**ก่อนอื่นเลย ผมเองก็เป็นคนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากมาย แต่อยากจะนำเสนอสิ่งที่ตัวเองสนใจอยู่ในมุมมองของตัวผมเอง และอีกอย่างคือ หลังจากนี้ไป เนื้อหาที่ผมเอามาเขียนลงกระทู้(อาจ)จะมีความคิดเห็นส่วนตัวของผมปนอยู่บ้าง คุณท่านทั้งหลายสามารถคิดตามได้แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมหมดทุกอย่าง หากมีตรงไหนผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย**
สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับ อย่างที่ทราบกันดีว่า ตั้งแต่ MV เพลงนี้ที่ปล่อยอออกมาได้ประมาณ 6 เดือน ณ ตอนนี้ ยอดวิวของเพลง DDU DU DDU DU อยู่ที่ 540 กว่าล้านวิวแล้วเป็นที่เรียบร้อย (เช็คเมื่อวันที่16/12)
และเป็นเพลงที่มีอิมแพคที่รุนแรงไปถึงฝั่งทวีปที่นอกเหนือจากเอเชีย (เนื่องจากจขกท.ไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัด จึงไม่กล้าลงรายละเอียดตรงส่วนนี้ แต่คร่าวๆ คือน่าจะเป็นอเมริกาซะส่วนมาก)
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุและรู้สึกได้จากเพลงนี้ (ที่มีความแตกต่างจากเพลงก่อนๆ) คือการนำเสนอเอกลักษณ์หรือกิมมิคของตัวศิลปินไอดอลได้ออกมาอย่างน่าสนใจในช่วงนั้น
ทุกๆคนอาจจะรู้กันอยู่แล้ว ก่อนที่จะทำเพลงนี้หยางเคยพูดไว้ว่า
"เพลงที่เราทำขึ้นมาในตอนนี้นั้น ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าไม่ฮิตติดชาร์ตก็อาจจะร่วงลงเหว แย่กว่าที่ผ่านๆมา แต่หยางก็กล้าที่คิดจะทำอะไรใหม่ๆ ที่ดูแปลกแหวกแนว และอินเทรนด์ด้วย ที่สำคัญคือเขาเชื่อในตัวสาวๆ ว่าต้องทำได้แน่นอน"
และนี่คือผลลัพท์ในการตัดสินใจของ CEO ทุกๆคน ทุกๆแฟนคลับ(BLINK)ที่ตั้งตารอ ให้ Feedback ที่ดีมากหลังจากการ Comeback ในครั้งนี้
เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องของการนำเสนอดีกว่า ถ้าหากใครติดตาม BLACKPINK แรกๆ มาตั้งแต่ช่วง Debut ในเรื่องเนื้อหาของเพลงจะให้ความรู้สึกที่ประมาณว่า มีความกลมกล่อม สมูท เรียบง่าย กลมกลืน เหมือนเป็นเพลงที่มี่ศิลปินอยู่แค่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น
-BOOMBAYAH เพลงที่ให้ความรู้สึกที่อยากจะเต้นในคลับหรือผับกันสุดๆ เอาให้ร่างกายพากันหายไปข้าง
-WHISTLE เพลงที่ไม่ได้หนักในเรื่องจังหวะจนเกินไป เน้นฟังเพลินๆ ดูเอาความแฟนตาซี หลุดๆนิดนึง
-PLAYING WITH FIRE เพลงที่นำเสนอในเรื่องความรักของหนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามัน ที่พร้อมจะต่อสู้และต่อต้านกันสุดๆ
