ที่ส้มหล่นเฮ! คลังยอมถอย "ภาษีลาภลอย"
http://www.thansettakij.com/content/363124
คลังสั่งถอยร่างภาษีลาภลอย หลังความเห็นไม่ตรงกฤษฎีกา เบนเข็มผลักดันกฎหมายที่เป็นโครงสร้างแทน เดินหน้าออกกฎคุมลีสซิ่ง 'เงินติดล้อ' ต่อ ด้านผู้ประกอบการเสียใจ หวังสร้างการแข่งขันเป็นธรรมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. .... เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
"ภาษีลาภลอย" หรือ Windfall Tax เป็นภาษีที่เก็บจากผู้ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นาย
ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยกับ
"ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สศค. จะไม่ผลักดันต่อ เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันกับสำนักงานกฤษฎีกา จึงไม่อยากเสียเวลา เพราะเป็นคณะทำงานชุดเดียวกัน แต่จะหันมาผลักดันกฎหมายที่ชัดเจนกว่าอะไรที่เป็นโครงสร้าง เพื่ออานิสงส์ระยะยาว เพื่อให้ทันในรัฐบาลชุดนี้ อย่าง ร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการตั้งหน่วยงานกำกับขึ้นมาดูแล ธุรกิจประเภทสินเชื่อห้องเช่า สินเชื่อมอเตอร์ไซค์
'เงินติดล้อ' ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล
สาเหตุส่วนหนึ่งที่จะไม่ผลักดันต่อ เนื่องจากหากมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้นก็ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอยู่ดี ซึ่งมีผลบังคับไปแล้ว ขณะ Windfall Tax เป็นอีกขั้นหนึ่ง และเชื่อว่าเก็บไม่ได้มากนัก ขณะที่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเก็บได้และดีกว่าภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือน
"ที่ผ่านมา คนพูดสับสนในเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะไปมองแต่เรื่องรายได้ แต่วัตถุประสงค์หลัก คือ ลดการใช้ดุลพินิจ เพราะภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนมีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่มาก เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน แล้วก็เก็บได้น้อย แต่กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะไม่มีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างเป๊ะ ใครมาประเมินก็ต้องประเมินเท่านี้ ไม่มีสิทธิ์ประเมินให้ต่ำกว่าได้เลย เพราะราคาที่ดินมาจากคอมพิวเตอร์ เป็นตัวเลขที่กรมธนารักษ์ทำส่งให้ ประเมินราคาตามตารางเมตรไปเลย"
นอกจากนั้น ภายใต้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังมีการประกาศไว้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้รู้ว่า ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีและเสียในอัตราไหน หากคนที่บ้านติดกัน ขนาดต่างกัน แต่เสียน้อยกว่า ก็จะมีการอุทธรณ์ การตรวจสอบ จะเกิดความโปร่งใส แม้อัตราภาษีจะลดลง แต่ฐานใหญ่ขึ้น เป็นเรื่องดึงคนเข้ามาระบบ ส่วนในอนาคต หากรัฐบาลกล้าตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีก็สามารถทำได้ เพราะหลักภาษีที่ดิน คือ คนเสียให้เยอะ ฐานให้กว้าง และเสียให้ต่ำ
ด้าน นางสาว
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดิมทีเห็นด้วยกับการที่รัฐต้องการผลักดันภาษีลาภลอยให้เกิดขึ้น เนื่องจากจะเป็นธรรมต่อการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ เช่น โครงการระบบไฟฟ้า ต่างก่อสร้างด้วยเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ แต่คนที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ที่ดินโดยรอบ กลับเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่ครอบครองที่ดินอยู่เดิมแล้ว ทั้งยังจะสามารถสร้างกำไรจากการพัฒนาโครงการได้เป็นจำนวนมาก จากศักยภาพของที่ดินที่สูงมหาศาล
"หากไม่มีภาษีลาภลอย สถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ คงไม่แตกต่างจากปัจจุบัน ที่ใครเผอิญมีที่ดินใกล้แนวรถไฟฟ้าที่จะสร้างก็จะโชคดี ทำโครงการขายได้กำไรมากกว่าที่ควรจะได้ เพราะตั้งราคาขายสูงได้ แต่ด้วยหลักการของภาษี ก็เข้าใจได้ว่า คงเกิดขึ้นยากในแง่ของการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนธรรมดา หรือ ฐานะผู้พัฒนา จะแฟร์ต่อตลาดถ้ามีภาษีดังกล่าว" นางสาว
