โอเคค่ะ มันเป็นชื่อหัวข้อที่ดูกวนนะคะ...แต่
ตอนประมาณอนุบาลเราอยู่ตจว.แม่เราตอนนั้นเป็นซิงเกิ้ลมัมต้องทำงานที่กรุงเทพ แล้วตอนนั้นเราถูกพวกเพื่อนของตาเขาลวนลามทางเพศ ประมาณว่าใช้นิ้วกับเราจนเยื่อพรมจัน(เขียนงี้เปล่า?)ขาดแล้วทีนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว...เราไม่เคยบอกใครเลยเพราะว่าเราอาย เรากลัว และเรายังเด็กมากๆ ที่จำได้เพราะฝังใจล้วนๆ
ทีนี้แม่เรามารับเราไปเรียนที่กรุงเทพ แล้วแม่เรามีแฟนใหม่ ซึ่งไอ้เราก็ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชายเพราะฝังใจอยู่แล้ว ตอนนั้นอยู่ป.1เราก็เหมือนเด็กขี้งอแงงี้เง่าแหละ ไม่ยอมกินข้าว ไม่อยากเจอหน้าแฟนแม่ จนนางเริ่มทำโทษเราด้วยการตี...ยิ่งเราร้อง เขายิ่งตี แม่ก็รู้ว่าเขาตี บอกว่าเป็นการดัดนิสัย
จนเราไม่กล้าจะขัดใจเขา พยายามเป็นเด็กดี และไม่มีปัญหา
ตอนป.3
เรากลับไปเยี่ยมยาย แล้วเราก็ไปวิ่งเล่นตามประสาเด็ก แต่เราเห็นตากำลังมีเพศสัมพันธุ์กับเพื่อนสนิทเรา...2ครั้ง ครั้งละคน เรารู้สึกเวียนหัวอยากอาเจียนมากตอนที่เห็นแต่ก็กลั้นใจไว้ไม่บอกใคร
เราเริ่มหมกหมุ่นเรื่องเพศเพราะมีเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ
เราก็ต้องเปิดเทอมในช่วงป.5 เราเห็นแฟนแม่กับแม่มีอะไรกัน เราไม่รู้นะว่าเราร้องไห้ทำไมทั้งๆที่หมกหมุ่นแท้ๆ วันนั้นเราร้องไห้ พอเขาทำกันเสร็จแล้วเราต้องตื่นไปร.ร.เราไปบอกแม่ว่า
'รักแม่ ไม่อยากไปโรงเรียน'เพราะเราไม่อยากรับรู้เรื่องแบบเมื่อคื่นนั้นหรืออยากให้เกิดขึ้นอีก
'เสแสร้ง...เธอไม่อยากไปโรงเรียนล่ะสิ เธอไม่รักแม่เธอจริงๆหรอก'ทำกันได้ลงคอ...ทั้งๆที่เราพยายามไม่เหลวแหลกแท้ๆ ยอมให้ทำโทษทั้งๆที่ผิดเพียงเล็กน้อยแท้ๆ(ตื่นสาย,ลืมนู้นนี้,งอแง)...ทำร้ายใจเราได้ลงคอ
ตอนนั้นคือจุดแตกหักของเรา เราเกลียดแฟนแม่จนเราไม่เอาการเรียน จนมีปัญหากับที่บ้าน ตามเคย โดนมือเท้าชุดใหญ่จนช้ำกันไป
แล้วหนูก็ต้องย้ายโรงเรียนกลางเทอมเพราะความอับอายของเขา หนูพยายามเริ่มต้นตัวเองใหม่เพราะได้ข่าวว่าแฟนแม่กับแม่จะแต่งงานกัน
ตอนนั้นเรากินหมูกระทะกันหน้าบ้าน
หนูถามไปว่า
"จะแต่เมื่อไหร่คะ"
นี่คือคำตอบ"เรื่องของผู้ใหญ่"
ทำให้เราไม่อยากประกอบรอยร้าวในใจ เราปล่อยมันแตก
ผลกระทบกระเทือนเราหลายอย่าง จนเราเกลียดเด็กที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา...แต่ก็น่าสงสารเด็กคนนั้นที่ต้องตายเพราะกามราคะของแฟนแม่