-AS IF IT'S YOUR LAST schoolgirl theme พร้อมที่จะมาแจกความน่ารักสดใสแบบช่วงซัมเมอร์ (ถึงแม้ว่าเพลงจะไม่ได้ปล่อยมาให้ฟังในช่วงหน้าร้อนก็ตาม)
หรือยังเพลงอื่นๆที่ผมอาจจะไม่ได้ยกตัวอย่างมาในนี้ ซึ่งแทบทุกเพลงล้วนให้ความรู้สึกในการฟังเหมือนกันหมด อาจจะแตกต่างในเรื่องไอเดียหรือคีย์สำคัญของเพลงๆนั้น
BLACKPINK ก็ได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ ทั้งออกงาน event,คอนเสิร์ต,การถ่ายทำวาไรตี้โชว์ มีเรื่องๆดีต่างๆเกิดขึ้นมากมายในช่วงนั้น จนกระทั่งสาวๆ ได้ Comeback มาอีกครั้งในซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า "DDU DU DDU DU"
การกลับมาของสาวๆพร้อมกับเพลงในครั้งนี้ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่แตกต่างจากของเดิมมากกก(ในมุมมองของผม) ไม่ว่าจะบีทเพลง เมโลดี้ หรือเนื้อหาของเพลงที่ใครฟังเอาความหมายก็อาจจะเข้าถึงยากนิดนึงถ้าไม่ได้ intense เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงมากเท่าไหร่นัก
ถ้าพูดกันตามตรง สิ่งที่ทำให้ตัวผมติดตามและเป็นแฟนบอยกับวงนี้คือเพลงนี้แหละครับ โดนลิซ่าตกเรียบร้อย(อีกแล้ววว) ถึงแม้ว่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผม แต่ถ้าให้พูดถึง first impression กับเพลงนี้ผมว่าไม่เลวเลย จังหวะได้ เมโลดี้ติดหู เพอร์เฟค!!!
จุดเด่นของเพลงนี้ที่ขายได้ง่ายมากๆเลยคือ การเป็นมิตรกับผู้ฟังใหม่ๆ เอาอย่างมาก ขนาดที่ว่าผมไม่ใช่คนที่ติดตามอะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับวงการ KPOP ทำให้ผมติดใจได้ภายในเวลา 1 เพลงเท่านั้น ทุกอย่างในเพลงนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก แถมยังทำให้ตรึงตราใจอีกต่างหาก ตั้งแต่
[Verse 1]
-ฉากแรก rap queen เจนนี่ มาในคราบของราชินีผู้สูงส่ง ดูหรูหรา ยากที่จะเอื้อมถึง แต่ถ้าหากจับจุดได้จะเข้าถึงนางได้ง่ายมาก
-ฉากนี้ที่โดนตก (ขำตัวเอง น่าสมเพชเหลือเกิน 555) มาถึงด้วยลุคที่โดดเด่น (แต่สลับcostumeไปถึง3ชุดเห็นจะได้ในท่อนเดียว) ทำให้ผมต้องสะดุด จนต้องกด puase แล้วถามตัวเองว่า เขาคือใคร? (น่ารักจังว่างั้นเหอะ) แล้วก็ใส่แร็พที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป กำลังดี ดูมีความแซ่บเล็กน้อย
-เจ้าหญิงในชุดขาวและชุดดำ โรเซ่ หรือปาร์ค แชยอง(ประมาณว่า mirror image ตัวเองพร้อมกับนิสัยอีกแบบนึง) พร้อมกับยังถามตัวเองอีกรอบว่า เขาคือใคร ชื่ออะไร? ที่ในฉากใส่ความเป็นเจ้าหญิง(ที่ดูถ่อมตน)เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเสียงที่ใสกังวาน กริ๊บๆเลย พร้อมจบด้วยสายตาที่จิกกัดกล้องประมาณว่า ผมทำอะไรให้อะ ทำไมมองผมแบบนั้น(555)?
