คุณพ่อเป็นเจ้าของบัตรเครดิตของธนาคารแห่งหนึ่งอยู่ วงเงินประมาณ 2 แสนบาท ปัจจุบันคุณพ่ออายุ 73 ปี และไม่มีรายได้แล้ว แต่ละเดือนลูกๆ ให้เงินเป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะประมาณ 1 หมื่นบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอในการใช้จ่ายประจำวัน
ประเด็นมีอยู่ว่า คุณพ่อนำบัตรเครดิตที่มีอยู่ไปกดเป็นเงินสดออกมาเพื่อให้คนที่ไม่ได้รู้จักกู้ยืม รอบแรก 2 หมื่นบาท รอบที่สอง 3 หมื่นบาท และรอบที่สามนี่หนักสุด 4 หมื่นบาท เบ็ดเสร็จก็น่าจะราว 9 หมื่นบาทแล้ว ตอนนี้ก็น่าจะนั่งส่งดอกเป็นรายเดือนอยู่ มีบ้างไม่มีบ้าง
พอเราทราบเรื่องเลยพยายามโทรไปติดต่อธนาคารเพื่อที่จะขอให้ช่วยปรับลดวงเงินในบัตรเพื่อลดความเสี่ยงจากการไม่สามารถผ่อนชำระได้ ปรากฏว่าจะต้องให้เจ้าของบัตรเป็นผู้ยินยอม ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ธนาคารยืนยันอย่างเดียวว่าจะต้องให้เจ้าของบัตรยินยอม ถึงขนาดโทรคุยกันสามสาย (เจ้าหน้าที่ธนาคาร เรา และคุณพ่อ) ซึ่งก็แน่นอนพ่อไม่ยอมให้ปรับลดวงเงินอยู่แล้ว คุยอยู่ 2 รอบก็ไม่สำเร็จ
ในกรณีเช่นนี้ เราจะมีวิธีการอย่างไรบ้างไหมครับที่จะขอยกเลิกบัตร/ปรับลดวงเงินในบัตรของคุณพ่อ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน (ธนาคารก็ยังยืนยันท่าเดียวให้ไปคุยกับพ่อ ซึ่งพ่อก็ไม่ยอมที่จะปรับลดอยู่แล้ว) แถมเราประเมินเห็นๆ อยู่แล้วว่า หนี้สูญแหงๆ ธนาคารก็ยังไม่สนใจที่จะช่วยหาทางออกใดๆ ให้เลย บอกอย่างเดียวให้ไปคุยกับพ่อ เฮ่อออ....ถ้าคุยได้ก็คงไม่ต้องมานั่งติดต่อธนาคารให้ยุ่งวุ่นวายและเสียสุขภาพจิตอย่างนี้
หากไม่ใช่เจ้าของบัตรเครดิต จะมีวิธีปรับลดวงเงินในบัตรได้อย่างไร
ประเด็นมีอยู่ว่า คุณพ่อนำบัตรเครดิตที่มีอยู่ไปกดเป็นเงินสดออกมาเพื่อให้คนที่ไม่ได้รู้จักกู้ยืม รอบแรก 2 หมื่นบาท รอบที่สอง 3 หมื่นบาท และรอบที่สามนี่หนักสุด 4 หมื่นบาท เบ็ดเสร็จก็น่าจะราว 9 หมื่นบาทแล้ว ตอนนี้ก็น่าจะนั่งส่งดอกเป็นรายเดือนอยู่ มีบ้างไม่มีบ้าง
พอเราทราบเรื่องเลยพยายามโทรไปติดต่อธนาคารเพื่อที่จะขอให้ช่วยปรับลดวงเงินในบัตรเพื่อลดความเสี่ยงจากการไม่สามารถผ่อนชำระได้ ปรากฏว่าจะต้องให้เจ้าของบัตรเป็นผู้ยินยอม ซึ่งเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ธนาคารยืนยันอย่างเดียวว่าจะต้องให้เจ้าของบัตรยินยอม ถึงขนาดโทรคุยกันสามสาย (เจ้าหน้าที่ธนาคาร เรา และคุณพ่อ) ซึ่งก็แน่นอนพ่อไม่ยอมให้ปรับลดวงเงินอยู่แล้ว คุยอยู่ 2 รอบก็ไม่สำเร็จ
ในกรณีเช่นนี้ เราจะมีวิธีการอย่างไรบ้างไหมครับที่จะขอยกเลิกบัตร/ปรับลดวงเงินในบัตรของคุณพ่อ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน (ธนาคารก็ยังยืนยันท่าเดียวให้ไปคุยกับพ่อ ซึ่งพ่อก็ไม่ยอมที่จะปรับลดอยู่แล้ว) แถมเราประเมินเห็นๆ อยู่แล้วว่า หนี้สูญแหงๆ ธนาคารก็ยังไม่สนใจที่จะช่วยหาทางออกใดๆ ให้เลย บอกอย่างเดียวให้ไปคุยกับพ่อ เฮ่อออ....ถ้าคุยได้ก็คงไม่ต้องมานั่งติดต่อธนาคารให้ยุ่งวุ่นวายและเสียสุขภาพจิตอย่างนี้