ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย คุณคิดเหมือนกันไหม

กระทู้คำถาม
ความเจ็บปวดเป็นเเรงกระตุ้น  (อ่านให้จบนะคะ)
🔆ฉันชื่อหนูนา เป็นผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีความฝันเเละพยายามจะทำตามความฝัน เเละความฝันของฉันคือ การได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
🔆ฉันเกิดอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ครอบครัวของฉันอยู่กันพร้อมหน้า มีพ่อ เเม่ พี่ชาย เเละฉัน ตอนที่เราอาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน เรามีบ้านหลังเล็กๆ บ้านหลังเเรกเป็นบ้านไม้ไผ่(ฉันเด็กมาก)หลังต่อมาคือบ้านปูนเล็กๆซึ่งฉันก็เกือบลืมภาพของบ้านทั้งสองหลังนั้นไปเเล้ว  พอฉันอายุได้สัก4-5ขวบครอบครัวของฉันได้ย้ายไปอยู่ที่ทำงาน ห่างจากบ้านเก่าของฉันประมาณ1-2กิโลเมตร  พ่อกับเเม่ทำงานเป็นเเม่บ้านพ่อบ้าน พี่ชายของฉันไปร้องเพลงกลางคืนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อเเม่ตอนนั้นเขาเรียนอยู่ชั้นประถมฯถ้าจำไม่ผิดประมาณป.2 เขาเคยไปออกรายการทีวีด้วยนะตอนนั้นครอบครัวเราเหมือนจะมีความสุขดี เเต่พ่อกับเเม่ทะเลาะกันบ่อย พ่ออารมณ์ร้อนเเละติดเหล้า ฝันร้ายที่ฉันเคยเจอคือวันตรุษจีนปี2555 พ่อกับเเม่ทะเลาะกันรุนเเรงมาก ภาพยังติดตาฉันมาจนทุกวันนี้ แม่นอนเจ็บอยู่หลายวัน พอเเม่หายเเม่ได้พาฉันกับพี่ชายไปหาญาติที่จังหวัดศีรษะเกต ฉันจึงต้องย้ายไปเรียนที่นั่น ส่วนพ่อไปทำงานก่อสร้างที่จังหวัดตราด ครอบครัวเราเเยกกันอยู่คนละทิศละทาง เวลาผ่านไปไม่นานญาติได้โทรมาบอกว่าพ่อล้มหมดสติ เข้าโรงพยาบาล ฉันกับเเม่ก็รีบกลับมาที่บ้านเกิดของฉันก่อน ญาติของฉันรวบรวมเงินจ้างรถตู้ไปรับพ่อมารักษาต่อที่รพ.ในจังหวัดนครราชสีมา ในความทรงจำของฉันคือ ฉันต้องนอนที่บ้านญาติเพราะฉันต้องไปโรงเรียน บ้านเเรกคือบ้านป้า เเละย้ายไปอยู่บ้านปู่(ไม่ใช่ปู่เเท้ๆ) แม่อยู่ที่บ้านป้าอีกหมู่บ้านที่ติดถนนใหญ่เพื่อขึ้นรถไปเฝ้าพ่อได้สะดวก เเม่นำของมาขายที่หมู่บ้าน ฉันได้เจอเเม่เเค่เดี๋ยวเดียวเเม่ก็ต้องไป ฉันคิดถึงแม่ใจจะขาด ในชีวิตฉันไม่เคยห่างจากแม่ มีวันหนึ่งแม่บอกว่า "หมอบอกว่าพ่อเป็นโรคตับจะอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์" ฉันเศร้าใจโลกทั้งโลกสับสน เเต่ด้วยความเป็นเด็กไม่รู้จะทำยังไง ความทรงจำตอนนั้นมันเเย่มากๆ พี่ชายของฉันต้องลาออกจากโรงเรียนเพราะต้องช่วยเเม่เฝ้าพ่อ เฝ้าได้สักพักเขาก็ได้ไปอยู่กับเพื่อนที่ทำงานกับวงดนตรีด้วยกัน ตอนที่เขาอยู่ที่นั่นฉันไม่รู้ว่าเขาต้องเจออะไรบ้าง เพราะเขาอยู่เเค่ม.1 ครอบครัวของเราเหลือเเค่ พ่อที่ป่วย แม่ เเละฉัน  หลายเดือนต่อมาพ่อ อาการดีขึ้นหมอให้ออกจากรพ. ฉันย้ายไปอยู่กับป้าที่หมู่บ้านติดถนนที่เเม่เคยอยู่ตอนนั้นพ่อแม่ขายส้มตำไก่ทอด