-ฉากสุดท้ายของ verse แรก คุณพี่สาวมาดามหรือ Blackwidow คิม จีซู มากับลุคที่ดูเคร่งขึม ดูสุมขุม และดูอบอุ่น แต่แอบมีความเย็นชานิดๆในสายตา มาพร้อมกับเนื้อร้องที่ (แปล)ที่ประมาณว่า "นายน่ะยังไม่รู้อะไร แต่ถ้าอยากลองก็เข้ามา นายนี่มันเดาใจง่ายจริงๆ" โอ้โห มีความ Big Play สุดๆ เป็นแม่หม้ายที่ดูสตรองมากในขณะนั้น พร้อมปิดท้ายฉากด้วยสายตาที่ท้าทายอำนาจเอามากๆ(อยากลองของก็พูดไป)
[Verse 2]
-หากrap queen จะลองลงจากที่สูงบ้างก็ไม่ใช่ปัญหา มาในลุคของคุณนายที่มีกำลังอำนาจที่ควบคุมและสั่งได้ทุกอย่าง ถือของช้อปปิ้งพร้อมใส่แร็ปแบบมันๆ รัวๆ รวดเดียวจบ
-คนดัง คนรวย หรือเซเลปอะไรก็ตาม แน่นอนว่าคุณดัง แต่ถ้าหากว่าคุณ mistake แม้แต่ครั้งเดียวคุณก็ไม่อาจจะมีทางโงหัวขึ้นมาได้ (และนั้นคือทั้งหมดที่จีซูกำลังนำเสนอให้แก่แฟนๆ) เรื่องนี้ทุกคนเคลียร์
-ฉากสุดท้ายในverse 2 คุณหนูรักสนุกนึกอยากจะนั่ง chandelier ขึ้นมาเฉย พร้อมกับทิ้งสายตา(อีกแล้ว)ให้ชวนเสียดายเหลือเกิน
(ผมกำลังจะบอกว่า แต่ละฉากเหมือนเขาสร้างให้มี story ของตัวเองขึ้นมา เพื่อดึงความสามารถและไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองถนัดอยู่ออกมาใช้ผ่านการเล่าเรื่อง

เจ๋งว่ะ!!)
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของ MV ที่ผมยกตัวอย่างมาจาก first impression ในครั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ให้ความรู้สึกที่ต่างจากเพลงก่อนๆ ก็อาจจะเป็นในเรื่องของ Production Studio ที่เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญเอามากๆ (ลองสังเกตุดู เพลงนี้จะมีฉากที่ค่อนข้างอลังการมาก แถมบวกกับการที่ไม่ได้ไปเน้นเรื่อง Post Production เน้นจบหน้ากล้อง) แต่ละฉากจะฉีก theme ฉีกโทนที่ผ่านๆมาในตอนนั้นออกไปอย่างสิ้นเชิง ฉากนี้อาจจะใช้โทนมืดๆ ฉากนี้อาจจะใช้ โทนชมพูๆ ฉากนี้อาจจะใส่สะเก็ดไฟเพิ่มไปหน่อย แต่นี่คือสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันจริงๆ ทุกอย่างจะดูเหมาะกับตัวศิลปินเอง ลงตัวในฉากนั้นแบบพอดิบพอดี ใครเก่งตรงไหน ใครถนัดอะไรใส่ให้เต็มที่ และนี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่หยางอยากจะนำเสนอและตัวผมก็พอจะสัมผัสและเข้าถึงสิ่งที่เขากำลังจะบอกอยู่
โดยรวมแล้ว MV นี้ผมถือว่าก็ประสบความสำเร็จไปเยอะมาก ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ยังจะมีแต่ยอดวิวที่คอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่ขาดสาย และที่สำคัญ หากตัวสาวๆเองยัง keep going ในเรื่องของฝีมือ และ improve ไปได้อีก ผมเชื่อเหลือเกินว่าพวกสาวๆคงจะไม่หยุดอยู่ตรงแค่นี้แน่นอน จะทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักพวกเธอเหมือนกับที่ BLINK รู้จักกันเป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้จริงๆเลยคือกำลังใจจากแฟนคลับ ที่ยังอยู่ตลอดไม่ขาดมือ เหนื่อยแค่ไหนก็ยังมีแฟนคลับคอยให้กำลังใจอยู่ทางนี้น้าาา
**ขอย้ำอีกรอบ ทุกอย่างที่ผมได้เขียนลงไปในกระทู้นี้อาจจะมีความคิดเห็นส่วนตัวและข้อมูลที่อาจจะผิดไปบ้าง ทุกอย่างเขียนด้วยความรู้สึกล้วนๆ อยู่กับความเป็นจริงไม่ได้อวยแต่อย่างใด**
สำหรับวันนี้ ก็คงพอแค่นี้ ถ้าหากว่าผิดพลาดหรือขาดหายตรงไหนก็ขออภัยด้วยจริงๆครับ
ฝันดีครับ ชาว BLINK ทุกท่าน
