คิดอยู่นานมากว่า จะเขียนกระทู้นี้ดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายแล้วก็ตัดสินใจที่จะเขียนมันออกมา...
เรื่องราวของเราก็คงจะเหมือนใครหลายๆคน ก็คือเริ่มต้นด้วยกาลครั้งหนึ่ง...แล้วก็จบลงด้วย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เราคบกับแฟนตอนเรียนม.5 อยู่ห้องเดียวกัน ตอนแรกก็เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันนี่แหละ แล้วสักพักก็ตัดสินใจคบกัน ช่วงแรกๆที่คบกันก็ดีมาก มีความสุขมาก ก็คือช่วงโปรโมชั่นแหละ แต่โปรโมชั่นก็ผ่านไปไวเหมือนฤดูหนาวเมืองไทย
พอเข้าเดือนที่4ที่คบกัน ตอนที่นั่งเล่นกันกับเพื่อนในกลุ่มเพื่อนเราก็ยืมโทรศัพท์ของแฟนเรามาเล่น เพื่อนเราก็เลยลองเปิดดูข้อความในโทรศัพท์ก็เจอข้อความบอกรักบอกคิดถึงมากมาย ชื่อคนรับเมมไว้ว่า ที่รัก เพื่อนเราก็แซวใหญ่เลย เราเลยบอกว่าไม่เคยมีนะ หลังจากนั้นพอเลิกเรียนเราก็เลยนัดแฟนเราไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องพอถามเขาก็บอกว่า ไม่มีอะไรเป็นแค่พี่สาวที่รู้จักกัน ตอนนั้นก็ไม่เชื่อนะ แต่ก็ยังตัดสินใจคบกันต่อ
หลังจากนั้นก็ยังคบกันไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราก็รู้ว่าเขามีคนอื่น คือเรียนห้องเดียวกัน เลิกเรียนก็กลับบ้านโทรคุยกันบ้าง ออกมากินข้าวด้วยกันบ้าง พอก่อนจะเข้านอนหลังจากที่คุยกับเราเสร็จพอเราวางสายแล้วลองโทรไปหาเขาอีกทีก็ขึ้นโชว์ว่าเป็นสายซ้อน แล้วก็ไม่เคยรับโทรศัพท์เราเลยจนเช้าถามว่าเมื่อคืนคุยกับใครคำตอบที่ได้คือ ไม่ได้คุยกับใคร
ทั้งๆที่เราก็รู้อยู่เต็มอก แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป ก็คบกันไปเรื่อยๆ เขาก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ บางทีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือหยุดยาว ก็ขาดการติดต่อไปเลย2-3 วัน คือหายไปเลย เราก็ทั้งโทรทั้งส่งข้อความไม่มีการตอบอะไรกลับมาเลย พอกลับมาเจอหน้ากันถถามว่าไปไหนมา คำตอบก็คือ ไม่ได้ไปไหน...
