[CR] ฟ้าลิขิตชีวิตคนกับหมา

กระทู้รีวิว

          ย้อนกลับไป 3 ปีก่อน เมื่อ 24 มี.ค. 2558 วันที่ผมทุกข์ และสุขมากวันนึง เป็นการอกหักครั้งใหญ่ของผมในตอนนั้น วันนั้นทั้งวันใช้เวลาหมดไปกับการแข่งฟุตบอลให้มหาวิทยาลัย และกลับมาเดินสายแข่งบอลต่อ
      หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยทั้งกาย และใจมาตลอดทั้งวัน ก้าวแรกที่เข้ามาในบ้าน สายตาได้มองไปเห็นก้อนเนื้อสีน้ำตาลแกมดำก้อนนึง ในความคิดผมคิดแค่ว่ามันคือผ้าขี้ริ้วหรือของอะไรสักอย่าง (ผมสายตาสั้นเลยมองเห็นเป็นภาพเบลอ) จนเมื่อเดินเข้ามาดูใกล้ๆ แล้ว ปรากฏว่ามันคือ เจ้าหมาตัวเล็กสีน้ำตาลแกมดำตัวนึงกำลังหลับอยู่ จากที่ในใจมีความเศร้าอยู่นั้น พอได้มาเห็นหมาตัวนี้รอยยิ้มแห่งความสุขมันแย้มบานออกมาโดยไม่รู้ตัว


    นอนจ้องมันอยู่สักพักก็เริ่มคิดชื่อให้มัน สองวันก่อนนั้นเป็นวันที่มีฟุตบอลแดงเดือด วันที่ 22 มี.ค. 2558 และผลในวันนั้นจบลงด้วยสกอร์ 2-1 เป็นวันที่ ฆวน มาต้า นักเตะของแมนยูไนเต็ด ทำสองประตูพาทีมชนะได้ ก็เลยตั้งชื่อแรกให้มันว่า “มาต้า” แต่ด้วยความที่แม่บอกว่ามันเรียกยากก็เลยได้ชื่อใหม่ที่แม่ตั้งให้ว่า “บราวนี่” เพราะมีที่มาจากขนของมันเป็นสีน้ำตาลนั่นเอง


ย้อนกลับไปถึงการได้ “บราวนี่” มาเป็นหนึ่งในครอบครัวนั่นก็คือ เหตุเกิดจากการที่ลุงของผมเป็นหัวหน้ายาม และได้เข้าไปตรวจการณ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และไปเจอกับแม่หมาพึ่งคลอดลูกออกได้ไม่กี่วัน ลุงก็ได้โทรมาหาพ่อผมว่าจะเอาหมาไปเลี้ยงมั้ย เพราะมันเป็นหมาเล็ก ซึ่งใจจริงแม่ก็ไม่ได้อยากได้มาเลี้ยงเท่าไหร่เนื่องจากที่พักเป็นคอนโด ซึ่งก็มีกฏอยู่ว่าห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่ด้วยการที่พ่อไม่ได้ปฏิเสธ ความพีคก็เกิดขึ้นคือ ลุงเอาลูกหมาใส่ถุงพลาสติกแล้วขี่มอไซค์เอามาให้ถึงที่ ด้วยความที่เห็นแล้วก็สงสารจึงจำเป็นต้องเอามาเลี้ยงด้วยความเมตตา


    ตั้งแต่มีบราวนี่เข้ามา ครอบครัวเราก็เหมือนมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ได้ทำร่วมกัน ทุกคนในบ้านกลายเป็นทาสหมาไปโดยปริยาย บราวนี่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ทั้งเป็นจอมป่วน จอมโวยวาย จอมทำลายล้าง ให้ทุกคนปวดหัวอยู่บ้าง แต่บางเวลามันก็สร้างรอยยิ้มให้คนในครอบครัว


