แชร์ประสบการณ์ เข้า - ออก วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา 10 ปี ทำยังไง ถ้าไม่อยากเข้าห้องเย็น

สืบเนื่องจากกระทู้คำถามเกี่ยวกับ การ เข้า- ออก วีซ่าอเมริกา ของผู้ที่ถือวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปี หลายกระทู้ที่ผ่านมา และเราเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่พยายามจะไปอเมริกาให้ได้ทุกปี เพราะมันมีสถานที่หลายแห่งที่เราอยากไปชม และเป็นที่ๆเราหาดูไม่ได้ที่อื่น การ เข้า-ออก ของเราเลยค่อนข้างบ่อย ในฐานะนักท่องเที่ยว  ดังนั้นการ "เตรียมตัว" ก่อนไปเยือนในแต่ละครั้ง จึงต้องมีความพร้อมและมีข้อมูลอ้างอิงได้  เพราะกว่าจะได้วีซ่ามา มันไม่ง่ายเลย  ดังนั้นต้องรักษามันไว้ดีๆค่ะ

        ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนว่า ข้อมูลทั้งหมด เป็นของเราคนเดียว ดังนั้นจะเอามาเป็น กฏ หรือบรรทัดฐาน ไม่ได้  เพราะมันไม่มีกฏเข้าออก  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงด้วยค่ะ  ขึ้นอยู่กับความสมเหตุ สมผล จุดประสงค์ที่แท้จริง  มีข้อมูลที่ตอบ ตม.ให้ดีๆ  มีหลักฐานไหม ว่าไปเที่ยวมาจริง  ยกตัวอย่างเคส ของเราเพื่อเป็นข้อมูลให้กับหลายคนที่มีข้อสงสัย  อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มาก ก็น้อย แต่คือมันมาจากประสบการณ์ จริงของเราเองตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมาค่ะ
         เรามีวีซ่า 10 ปี  ตั้งแต่ปี 2011- 2018 เราไปมาแล้ว 14 ครั้ง   เฉลี่ยไปอยู่ครั้งละประมาณ 3 อาทิตย์ค่ะ และส่วนใหญ่ไปช่วงวันหยุดยาวของบริษัท และทุกครั้งที่ไป เราจะวางแผนกับเพื่อนคนอเมริกันตลอดว่า จะไปโรดทริปที่ไหน กี่วัน เราทำแผนเที่ยว ซื้อตั๋วบินในประเทศ  ศึกษาเส้นทาง จองตั๋วเข้าชมออนไลน์ จองโรงแรมทุกครั้งก่อนไป เพราะเราไปเที่ยว   ตม. สแตมป์ให้ 6 เดือนทุกครั้งค่ะ  วัดใจกันไปเลยว่า  เราจะอยู่ 6 เดือนจริงไหม..555555 เราอยู่และกลับตามกำหนดทุกครั้งค่ะ ไม่เคยเกิน 2 เดือน

อันดับแรก เตรียมข้อมูลก่อนไป : ผู้เดินทางเข้าครั้งแรก
- ข้อมูลในการเดินทาง แผนการท่องเที่ยว ตั๋วไป-กลับ ( เพราะเราเคยเจอขอดูมาแล้ว )
- ข้อมูล หน้าที่การงาน ส่วนตัว เราทำร้านแฟรนไน์ เราก็ถ่ายรูปร้าน รูปกิจกรรม รูปที่แสดงความเป็นตัวตนเราไปด้วย ( ตม.บางคนก็อยากรู้ อยากเห็น ตามหน้าที่ )
- เตรียมเงินไปให้พอ แต่ก็ไม่ต้องถึงกับต้องสำแดง เราพกไม่เกิน 10000  USD.
- จะไปพักกับใคร จดที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ให้เรียบร้อย  / พิมพ์ใบจองโรงแรมถ้าพักโรงแรม  เพราะต้องกรอกใบขาเข้า
- ห้ามนำของที่ห้ามนำเข้า เข้าประเทศ เช่น เมล็ดพืชต่างๆ
                       สำหรับคนที่เข้ารอบ 2 ซึ่งห่างจากครั้งแรก ไม่ว่าจะกี่เดือนก็ตาม
- เพิ่มเติมข้อมูลการท่องเที่ยวครั้งที่แล้ว อาจพิมพ์รูปถ่ายกับสถานที่ๆ ไปมา  ดังนั้น เราเชื่อว่า บางคนอาจจะไปพักกับญาติ ไปหาญาติ หรือแม้แต่ไปทำงานเพียงแค่ระยะเวลา 3-6 เดือน ก็ควรจะหาเวลาไปเที่ยวบ้าง  เพราะมันสำคัญกับการเข้าในครั้งต่อไปของคุณมาก  ระยะเวลา 1-2 เดือน สามารถไปเที่ยวได้หลายที่มาก  วันหยุดก็ควรไปเปิดหู เปิดตา ดูสถานที่อื่นบ้าง ไม่ใช่อยู่แต่บ้านญาติอย่างเดียว  ตม. ถามตอบไม่ได้เลยว่าไปไหนมาบ้าง เพราะญาติไม่เคยพาไป  ไม่รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวแม้แต่ที่เดียว อันนี้เตรียมเข้าห้องเย็นได้เลยค่ะ ไม่รอดแน่  เพราะเคยมีพี่ที่รู้จักทำร้านอาหาร ออกเงินทำวีซ่าท่องเที่ยวให้น้องคนไทยไป เพื่อไปทำงานกับแก มาครั้งแรกอยู่ 6 เดือนเต็ม เว้นไป 1-2 เดือน มาใหม่  โดนส่งกลับตามระเบียบ พี่แกไปยืนรอรับตั้งนาน  เพราะน้องตอบไม่ได้ว่าไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ?
- เตรียมตอบคำถาม กรณีอยู่มากกว่า 2-3 เดือน / การมาเที่ยว  1 ครั้ง เพราะมันผิด ปกติวิสัย ของนักท่องเที่ยว แลดูไม่มีอะไรต้องห่วง ต้องกังวลที่ไทย ไม่มี   "ภาระผูกพันธ์ที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณจะต้องกลับมา "   เพราะฉะนั้น จะตอบอะไร ต้องหา ทางหนี ทีไล่ให้ดี  