พ่อเเม่พยายามสร้างตัวจนดีขึ้น ฉันอยู่ประมาณป.5พ่อเริ่มหายดี ครอบครัวเราเลยย้ายมาอยู่ที่ทำงานเดิม(เเถวๆหมู่บ้าน)เริ่มมีรายได้ ผ่อนรถ1คัน เงินก็มีใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ถือว่าขัดสนอะไรมาก พ่อเเม่สืบหาว่าพี่ชายอยู่ที่ไหนจึงไปรับกลับมา ครอบครัวเราจึงกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง ฉันกลับไปเรียนที่รร.เดิม ฉันตั้งใจเรียนมากขึ้น เกรดก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันได้คะเเนนโอเน็ตอันดับที่3ของห้อง (ในห้องมี40กว่าคน) ครูชมว่าเรียนดีขึ้นเยอะเลย  ปล.เเต่พ่อกับเเม่ก็ยังทะเลาะกันบ่อยเหมือนเดิม 😫
🔆เวลาผ่านมาจนฉันอยู่ม.1 ช่วงนั้นฉันออกนอกลู่นอกทาง ทำตัวไม่เเคร์ใคร
ตามประสาวัยรุ่น ทะเลาะกับรุ่นน้องบ้าง (ไม่ถึงขค้นตบตี)กับครูบ้าง ถูกฝ่ายปกครองเรียกพบ1ครั้ง เชิญผู้ปกครอง2ครั้ง(1ครั้งฉันโดนหางเลข) ขึ้นม.2ฉันเริ่มดึงตัวเองกลับมาได้ ทำตัวให้ดีขึ้น ฉันพยายามมีเรื่องให้น้อยที่สุด เงียบได้เงียบ ถึงขนาดกับเพื่อนฉันก็เลี่ยงที่จะมีปัญหา เเต่ถึงฉันจะเคยออกนอกลู่นอกทางไปบ้างเเต่ฉันไม่เคยละทิ้งการเรียน การเรียนฉันดีมาโดยตลอดไม่เคยติด0ติดร. ฉันคิดเสมอว่า การเรียนมีผลต่ออนาคต  
🔆ฉันขึ้นม.2 เเละเเล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น แม่ของฉันได้ไปกู้เงินเเละค้ำประกันเกินกู้รายวันให้กับญาติ หนี้รายวันต้องส่งทุกวัน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ20ต่อวัน ทำให้ช่วงนั้นพ่อเเม่ทะเลาะกันบ่อยมากๆ เเต่หนี้ก้อนนั้นไม่มากไม่นานก็ใช้หมด เเต่ปัญหาที่ตามมาคือเงินไม่พอใช้ ต้องส่งค่ารถเเละหนี้จิปาถะอื่นๆ ไร่มันสำปะหลังที่เช่าทำก็ต้องขาย
🔆ปิดเทอมม.2เกือบขึ้นม.3ครอบครัวของฉันได้ย้ายกลับมาที่หมู่บ้านเพราะเเม่มีน้อง พ่อทำงานคนเดียวค่าเเรงวันละ200กว่าบาทซึ่งไม่พอกับรายจ่ายตอนนั้นครอบครัวเรา มีพ่อเเม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ หลานชาย เเละฉัน ครอบครัวฉันได้ต่อเติมบ้านไม้หลังเล็กๆในที่½งาน(ครอบครัวฉันเคยย้ายมาสร้างบ้านไว้ในที่ดินที่ซื้อ) ได้ไม้ยูคาจากแคมป์คนงามฟาร์มหมูข้างบ้านมาทำหลังคา ทำฝาบ้าน ได้กระดานไม้อัดมาปูพื้น ฉันกับพ่อช่วยกันต่อเติม  บ้านของฉันอย่างรวดเร็วบ้านของฉันจึงไม่ค่อยทนทานนัก เวลาลมเเรงๆก็ต้องไปอยู่บ้านญาติ ทำความสะอาดยากเพราะไม่มิดชิดฝุ่นเลยเยอะ  เนื่องด้วยไม่มีเงินเก็บเเละพ่อทำงานคนเดียว พี่ชายพี่สะใภ้ว่างงาน เเถมหลานก็ต้องกินนมผง ภาระจึงหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้พ่อต้องไปกู้เงินรายวันนั่นอีกครั้ง เพื่อมาลงทุนขายของ เเต่นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ดึงครอบครัวเราลงมาสู่จุดที่เเย่เรื่อยๆ....  