    ในตอนที่ยังตัวเล็กๆ เป็นหมาเด็กอยู่นั้น แม่ก็จะแบกไปที่ทำงานด้วยเสมอ จนในวันที่บราวนี่โตพอที่ไม่สามารถแบกไปด้วยได้นั้น ก็ได้แต่ขังบราวนี่ไว้หลังบ้าน และเปลี่ยนมาล่ามโซ่ในบ้าน ทำแบบนี้เป็นประจำอยู่ตลอด 1 ปี


ในทุกๆ วันก่อนออกจากบ้าน หรือกลับมาถึงบ้าน จะต้องกอด และหอมทุกๆ เช้าเพื่อเป็นการเติมพลัง และมอบความรักให้แก่กัน วันใดที่ทุกข์หรือเครียดเรื่องอะไรมาผมจะนอนกอดบราวนี่ และร้องไห้ให้มันฟังเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกว่าผมยังมีบราวนี่ที่คอยรับฟัง และเป็นที่ระบาย นับวันความผูกพันธ์ของเรายิ่งเพิ่มขึ้นและรักกันมากๆ


จนผมเรียนจบเริ่มหางานทำ เวลาไปสัมภาษณ์ก็มักจะมีความถามขึ้นมาว่าคุณวางแผน 5 ปีข้างหน้ายังไง คำตอบที่ผมตอบไปก็คือ “อยากมีบ้าน เพื่อที่จะได้อยู่กับหมา” บางทีมันก็ฟังดูตลกสำหรับบางคน ว่าบ้าหรือป่าวจะซื้อบ้านเพื่อหมาเนี่ยนะ แต่บอกเลยว่าถ้าไม่เคยเจอกับตัวเองก็ไม่เข้าใจ
    จนเข้าปีที่ 2 คอนโดมีการเปลี่ยนผู้จัดการนิติบุคคลใหม่ และได้นำกฏห้ามเลี้ยงสัตว์กลับมาจริงจังอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นก็มีห้องอื่นเลี้ยงสัตว์มาก่อนผมอีก หลังจากที่ออกกฏมานั้นทางนิติก็ให้เวลา 3 เดือนในการที่จะหาที่อยู่ใหม่ ตอนนั้นบอกตรงๆ เครียดมากเพราะด้วยความที่ผูกพันธ์จะให้แยกจากกันคงทำใจไม่ได้ แต่ก็ต้องจำใจหาบ้านใหม่ให้มัน ซึ่งถ้าไปอยู่กับเจ้าของใหม่ก็ขอเลือกเป็นใกล้ๆ บ้านผมเพื่อที่จะไปมาหากันได้ แต่พอได้ลองเอาไปอยู่กับเจ้าของใหม่นั้น มันก็เห่าเสียงดัง จนข้างบ้านเขาบ่นๆมาบ้าง ก็ไม่อยากให้เขามีปัญหากัน บวกกับความที่กลัวหมาผมจะโดนวางยาเบื่อ ผมก็นำกลับมาเลี้ยงไปจนเหลือเวลา 2 อาทิตย์สุดท้าย ก็ได้ไปอ้อนวอนยาย กับตาให้เอาหมาไปอยู่ที่บ้านยาย จริงๆ ยายก็ไม่อยากได้เพิ่มเพราะที่บ้านยายก็มีอยู่แล้ว 1 ตัว  แต่ด้วยความที่อ้อนวอนสำเร็จบ้านใหม่ของบราวนี่นั้นก็คือ “บ้านยาย” ผมเอง



12 มิ.ย. 2560 ก็เก็บข้าวของของบราวนี่ พาไปอยู่บ้านยาย ที่สมุทรสาคร ผมจะแวะไปหาบราวนี่อยู่บ่อย ๆ แล้วแต่อารมณ์ ส่วนเสาร์ อาทิตย์ พ่อกับแม่จะไปหามันทุกสัปดาห์ บราวนี่ได้มาอยู่ที่บ้านยายก็ดูจะมีความสุข เพราะมีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น และมีเพื่อนอีก 1 ตัวนั่นคือ “ใบหม่อน” แรกๆ ก็เป็นคู่กัดกัน หลังๆ ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นทะเลาะกันน้อยลง