ด่านที่ 2 คำถาม ...สิ่งที่เราเจอ ตม. ถามมาตลอดคือ
1. มาทำอะไร? มาเที่ยวค่ะ   ตม.บางคนก็มาเนียนๆ ถามว่า เธอไม่เอากระเป๋า COACH ไปขายบ้างหล่ะ ฉันได้ยินว่าเค้าทำกันเยอะนะ  แหน่ะ...มีงี้ด้วย
2. ทำมาหาหากินอะไรที่ไทย?  เราทำแฟรนไชน์ ถามด้วยว่าซื้อแฟรนไชน์มาเท่าไหร่  รายได้ดีไหม จ่ายเงินเดือนพนักงานเท่าไหร่ พนักงานกี่คน
3. จะไปเที่ยวที่ไหนคราวนี้ บอกชื่อสถานที่หน่อย
4. จะอยู่กี่วัน?  มีตั๋วเครื่องบินไหม ขอดูหน่อย   กรณีนี้คนที่ขอไป 2-3 อาทิตย์ ตอนกรอก DS-160  แต่พอแสดงตั๋ว  กลับระบุวันเดินทางกลับเป็นอีก 2 -3 เดือนถัดไป  ให้หาเหตุผลที่ฟังขึ้นและเป็นไปได้ มาตอบค่ะ ว่าเพราะอะไร ลาพักร้อนได้ หรือ ทำงานผ่านเน็ตได้ เป็นฟรีแลนซ์
5. พักกับใคร  มีความสัมพันธ์อะไรกัน เค้าทำงานอะไร ?  มีเบอร์ติดต่อไหม ? เราพักบ้านเลขที่เดิม คนเดิม ก็ไม่เคยเห็น ตม.จะโทรหาเลยค่ะ.
6. นำเงินมาเท่าไหร่?   แต่ยังไม่เคยเจอแบบขอดูเงินสดนะคะ  
7. ครั้งที่แล้วไปไหนมาบ้าง?  บอกชื่อสถานที่ ถามกลับว่าสวยไหม ชอบไหม คือคงอยากรู้ว่า มันไปเห็นกับตามาจริงไหม?.
8. ถ่ายรูป
9. สแกนนิ้ว ทั้ง 10 นิ้วค่ะ   ( ครั้งล่าสุดเราไม่ได้สแกนค่ะ ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันค่ะ )

ประเด็นที่ 3  ระยะเวลา ความถี่ ในการ เข้า-ออก

ไปแล้วเว้นระยะนานไหม?  ของเราไม่แน่นอนค่ะ  แล้วแต่ว่างจากงานช่วงไหน สภาพอากาศที่ที่จะไปเที่ยว ตัวอย่างของเรานะคะ คร่าวๆ  บางทีก็เว้นแค่ 1-2 เดือน  บางครั้งก็เว้นไป 5 - 11 เดือน

