เนื่องจากประกันภัยของดิฉันหมดหมดอายุวันที่ 18 ส.ค.2561 เมื่อมี.ค.2561 บริษัทชื่อย่อ P โทรติดต่อเข้ามาโดยอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนของบริษัทวิริยะ มาเสนอโปรโมชั่นของประกันภัยปีที่ 2 โดยผ่อนชำระค่างวด 10 เดือนและทำการทยอยตัดบัตรเครดิตทีละเดือน ขอจ่ายงวดแรกก่อนเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท
หลังจากนั้นจนท.ท่านนั้นก็ขอแอดไลน์เพื่อให้ทางดิฉันจัดส่งรูปภาพของตัวรถเพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลอีกครั้ง
เมื่อระยะเวลาผ่านไป 1 เดือนรอบบิลใบแจ้งหนี้ก็ส่งมาด้วยจำนวนเงิน 3,000 บาทแต่ดิฉันรู้สึกเอะใจเนื่องจากจนท.ท่านนั้นที่แอดไลน์มาออกจากแชทไปและไม่สามารถโทรติดต่อได้ เมื่อดิฉันโทรเข้าไปที่วิริยะ วิริยะบอกว่าไม่มีชื่อจนท.ท่านนี้และรถของดิฉันยังไม่ถูกยื่นเรื่องเข้ามา
ดิฉันมีความเอะใจว่าจะโดนโกงหรือเปล่าจึงพยายามตามหาที่ไปที่มาจนพบว่าเป็นของโบรเกอร์บริษัทชื่อย่อ P ไม่ใช่วิริยะตามที่แอบอ้างมา แล้วดิฉันจึงโทรเข้าไปที่บริษัท P เองแต่ก็ไม่สามารถติดต่อกลับจนท. ที่ติดต่อมาตั้งแต่ทีแรกได้เพราะเค้าอ้างว่าลาป่วยเนื่องจากไม่สบาย เค้าจึงโอนสายให้คุยกับหัวหน้าทีมแทนซึ่งหัวหน้าทีมคนนั้นก็อ้างว่ายังคงไม่สามารถยื่นเรื่องไปที่วิริยะได้เพราะจะสามารถต่อประกันได้ภายใน 1 เดือนก่อนที่ประกันเก่าจะหมดเท่านั้นและเอกสารที่ส่งมาให้มีเพียงใบเสร็จรับเงินชั่วคราวของยอด 3,000 บาท พรบ.และ draft ของประกันปีที่ 2 โดยที่ระบุว่าเป็นป้ายแดงไม่ใช่ป้ายทะเบียนขาวของดิฉัน

หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ผ่านไปจนล่วงเลยมาสู่ส.ค. 2561 ก็ยังไม่มีจนท.คนไหนติดต่อมาทั้งสิ้น จนดิฉันรู้สึกเอะใจแล้วเห็นไลน์ บริษัท P เด้งเข้ามาพอดีจึงแอดเข้าไปเพื่อสอบถามเกี่ยวกับประกันปีที่สอง แต่กว่าจนท.จะอ่านไลน์ กว่าจะตอบ
วันที่ 6 สิงหาคม 2561 ก่อนประกันหมด 12 วัน
ข้อความที่ส่งมากลับกล่าวอ้างว่าหลักฐานไม่ครบ เซลล์คนนั้นลาออกไปแล้วไม่เดินเรื่องให้ ขอให้ส่งรูปไปใหม่เพื่อดำเนินการต่อให้ (ตามรูปภาพที่แนบไป)

ก็คุยตอบกลับกันไปเรื่อยๆ จนวันที่ 18 ส.ค. 2561 ประกันปีที่ 1 ของดิฉันได้หมดลงเรียบร้อยแล้ว บริษัท P ก็ยังคงไม่ต่อประกันปีที่ 2 ให้อยู่ดี ทุกครั้งที่ดิฉันโทรหาบริษัท P ดิฉันจะโทรถามวิริยะก่อนว่าบริษัท P ยื่นเรื่องมาแล้วหรือยัง คำตอบก็ยังเหมือนเดิม