ผมเองก็มีความสุขที่เห็นบราวนี่มีความสุข แต่บราวนี่มีข้อเสียอย่างนึงคือ ชอบเห่าพร่ำเพื่อ จนคนอื่นรำคาญ ยิ่งกลางคืนเห็นหมาเดินผ่านหน้าบ้านยิ่งเห่าไม่หยุดเลย หมาตัวที่เดินผ่านหน้าบ้านก็ชอบมาหยุดอยู่หน้าบ้าน จนตอนหลังต้องหาผ้าใบมาปิด ก็พอช่วยทุเลาเสียงเห่าลงได้บ้าง


ตั้งแต่นำบราวนี่มาอยู่บ้านยาย ความคิดผมที่จะซื้อบ้านก็ไม่มีอยู่ในหัวเพราะมองว่าไม่มีความจำเป็น ที่เป็นอยู่ทั้งหมา และผมเองก็มีความสุขดี
    อยู่มาได้ 1 ปี 4 เดือน ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือบราวนี่ไปสร้างเรื่องด้วยการไปกัดตาของผม ทำให้ตาไม่พอใจและบอกให้ผมเอาไปทิ้ง ความรู้สึกผมในวันนั้นมันแย่มาก เพราะผมไม่รู้จะเอาไว้ที่ไหน คอนโดที่อยู่ก็ห้ามเลี้ยง นอนร้องไห้อยู่สักพักผมก็มีความคิดที่จะหาซื้อบ้านทันที ด้วยสถานะทางการเงินในครอบครัวที่มองแล้วว่ายังไงก็ผ่อนไหวแน่นอน ก็เริ่มหาบ้านให้ตัวเองทันที แต่กว่าจะได้บ้านนั้น ผมก็ต้องไปนำบราวนี่กลับมาที่คอนโดก่อนสักพัก ถ้าได้บ้านใหม่ หรือที่ที่ให้บราวนี่ไปอยู่ก่อนได้ก็จะเอาออกจากคอนโดทันที แต่เรื่องมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะนิติไม่ยอม แม้แต่วันเดียวจนผมปรี๊ดแตกมาก ด้วยความที่เป็นเรื่องกะทันหันทำไมถึงยืดหยุ่นให้กันไม่ได้ บอกเลยว่าผมแค้นฝังใจมาก


    จนผมได้เจอทางออกแรกนั่นก็คือ ไปฝากเลี้ยงไว้กับคลีนิคก่อน สักหนึ่งเดือนแม้จะเป็นทางออกที่ไม่ดีเท่าไหร่เพราะมันมีค่าใช้จ่ายในการฝากเลี้ยงเดือนละ 5000 บาท เลยทีเดียว สัปดาห์นึงผมจะไปหามันสักครั้ง จริง ๆ ก็อยากไปหาบ่อยๆ แต่ด้วยความที่เวลาไปหาแล้วจะกลับเสียงที่บราวนี่ร้องมันดูน่าสงสารมากเวลาเห็นสายตาของมันแล้วทำใจไม่ได้ ก็ได้แต่อดทน และรอวันที่จะได้กลับไปอยู่ด้วยกัน


ตอนนี้ก็สองสัปดาห์แล้วที่บราวนี่อยู่คลีนิค บ้านใหม่ก็ยังไม่ได้สักทีได้แต่เฝ้ารอธนาคารอนุมัติวงเงินกู้สักที และคาดหวังไว้ว่า วันเกิดของผมปลายปีนี้ ไม่มีของขวัญใดที่วิเศษไปกว่าการที่ผมได้กลับมาอยู่กับบราวนี่อีกครั้ง


เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ผมจะมาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านต่อไป

กระทู้เหมือนเป็นการระบายของผม แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกนั่นก็คือ การที่คุณนำหนึ่งชีวิตมาดูแลแล้ว จงดูแลมันให้ดีที่สุด และอย่าทอดทิ้งมันเพราะเราคือรักแรกของมัน และมันก็จะมีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นอย่าทอดทิ้งมันให้เร่ร่อน และไปใช้ชีวิตบนเส้นดายข้างถนนเลยครับ
ชื่อสินค้า:   สุนัข
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่