หนี้รายวันที่ต้องจ่ายทุกวัน มันเริ่มทบต้นทบดอก ถ้าไม่มีรายได้เพียง1วัน หนี้ก็พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่จะหมด ก็ทบไปเป็นหนี้ก้อนใหม่ ครอบครัวฉันต้องส่งมากที่สุดวันละพันกว่าบาท ซึ่งมากกว่ารายได้1เท่าตัว พ่อขายไก่ย่างได้วันละ700บาทหักค่าลงทุนเหลือ500กว่าบาท รายได้เลยติดลบไปเรื่อยๆๆ พอถึงหน้าฝนพ่อออกไปขายของไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนมาทอดกล้วยฉาบส่งขาย ตอนเช้าฉันกับแม่ทอดไก่ไปขายที่หน้าโรงเรียนที่ฉันเรียน ตอนเลิกเรียนฉันไปรับจ้างขายของที่ตลาดตั้งเเต่เลิกเรียนถึง3ทุ่มเเต่ทำได้เเค่ไม่กี่สัปดาห์ก็ต้องหยุดเพราะไฟเเนนซ์มายึดรถ พ่อจึงต้องไปออกรถคันใหม่ หากไม่ออกรถก็จะไม่มีรายได้ ฉันเป็นเด็กกิจกรรม เป็นนักร้องของโรงเรียน(ตั้งเเต่ป.2) เเละประกวดภาษาไทย เงินที่ฉันได้รับทุนต่างๆฉันก็ให้พ่อเเม่นำไปใช้หนี้ เงินทุกบาทที่ฉันเหลือจากไปรร.ฉันก็คืนให้พ่อเเม่ทั้งหมด  พ่อเเม่เเละฉันก็พยายามทำทุกอย่างกู้หนี้ญาติมาบ้าง ขายข้าวโพดพ่อกับเเม่ที่ท้องเเก่ต้องขับรถไปรับข้าวโพดจากตลาดที่ไกลจากบ้านมากๆ เเละต้องตื่นไปขายตั้งเเต่เช้า ตอนนั้นพี่ชายเเละพี่สะใภ้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่สะใภ้ เเต่ภาระหนี้ที่หนักอึ้งก็ยังอยู่เเละหนักขึ้นทุกวันๆ  
ฉันได้เเต่คิดว่าจะช่วยพ่อเเม่ยังไงดี คิดว่าทำไมตัวฉันไม่เกิดเร็วกว่านี้สัก4-5ปีจะได้ช่วยอะไรได้มากกว่านี้  
...ปิดเทอม1 พ่อไม่มีเงินทุนขายของ พ่อจึงไปสมัครเป็นยามค่าเเรงวันละ300บาท1อาทิตย์เงินถึงจะออก ทำให้ไม่มีเงินส่งเจ้าหนี้ฉันกับเเม่เเละน้องที่อายุ1เดือนต้องขับรถไปขายของที่หมู่บ้านอื่นก่อนที่เจ้าหนี้จะมา ตอนนั้นสภาพจิตใจเเย่มากๆ ด้วยปัญหาใหญ่ที่รัดตัว มองไปทางไหนมันก็มืดไปหมด ไม่เจอทางออกเลยสักทาง เมื่อเจ้าหนี้มาไม่เจอ เจ้าหนี้เคยพูดกับญาติขู่ว่าจะเผาบ้านมันเพิ่มความเครียดให้ครอบครัวของฉัน รถที่เพิ่งออกมาใหม่ก็ต้องปล่อยยึดเพราะไม่มีค่างวดฉันไม่รู้จะทำยังไงเลยไปขอความช่วยเหลือจากคุณครูที่สอนร้องเพลงที่เคยปรึกษาไว้ตอนเรียน ท่านช่วยเหลือมาเป็นรวมๆเงิน3หมื่นกว่าบาท  ตอนนั้นทุกอย่างมันโล่ง ท่านบอกว่าเป็นเพราะฉันตั้งใจซ้อมตลอด ฉันเคยไปประกวดร้องเพลงที่ภาค3ครั้ง(เเข่งที่เขตชนะเเต่เปลี่ยนเป็นชื่อรุ่นพี่ 1ครั้ง) เเข่งภาษาไทยได้ไปภาค1ครั้ง เปลี่ยตัวไปเเข่ง1ครั้ง  พอเปิดเทอม2 ฉันจึงทำตัวดีขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นเก็บกดด้วยซ้ำ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทำให้ฉันต้องมองชีวิตใหม่ ความคิดเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จนเเถบเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  ฉันมุ่งมั่นในการเรียนมากกว่าเดิม อ่านหนังสือทุกคืน ปล.ฉันเป็นรองประธานสภานักเรียน
