สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 23
ขอเล่าประวัติดราก้อนบอลในอเมริกาละกันครับ ว่าเข้าไปอยู่ในใจของคนอเมริกาได้ยังไง ดราก้อนบอล z คือการ์ตูนที่ได้เรตติ้งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Cartoon Network ทั้งๆที่เป็นการ์ตูนที่สร้างจากต่างประเทศ เป็นอะนิเมเรืองแรกๆที่นำทัพไปบุกในอเมริกาและประสปความสำเร็จอย่างมาก (ดราก้อนบอลz กับ เซเลอร์มูน) จริงๆแล้ว ในวันที่ 28 มกราคม 1995 อนิเมสามเรืองแรกที่ Cartoon Network นำเข้ามาคือ robot carnival,vampire hunter D,twilicht of the cockroaches ซึ้งถือเป็นการเดิมพันที่สูงมากเลยสำหรับช่องเพราะ อะนิเมญี่ปุ่นมีเนื้อเรืองและภาพที่รุ่นแรงกว่าและส่อไปทางเพศมากกว่าการ์ตูนของทางนั้นแบบเทียบกันไม่ได้เลย vampire hunter D นี้เซ็นเซอร์กระจาย และการเดบิวครั้งแรกของช่อง toonami ที่นำการ์ตูนแนวแอคชั่นมาลง อย่าง ทันเดอร์แคท การผจัญภัยของจอนนี่เควส และการเดบิวครั้งแรกของดราก้อนบอล z ที่เริ่มฉายตั้งแต่ปี 1996-1997 โคยฉายครั้งแรกไม่จบ และวันที่ 1 มิถุนายน 1998 เซเลอร์มูนก็ถูกนำมาฉายแถมเรตติ้งยังแซงเดบิวครั้งแรกของดราก้อนบอลอีกด้วย และหลังจากนั้น ในวันที่ 31 สิงหาคม ดราก้อนบอล z ก็กลับมาฉายอีกครั้งซึ้งครั้งนี้เป็นการที่วงการอนิเมเข้าไปถล่มในอเมริกาอย่างแท้จริง เพราะหลังจากนั้นก็มีการนำเข้าอะนิเมมาอีกแบบรั่วๆอย่าง กันดั้มวิง ซามูไรโรนิน พูดตรงๆคือถ้าไม่มีสองเรืองนี้ อะนิเมในต่างประเทศไม่มีทางเป็นอย่างทุกวันนี้แน่นอน
แต่ยังไม่จบน่ะเพราะในตอนนั้นอะนิเมที่นำไปฉายในอเมริกาจะต้องผ่านการเซ็นเซอร์ก่อน ซึ้ง ดราก้อนบอล z ดันทำไว้แค่ 53 ตอนเท่านั้น(คือถึงตอนที่โกคูงลงจอดที่ดาวนาแม็ค และล้มรีคูมในดอกเดียวนั้นแหละ) หลังจากนั้นก็เป็นการนำตอนแรกกลับมาฉายใหม่(ราดิสมาเยื้อนโลกนั้นแหละ ทำต่อเลยไม่ได้เพราะซื้อลิขสิทธิ์มาแค่นี้ไม่กล้าเหมามาหมดเพราะกลัวเจ๊ง) แต่เพิ่มมูฟวี่สามเรืองแรกของดราก้อนบอลเข้าไปในปี 1999 (ปะทะการลิคจูเนียร์,ยอดยุทธ์หนึ่งในใต้หล้า,ศึกสะท้านพิภพ) มีทั้งที่ออกขายเป็นวีดีโอกับตัดแยกมูฟวี่เป็น 3ตอนเพื่อลงทีวี คือแสดงออกแบบชัดเจนเลยวาตอนนั้น toonami อยากได้ดราก้อนบอลมาลงมาก(แถมได้นักพากษ์เทรเลอร์ระดับตำนานของฝรั่งอย่าง Don Lafontaine มาทำเทรเลอร์ให้ด้วย) มีการเปลี่ยนคนพากษ์DUB โกคู ใหม่คนที่พากษ์คุริลินDUB ในปัจจุบัน(พี่แกเคยพากษ์เป็นโกคูในเกม dragon ball gt ของ ps1 ด้วยน่ะ)