[BLACKPINK] DDU DU DDU DU เพลงที่ฉีกความเดิมๆ อย่างมีเอกลักษณ์
สวัสดีทุกๆท่านด้วยครับ อย่างที่ทราบกันดีว่า ตั้งแต่ MV เพลงนี้ที่ปล่อยอออกมาได้ประมาณ 6 เดือน ณ ตอนนี้ ยอดวิวของเพลง DDU DU DDU DU อยู่ที่ 540 กว่าล้านวิวแล้วเป็นที่เรียบร้อย (เช็คเมื่อวันที่16/12)
และเป็นเพลงที่มีอิมแพคที่รุนแรงไปถึงฝั่งทวีปที่นอกเหนือจากเอเชีย (เนื่องจากจขกท.ไม่รู้ข้อมูลที่แน่ชัด จึงไม่กล้าลงรายละเอียดตรงส่วนนี้ แต่คร่าวๆ คือน่าจะเป็นอเมริกาซะส่วนมาก)
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุและรู้สึกได้จากเพลงนี้ (ที่มีความแตกต่างจากเพลงก่อนๆ) คือการนำเสนอเอกลักษณ์หรือกิมมิคของตัวศิลปินไอดอลได้ออกมาอย่างน่าสนใจในช่วงนั้น
ทุกๆคนอาจจะรู้กันอยู่แล้ว ก่อนที่จะทำเพลงนี้หยางเคยพูดไว้ว่า
"เพลงที่เราทำขึ้นมาในตอนนี้นั้น ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าไม่ฮิตติดชาร์ตก็อาจจะร่วงลงเหว แย่กว่าที่ผ่านๆมา แต่หยางก็กล้าที่คิดจะทำอะไรใหม่ๆ ที่ดูแปลกแหวกแนว และอินเทรนด์ด้วย ที่สำคัญคือเขาเชื่อในตัวสาวๆ ว่าต้องทำได้แน่นอน"
และนี่คือผลลัพท์ในการตัดสินใจของ CEO ทุกๆคน ทุกๆแฟนคลับ(BLINK)ที่ตั้งตารอ ให้ Feedback ที่ดีมากหลังจากการ Comeback ในครั้งนี้
เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องของการนำเสนอดีกว่า ถ้าหากใครติดตาม BLACKPINK แรกๆ มาตั้งแต่ช่วง Debut ในเรื่องเนื้อหาของเพลงจะให้ความรู้สึกที่ประมาณว่า มีความกลมกล่อม สมูท เรียบง่าย กลมกลืน เหมือนเป็นเพลงที่มี่ศิลปินอยู่แค่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น
-BOOMBAYAH เพลงที่ให้ความรู้สึกที่อยากจะเต้นในคลับหรือผับกันสุดๆ เอาให้ร่างกายพากันหายไปข้าง
-WHISTLE เพลงที่ไม่ได้หนักในเรื่องจังหวะจนเกินไป เน้นฟังเพลินๆ ดูเอาความแฟนตาซี หลุดๆนิดนึง
-PLAYING WITH FIRE เพลงที่นำเสนอในเรื่องความรักของหนุ่มสาวข้าวใหม่ปลามัน ที่พร้อมจะต่อสู้และต่อต้านกันสุดๆ
-AS IF IT'S YOUR LAST schoolgirl theme พร้อมที่จะมาแจกความน่ารักสดใสแบบช่วงซัมเมอร์ (ถึงแม้ว่าเพลงจะไม่ได้ปล่อยมาให้ฟังในช่วงหน้าร้อนก็ตาม)
หรือยังเพลงอื่นๆที่ผมอาจจะไม่ได้ยกตัวอย่างมาในนี้ ซึ่งแทบทุกเพลงล้วนให้ความรู้สึกในการฟังเหมือนกันหมด อาจจะแตกต่างในเรื่องไอเดียหรือคีย์สำคัญของเพลงๆนั้น
BLACKPINK ก็ได้ดำเนินการมาเรื่อยๆ ทั้งออกงาน event,คอนเสิร์ต,การถ่ายทำวาไรตี้โชว์ มีเรื่องๆดีต่างๆเกิดขึ้นมากมายในช่วงนั้น จนกระทั่งสาวๆ ได้ Comeback มาอีกครั้งในซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า "DDU DU DDU DU"
การกลับมาของสาวๆพร้อมกับเพลงในครั้งนี้ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่แตกต่างจากของเดิมมากกก(ในมุมมองของผม) ไม่ว่าจะบีทเพลง เมโลดี้ หรือเนื้อหาของเพลงที่ใครฟังเอาความหมายก็อาจจะเข้าถึงยากนิดนึงถ้าไม่ได้ intense เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงมากเท่าไหร่นัก
ถ้าพูดกันตามตรง สิ่งที่ทำให้ตัวผมติดตามและเป็นแฟนบอยกับวงนี้คือเพลงนี้แหละครับ โดนลิซ่าตกเรียบร้อย(อีกแล้ววว) ถึงแม้ว่าจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผม แต่ถ้าให้พูดถึง first impression กับเพลงนี้ผมว่าไม่เลวเลย จังหวะได้ เมโลดี้ติดหู เพอร์เฟค!!!