เราก็ยังคงคบกันต่อไปจนจบม.6 เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่มาสอบเข้ามหาลัยที่กรุงเทพ ก็คือมาสอบด้วยกันแต่เราติดคนเดียว ก็เลยย้ายมาอยู่กรุงเทพ ตอนนี้เราจะย้ายมา เขาก็พูดกับเรานะว่า ถ้าอยากจะมีคนอื่นก็มีได้เลย เขาไม่ว่าเพราะระยะทางมันไกลกัน แต่เราก็บอกกับเขาไปว่าไม่มี ถึงอยู่ไกลกันแต่ก็ยังติดต่อกันได้ ไปหากันได้
พอเรามาเรียนกรุงเทพก็มาอยู่หอกับเพื่อน เขาเรียนมหาลัยแถวบ้านก็อยู่หอกับเพื่อนเหมือนกัน ด้วยความที่เรียนหนัก ก็จะไม่ค่อยได้คุยกันบ่อย คือเราสามารถคุยได้ตลอด แต่เขาบอกว่าเขาเรียนหนักคุยได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวเท่านั้น เคยลองโทรไปวันธรรมดา ไม่รับสายเราเลย ช่วงที่เรียนมหาลัยก็เลยได้คุยกันแค่อาทิตย์ละ 2วัน นอกนั้นก็เจอกันบ้างนานๆที เวลาเรากลับบ้านต่างจังหวัด หรือนานๆเขาจะมาหาเราที่กรุงเทพบ้าง แต่ว่าตลอดเวลาที่เราเรียนเราไม่เคยมีคนอื่นเลย แต่สำหรับเขามันไม่ใช่
คือเราก็รู้มาตลอด แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะคิดอยู่แค่ว่าเรารักเขามาก วันหนึ่งความรักของเรามันคงจะหยุดเขาได้หรือเปลี่ยนใจเขาได้ ณ ตอนนั้นก็มันเป็นความรักที่ทรมานอ่ะ คือทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็จะนึกถึงเขา แต่เราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย นอกจากจะเป็นฝ่ายรอให้เขาติดต่อมาเองถึงจะได้คุยกัน ทุกครั้งที่ดูรูปเขา กดโทรเขาแล้วเขาไม่รับสาย คือน้ำตามันไหลทุกครั้ง มันเสียใจจนเกินคำว่าเสียใจแล้ว เพื่อนเคยบอกว่าให้หยุดแล้วเลือกที่จะเดินออกมา แต่เราก็ยังเลือกที่จะทนอยู่ต่อไป
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็คงทนไม่ไหว ก็เลยมาสารภาพกับเราว่า เขามีคนอื่น ซึ่งเขาบอกว่าเรารู้มาตลอดใช่ไหม เราก็ตอบว่าใช่ เรารู้มาตลอด เขาก็ถามว่าแล้วทนอยู่แบบนี้เพื่ออะไร เราก็เลยบอกเขาว่าก็เพราะ รัก ไง เรารักเขามาก แต่สิ่งที่ทำให้เราช็อกคือ เขาบอกว่าเขาคบกับผู้หญิงคนนั้นมาก่อหน้าเรา 2ปี และเขารักผู้หญิงคนนั้นมาก เราก็เลยถามว่าแล้วเราล่ะ เขาก็บอกว่าเขาก็รักเรานะ แต่เขาสงสารเรามากกว่าที่ต้องมาทนเจ็บปวดอยู่แบบนี้ เขาบอกว่าให้เราเลิกกับเขาเถอะ แต่เราก็เลือกที่จะยื้อเขาไว้ แล้วก็บอกเขาว่าเราทนได้ ขอให้ทุกๆอย่างยังเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เขาก็บอกว่าเขาสงสารเรามากนะ แต่เราก็ตัดสินใจเลือกเอง