เกษรา กล่าว
JJNY : ที่ส้มหล่นเฮ! คลังยอมถอย "ภาษีลาภลอย"/ผู้ค้าไม่ทนยากไร้-ล้มตาย อารยะขัดขืนระเบียบทางเท้า
http://www.thansettakij.com/content/363124
คลังสั่งถอยร่างภาษีลาภลอย หลังความเห็นไม่ตรงกฤษฎีกา เบนเข็มผลักดันกฎหมายที่เป็นโครงสร้างแทน เดินหน้าออกกฎคุมลีสซิ่ง 'เงินติดล้อ' ต่อ ด้านผู้ประกอบการเสียใจ หวังสร้างการแข่งขันเป็นธรรมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. .... เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ภาษีลาภลอย" หรือ Windfall Tax เป็นภาษีที่เก็บจากผู้ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สศค. จะไม่ผลักดันต่อ เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันกับสำนักงานกฤษฎีกา จึงไม่อยากเสียเวลา เพราะเป็นคณะทำงานชุดเดียวกัน แต่จะหันมาผลักดันกฎหมายที่ชัดเจนกว่าอะไรที่เป็นโครงสร้าง เพื่ออานิสงส์ระยะยาว เพื่อให้ทันในรัฐบาลชุดนี้ อย่าง ร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการตั้งหน่วยงานกำกับขึ้นมาดูแล ธุรกิจประเภทสินเชื่อห้องเช่า สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ 'เงินติดล้อ' ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล
สาเหตุส่วนหนึ่งที่จะไม่ผลักดันต่อ เนื่องจากหากมูลค่าที่ดินที่สูงขึ้นก็ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอยู่ดี ซึ่งมีผลบังคับไปแล้ว ขณะ Windfall Tax เป็นอีกขั้นหนึ่ง และเชื่อว่าเก็บไม่ได้มากนัก ขณะที่ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเก็บได้และดีกว่าภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือน
"ที่ผ่านมา คนพูดสับสนในเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะไปมองแต่เรื่องรายได้ แต่วัตถุประสงค์หลัก คือ ลดการใช้ดุลพินิจ เพราะภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนมีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่มาก เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน แล้วก็เก็บได้น้อย แต่กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะไม่มีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างเป๊ะ ใครมาประเมินก็ต้องประเมินเท่านี้ ไม่มีสิทธิ์ประเมินให้ต่ำกว่าได้เลย เพราะราคาที่ดินมาจากคอมพิวเตอร์ เป็นตัวเลขที่กรมธนารักษ์ทำส่งให้ ประเมินราคาตามตารางเมตรไปเลย"
นอกจากนั้น ภายใต้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยังมีการประกาศไว้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้รู้ว่า ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีและเสียในอัตราไหน หากคนที่บ้านติดกัน ขนาดต่างกัน แต่เสียน้อยกว่า ก็จะมีการอุทธรณ์ การตรวจสอบ จะเกิดความโปร่งใส แม้อัตราภาษีจะลดลง แต่ฐานใหญ่ขึ้น เป็นเรื่องดึงคนเข้ามาระบบ ส่วนในอนาคต หากรัฐบาลกล้าตัดสินใจเพิ่มอัตราภาษีก็สามารถทำได้ เพราะหลักภาษีที่ดิน คือ คนเสียให้เยอะ ฐานให้กว้าง และเสียให้ต่ำ
ด้าน นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดิมทีเห็นด้วยกับการที่รัฐต้องการผลักดันภาษีลาภลอยให้เกิดขึ้น เนื่องจากจะเป็นธรรมต่อการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ เช่น โครงการระบบไฟฟ้า ต่างก่อสร้างด้วยเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ แต่คนที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ที่ดินโดยรอบ กลับเป็นคนเพียงไม่กี่คนที่ครอบครองที่ดินอยู่เดิมแล้ว ทั้งยังจะสามารถสร้างกำไรจากการพัฒนาโครงการได้เป็นจำนวนมาก จากศักยภาพของที่ดินที่สูงมหาศาล
"หากไม่มีภาษีลาภลอย สถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ คงไม่แตกต่างจากปัจจุบัน ที่ใครเผอิญมีที่ดินใกล้แนวรถไฟฟ้าที่จะสร้างก็จะโชคดี ทำโครงการขายได้กำไรมากกว่าที่ควรจะได้ เพราะตั้งราคาขายสูงได้ แต่ด้วยหลักการของภาษี ก็เข้าใจได้ว่า คงเกิดขึ้นยากในแง่ของการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนธรรมดา หรือ ฐานะผู้พัฒนา จะแฟร์ต่อตลาดถ้ามีภาษีดังกล่าว" นางสาวเกษรา กล่าว