วันที่ 20 ส.ค. 2561 วันหมดอายุเลยไป 2 วัน
ดิฉันโทรถาม บริษัท P จนท. อ้างว่าระบบล่ม ยื่นเรื่องไปแล้วแต่ยังไปไม่ถึง กำลังดำเนินการให้
วันที่ 21 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปหาบริษัท P อีก จนท.ตอบเหมือนเดิมว่ากำลังดำเนินการให้ ดิฉันขอแค่เลขใบรับแจ้งก็ได้เพื่อเอาไปยันกับวิริยะว่าต่อให้เรียบร้อยแล้ว จนท.ก็ให้ไม่ได้บอกว่ากำลังดำเนินการอยู่
วันที่ 22 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปบริษัท P อีกครั้งและแจ้งว่าขอยกเลิกประกันไม่ทำแล้วไปทำกับเจ้าอื่นแล้ว จนท.แจ้งว่าจะมีจนท.ติดต่อกลับไป ดิฉันก็รอสุดท้ายก็ไม่มีใครโทรมา
วันที่ 23 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปอีกและบอกว่าต้องการยกเลิก จนท.ไม่ได้ฟังคำว่ายกเลิกแต่อ้างว่ายื่นเรื่องไปที่วิริยะแล้ว ดิฉันแกล้งถามเพื่อขอเลขใบรับแจ้ง จนท.ก็ไม่มีให้ ดิฉันจึงพูดอีกว่าขอยกเลิก จนท.ตอบว่าเดี๋ยวจะมีจนท.ติดต่อกลับไป
มีจนท.ติดต่อกลับมาแต่ไม่ได้พูดเรื่องยกเลิก พูดว่าทำการต่อประกันให้เรียบร้อยแล้ว ดิฉันขอเลขใบรับแจ้ง จนท.บอกว่าไม่มี ดิฉันจึงขอยกเลิกอีก
และวันนี้ดิฉันได้ต่อประกันเจ้าเก่าเหมือนปีแรกเรียบร้อยแล้ว
วันที่ 24 ส.ค. 2561
บริษัท P โทรมาบอกว่ายื่นเรื่องให้วิริยะเรียบร้อยแล้วพร้อมเลขที่ใบรับแจ้ง ทั้งๆ ที่ดิฉันแจ้งไปแล้วว่าต้องการยกเลิกก็ยังจะทำให้อีก
จนสุดท้ายดิฉันต้องโทรหาประกันปีที่ 1 เพื่อต่อประกันปีที่ 2 ก่อนจนได้รับเล่มกรมธรรม์เรียบร้อยแต่ยังเคลียร์กับบริษัท P ไม่ได้เหมือนเดิม
เมื่อดิฉันตื๊อไปเรื่อยๆ สุดท้ายบริษัท P จึงยอมยกเลิกการตัดบัตรเครดิตของงวดถัดไปพร้อมกับอ้างว่ากำลังทำเรืองยกเลิกยอดเงินเก่าอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลายกเลิก 60-90 วัน ดิฉันจำใจต้องรอไปค่ะ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่เดือนพ.ย. 2561 ครบกำหนด 90 วันแล้วดิฉันจึงลองโทรเข้าไปซึ่งบอกเลยว่าโทรติดยากมากกว่าจะรับสายกว่าจะโอนสายกว่าจะได้คุยพร้อมกับ message สุดท้ายที่นางตอบมาว่า
โดนหักเงินไปทั้งหมด 10,828 บาท แต่จะโดนหักค่าใช้จ่ายดังนี้ฃ
1. ค่าธรรมเนียการตัดบัตร 3% 347 บาท
2. ค่าดำเนินการ 500 บาท
3. ค่าพรบ. 600 บาท