ตลอดเวลาที่คบกันเรามีแค่เบอร์โทรกับไลน์เขาเท่านั้น ซึ่งไลน์ก็เพิ่งจะเริ่มใช้ตอนปีหลังๆที่คบกัน เราไม่มีเฟซบุ๊คเขาค่ะ พูดให้ถูกคือเคยมีแต่เขาบล๊อคเฟซเรา ช่องทางติดต่อหลักก็คือโทรกับส่งข้อความ ก็คบกันมาได้เรื่อยๆ ก็เป็นความสัมพันธ์ที่อึดอัดและเหนื่อยแบบนี้มาเรื่อยๆ คือมันเหนื่อยมากทุกครั้งที่คุยกัน คือเหมือนเราเป็นคนที่พยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ฝ่ายเดียว ทุกครั้งที่คุยกันเราต้องเป็นคนพยุงบทสนทนาตลอด ตลอดเวลาที่คบกัน เราไม่เคยหึง หวง เหวี่ยง โกรธ งอนหรือทะเลาะกันเลย เพราะเรารู้ดีว่าเราไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะทำแบบนั้นเลย ทุกครั้งที่เขาหายไป เราไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปไหน ไปทำอะไรกับใคร
เราเคยแอบสมัครเฟซปลอมเพื่อไปส่องเขา ก็เลยได้เห็นว่าเขามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่คบอยู่ เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ถึงตอนนั้นก็เลยเข้าใจสาเหตุที่เขาบล๊อคเรา แต่เราก็ยังไม่ได้ถามอะไร ก็มีแค่ถามถึงสถานที่ที่เขาเช็คอินในเฟซ ว่าเขาเคยไปหรือเปล่า คำตอบที่ได้กลับมาคือ ไม่เคยไป
แต่เราก็ยังพยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้เรื่อยๆจนกระทั่งเข้าปีที่ 7 ที่คบกัน อยู่มาวันหนึ่งเขามาบอกเราว่าเขาจับได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหาร ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่เชื่อ ก็เลยใช้เฟซปลอมเข้าไปส่องในเฟซของเเขา ก้เห็นผู้หญิงอีกคนของเขาโพสว่าเสียใจที่แฟนต้องไปเป็นทหารตั้ง2ปี หลังจากนั้นเขาก็เลยถามเราว่าเรื่องของเราจะทำยังไงต่อดี เพราะเขาจะไปอยู่ตั้ง 2ปี แล้วเขาก็บอกเราว่าเราจะติดต่อกันยากนะ เพราะทหารใหม่เขาไม่ให้พกโทรศัพท์เลย เราก็เลยถามเขาว่ามีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ก่อนจะไป เขาบอกว่าประมาณ 1เดือน คือตอนนั้นรู้แล้วว่ามันยื้อไม่ไหวแล้วจริงๆ รู้แล้วว่าทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้ว แต่เราก็ยังยอมรับความจริงไม่ได้ คือทุกวันหลังจากนั้นคือร้องไห้ทุกวัน มันทำใจไม่ได้ รู้สึกว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา มันกลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวว่าเราจะอยู่ไม่ได้ กลัวตัวเองต้องเสียใจ กลัวทนไม่ได้ จนถึงวันก่อนที่เขาจะไปประมาณ 1อาทิตย์ เราก็เลยตัดสินใจบอกเลิกเขาเอง