ในเมื่อ ดราก้อนบอล z มันหยุดถึงแค่รีคูมแล้ววนใหม่ พวกแฟนๆในอเมริกาก็ไม่พอใจกันจน toonami ต้องซื้อตอนมาเพิ่มแต่ก็ติดที่ลิขสิทธิ์อะไรสักอย่างของบ้านเขาส่งผลให้ต้องหาคนพากษ์ใหม่ด้วย จนไปได้ Sean Schemmel มาพากษ์โกคู และ Christopher Sabat มาเป็นเบจิต้า ซึ้งทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นตำนานค้างฟ้าในระดับที่ถ้านึกถึงหน้าตัวละครก็ต้องเป็นเสียงของคนนี้เท่านั้น (เหมือนไจแอน์ก็ต้องพากษ์โดยน้าต๋อยนั้นแหละ) แล้วคราวนี้ทาง toonami ก็ยอมไฟเขียวให้เห็นเลือดได้ด้วย(แต่ก็ยังมีการเซ็นเซอร์บ้างฉากอยู่ดี) โดยเริ่มต่อจากที่โกคูซัดรีคูมล้ม และในช่วงเวลาหยุดโลกที่ ดราก้อนบอล z ทำกับอเมริกาครั้งแรก นั้นคือการแปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่า ครั้งแรกของโกคู กระแสในอเมริกาตอนนั้นนี้คือถล่มทลายอย่างแท้จริง และกลายเป็นเรตติ้งอันดับหนึ่งของตารางโปรแกรมทางทีวีสำหรับ ผู้ชมอายุ 9-24 ปี และเป็นรายการที่ติดอันดับ 1ใน3 ของรายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดทั่วทั้งอเมริกา ตีคู่กับรายการยักษ์ใหญ่ในตอนนั้นอย่าง CBS กับ WWF ได้ และยิ่งเสริมความดังเข้าไปอีกเมื่อหนังสือพิมพ์หัวใหญ่อย่าง Wall Street ออกมาติเตี้ยนถึงความรุ่นแรงที่ไม่เหมาะกับเด็กในเรือง ทำให้ ดราก้อนบอล z มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก
วันที่ 1 กันยายน 2000 ดราก้อนบอล z ก็เข้าสู่ช่วงภาคเซลเป็นครั้งแรกในอเมริกา และจบภาคบูครั้งแรกในเดือน เมษายน ปี2003 จากนั้นในปี 2005 ด้วยความดังของดราก้อนบอล toonami จึงไฟเขียวให้ปล่อยฉบับไม่ตัดไม่เซ็นของ ดราก้อนบอล z ออกฉายตั้งแต่ต้นจนจบ พูดได้เลยว่านับจากดราก้อนบอล z มาแล้วไม่เคยมีอนิเมเรืองไหนประสบความสำเร็จในระดับโลกเทียบได้แม้แต่เงาที่ ดราก้อนบอล z เคยทำไว้สักเรือง
พอจะรู้รึยังครับว่าทำไมถึงไม่มี อนิเมเรืองไหนดังและประสปความสำเร็จเกินดราก้อนบอลไปได้
แต่ยังไม่จบน่ะเพราะในตอนนั้นอะนิเมที่นำไปฉายในอเมริกาจะต้องผ่านการเซ็นเซอร์ก่อน ซึ้ง ดราก้อนบอล z ดันทำไว้แค่ 53 ตอนเท่านั้น(คือถึงตอนที่โกคูงลงจอดที่ดาวนาแม็ค และล้มรีคูมในดอกเดียวนั้นแหละ) หลังจากนั้นก็เป็นการนำตอนแรกกลับมาฉายใหม่(ราดิสมาเยื้อนโลกนั้นแหละ ทำต่อเลยไม่ได้เพราะซื้อลิขสิทธิ์มาแค่นี้ไม่กล้าเหมามาหมดเพราะกลัวเจ๊ง) แต่เพิ่มมูฟวี่สามเรืองแรกของดราก้อนบอลเข้าไปในปี 1999 (ปะทะการลิคจูเนียร์,ยอดยุทธ์หนึ่งในใต้หล้า,ศึกสะท้านพิภพ) มีทั้งที่ออกขายเป็นวีดีโอกับตัดแยกมูฟวี่เป็น 3ตอนเพื่อลงทีวี คือแสดงออกแบบชัดเจนเลยวาตอนนั้น toonami อยากได้ดราก้อนบอลมาลงมาก(แถมได้นักพากษ์เทรเลอร์ระดับตำนานของฝรั่งอย่าง Don Lafontaine มาทำเทรเลอร์ให้ด้วย) มีการเปลี่ยนคนพากษ์DUB โกคู ใหม่คนที่พากษ์คุริลินDUB ในปัจจุบัน(พี่แกเคยพากษ์เป็นโกคูในเกม dragon ball gt ของ ps1 ด้วยน่ะ)