หนูต้องย้ายร.ร.อีกรอบตอนป.6เพราะจำเป็นต้องใกล้บ้าน
วันนี้วันไข่ตกของแม่...หนูอยากขัดขวาง เลยขอไปดูหนังด้วย
"แม่ค่ะ วันนี้ขอนอนด้วยได้มั้ยคะ "
"เขาไม่ได้รักเธอจริงหรอก...แค่อยากดูละคร"
นี่หรือชายผู้จะมาเป็นส่วนหนึ่งจองแม่เรา
..อืมค่ะ ตอนนี้เราก็ยังหมกหมุ้นอยู่นะคะ แต่เราจะทำอะไรได้ เราใจแตกมาก
พอเราขึ้นม.1ได้ มีอยู่วันนึงที่ต้องใส่อินทรธนูแล้วมันมีด้ายเย็บไว้ตรงกลางช่องเลยใส่อินทรธนูไม่ได้ เราเลยให้ครูเลาะให้ตอนที่เรายังใส่เสื้ออยู่ มันแฉลบเข้าที่ไหล่เรา...เรารู้สึกว่ามันทรมานนะ...แต่มันก็เจ็บน้อยกว่าใจเราในอดีต ตอนนั้น ตอนนี้ อะไรทำนองนี้
จากนั้นพท.ส่วนตัวของหนูก็กลายเป็นห้องทรมานตัวเอง จะมีแผลตามใต้ร่มผ้า ด้วยคัตเตอร์ เข็มกลัด เข็มขัด กรรไกร
หนูอยากทรมานมากกว่าใจของตัวเองจนหนูขาดไม่ได้
พวกเขาเข้ามาเห็นกรรมวิธีที่หนูทำตอนช่วงม.2
บอกว่าเสียใจ
บอกว่าผิดหวัง
'พวกคุณไม่เคยรู้หรอคะว่าหนูเจ็บ..เสียใจ...ผิดหวังกับพวกคุณมากขนาดไหน'
อิจฉาที่ลูกคนอื่นเขามีแม่ถักเปียให้ รีดเสื้อให้ ทำกับข้าวให้
แต่เราต้องรับบทเป็นแม่ให้แม่ตัวเองทั้งๆที่วันๆแม่แทบไม่ทำอะไรเลย ขอโทษในข้อความอกตัญญูนี้นะคะ
คนที่เข้าใจในความทุกข์นี้ดีมีเพียงครูค่ะ
ทำให้โรงเรียนเป็นที่ที่หนูอยากอยู่
และบ้านเป็นเหมือนนรกที่ไม่อยากจะไป
จนต้องย้ายบ้านอีกรอบมาที่บ้านแฟนแม่ เราต้องทนอยู่ห้องเดียกับแม่ และ แฟนแม่
แม่ของผู้ชายคนนั้นเป็นโรคประสาทเพราะพ่อของเขามีเมียน้อย ทำให้หญิงวัยกลางคนชอบคิดว่าหนูเป็นขโมยทั้งๆที่หนูมาหยิบของๆตัวเองแท้ๆ อยู่เฉยๆก็หงุดหงิดและใช้มีดจะขู่ฆ่าแต่...หนูไม่โกรธนะคะ คิดด้วยซ้ำค่ะเขาเป็นแบบนี้เพราะสามีของตัวเอง ไม่แปลกที่ลูกชายของเขาจะเป็นแบบนี้
จนกระทั่งหนูไม่สามารถจะทรมานตัวเองได้แล้ว
มีสิ วิธีที่เขาเห็นมันแต่ไม่รู้ว่าเราทรมาน
เข็มรนไฟ
กระดาษทรายกับแอลกอฮอ
โชกเกอร์ที่เป็นปลอกคอเราใช้มันรัดตรึงที่คอจนเกือบขาดใจและช่วยตัวเองไปด้วยตอนที่พวกเขาไม่อยู่
มีครั้งหนึ่งพวกเขาทะเลาะกันเพราะแค่เราไม่อ่านไลน์
คือแม่เราส่งหวยใต้ดินแล้วเราต้องส่งเลขอะไรสักอย่างตอนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดแล้วคือตลอดทางไม่ได้นอน กับน้าที่เป็นโรคสมาธิสั้น(แม่โดนข่มขืนตอนท้อง)
แล้วเราสองคนไม่ได้อ่านไลน์ แม่เลยโทรมาด่าแฟนแม่ที่ขับรถอยู่
ด้วยความเหนื่อยเลยเดือดใส่พวกเรา และแม่บอกเลิกด้วย เร่ไม่เสียใจเลย...ไม่เลยสักนิด เขาจะทุบตีเรายังไง เราก็ยังเผลอหยุดหัวเราะไม่ได้จนเขารู้ตัวแล้วไปลงที่น้าที่เสียใจฟูมฟาย