จุดเด่นของเพลงนี้ที่ขายได้ง่ายมากๆเลยคือ การเป็นมิตรกับผู้ฟังใหม่ๆ เอาอย่างมาก ขนาดที่ว่าผมไม่ใช่คนที่ติดตามอะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับวงการ KPOP ทำให้ผมติดใจได้ภายในเวลา 1 เพลงเท่านั้น ทุกอย่างในเพลงนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก แถมยังทำให้ตรึงตราใจอีกต่างหาก ตั้งแต่
[Verse 1]
-ฉากแรก rap queen เจนนี่ มาในคราบของราชินีผู้สูงส่ง ดูหรูหรา ยากที่จะเอื้อมถึง แต่ถ้าหากจับจุดได้จะเข้าถึงนางได้ง่ายมาก
-ฉากนี้ที่โดนตก (ขำตัวเอง น่าสมเพชเหลือเกิน 555) มาถึงด้วยลุคที่โดดเด่น (แต่สลับcostumeไปถึง3ชุดเห็นจะได้ในท่อนเดียว) ทำให้ผมต้องสะดุด จนต้องกด puase แล้วถามตัวเองว่า เขาคือใคร? (น่ารักจังว่างั้นเหอะ) แล้วก็ใส่แร็พที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป กำลังดี ดูมีความแซ่บเล็กน้อย
-เจ้าหญิงในชุดขาวและชุดดำ โรเซ่ หรือปาร์ค แชยอง(ประมาณว่า mirror image ตัวเองพร้อมกับนิสัยอีกแบบนึง) พร้อมกับยังถามตัวเองอีกรอบว่า เขาคือใคร ชื่ออะไร? ที่ในฉากใส่ความเป็นเจ้าหญิง(ที่ดูถ่อมตน)เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเสียงที่ใสกังวาน กริ๊บๆเลย พร้อมจบด้วยสายตาที่จิกกัดกล้องประมาณว่า ผมทำอะไรให้อะ ทำไมมองผมแบบนั้น(555)?