ในเมื่อ ดราก้อนบอล z มันหยุดถึงแค่รีคูมแล้ววนใหม่ พวกแฟนๆในอเมริกาก็ไม่พอใจกันจน toonami ต้องซื้อตอนมาเพิ่มแต่ก็ติดที่ลิขสิทธิ์อะไรสักอย่างของบ้านเขาส่งผลให้ต้องหาคนพากษ์ใหม่ด้วย จนไปได้ Sean Schemmel มาพากษ์โกคู และ Christopher Sabat มาเป็นเบจิต้า ซึ้งทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นตำนานค้างฟ้าในระดับที่ถ้านึกถึงหน้าตัวละครก็ต้องเป็นเสียงของคนนี้เท่านั้น (เหมือนไจแอน์ก็ต้องพากษ์โดยน้าต๋อยนั้นแหละ) แล้วคราวนี้ทาง toonami ก็ยอมไฟเขียวให้เห็นเลือดได้ด้วย(แต่ก็ยังมีการเซ็นเซอร์บ้างฉากอยู่ดี) โดยเริ่มต่อจากที่โกคูซัดรีคูมล้ม และในช่วงเวลาหยุดโลกที่ ดราก้อนบอล z ทำกับอเมริกาครั้งแรก นั้นคือการแปลงร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่า ครั้งแรกของโกคู กระแสในอเมริกาตอนนั้นนี้คือถล่มทลายอย่างแท้จริง และกลายเป็นเรตติ้งอันดับหนึ่งของตารางโปรแกรมทางทีวีสำหรับ ผู้ชมอายุ 9-24 ปี และเป็นรายการที่ติดอันดับ 1ใน3 ของรายการทีวีที่มีเรตติ้งสูงที่สุดทั่วทั้งอเมริกา ตีคู่กับรายการยักษ์ใหญ่ในตอนนั้นอย่าง CBS กับ WWF ได้ และยิ่งเสริมความดังเข้าไปอีกเมื่อหนังสือพิมพ์หัวใหญ่อย่าง Wall Street ออกมาติเตี้ยนถึงความรุ่นแรงที่ไม่เหมาะกับเด็กในเรือง ทำให้ ดราก้อนบอล z มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก
วันที่ 1 กันยายน 2000 ดราก้อนบอล z ก็เข้าสู่ช่วงภาคเซลเป็นครั้งแรกในอเมริกา และจบภาคบูครั้งแรกในเดือน เมษายน ปี2003 จากนั้นในปี 2005 ด้วยความดังของดราก้อนบอล toonami จึงไฟเขียวให้ปล่อยฉบับไม่ตัดไม่เซ็นของ ดราก้อนบอล z ออกฉายตั้งแต่ต้นจนจบ พูดได้เลยว่านับจากดราก้อนบอล z มาแล้วไม่เคยมีอนิเมเรืองไหนประสบความสำเร็จในระดับโลกเทียบได้แม้แต่เงาที่ ดราก้อนบอล z เคยทำไว้สักเรือง
พอจะรู้รึยังครับว่าทำไมถึงไม่มี อนิเมเรืองไหนดังและประสปความสำเร็จเกินดราก้อนบอลไปได้
mkhazard ทึ่ง, bugmai ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6632873 ถูกใจ, Balleno ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1471833 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3784463 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1328266 ถูกใจ, คนผิดชื่อก้อง ถูกใจ, อินทรีสามก๊ก ถูกใจ, Little_playboy ถูกใจรวมถึงอีก 18 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 14
สำหรับผมคือดราก้อนบอลไม่ฝืนเนื้อเรื่อง คือพอเนื้อเรื่องระดับพลังอะไรมันเริ่มโตจนเว่อหลังภาคฟรีซ ตัวละครเก่าๆก็ถูกโละไปไม่มีบทโดยไม่ฝืนเอากลับมา ส่วนโกคูถึงจะแก้นิสัยบ้าต่อสู้ไม่หายแต่ช่วงหลังๆก็ยังรู้สึกได้ว่าโตขึ้น มีการตัดสินใจดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นตั้งแต่มีลูกมีครอบครัว (ถึงจะเกือบส่งลูกไปให้เซลล์ฆ่าก็เถอะ) ทำให้รู้สึกอินและรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันยังไหลลื่นไปได้