น่าสงสารน้าจัง
จนปัจจุบัน เราแอบหลงผู้ชายคนหนึ่งเรารู้ดีว่าเขาไม่มีทางจะหันเหตัวเองจากภรรยาและลูกชายทั้งสองคนได้...ครูคนนั้นเขาดีเกินที่จะหันมามองเราและไม่มีทาง สิ่งที่ทำได้คือมโนและเก็บมาช่วยตัวเอง ทั้งสมุดที่เขาเคยตรวจ แก้วกาแฟที่วางทิ้งไว้ในห้องพักครู ปากกา แม้กระทั่งเส้นผม
และทิชชู่ที่เขาทำหล่นไว้
เราหลงมากจนแอบคิดว่าเขาข่มขืนเราและทรมานเราไปด้วย...พยายามเลี่ยงจะไม่คิดหรอก แต่จะนอนไม่หลับเลยถ้าไม่ช่วยตัวเอง
เพือนสนิทรู้ว่าเราชอบครู แต่เพื่อนไม่รู้เรื่องที่ผ่านมาของเรา
ทั้งเรื่องในชีวิตของเรา ไม่มีใครผิดสักทีเดียว
แต่แม่เลือกคู่ชีวิตผิด...คนที่เขานินทาแม่ คนที่ยอมให้แม่เปื้อนน้ำลายขี้ปากชาวบ้านทั้งๆที่เขานั่นแหละโพทนาบอกเรื่องไม่ดีของแม่...คิดดีจริงๆหรอคะ
มันจะแปลกกว่านี้ถ้าเราไม่กระทบกระเทือนใจเลย
ปล.หนูไม่เคยไปหาหมอนะคะ เพราะต้องใช้ผปค.ซึ่งหนูก็ไม่ไว้ใจพวกเขา
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะทัศนคติแต่ละคนไม่เหมือนจะเพราะสังคมที่พิมพ์พวกเขาออกมาให้เป็นแบบไหน ก็เป็นแบบนั้นค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
คือเราเป็นมาโซคิสม์ เพราะ...แต่ทุกคนไม่รู้เพราะ...แล้วเราก็เป็นแบบ...
ตอนประมาณอนุบาลเราอยู่ตจว.แม่เราตอนนั้นเป็นซิงเกิ้ลมัมต้องทำงานที่กรุงเทพ แล้วตอนนั้นเราถูกพวกเพื่อนของตาเขาลวนลามทางเพศ ประมาณว่าใช้นิ้วกับเราจนเยื่อพรมจัน(เขียนงี้เปล่า?)ขาดแล้วทีนี้ไม่ได้มีแค่คนเดียว...เราไม่เคยบอกใครเลยเพราะว่าเราอาย เรากลัว และเรายังเด็กมากๆ ที่จำได้เพราะฝังใจล้วนๆ
ทีนี้แม่เรามารับเราไปเรียนที่กรุงเทพ แล้วแม่เรามีแฟนใหม่ ซึ่งไอ้เราก็ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชายเพราะฝังใจอยู่แล้ว ตอนนั้นอยู่ป.1เราก็เหมือนเด็กขี้งอแงงี้เง่าแหละ ไม่ยอมกินข้าว ไม่อยากเจอหน้าแฟนแม่ จนนางเริ่มทำโทษเราด้วยการตี...ยิ่งเราร้อง เขายิ่งตี แม่ก็รู้ว่าเขาตี บอกว่าเป็นการดัดนิสัย
จนเราไม่กล้าจะขัดใจเขา พยายามเป็นเด็กดี และไม่มีปัญหา
ตอนป.3
เรากลับไปเยี่ยมยาย แล้วเราก็ไปวิ่งเล่นตามประสาเด็ก แต่เราเห็นตากำลังมีเพศสัมพันธุ์กับเพื่อนสนิทเรา...2ครั้ง ครั้งละคน เรารู้สึกเวียนหัวอยากอาเจียนมากตอนที่เห็นแต่ก็กลั้นใจไว้ไม่บอกใคร
เราเริ่มหมกหมุ่นเรื่องเพศเพราะมีเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ
เราก็ต้องเปิดเทอมในช่วงป.5 เราเห็นแฟนแม่กับแม่มีอะไรกัน เราไม่รู้นะว่าเราร้องไห้ทำไมทั้งๆที่หมกหมุ่นแท้ๆ วันนั้นเราร้องไห้ พอเขาทำกันเสร็จแล้วเราต้องตื่นไปร.ร.เราไปบอกแม่ว่า
'รักแม่ ไม่อยากไปโรงเรียน'เพราะเราไม่อยากรับรู้เรื่องแบบเมื่อคื่นนั้นหรืออยากให้เกิดขึ้นอีก
'เสแสร้ง...เธอไม่อยากไปโรงเรียนล่ะสิ เธอไม่รักแม่เธอจริงๆหรอก'ทำกันได้ลงคอ...ทั้งๆที่เราพยายามไม่เหลวแหลกแท้ๆ ยอมให้ทำโทษทั้งๆที่ผิดเพียงเล็กน้อยแท้ๆ(ตื่นสาย,ลืมนู้นนี้,งอแง)...ทำร้ายใจเราได้ลงคอ
ตอนนั้นคือจุดแตกหักของเรา เราเกลียดแฟนแม่จนเราไม่เอาการเรียน จนมีปัญหากับที่บ้าน ตามเคย โดนมือเท้าชุดใหญ่จนช้ำกันไป
แล้วหนูก็ต้องย้ายโรงเรียนกลางเทอมเพราะความอับอายของเขา หนูพยายามเริ่มต้นตัวเองใหม่เพราะได้ข่าวว่าแฟนแม่กับแม่จะแต่งงานกัน
ตอนนั้นเรากินหมูกระทะกันหน้าบ้าน
หนูถามไปว่า
"จะแต่เมื่อไหร่คะ"
นี่คือคำตอบ"เรื่องของผู้ใหญ่"
ทำให้เราไม่อยากประกอบรอยร้าวในใจ เราปล่อยมันแตก
ผลกระทบกระเทือนเราหลายอย่าง จนเราเกลียดเด็กที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา...แต่ก็น่าสงสารเด็กคนนั้นที่ต้องตายเพราะกามราคะของแฟนแม่
หนูต้องย้ายร.ร.อีกรอบตอนป.6เพราะจำเป็นต้องใกล้บ้าน
วันนี้วันไข่ตกของแม่...หนูอยากขัดขวาง เลยขอไปดูหนังด้วย
"แม่ค่ะ วันนี้ขอนอนด้วยได้มั้ยคะ "
"เขาไม่ได้รักเธอจริงหรอก...แค่อยากดูละคร"
นี่หรือชายผู้จะมาเป็นส่วนหนึ่งจองแม่เรา
..อืมค่ะ ตอนนี้เราก็ยังหมกหมุ้นอยู่นะคะ แต่เราจะทำอะไรได้ เราใจแตกมาก
พอเราขึ้นม.1ได้ มีอยู่วันนึงที่ต้องใส่อินทรธนูแล้วมันมีด้ายเย็บไว้ตรงกลางช่องเลยใส่อินทรธนูไม่ได้ เราเลยให้ครูเลาะให้ตอนที่เรายังใส่เสื้ออยู่ มันแฉลบเข้าที่ไหล่เรา...เรารู้สึกว่ามันทรมานนะ...แต่มันก็เจ็บน้อยกว่าใจเราในอดีต ตอนนั้น ตอนนี้ อะไรทำนองนี้
จากนั้นพท.ส่วนตัวของหนูก็กลายเป็นห้องทรมานตัวเอง จะมีแผลตามใต้ร่มผ้า ด้วยคัตเตอร์ เข็มกลัด เข็มขัด กรรไกร
หนูอยากทรมานมากกว่าใจของตัวเองจนหนูขาดไม่ได้
พวกเขาเข้ามาเห็นกรรมวิธีที่หนูทำตอนช่วงม.2
บอกว่าเสียใจ
บอกว่าผิดหวัง
'พวกคุณไม่เคยรู้หรอคะว่าหนูเจ็บ..เสียใจ...ผิดหวังกับพวกคุณมากขนาดไหน'
อิจฉาที่ลูกคนอื่นเขามีแม่ถักเปียให้ รีดเสื้อให้ ทำกับข้าวให้
แต่เราต้องรับบทเป็นแม่ให้แม่ตัวเองทั้งๆที่วันๆแม่แทบไม่ทำอะไรเลย ขอโทษในข้อความอกตัญญูนี้นะคะ
คนที่เข้าใจในความทุกข์นี้ดีมีเพียงครูค่ะ