แล้วก็พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้มาตลอด รู้ว่าเขามีคนอื่นมาตลอดตั้งแต่เดือนที่4 ที่คบกัน จนกระทั่งทนมาถึงปีที่7 เขาก็ได้แต่พูดว่าเขาขอโทษ เขาเป็นคนเลว เขามันไม่ดีเอง ตอนนั้นก็ได้แค่ร้องไห้ ร้องไห้หนักมากที่สุดที่เคยร้องมา ตอนนั้นอยู่หอคนเดียวแล้ว พอคุยกันจบโทรไปร้องไห้กับเพื่อนต่อ เพื่อนก็ปลอบใจกันยกใหญ่ เพื่อนบอกว่าจะรีบมาหา ตอนเช้าแล้วจะพาไปต่างจังหวัดไปพักใจ แต่พอเช้าเพื่อนก็ติดงาน มาไม่ได้ คือก่อนนอนจำได้ว่าร้องไห้หนักมาก ร้องไห้จนหลับไป แต่พอตื่นขึ้นมาก็เลิกร้อง เลิกทุกอย่าง เก็บของเก่าๆทิ้ง ไปเดินห้างดูหนัง ใช้ชีวิตปกติ
ถ้ามีคนถามว่าทำไมเราถึงรักผู้ชายคนนี้ได้มากขนาดนี้ คือเขามีข้อดีนะ มีหลายอย่างมาก เขาทำเพื่อเราในหลายๆอย่าง หลายๆครั้งมาก และที่เหลือคงเป็นความผูกพัน ในขณะที่เขาดีกับเรามาก เขาก็ใจร้ายกับเราได้มากเช่นกัน ทั้งโกหก หลอกลวงสารพัด นอกใจ แต่ไม่ใช่นอกใจเราคนเดียวนะ เขาสามารถรักผู้หญิงหลายๆคนได้พร้อมกันในเวลาเดียว ที่เรารู้คือตอนที่คบกับเรา เขาคบผู้หญิงอีก3 คน
แต่เรื่องทั้งหมดของเราก็ผ่านไปแล้ว เคยมีคนถามเราบ่อยมากว่า เลิกกันแฟนที่คบกันมาตั้ง 7ปี ไม่เสียดายหรอ ไม่เสียใจหรอ ทำใจยังไง หลังเลิกกับแฟน อยู่ได้ยังไง ทำไมถึงทนได้ ทำไมถึงทำใจเร็วนัก ไม่เสียใจแล้วหรอ ลืมได้แล้วหรอ
คำถามทุกอย่างเราเคยพยายามหาคำตอบให้ตัวเองมาตลอดเวลา 7ปี ที่คบกันซึ่งเราไม่เคยได้คำตอบเลย เราก็เลยไม่กล้าที่จะตัดสินใจเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้น จนวันที่เราเลิกกัน วันแรกยอมรับว่าเสียใจมาก ยิ่งพอมีเพื่อน มีคนมาปลอบยิ่งรู้สึแย่ ยิ่งเสียใจ อยากได้ใครสักคนมาอยู่ข้างๆ มาคอยปลอบเรา คอยรับฟังเรา แต่ความจริงทุกอย่างมันไม่ได้เป็นแบบนั้น พอนึกย้อนกลับไปวันนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ไม่มีใครมาหาเลย ไม่มีคนมาปลอบ เพราะธรรมชาติของคนเรา ต้องการเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนอื่นมาเห็นใจเรา อยู่กับเรา จนเรามักจะลืมไปว่าเราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครเลย เราจะไม่มีวันรู้หรอกว่าเราเข้มแข็งขนาดไหน จนกว่าคความเข้มแข็งจะกลายเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เรามี คือถ้าวันนั้นเรายังคงจมอยู่กับความทุกข์ เราก็จะไม่มีวันที่จะก้าวออกมาได้เลย
ส่วนคำถามที่ถามว่าลืมได้แล้วหรอ คบกันมาตั้งนาน คำตอบคือ ลืมไม่ได้ค่ะ แล้วก้ไม่จำเป็นต้องลืม เพราะคนเรายิ่งพยายามลืมก็จะยิ่งจำำสิ่งนั้นได้ดี สิ่งที่เราทำได้ก็แค่ยอมรับความจริง ว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ แล้วก็ปล่อยให้เรื่องราวทุกอย่างมันกลายเป็นแค่ความทรงจำ แล้วเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง เวลาไม่ได้ช่วยให้ลืมหรอกค่ะ แต่เวลาจะทำให้ทุกๆอย่างมันเบาบางลง