4. ค่ายกเลิก + อากร 268 บาท
สรุปจะได้เงินคืน 9,068 บาทภายในสิ้นเดือนพ.ย. 61
ก็ยังดีกว่าไม่ได้เงินคืนล่ะวะ ก็รอต่อไปอีกค่ะ จนวันที่ 28 พ.ย. 61 ลองโทรเข้าไปใหม่ค่ะ นางก็ตอบมาว่าเงินจะเข้า 30 ค่ะ รับเรื่องไว้แล้วค่ะ ต้อง 30 เท่านั้นค่ะ ก่อนหน้าจะไม่ได้ค่ะ แล้วดิฉันก็ถามว่าแล้วถ้าหลังจาก 30 แล้วเงินยังไม่เข้าล่ะคะจะต้องทำยังไง นางก็สวนมาเลยว่า "ก็แล้วแต่คุณลูกค้าอ่ะค่ะ จะโทรมาตามหรือฟ้องคปภ.ก็แล้วแต่คุณลูกค้าเลยค่ะ" บรัยยยยยย
สรุปจนทุกวันนี้ 17 ธ.ค. แล้วก็ยังไม่ได้เงินคืนค่ะ กว่าจะโทรติด กว่าจะรับสาย พร้อมกับคำตอบที่ว่า ฝ่ายยกเลิกไม่รับโทรศัพท์ค่ะจะพยามยามยื่นเรื่องไปให้นะคะ เหอะ เหอะ เหอะ
ในระหว่างนี้ดิฉันลองพยายามแจ้งเรื่องไปยังคปภ. ผ่าน website ในกระดานร้องเรียนแต่เหมือนจะมีปัญหาว่าไม่ว่าจะส่งไปสักกี่เรื่องกระดานรองเรียนไม่ยอม gen ticket no. มาให้จะเด้งเข้าหน้ากระดานรองเรียนเหมือนเดิม ทำยังไงก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ซึ่งปีนี้ดิฉันไม่สะดวกที่จะเข้าไปฟ้องคปภ.ที่สำนักงานโดยตรงจริงๆ จนตอนนี้เริ่มท้อแล้วว่าอาจจะต้องสูญเงินหมื่นนั่นไป เป็นค่าโง่สำหรับบทเรียนนี้จริงๆ ค่ะ อยากจะฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับทุกท่านว่าอย่าเห็นแก่ความโลภ เห็นค่าของราคาถูกจริงๆ ค่ะ เศร้า
ระวังโบรกเกอร์ประกันภัยหลอกและเสียค่าโง่เริ่มต้น 3,000 บาท
หลังจากนั้นจนท.ท่านนั้นก็ขอแอดไลน์เพื่อให้ทางดิฉันจัดส่งรูปภาพของตัวรถเพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลอีกครั้ง
เมื่อระยะเวลาผ่านไป 1 เดือนรอบบิลใบแจ้งหนี้ก็ส่งมาด้วยจำนวนเงิน 3,000 บาทแต่ดิฉันรู้สึกเอะใจเนื่องจากจนท.ท่านนั้นที่แอดไลน์มาออกจากแชทไปและไม่สามารถโทรติดต่อได้ เมื่อดิฉันโทรเข้าไปที่วิริยะ วิริยะบอกว่าไม่มีชื่อจนท.ท่านนี้และรถของดิฉันยังไม่ถูกยื่นเรื่องเข้ามา
ดิฉันมีความเอะใจว่าจะโดนโกงหรือเปล่าจึงพยายามตามหาที่ไปที่มาจนพบว่าเป็นของโบรเกอร์บริษัทชื่อย่อ P ไม่ใช่วิริยะตามที่แอบอ้างมา แล้วดิฉันจึงโทรเข้าไปที่บริษัท P เองแต่ก็ไม่สามารถติดต่อกลับจนท. ที่ติดต่อมาตั้งแต่ทีแรกได้เพราะเค้าอ้างว่าลาป่วยเนื่องจากไม่สบาย เค้าจึงโอนสายให้คุยกับหัวหน้าทีมแทนซึ่งหัวหน้าทีมคนนั้นก็อ้างว่ายังคงไม่สามารถยื่นเรื่องไปที่วิริยะได้เพราะจะสามารถต่อประกันได้ภายใน 1 เดือนก่อนที่ประกันเก่าจะหมดเท่านั้นและเอกสารที่ส่งมาให้มีเพียงใบเสร็จรับเงินชั่วคราวของยอด 3,000 บาท พรบ.และ draft ของประกันปีที่ 2 โดยที่ระบุว่าเป็นป้ายแดงไม่ใช่ป้ายทะเบียนขาวของดิฉัน
หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ผ่านไปจนล่วงเลยมาสู่ส.ค. 2561 ก็ยังไม่มีจนท.คนไหนติดต่อมาทั้งสิ้น จนดิฉันรู้สึกเอะใจแล้วเห็นไลน์ บริษัท P เด้งเข้ามาพอดีจึงแอดเข้าไปเพื่อสอบถามเกี่ยวกับประกันปีที่สอง แต่กว่าจนท.จะอ่านไลน์ กว่าจะตอบ
วันที่ 6 สิงหาคม 2561 ก่อนประกันหมด 12 วัน
ข้อความที่ส่งมากลับกล่าวอ้างว่าหลักฐานไม่ครบ เซลล์คนนั้นลาออกไปแล้วไม่เดินเรื่องให้ ขอให้ส่งรูปไปใหม่เพื่อดำเนินการต่อให้ (ตามรูปภาพที่แนบไป)
ก็คุยตอบกลับกันไปเรื่อยๆ จนวันที่ 18 ส.ค. 2561 ประกันปีที่ 1 ของดิฉันได้หมดลงเรียบร้อยแล้ว บริษัท P ก็ยังคงไม่ต่อประกันปีที่ 2 ให้อยู่ดี ทุกครั้งที่ดิฉันโทรหาบริษัท P ดิฉันจะโทรถามวิริยะก่อนว่าบริษัท P ยื่นเรื่องมาแล้วหรือยัง คำตอบก็ยังเหมือนเดิม
วันที่ 20 ส.ค. 2561 วันหมดอายุเลยไป 2 วัน
ดิฉันโทรถาม บริษัท P จนท. อ้างว่าระบบล่ม ยื่นเรื่องไปแล้วแต่ยังไปไม่ถึง กำลังดำเนินการให้
วันที่ 21 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปหาบริษัท P อีก จนท.ตอบเหมือนเดิมว่ากำลังดำเนินการให้ ดิฉันขอแค่เลขใบรับแจ้งก็ได้เพื่อเอาไปยันกับวิริยะว่าต่อให้เรียบร้อยแล้ว จนท.ก็ให้ไม่ได้บอกว่ากำลังดำเนินการอยู่
วันที่ 22 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปบริษัท P อีกครั้งและแจ้งว่าขอยกเลิกประกันไม่ทำแล้วไปทำกับเจ้าอื่นแล้ว จนท.แจ้งว่าจะมีจนท.ติดต่อกลับไป ดิฉันก็รอสุดท้ายก็ไม่มีใครโทรมา
วันที่ 23 ส.ค. 2561
ดิฉันโทรไปอีกและบอกว่าต้องการยกเลิก จนท.ไม่ได้ฟังคำว่ายกเลิกแต่อ้างว่ายื่นเรื่องไปที่วิริยะแล้ว ดิฉันแกล้งถามเพื่อขอเลขใบรับแจ้ง จนท.ก็ไม่มีให้ ดิฉันจึงพูดอีกว่าขอยกเลิก จนท.ตอบว่าเดี๋ยวจะมีจนท.ติดต่อกลับไป
มีจนท.ติดต่อกลับมาแต่ไม่ได้พูดเรื่องยกเลิก พูดว่าทำการต่อประกันให้เรียบร้อยแล้ว ดิฉันขอเลขใบรับแจ้ง จนท.บอกว่าไม่มี ดิฉันจึงขอยกเลิกอีก
และวันนี้ดิฉันได้ต่อประกันเจ้าเก่าเหมือนปีแรกเรียบร้อยแล้ว
วันที่ 24 ส.ค. 2561