ทำให้โรงเรียนเป็นที่ที่หนูอยากอยู่
และบ้านเป็นเหมือนนรกที่ไม่อยากจะไป
จนต้องย้ายบ้านอีกรอบมาที่บ้านแฟนแม่ เราต้องทนอยู่ห้องเดียกับแม่ และ แฟนแม่
แม่ของผู้ชายคนนั้นเป็นโรคประสาทเพราะพ่อของเขามีเมียน้อย ทำให้หญิงวัยกลางคนชอบคิดว่าหนูเป็นขโมยทั้งๆที่หนูมาหยิบของๆตัวเองแท้ๆ อยู่เฉยๆก็หงุดหงิดและใช้มีดจะขู่ฆ่าแต่...หนูไม่โกรธนะคะ คิดด้วยซ้ำค่ะเขาเป็นแบบนี้เพราะสามีของตัวเอง ไม่แปลกที่ลูกชายของเขาจะเป็นแบบนี้
จนกระทั่งหนูไม่สามารถจะทรมานตัวเองได้แล้ว
มีสิ วิธีที่เขาเห็นมันแต่ไม่รู้ว่าเราทรมาน
เข็มรนไฟ
กระดาษทรายกับแอลกอฮอ
โชกเกอร์ที่เป็นปลอกคอเราใช้มันรัดตรึงที่คอจนเกือบขาดใจและช่วยตัวเองไปด้วยตอนที่พวกเขาไม่อยู่
มีครั้งหนึ่งพวกเขาทะเลาะกันเพราะแค่เราไม่อ่านไลน์
คือแม่เราส่งหวยใต้ดินแล้วเราต้องส่งเลขอะไรสักอย่างตอนเดินทางกลับจากต่างจังหวัดแล้วคือตลอดทางไม่ได้นอน กับน้าที่เป็นโรคสมาธิสั้น(แม่โดนข่มขืนตอนท้อง)
แล้วเราสองคนไม่ได้อ่านไลน์ แม่เลยโทรมาด่าแฟนแม่ที่ขับรถอยู่
ด้วยความเหนื่อยเลยเดือดใส่พวกเรา และแม่บอกเลิกด้วย เร่ไม่เสียใจเลย...ไม่เลยสักนิด เขาจะทุบตีเรายังไง เราก็ยังเผลอหยุดหัวเราะไม่ได้จนเขารู้ตัวแล้วไปลงที่น้าที่เสียใจฟูมฟาย
น่าสงสารน้าจัง
จนปัจจุบัน เราแอบหลงผู้ชายคนหนึ่งเรารู้ดีว่าเขาไม่มีทางจะหันเหตัวเองจากภรรยาและลูกชายทั้งสองคนได้...ครูคนนั้นเขาดีเกินที่จะหันมามองเราและไม่มีทาง สิ่งที่ทำได้คือมโนและเก็บมาช่วยตัวเอง ทั้งสมุดที่เขาเคยตรวจ แก้วกาแฟที่วางทิ้งไว้ในห้องพักครู ปากกา แม้กระทั่งเส้นผม
และทิชชู่ที่เขาทำหล่นไว้
เราหลงมากจนแอบคิดว่าเขาข่มขืนเราและทรมานเราไปด้วย...พยายามเลี่ยงจะไม่คิดหรอก แต่จะนอนไม่หลับเลยถ้าไม่ช่วยตัวเอง
เพือนสนิทรู้ว่าเราชอบครู แต่เพื่อนไม่รู้เรื่องที่ผ่านมาของเรา
ทั้งเรื่องในชีวิตของเรา ไม่มีใครผิดสักทีเดียว
แต่แม่เลือกคู่ชีวิตผิด...คนที่เขานินทาแม่ คนที่ยอมให้แม่เปื้อนน้ำลายขี้ปากชาวบ้านทั้งๆที่เขานั่นแหละโพทนาบอกเรื่องไม่ดีของแม่...คิดดีจริงๆหรอคะ
มันจะแปลกกว่านี้ถ้าเราไม่กระทบกระเทือนใจเลย
ปล.หนูไม่เคยไปหาหมอนะคะ เพราะต้องใช้ผปค.ซึ่งหนูก็ไม่ไว้ใจพวกเขา
ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะทัศนคติแต่ละคนไม่เหมือนจะเพราะสังคมที่พิมพ์พวกเขาออกมาให้เป็นแบบไหน ก็เป็นแบบนั้นค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