ความทรงจำหรือเรื่องราวต่างๆมันจะค่อยๆจางลง สุดท้ายนี้ก็อยากจะแชร์เรื่องราวของเราเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่ยังคงตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางออก หรือทุกๆคน ฝากเป็นอุธาหรณ์ว่า ความดีมันซื้อใจคนไม่ได้ ต่อให้ดีให้ตายแค่ไหน คนเขาไม่รักก็คือไม่รัก
อย่าพยายามขอร้องหรืออ้อนขอความรักจากคนที่มันไม่เห็นค่าในความรักของเราสงสารตัวเองค่ะ วันนึ่งเมื่อคุณผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ พอคุณมองย้อนกลับไปคุณจะรู้สงสารตัวเองเหมือนที่เรารู้สึก อย่าลดคุณค่าในตัวเองเพื่อคนๆคนหนึ่งที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเราค่ะ
กาลครั้งหนึ่ง...ฉันเคยมีความรัก
เรื่องราวของเราก็คงจะเหมือนใครหลายๆคน ก็คือเริ่มต้นด้วยกาลครั้งหนึ่ง...แล้วก็จบลงด้วย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
เราคบกับแฟนตอนเรียนม.5 อยู่ห้องเดียวกัน ตอนแรกก็เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันนี่แหละ แล้วสักพักก็ตัดสินใจคบกัน ช่วงแรกๆที่คบกันก็ดีมาก มีความสุขมาก ก็คือช่วงโปรโมชั่นแหละ แต่โปรโมชั่นก็ผ่านไปไวเหมือนฤดูหนาวเมืองไทย
พอเข้าเดือนที่4ที่คบกัน ตอนที่นั่งเล่นกันกับเพื่อนในกลุ่มเพื่อนเราก็ยืมโทรศัพท์ของแฟนเรามาเล่น เพื่อนเราก็เลยลองเปิดดูข้อความในโทรศัพท์ก็เจอข้อความบอกรักบอกคิดถึงมากมาย ชื่อคนรับเมมไว้ว่า ที่รัก เพื่อนเราก็แซวใหญ่เลย เราเลยบอกว่าไม่เคยมีนะ หลังจากนั้นพอเลิกเรียนเราก็เลยนัดแฟนเราไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องพอถามเขาก็บอกว่า ไม่มีอะไรเป็นแค่พี่สาวที่รู้จักกัน ตอนนั้นก็ไม่เชื่อนะ แต่ก็ยังตัดสินใจคบกันต่อ
หลังจากนั้นก็ยังคบกันไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราก็รู้ว่าเขามีคนอื่น คือเรียนห้องเดียวกัน เลิกเรียนก็กลับบ้านโทรคุยกันบ้าง ออกมากินข้าวด้วยกันบ้าง พอก่อนจะเข้านอนหลังจากที่คุยกับเราเสร็จพอเราวางสายแล้วลองโทรไปหาเขาอีกทีก็ขึ้นโชว์ว่าเป็นสายซ้อน แล้วก็ไม่เคยรับโทรศัพท์เราเลยจนเช้าถามว่าเมื่อคืนคุยกับใครคำตอบที่ได้คือ ไม่ได้คุยกับใคร
ทั้งๆที่เราก็รู้อยู่เต็มอก แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกไป ก็คบกันไปเรื่อยๆ เขาก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ บางทีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือหยุดยาว ก็ขาดการติดต่อไปเลย2-3 วัน คือหายไปเลย เราก็ทั้งโทรทั้งส่งข้อความไม่มีการตอบอะไรกลับมาเลย พอกลับมาเจอหน้ากันถถามว่าไปไหนมา คำตอบก็คือ ไม่ได้ไปไหน...
