จากเกมเมื่อคืนมันอาจจะเป็นฟางเส้นรองท้ายๆสำหรับใครอีกหลายคนที่เป็นred army จากการแพ้คู่อริ(สำหรับใครหลายคน)หมดสภาพแบบนี้
ส่วนตัวผมไม่ได้มาขยี้ซ้ำแต่จะมาพูดถึงภาพรวม
ข้อ1.ทำไมบอร์ดไม่ปลด?
ตอบ:ค่านิยมสโมสรล้วนๆครับ มันมาจากการที่เราเป็นเราเรายิ่งใหญ่ได้ทุกวันนี้ มาจากการให้โอกาส SAF แต่ก่อนเราไม่ใช่ทีมใหญ่หรือทีมที่รวยขนาดนี้
แล้วเราไม่ต้องพูดถึงจุดยืนคนที่อยู่ตรงข้ามตอนเลือกมูอย่างSAFและเซอร์บ๊อบ เค้าไม่ผลักดันให้ด่วนปลดโค้ชแน่ๆ
มันไม่ได้เกี่ยวกับการงกค่ายกเลิกสัญญาเลย
แล้วประการสำคัญที่ยูไนเต็ด เดินต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้ หลังจากถูก ตระกูลเกลเซอร์เข้ามาTakeover คือ ตระกูลนี้ไม่ก้าวก่ายการบริหารงานฟุตบอลเลย อยากได้เท่าไหร่ อยากทำอะไรทำ แต่ฉันขอให้ฝ่ายธุรกิจไปขยายตลาด
เมื่อสองประการนี้มารวมกันมันจึงเป็นความงกๆเงิ้นๆ กลายเป็นสภาวะเหมือนคนถ่ายหนักแต่ไม่สุด กลายเป็นสูญญากาศ
ซึ่งลิเวอร์พูล ครั้งนึงก็คิดช้าทำช้าแบบนี้ สุดท้ายเครื่องจักรสีแดงก็ถูกทำลาย ไปงมโข่งอยู่นานกว่าจะมาเจอโค้ชคนปัจจุบันที่สร้างทรงบอลและพาทีมกลับมาเล่นเกมรุกเต็มตัว
สิ่งที่ผมกลัวคือดีไม่ดีไม่ปลด พอตลาดหน้าหนาว
เสริมทัพให้มูอีก
หลายคนอาจจะมองว่าบอร์ดไม่สนับสนุนจากการตามบทสัมภาษณ์มูบ้างอะไรบ้าง
แต่ในความเป็นจริงติดต่อให้ทุกตัว แต่เค้าไม่มา ได้เท่าที่เค้าอยากมา เพราะฉะนั้น การบอกบอร์ดไม่เสริมทัพเป็นแค่การแก้เกี้ยว หาแพะเวลาผลงานไม่เีตามสไตล์มูเฉยๆ
มูมาอยู่ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ได้อำนาจเต็มสมใจอย่างที่เค้าเคยอยากเมื่อครั้งยังอหังการ
สุดท้าย เมื่อไม่มีทีมบริหาร ปอร์โต้ ไม่มีเงินเสี่ยหมียุคแรกที่ตัดหน้าปาดเอาทุกอย่างที่อยากได้มา ไม่มี โมรัตติที่สร้างรวมดาวกัลโช่+ลีคดังให้ ไม่มีเปเรซที่สร้างกาลาติกอสไว้ให้
งานManagementมันใหญ่เกินความสามารถและวุฒิภาวะของมู
ชอบไปงัดกับDirector of football
สุดท้ายจากที่ผมเคยเชื่อว่ามูซื้อตัวเก่ง
พอผมย้อนกลับมานั่งคิด มันไม่ใช่เลย
ยิ่งนานไปยิ่งถลำลึกกับความสำเร็จในอดีต
คิดว่าเคยบัสได้
คุณลองไปดูรับแล้วรอโต้แบบเอฟเวอร์ตัน
ที่ มาร์โค ซิลวา ทำ ผ่านตาผมทั้ง3เกมที่เจอกับทีมใหญ่ เชลซี ลิเวอร์พูล ซิตี้
แกสามารถทำให้สองทีมแรกอึดอัด ได้และก็มีบอลโต้ให้ได้ลุ้น
ไม่ใช่เอานักเตะตัวใหญ่ๆมายืนเรียงหน้ากระดานหน้าแนวรับ แผนแบบนี้เอาเด็ก ป.3มาคุมก็คิดได้
เพราะฉะนั้น ถ้าบอร์ดแคร์ค่านิยมมากกว่า แฟนบอลสโมสร เราอาจจะได้เห็นการดิ่งยาวๆ แบบลิเวอร์พูลจนกว่าจะไปเจอโค้ชที่ใช่
แค่เพราะอีโก้เรื่องค่านิยมที่มันConservativeจนจะก้าวไม่ทันฟุตบอลสมัยใหม่แล้ว
เป็นสิ่งที่เอ็ดต้องตัดสินใจ เอาเค้ามาแล้วปลดกับมือก็ไม่เสียหน้า และเชื่อว่าเกลเซอร์ก็ไม่ขัดข้อง
จะให้คาร์ริค รักษาการ แล้วรอพอช หรือจะตั้งซีดานทันที ควรเริ่มตั้งต้นได้แล้ว เพราะผู้ชายที่ชื่อมูไม่ใช่อนาคตของสโมสร เป็นแค่โค้ชที่กำลังจะตกยุคคนนึง
ก่อนแคร์วัฒนธรรมสโมสรช่วยแคร์แฟนบอลด้วยครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้มาขยี้ซ้ำแต่จะมาพูดถึงภาพรวม
ข้อ1.ทำไมบอร์ดไม่ปลด?