-ฉากสุดท้ายของ verse แรก คุณพี่สาวมาดามหรือ Blackwidow คิม จีซู มากับลุคที่ดูเคร่งขึม ดูสุมขุม และดูอบอุ่น แต่แอบมีความเย็นชานิดๆในสายตา มาพร้อมกับเนื้อร้องที่ (แปล)ที่ประมาณว่า "นายน่ะยังไม่รู้อะไร แต่ถ้าอยากลองก็เข้ามา นายนี่มันเดาใจง่ายจริงๆ" โอ้โห มีความ Big Play สุดๆ เป็นแม่หม้ายที่ดูสตรองมากในขณะนั้น พร้อมปิดท้ายฉากด้วยสายตาที่ท้าทายอำนาจเอามากๆ(อยากลองของก็พูดไป)
[Verse 2]
-หากrap queen จะลองลงจากที่สูงบ้างก็ไม่ใช่ปัญหา มาในลุคของคุณนายที่มีกำลังอำนาจที่ควบคุมและสั่งได้ทุกอย่าง ถือของช้อปปิ้งพร้อมใส่แร็ปแบบมันๆ รัวๆ รวดเดียวจบ
-คนดัง คนรวย หรือเซเลปอะไรก็ตาม แน่นอนว่าคุณดัง แต่ถ้าหากว่าคุณ mistake แม้แต่ครั้งเดียวคุณก็ไม่อาจจะมีทางโงหัวขึ้นมาได้ (และนั้นคือทั้งหมดที่จีซูกำลังนำเสนอให้แก่แฟนๆ) เรื่องนี้ทุกคนเคลียร์
-ฉากสุดท้ายในverse 2 คุณหนูรักสนุกนึกอยากจะนั่ง chandelier ขึ้นมาเฉย พร้อมกับทิ้งสายตา(อีกแล้ว)ให้ชวนเสียดายเหลือเกิน
(ผมกำลังจะบอกว่า แต่ละฉากเหมือนเขาสร้างให้มี story ของตัวเองขึ้นมา เพื่อดึงความสามารถและไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองถนัดอยู่ออกมาใช้ผ่านการเล่าเรื่อง
นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของ MV ที่ผมยกตัวอย่างมาจาก first impression ในครั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ให้ความรู้สึกที่ต่างจากเพลงก่อนๆ ก็อาจจะเป็นในเรื่องของ Production Studio ที่เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญเอามากๆ (ลองสังเกตุดู เพลงนี้จะมีฉากที่ค่อนข้างอลังการมาก แถมบวกกับการที่ไม่ได้ไปเน้นเรื่อง Post Production เน้นจบหน้ากล้อง) แต่ละฉากจะฉีก theme ฉีกโทนที่ผ่านๆมาในตอนนั้นออกไปอย่างสิ้นเชิง ฉากนี้อาจจะใช้โทนมืดๆ ฉากนี้อาจจะใช้ โทนชมพูๆ ฉากนี้อาจจะใส่สะเก็ดไฟเพิ่มไปหน่อย แต่นี่คือสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันจริงๆ ทุกอย่างจะดูเหมาะกับตัวศิลปินเอง ลงตัวในฉากนั้นแบบพอดิบพอดี ใครเก่งตรงไหน ใครถนัดอะไรใส่ให้เต็มที่ และนี่อาจจะเป็นสิ่งใหม่ที่หยางอยากจะนำเสนอและตัวผมก็พอจะสัมผัสและเข้าถึงสิ่งที่เขากำลังจะบอกอยู่
โดยรวมแล้ว MV นี้ผมถือว่าก็ประสบความสำเร็จไปเยอะมาก ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ยังจะมีแต่ยอดวิวที่คอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่ขาดสาย และที่สำคัญ หากตัวสาวๆเองยัง keep going ในเรื่องของฝีมือ และ improve ไปได้อีก ผมเชื่อเหลือเกินว่าพวกสาวๆคงจะไม่หยุดอยู่ตรงแค่นี้แน่นอน จะทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักพวกเธอเหมือนกับที่ BLINK รู้จักกันเป็นอย่างดี และที่ขาดไม่ได้จริงๆเลยคือกำลังใจจากแฟนคลับ ที่ยังอยู่ตลอดไม่ขาดมือ เหนื่อยแค่ไหนก็ยังมีแฟนคลับคอยให้กำลังใจอยู่ทางนี้น้าาา
**ขอย้ำอีกรอบ ทุกอย่างที่ผมได้เขียนลงไปในกระทู้นี้อาจจะมีความคิดเห็นส่วนตัวและข้อมูลที่อาจจะผิดไปบ้าง ทุกอย่างเขียนด้วยความรู้สึกล้วนๆ อยู่กับความเป็นจริงไม่ได้อวยแต่อย่างใด**
สำหรับวันนี้ ก็คงพอแค่นี้ ถ้าหากว่าผิดพลาดหรือขาดหายตรงไหนก็ขออภัยด้วยจริงๆครับ