ในขณะที่วันพีชช่วงหลังๆ โอดะ รักษาคาแรคเตอร์ลูฟี่มากเกินไป อาจเพราะผมเองโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนเช่นกันทำให้รู้สึกว่านี่หรือคนที่จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด ลูฟี่ยังเป็นคนหัวร้อน ตัดสินใจตามอารมณ์ ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา ทำแผนพังเป็นว่าเล่น ไม่มีความเป็นเป็นผู้นำ หรือตัดสินใจอะไรให้แก่ลูกเรือได้ คนที่ทำได้แค่ต่อยตีเก่งมันเป็นราชาไม่ได้หรอก แค่อยากเป็นเหมือนเด็กอยากเป็นตำรวจจับผู้ร้าย อยากเป็นหมอ โดยที่ไม่รู้ว่าอาชีพพวกนั้นต้องมีความรู้อะไรบ้างต้องทำอะไรบ้าง มีความเสี่ยงแค่ไหน ตาแรคเตอร์ของลูฟี่ควรจะโตขึ้นได้แล้ว ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่
ในขณะที่วันพีชช่วงหลังๆ โอดะ รักษาคาแรคเตอร์ลูฟี่มากเกินไป อาจเพราะผมเองโตขึ้นกว่าเมื่อก่อนเช่นกันทำให้รู้สึกว่านี่หรือคนที่จะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด ลูฟี่ยังเป็นคนหัวร้อน ตัดสินใจตามอารมณ์ ไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา ทำแผนพังเป็นว่าเล่น ไม่มีความเป็นเป็นผู้นำ หรือตัดสินใจอะไรให้แก่ลูกเรือได้ คนที่ทำได้แค่ต่อยตีเก่งมันเป็นราชาไม่ได้หรอก แค่อยากเป็นเหมือนเด็กอยากเป็นตำรวจจับผู้ร้าย อยากเป็นหมอ โดยที่ไม่รู้ว่าอาชีพพวกนั้นต้องมีความรู้อะไรบ้างต้องทำอะไรบ้าง มีความเสี่ยงแค่ไหน ตาแรคเตอร์ของลูฟี่ควรจะโตขึ้นได้แล้ว ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่
t_sky ถูกใจ, bugmai ถูกใจ, ActJung ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3784463 ถูกใจ, AMightyBlue ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1328266 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1630720 ถูกใจ, L.hideki ถูกใจ, MakeFace ถูกใจ, Nakumonka ถูกใจรวมถึงอีก 21 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไม one piece ถึงไม่สามารถแซง dragon ball ในด้านความนิยมไปทั่วโลกได้ครับ ทั้งที่ plot เรื่องดีกว่า
แต่ทำไมกระแส การสร้าง impact มันถึงสู้ dragonball ไม่ได้ ทั้งที่ one piece องค์ประกอบแทบจะไม่ด้อยกว่าเลย ดีกว่าในแง่ทั้ง plot เรื่องที่ดี มีการวางโครงเรื่องที่แน่น แม้จะมี plot hole ไปบ้างที่แชงค์แขนขาด
แต่ทำไม one piece ไม่สามารถไปถึงจุดที่ dragonball เคยทำได้ ทั้งที่ดราก้อนบอลจบไปนาน และ dragonball super ก็โดนด่าไปเยอะเรื่องเผางาน
เลยอยากถามเพื่อนๆที่ดูการ์ตูนทั้งสองเรื่องนี้ ว่า One piece ยังขาดอะไร ที่ทำให้ไม่สามารถสร้างกระแส ความนิยม แบบที่ dragonball เคยทำได้ครับ