เราก็ยังคงคบกันต่อไปจนจบม.6 เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่มาสอบเข้ามหาลัยที่กรุงเทพ ก็คือมาสอบด้วยกันแต่เราติดคนเดียว ก็เลยย้ายมาอยู่กรุงเทพ ตอนนี้เราจะย้ายมา เขาก็พูดกับเรานะว่า ถ้าอยากจะมีคนอื่นก็มีได้เลย เขาไม่ว่าเพราะระยะทางมันไกลกัน แต่เราก็บอกกับเขาไปว่าไม่มี ถึงอยู่ไกลกันแต่ก็ยังติดต่อกันได้ ไปหากันได้
พอเรามาเรียนกรุงเทพก็มาอยู่หอกับเพื่อน เขาเรียนมหาลัยแถวบ้านก็อยู่หอกับเพื่อนเหมือนกัน ด้วยความที่เรียนหนัก ก็จะไม่ค่อยได้คุยกันบ่อย คือเราสามารถคุยได้ตลอด แต่เขาบอกว่าเขาเรียนหนักคุยได้เฉพาะเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวเท่านั้น เคยลองโทรไปวันธรรมดา ไม่รับสายเราเลย ช่วงที่เรียนมหาลัยก็เลยได้คุยกันแค่อาทิตย์ละ 2วัน นอกนั้นก็เจอกันบ้างนานๆที เวลาเรากลับบ้านต่างจังหวัด หรือนานๆเขาจะมาหาเราที่กรุงเทพบ้าง แต่ว่าตลอดเวลาที่เราเรียนเราไม่เคยมีคนอื่นเลย แต่สำหรับเขามันไม่ใช่
คือเราก็รู้มาตลอด แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ เพราะคิดอยู่แค่ว่าเรารักเขามาก วันหนึ่งความรักของเรามันคงจะหยุดเขาได้หรือเปลี่ยนใจเขาได้ ณ ตอนนั้นก็มันเป็นความรักที่ทรมานอ่ะ คือทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็จะนึกถึงเขา แต่เราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย นอกจากจะเป็นฝ่ายรอให้เขาติดต่อมาเองถึงจะได้คุยกัน ทุกครั้งที่ดูรูปเขา กดโทรเขาแล้วเขาไม่รับสาย คือน้ำตามันไหลทุกครั้ง มันเสียใจจนเกินคำว่าเสียใจแล้ว เพื่อนเคยบอกว่าให้หยุดแล้วเลือกที่จะเดินออกมา แต่เราก็ยังเลือกที่จะทนอยู่ต่อไป
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เขาก็คงทนไม่ไหว ก็เลยมาสารภาพกับเราว่า เขามีคนอื่น ซึ่งเขาบอกว่าเรารู้มาตลอดใช่ไหม เราก็ตอบว่าใช่ เรารู้มาตลอด เขาก็ถามว่าแล้วทนอยู่แบบนี้เพื่ออะไร เราก็เลยบอกเขาว่าก็เพราะ รัก ไง เรารักเขามาก แต่สิ่งที่ทำให้เราช็อกคือ เขาบอกว่าเขาคบกับผู้หญิงคนนั้นมาก่อหน้าเรา 2ปี และเขารักผู้หญิงคนนั้นมาก เราก็เลยถามว่าแล้วเราล่ะ เขาก็บอกว่าเขาก็รักเรานะ แต่เขาสงสารเรามากกว่าที่ต้องมาทนเจ็บปวดอยู่แบบนี้ เขาบอกว่าให้เราเลิกกับเขาเถอะ แต่เราก็เลือกที่จะยื้อเขาไว้ แล้วก็บอกเขาว่าเราทนได้ ขอให้ทุกๆอย่างยังเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เขาก็บอกว่าเขาสงสารเรามากนะ แต่เราก็ตัดสินใจเลือกเอง