🔆ตอนจะจบม.3ฉันได้ปรึกษาพ่อกับเเม่เรื่องเรียนต่อเเต่ท่านไม่ให้คำตอบ ท่านขอร้องให้ฉันหยุดเรียน1ปี เพราะทางบ้านไม่มีเงินส่งเรียน ต้องใช้หนี้ครูเเละญาติ ซึ่งก็หลายบาท พ่อให้เหตุผลอีกว่า จะได้ช่วยเลี้ยงน้อง เเม่จะได้ทำงานปีหน้าจะได้เรียนแบบไม่มีอะไรติดขัด ตอนเเรกฉันร้องไห้ฟูมฟาย เสียใจมาก เพราะฉันชอบเรียน ฉันอยากเป็นครู เเต่คิดไปคิดมาฉันจึง คิดว่าฉันคงต้องหยุด เพราะถ้าฉันดื้อเรียนคงเรียนไม่จบ ฉันถามครูว่าหยุดได้ไหม ครูตอบว่าหยุดได้ ฉันจึงตัดสินใจหยุด พอครูทราบว่าฉันจะหยุดเรียนครูต่างตกใจ เเต่ครูทุกท่านก็ให้กำลังใจ บอกว่าถ้าเราใฝ่ดีเรียนที่ไหนก็ได้ ถ้าเรามุ่งมั่นเราก็จะประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก เพื่อนสนิทก็คอยรับฟังเเละให้กำลังใจฉันเสมอในวันที่ฉันมีปญหา วันปัจฉิมครูทุกท่านก็ให้กำลังใจฉัน พ่อเเม่ท่านก็ดีใจที่ฉันตัดสินใจช่วยครอบครัวเเต่ท่านสัญญาว่าจะให้ฉันเรียนต่อในปีการศึกษาหน้า ฉันจบม.3มาด้วยเกรด5เทอม3.81 เกรดเฉลี่ยตลอดการศึกษา 3.79 เเละTop คะเเนนo-netภาษาไทยในห้อง
🔆สิงหาคม2561ตอนนี้อะไรยังไม่เข้าที่เข้าทางเเต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ  พี่ชายกลับมาบ้าน ฉันอยู่บ้านเลี้ยงน้องเเต่อ่านหนังสือตลอด  ฉันทำสัญญาใจไว้ว่าจะตั้งใจเรียน จะได้มีงานทำปลดหนี้ให้พ่อเเม่ เเละเลี้ยงพ่อเเม่ให้ได้  
นี่คือ15ปีเเรกของชีวิตของฉันที่ลุ่มๆดอนๆโดนมรสุมซัดกระหน่ำบ้างเเต่ฟ้าหลังฝนจะต้องสวยงามเสมอฉันคิดอย่างนั้น🎉🎆
🔆กันยายน พี่สะใภ้เเละหลานกลับมาอยู่ที่บ้านเเล้ว แม่ว่างงานทั้งเดือน พ่อทำงานก่อสร้าง เก็บเงินซื้อรถ เทน่าราคา2500เเละซื้อซาเล้งจากร้านขายของเก่ามาต่อเติม
🔆ตุลาคม2561 สวัสดีเดือนเกิด 9 ตุลาคม ได้ไปทำบุญที่วัด พ่อเเม่เเละพี่สะใภ้จัดงานวันเกิดให้ พ่อกับแม่ทำงานรับจ้าง ตัดต้นมันสำปะหลัง มีงานบ้างไม่มีบ้าง เเต่ก็ถือว่ากินอิ่มนอนหลับขึ้น เเต่หนี้เหลืออยู่3หมื่นบาท หนี้กองทุนหมู่บ้านอีกเเสนกว่าบาท
🔆6ธันวาคม2561 ลุงกำนันติดต่อให้ไปร้องเพลงงานเฟื่องฟ้า วันที่7 ธ.ค.แทบไม่ได้ซ้อม เเต่ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ได้รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล1พันบาท วันที่8ไปซื้ออุปกรณ์ติดไฟฟ้าเข้าบ้าน เป็นก้าวเเรกที่เเข่งขันนอกโรงเรียน ต่อจากนี้ฉันจะลงประกวดเวทีต่างๆ เพื่อใช้หนี้สร้างบ้าน ส่งตัวเองเรียน ครอบครัวจะได้มีความสุขจริงๆสักที ฝากติดตามผลงานของฉันด้วยนะคะ

เชื่อว่าฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อนะคะ ที่เล่ามาเพียงเสี้ยวของความเจ็บปวด เเต่เราต้องใช้ความเจ็บปวดเป็นเครื่องกระตุ้นให้เรามีกำลังใจสู้ต่อไปนะคะ เเละขอเตือนคนที่กำลังคิดจะกู้เงินนอกระบบที่ส่งเป็นรายวันให้ดูความลำบากที่ฉันได้เจอมานะคะ
ปล.กระทู้เเรกผิดพลาดตรงไหนเเนะนำได้นะคะ
       ขอบพระคุณที่อ่านนะคะ❣️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่