มการเล่นของบรรดาผู้รักษาประตูทั่วโลก”
“ผมอาจจะพอเข้าใจได้ว่า เพราะความผิดพลาดของผู้รักษาประตูของเราในช่วงสองสามฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้เหล่าบรรดาแฟนๆไม่ค่อยจะแฮปปี้นัก และก็หาแพะโดยการโทษว่าเป็นความผิดของจอห์น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องเลย แต่ปัจจุบันเราแก้ปัญหาได้แล้วในที่สุด ด้วยการทีมีผู้รักษาประตูที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ ซึ่งก็แน่นอนที่ทุกคนก็แฮปปี้กับเรื่องนี้มาก”


ลิเวอร์พูล สโมสรที่หลายปีที่ผ่านมา มักจะมีปัญหากับตำแหน่งผู้รักษาประตูมาตลอด แต่ปัจจุบันนี้ปัญหาได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้วอย่างเยี่ยมยอด

บทสรุปของเรื่องนี้ก็คือ ลิเวอร์พูลได้ก้าวข้ามผู้รักษาประตูที่มักจะทำผิดพลาดอยู่บ่อยๆ เพื่อไปหาคนใหม่ และได้แล้วในตอนนี้ แทนที่จะหาคนมาแทนในตำแหน่งโค้ชผู้รักษาประตูที่มีผลงานเช่นจอห์น อัชเตอเบิร์ก ซึ่งได้รับการยอมรับในความสามารถจากผู้จัดการทีมทั้งสี่คนของลิเวอร์พูลที่เคยร่วมงานด้วย


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
เป็นบทความที่ออกมาหลายเดือนแล้ว แต่พยายามจะแปลให้เป็นปัจจุบันครับ ไทม์ไลน์เลยอาจจะมั่วๆหน่อย 55
https://www.givemesport.com/1370094-jurgen-klopp-responds-to-liverpool-fans-who-want-john-achterberg-gone
https://www.theanfieldwrap.com/2018/01/liverpools-goalkeepers-a-lack-of-quality-or-lacklustre-coaching-a-look-at-john-achterbergs-influence/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่