“ดาราดัง” โดนกับตัว ฤทธิ์ “รถแดงเชียงใหม่”ห่างแค่คืบ คิด 600 บาท (โจ หมี)

https://mgronline.com/politics/detail/9610000125518




**ทำร้ายตัวเอง!! “ดาราดัง”โดนกับตัว ฤทธิ์ “รถแดงเชียงใหม่”ห่างแค่คืบ คิด 600 บาท สะท้อนปัญหาขูดรีดนักท่องเที่ยวไม่เคยแก้ไข ทำนองเดียวกับที่ “ภูเก็ต”เงียบเชียบกระทั่ง “ไฮซีซันส์ ”รุมชี้ตรงกัน “ทำร้ายตัวเอง”ทั้งนั้น สงสัยต้องถึงมือ“บิ๊กโจ๊ก”อดีตรองผู้การท่องเที่ยว ลงไปกวาดล้าง“มาเฟียเจ้าถิ่น”ที่จ้องขูดเลือดนักท่องเที่ยว-คนต่างถิ่นซะละมั้ง



ไวรัลฮิตประจำวัน .. คลิปเดือดๆ ของ “หนุ่มกาย”รัชชานนท์ สุประกอบ ดาราวัยรุ่นคุณพ่อลูกสาม ที่สับแหลกถึงพฤติกรรมเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ที่ประสบพบเจอด้วยตัวเองที่ “เชียงใหม่” ..คู่กรณีเป็น “รถสองแถวเชียงใหม่”ที่หรือที่รู้จักกันดี เรียกกันเคยปากว่า “รถแดง”ผู้ครอบครองตลาดขนส่งมวลชนในพื้นที่ .. เมื่อโบกรถจะโดยสารไปจุดหมายไม่ไกล แค่ 1 กิโลเมตร ปรากฏว่า โดนเรียกราคาสาหัส 600 บาทไทย .. พอกดเข้าแอปพลิเคชั่นรถโดยสารชื่อดัง พบว่าคำนวณออกมา แค่ 52 บาทเท่านั้น .. แต่ก็รู้ว่าเรียกไม่ได้ เกรงจะมีปัญหาบานปลาย ไล่ตี ต่อย ตะเพิดลงจากรถ มีให้เห็นบ่อย ก็เลยยอมเหนื่อย เดินเอา .. "ถามหน่อย ใครจะนั่ง บ้าหรือเปล่า แล้วเราก็ไม่กล้าเรียกไง เลยเดินเอา นี่ขนาดคนไทยนะ แล้วถ้าฝรั่งจะเป็นยังไง ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าราคาจริงๆ เป็นเท่าไหร่ ถ้านั่ง Grab 52 บาท สองแถวก็ควรจะประมาณนั้นไหม" เป็นเสียงบรรยายบางช่วงในคลิป .. อย่างน้อย “หนุ่มกาย”ออกตัวให้ด้วยว่า “ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคัน”แต่หลายคนก็เคยเจอกับตัว บอกเลยว่า “ส่วนใหญ่”.. พร้อมฝากคำถามถึง “มาตรฐานการคำนวณค่าเดินทาง”ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ไม่เคยมีการแก้ไข .. บ่อยครั้งมีการกล่าวถึง “ตลกร้าย”กับการเดินทางในเชียงใหม่ ที่ว่า ถ้าคุณพูด “ภาษาอังกฤษ”คุณจะโดนเรียกค่าโดยสารแพงอย่างไร้เหตุผล .. ถ้าพูด “ภาษากลาง”ก็จะลดลงมาหน่อย แต่ถ้า “อู้กำเมือง”ก็จะได้ราคามาตรฐาน 20 บาทตลอดเส้นทาง ..



ถือเป็นพฤติกรรม “ทำร้ายตัวเอง”ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดดังๆ .. อันดับหนึ่ง “ทอปชาร์ต”ต้องยกให้ที่ “ภูเก็ต”ที่ค่าโดยสารบนเกาะเล็กๆ แพงมหาโหด จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ใกล้ไกลไม่สน สตาร์ทกันที่ 500-600 บาท บางจังหวะไปถึง 800 บาทก็มี บวกกับ “ค่าครองชีพ”ที่ถ้าไม่มีฐานะพอ ก็ไม่ควรย่างกรายไปให้ลำบาก .. กลายเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ตอนนี้กำลังจะมีดรามา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ เงียบเหงา ร้างนักท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นช่วง“ไฮซีซันส์ ”.. เรื่องแบบนี้ไม่ต้องโอดโอยโทษภาครัฐ โทษนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือโทษโศกนาฏกรรมที่ทำให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัว .. ต้องนึกย้อนโทษพฤติกรรมของตัวเองมากกว่า ก็เป็นกันซะแบบนี้ ใครหน้าไหนจะอยากไปถูก“ขูดเลือดขูดเนื้อ”.. ใครทะลึ่งไปชิงตลาดด้วย“ราคาเป็นธรรม” ก็ไม่รอดสันดอน กลายเป็น“เหยื่ออารมณ์”ของ “มาเฟียเจ้าถิ่น”ซะอีก .. วันก่อนเห็นไวๆ “บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช. สตม. อดีตรองผู้การท่องเที่ยว โพสต์ถามแฟนเพจ ให้ช่วยออกแนวคิดทำให้ “ภูเก็ต”กลับมาคึกคักเหมือนเดิม .. ก็อยากฝากให้ “ท่านโจ๊ก”ดูภาพรวมว่า เกิดจากสาเหตุเดียวกันนี่แหละ  

ถึง  “เชียงใหม่ - ภูเก็ต”จะอยู่กันคนละโยชน์ แต่ก็ไม่ต่างกัน .. เอาแต่ได้ กอบโกยกันอย่างอำมหิต กลายเป็น “ทำร้ายตัวเอง”ทั้งนั้น


******************************************************************


พวกคุณทำแบบนี้ เสียชื่อเมืองท่องเที่ยวระดับประเทศ    แล้วใครที่ไหนมันจะอยากไปเที่ยว

เอารัดเอาเปรียบเขาทุกอย่าง       คิดว่านักท่องเที่ยวเป็นคนโง่เหรอ     เขาเข็ดกันหมดแล้ว

นี่ยังไม่รวมห้องพัก โรงแรม   ที่ผุดเหมือนดอกเห็ด    อุปทานมากกว่าอุปสงค์   สร้างเยอะกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง    แล้วมาบ่นเงียบ  ไม่มีใครมาพัก   ติดป้ายขายกันให้เพียบ

คนเห็นแก่ตัว  ใครจะอยากไปคบล่ะ   หืมมมมมมมมม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ดีครับ มันจะได้เจ๊ง กันให้หมด เมื่อก่อนขูด แต่นักท่องเที่ยว เดี๋ยวนี้ คนไทยก็ไม่เว้น อ้างเรื่องเสียคิว


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่