บริษัท P โทรมาบอกว่ายื่นเรื่องให้วิริยะเรียบร้อยแล้วพร้อมเลขที่ใบรับแจ้ง ทั้งๆ ที่ดิฉันแจ้งไปแล้วว่าต้องการยกเลิกก็ยังจะทำให้อีก
จนสุดท้ายดิฉันต้องโทรหาประกันปีที่ 1 เพื่อต่อประกันปีที่ 2 ก่อนจนได้รับเล่มกรมธรรม์เรียบร้อยแต่ยังเคลียร์กับบริษัท P ไม่ได้เหมือนเดิม
เมื่อดิฉันตื๊อไปเรื่อยๆ สุดท้ายบริษัท P จึงยอมยกเลิกการตัดบัตรเครดิตของงวดถัดไปพร้อมกับอ้างว่ากำลังทำเรืองยกเลิกยอดเงินเก่าอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลายกเลิก 60-90 วัน ดิฉันจำใจต้องรอไปค่ะ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่เดือนพ.ย. 2561 ครบกำหนด 90 วันแล้วดิฉันจึงลองโทรเข้าไปซึ่งบอกเลยว่าโทรติดยากมากกว่าจะรับสายกว่าจะโอนสายกว่าจะได้คุยพร้อมกับ message สุดท้ายที่นางตอบมาว่า
โดนหักเงินไปทั้งหมด 10,828 บาท แต่จะโดนหักค่าใช้จ่ายดังนี้ฃ
1. ค่าธรรมเนียการตัดบัตร 3% 347 บาท
2. ค่าดำเนินการ 500 บาท
3. ค่าพรบ. 600 บาท
4. ค่ายกเลิก + อากร 268 บาท
สรุปจะได้เงินคืน 9,068 บาทภายในสิ้นเดือนพ.ย. 61
ก็ยังดีกว่าไม่ได้เงินคืนล่ะวะ ก็รอต่อไปอีกค่ะ จนวันที่ 28 พ.ย. 61 ลองโทรเข้าไปใหม่ค่ะ นางก็ตอบมาว่าเงินจะเข้า 30 ค่ะ รับเรื่องไว้แล้วค่ะ ต้อง 30 เท่านั้นค่ะ ก่อนหน้าจะไม่ได้ค่ะ แล้วดิฉันก็ถามว่าแล้วถ้าหลังจาก 30 แล้วเงินยังไม่เข้าล่ะคะจะต้องทำยังไง นางก็สวนมาเลยว่า "ก็แล้วแต่คุณลูกค้าอ่ะค่ะ จะโทรมาตามหรือฟ้องคปภ.ก็แล้วแต่คุณลูกค้าเลยค่ะ" บรัยยยยยย
สรุปจนทุกวันนี้ 17 ธ.ค. แล้วก็ยังไม่ได้เงินคืนค่ะ กว่าจะโทรติด กว่าจะรับสาย พร้อมกับคำตอบที่ว่า ฝ่ายยกเลิกไม่รับโทรศัพท์ค่ะจะพยามยามยื่นเรื่องไปให้นะคะ เหอะ เหอะ เหอะ
ในระหว่างนี้ดิฉันลองพยายามแจ้งเรื่องไปยังคปภ. ผ่าน website ในกระดานร้องเรียนแต่เหมือนจะมีปัญหาว่าไม่ว่าจะส่งไปสักกี่เรื่องกระดานรองเรียนไม่ยอม gen ticket no. มาให้จะเด้งเข้าหน้ากระดานรองเรียนเหมือนเดิม ทำยังไงก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ซึ่งปีนี้ดิฉันไม่สะดวกที่จะเข้าไปฟ้องคปภ.ที่สำนักงานโดยตรงจริงๆ จนตอนนี้เริ่มท้อแล้วว่าอาจจะต้องสูญเงินหมื่นนั่นไป เป็นค่าโง่สำหรับบทเรียนนี้จริงๆ ค่ะ อยากจะฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับทุกท่านว่าอย่าเห็นแก่ความโลภ เห็นค่าของราคาถูกจริงๆ ค่ะ เศร้า