ตลอดเวลาที่คบกันเรามีแค่เบอร์โทรกับไลน์เขาเท่านั้น ซึ่งไลน์ก็เพิ่งจะเริ่มใช้ตอนปีหลังๆที่คบกัน เราไม่มีเฟซบุ๊คเขาค่ะ พูดให้ถูกคือเคยมีแต่เขาบล๊อคเฟซเรา ช่องทางติดต่อหลักก็คือโทรกับส่งข้อความ ก็คบกันมาได้เรื่อยๆ ก็เป็นความสัมพันธ์ที่อึดอัดและเหนื่อยแบบนี้มาเรื่อยๆ คือมันเหนื่อยมากทุกครั้งที่คุยกัน คือเหมือนเราเป็นคนที่พยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ฝ่ายเดียว ทุกครั้งที่คุยกันเราต้องเป็นคนพยุงบทสนทนาตลอด ตลอดเวลาที่คบกัน เราไม่เคยหึง หวง เหวี่ยง โกรธ งอนหรือทะเลาะกันเลย เพราะเรารู้ดีว่าเราไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะทำแบบนั้นเลย ทุกครั้งที่เขาหายไป เราไม่มีสิทธิ์รู้ด้วยซ้ำว่าเขาไปไหน ไปทำอะไรกับใคร
เราเคยแอบสมัครเฟซปลอมเพื่อไปส่องเขา ก็เลยได้เห็นว่าเขามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่คบอยู่ เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ถึงตอนนั้นก็เลยเข้าใจสาเหตุที่เขาบล๊อคเรา แต่เราก็ยังไม่ได้ถามอะไร ก็มีแค่ถามถึงสถานที่ที่เขาเช็คอินในเฟซ ว่าเขาเคยไปหรือเปล่า คำตอบที่ได้กลับมาคือ ไม่เคยไป
แต่เราก็ยังพยายามรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้เรื่อยๆจนกระทั่งเข้าปีที่ 7 ที่คบกัน อยู่มาวันหนึ่งเขามาบอกเราว่าเขาจับได้ใบแดง ต้องไปเป็นทหาร ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่เชื่อ ก็เลยใช้เฟซปลอมเข้าไปส่องในเฟซของเเขา ก้เห็นผู้หญิงอีกคนของเขาโพสว่าเสียใจที่แฟนต้องไปเป็นทหารตั้ง2ปี หลังจากนั้นเขาก็เลยถามเราว่าเรื่องของเราจะทำยังไงต่อดี เพราะเขาจะไปอยู่ตั้ง 2ปี แล้วเขาก็บอกเราว่าเราจะติดต่อกันยากนะ เพราะทหารใหม่เขาไม่ให้พกโทรศัพท์เลย เราก็เลยถามเขาว่ามีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ก่อนจะไป เขาบอกว่าประมาณ 1เดือน คือตอนนั้นรู้แล้วว่ามันยื้อไม่ไหวแล้วจริงๆ รู้แล้วว่าทุกอย่างมันใกล้จะจบแล้ว แต่เราก็ยังยอมรับความจริงไม่ได้ คือทุกวันหลังจากนั้นคือร้องไห้ทุกวัน มันทำใจไม่ได้ รู้สึกว่าเราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา มันกลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวว่าเราจะอยู่ไม่ได้ กลัวตัวเองต้องเสียใจ กลัวทนไม่ได้ จนถึงวันก่อนที่เขาจะไปประมาณ 1อาทิตย์ เราก็เลยตัดสินใจบอกเลิกเขาเอง
แล้วก็พูดทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้มาตลอด รู้ว่าเขามีคนอื่นมาตลอดตั้งแต่เดือนที่4 ที่คบกัน จนกระทั่งทนมาถึงปีที่7 เขาก็ได้แต่พูดว่าเขาขอโทษ เขาเป็นคนเลว เขามันไม่ดีเอง ตอนนั้นก็ได้แค่ร้องไห้ ร้องไห้หนักมากที่สุดที่เคยร้องมา ตอนนั้นอยู่หอคนเดียวแล้ว พอคุยกันจบโทรไปร้องไห้กับเพื่อนต่อ เพื่อนก็ปลอบใจกันยกใหญ่ เพื่อนบอกว่าจะรีบมาหา ตอนเช้าแล้วจะพาไปต่างจังหวัดไปพักใจ แต่พอเช้าเพื่อนก็ติดงาน มาไม่ได้ คือก่อนนอนจำได้ว่าร้องไห้หนักมาก ร้องไห้จนหลับไป แต่พอตื่นขึ้นมาก็เลิกร้อง เลิกทุกอย่าง เก็บของเก่าๆทิ้ง ไปเดินห้างดูหนัง ใช้ชีวิตปกติ