ตอบ:ค่านิยมสโมสรล้วนๆครับ มันมาจากการที่เราเป็นเราเรายิ่งใหญ่ได้ทุกวันนี้ มาจากการให้โอกาส SAF แต่ก่อนเราไม่ใช่ทีมใหญ่หรือทีมที่รวยขนาดนี้
แล้วเราไม่ต้องพูดถึงจุดยืนคนที่อยู่ตรงข้ามตอนเลือกมูอย่างSAFและเซอร์บ๊อบ เค้าไม่ผลักดันให้ด่วนปลดโค้ชแน่ๆ
มันไม่ได้เกี่ยวกับการงกค่ายกเลิกสัญญาเลย
แล้วประการสำคัญที่ยูไนเต็ด เดินต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้ หลังจากถูก ตระกูลเกลเซอร์เข้ามาTakeover คือ ตระกูลนี้ไม่ก้าวก่ายการบริหารงานฟุตบอลเลย อยากได้เท่าไหร่ อยากทำอะไรทำ แต่ฉันขอให้ฝ่ายธุรกิจไปขยายตลาด
เมื่อสองประการนี้มารวมกันมันจึงเป็นความงกๆเงิ้นๆ กลายเป็นสภาวะเหมือนคนถ่ายหนักแต่ไม่สุด กลายเป็นสูญญากาศ
ซึ่งลิเวอร์พูล ครั้งนึงก็คิดช้าทำช้าแบบนี้ สุดท้ายเครื่องจักรสีแดงก็ถูกทำลาย ไปงมโข่งอยู่นานกว่าจะมาเจอโค้ชคนปัจจุบันที่สร้างทรงบอลและพาทีมกลับมาเล่นเกมรุกเต็มตัว
สิ่งที่ผมกลัวคือดีไม่ดีไม่ปลด พอตลาดหน้าหนาว
เสริมทัพให้มูอีก
หลายคนอาจจะมองว่าบอร์ดไม่สนับสนุนจากการตามบทสัมภาษณ์มูบ้างอะไรบ้าง
แต่ในความเป็นจริงติดต่อให้ทุกตัว แต่เค้าไม่มา ได้เท่าที่เค้าอยากมา เพราะฉะนั้น การบอกบอร์ดไม่เสริมทัพเป็นแค่การแก้เกี้ยว หาแพะเวลาผลงานไม่เีตามสไตล์มูเฉยๆ
มูมาอยู่ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ได้อำนาจเต็มสมใจอย่างที่เค้าเคยอยากเมื่อครั้งยังอหังการ
สุดท้าย เมื่อไม่มีทีมบริหาร ปอร์โต้ ไม่มีเงินเสี่ยหมียุคแรกที่ตัดหน้าปาดเอาทุกอย่างที่อยากได้มา ไม่มี โมรัตติที่สร้างรวมดาวกัลโช่+ลีคดังให้ ไม่มีเปเรซที่สร้างกาลาติกอสไว้ให้
งานManagementมันใหญ่เกินความสามารถและวุฒิภาวะของมู
ชอบไปงัดกับDirector of football
สุดท้ายจากที่ผมเคยเชื่อว่ามูซื้อตัวเก่ง
พอผมย้อนกลับมานั่งคิด มันไม่ใช่เลย
ยิ่งนานไปยิ่งถลำลึกกับความสำเร็จในอดีต
คิดว่าเคยบัสได้
คุณลองไปดูรับแล้วรอโต้แบบเอฟเวอร์ตัน
ที่ มาร์โค ซิลวา ทำ ผ่านตาผมทั้ง3เกมที่เจอกับทีมใหญ่ เชลซี ลิเวอร์พูล ซิตี้
แกสามารถทำให้สองทีมแรกอึดอัด ได้และก็มีบอลโต้ให้ได้ลุ้น
ไม่ใช่เอานักเตะตัวใหญ่ๆมายืนเรียงหน้ากระดานหน้าแนวรับ แผนแบบนี้เอาเด็ก ป.3มาคุมก็คิดได้
เพราะฉะนั้น ถ้าบอร์ดแคร์ค่านิยมมากกว่า แฟนบอลสโมสร เราอาจจะได้เห็นการดิ่งยาวๆ แบบลิเวอร์พูลจนกว่าจะไปเจอโค้ชที่ใช่
แค่เพราะอีโก้เรื่องค่านิยมที่มันConservativeจนจะก้าวไม่ทันฟุตบอลสมัยใหม่แล้ว
เป็นสิ่งที่เอ็ดต้องตัดสินใจ เอาเค้ามาแล้วปลดกับมือก็ไม่เสียหน้า และเชื่อว่าเกลเซอร์ก็ไม่ขัดข้อง
จะให้คาร์ริค รักษาการ แล้วรอพอช หรือจะตั้งซีดานทันที ควรเริ่มตั้งต้นได้แล้ว เพราะผู้ชายที่ชื่อมูไม่ใช่อนาคตของสโมสร เป็นแค่โค้ชที่กำลังจะตกยุคคนนึง