ถ้ามีคนถามว่าทำไมเราถึงรักผู้ชายคนนี้ได้มากขนาดนี้ คือเขามีข้อดีนะ มีหลายอย่างมาก เขาทำเพื่อเราในหลายๆอย่าง หลายๆครั้งมาก และที่เหลือคงเป็นความผูกพัน ในขณะที่เขาดีกับเรามาก เขาก็ใจร้ายกับเราได้มากเช่นกัน ทั้งโกหก หลอกลวงสารพัด นอกใจ แต่ไม่ใช่นอกใจเราคนเดียวนะ เขาสามารถรักผู้หญิงหลายๆคนได้พร้อมกันในเวลาเดียว ที่เรารู้คือตอนที่คบกับเรา เขาคบผู้หญิงอีก3 คน
แต่เรื่องทั้งหมดของเราก็ผ่านไปแล้ว เคยมีคนถามเราบ่อยมากว่า เลิกกันแฟนที่คบกันมาตั้ง 7ปี ไม่เสียดายหรอ ไม่เสียใจหรอ ทำใจยังไง หลังเลิกกับแฟน อยู่ได้ยังไง ทำไมถึงทนได้ ทำไมถึงทำใจเร็วนัก ไม่เสียใจแล้วหรอ ลืมได้แล้วหรอ
คำถามทุกอย่างเราเคยพยายามหาคำตอบให้ตัวเองมาตลอดเวลา 7ปี ที่คบกันซึ่งเราไม่เคยได้คำตอบเลย เราก็เลยไม่กล้าที่จะตัดสินใจเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้น จนวันที่เราเลิกกัน วันแรกยอมรับว่าเสียใจมาก ยิ่งพอมีเพื่อน มีคนมาปลอบยิ่งรู้สึแย่ ยิ่งเสียใจ อยากได้ใครสักคนมาอยู่ข้างๆ มาคอยปลอบเรา คอยรับฟังเรา แต่ความจริงทุกอย่างมันไม่ได้เป็นแบบนั้น พอนึกย้อนกลับไปวันนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ไม่มีใครมาหาเลย ไม่มีคนมาปลอบ เพราะธรรมชาติของคนเรา ต้องการเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนอื่นมาเห็นใจเรา อยู่กับเรา จนเรามักจะลืมไปว่าเราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครเลย เราจะไม่มีวันรู้หรอกว่าเราเข้มแข็งขนาดไหน จนกว่าคความเข้มแข็งจะกลายเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เรามี คือถ้าวันนั้นเรายังคงจมอยู่กับความทุกข์ เราก็จะไม่มีวันที่จะก้าวออกมาได้เลย
ส่วนคำถามที่ถามว่าลืมได้แล้วหรอ คบกันมาตั้งนาน คำตอบคือ ลืมไม่ได้ค่ะ แล้วก้ไม่จำเป็นต้องลืม เพราะคนเรายิ่งพยายามลืมก็จะยิ่งจำำสิ่งนั้นได้ดี สิ่งที่เราทำได้ก็แค่ยอมรับความจริง ว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ แล้วก็ปล่อยให้เรื่องราวทุกอย่างมันกลายเป็นแค่ความทรงจำ แล้วเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง เวลาไม่ได้ช่วยให้ลืมหรอกค่ะ แต่เวลาจะทำให้ทุกๆอย่างมันเบาบางลง
ความทรงจำหรือเรื่องราวต่างๆมันจะค่อยๆจางลง สุดท้ายนี้ก็อยากจะแชร์เรื่องราวของเราเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่ยังคงตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางออก หรือทุกๆคน ฝากเป็นอุธาหรณ์ว่า ความดีมันซื้อใจคนไม่ได้ ต่อให้ดีให้ตายแค่ไหน คนเขาไม่รักก็คือไม่รัก
อย่าพยายามขอร้องหรืออ้อนขอความรักจากคนที่มันไม่เห็นค่าในความรักของเราสงสารตัวเองค่ะ วันนึ่งเมื่อคุณผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ พอคุณมองย้อนกลับไปคุณจะรู้สงสารตัวเองเหมือนที่เรารู้สึก อย่าลดคุณค่าในตัวเองเพื่อคนๆคนหนึ่งที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเราค่ะ