2011   June , Nov , Dec                 ( Yosemite , San Fran, Hearst Castle  ชมงาน SEMA Show ที่ลาสเวกัส Nevada , Florida )
2012   June , Dec - Jan 2013          ( San Diego, LA, Las Vegas , Grand Canyon )
2013   Dec - Jan 2014                   ( Disneyland  , Sequoia National Park, Crow Princess ล่องเรือไป แม็กซิโก )
2014   Oct, Dec - Jan 2015            ( เที่ยวใน CA อย่างเดียว ไม่ได้ไปไหนไกล ฺ  Big Bear Lake, LA, San Diego )
2015   Apr , Nov, Dec - Jan 2016   ( Road Trip   CA - New Mexico , Arizona -Grand Canyon  )
2016   Jul, Dec - Jan 2017             ( Yellow Stone , Grand teton ,Mesa Falls )
2017   Dec - Jan 2018                   ( Bryce Canyon, Zion National Park, Grandstaircase - Utah,  Houston, Texas )
2018   Sep - Oct.                          ( CA, Niagara Falls, NY, Canada - Toronto ,  Hawaii - Big Island )
2019  จะไปช่วง  July , Sep หรือ Oct  เพื่อที่จะไป Lake Powell, Antelope Canyon  คือตามเก็บหลายๆอุทยานแห่งชาติไปเรื่อยๆ

อันดับสุดท้าย  ที่เราคิดว่า น่าจะเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจของ ตม. ด้วยนั่นก็คือ
-  เดินทางไปเที่ยวที่อื่นบ้าง  ที่ไม่ใช่อเมริกา  จะไปไหนก็ได้  ในระยะเวลาที่เหมาะสม ให้มีการสแตมป์ เข้า-ออก ประเทศอื่นๆในโลกบ้าง  เพราะนักท่องเที่ยว คงไม่มีใครที่จะไปแค่ที่เดียว เมืองเดียว รัฐเดียว ทุกครั้งที่ไป  แล้วไม่ไปที่อื่นเลย ไม่สนใจโลกอื่นใด นอกจากอเมริกา เพราะแต่ละที่มีเสน่ห์แตกต่างกันค่ะ ไปเถอะค่ะ พาสปอร์ตเราจะได้ดูมีประวัติการเดินทาง ดูเป็นนักท่องเที่ยวขึ้นมาหน่อย ถึงแม้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการไปจะแตกต่างกันก็ตาม
-  สำหรับเรา จะไปอเมริกา สลับกับเอชีย ยุโรป  แคนาดา ตอนนี้เริ่มไปออสเตรเลีย  ไปทั้งทำงาน ทั้งเที่ยว ปนๆกันไปค่ะ เราเลยไม่เคยมีประเด็นอะไรที่จะโดนคาดคั้น หรือถามแบบหนักหน่วง แต่ก็เกร็งทุกครั้งเหมือนกันนะ...555555   ไปไหนบ้างมาดูค่ะ
  - ยุโป    > ฝรั่งเศส 5 ครั้ง  อังกฤษ 3 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ 1 ครั้ง เยอรมันนี 1 ครั้ง  สวีเดน 1 ครั้ง
  - เอเชีย  > สิงคโปร์ 5 ครั้ง อินโดนีเซีย ทั้งบาหลี 4 ครั้ง ยอร์กยาการ์ตาร์  /จาร์กาตา / บันดุง  มาเลเซีย 1 ครั้ง กัมพูชา 2 ครั้ง  ลาว 2 ครั้ง เวียตนาม 2 ครั้ง พม่า 1 ครั้ง  ไม่เคยไปญี่ปุ่น เกาหลี สถานที่ฮิตของคนไทยเลยค่ะ กำลังจะหาเวลาไปชมซากุระปีหน้า
  - ออสเตรเลีย 3 ครั้ง
  - แคนาดา 1 ครั้ง  

เราเดินทางคนเดียว  ผู้หญิง โสด  ทุกครั้งที่ไป จะพักอยู่บ้านเพื่อนคนอเมริกัน ผู้ชาย คนเดิม  แล้วก็ตระเวนเที่ยวตามป่า ภูเขา อุทยานแห่งชาติ  ไปทุกครั้งจะลงที่    LAX - CA แล้วก็จะเตรียมตัว  ขับรถ / ขึ้นเครื่อง ไปรัฐอื่นๆบ้าง  ถ้าคุณตอบคำถาม ตามด้านบนได้แบบกระจ่าง  ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ  แต่เราเคยอยู่สูงสุด 2 เดือนช่วงน้ำท่วมกรุงเทพ ร้านเปิดไม่ได้ บ้านก็ท่วม หนีไปอเมริกา เที่ยวรอน้ำลด.555555  ก่อนไปเราโบกปูนปิดรอบบ้านและร้านหมดค่ะ  

สรุป  มันต้องมีเหตุและผล ในการไปเยือนในแต่ละครั้งค่ะ ปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย  เพราะคนปกติทั่วไป ต้องทำมาหากิน เก็บเงินไว้สำหรับทริปถัดไป ห่วงงาน ธุรกิจ ลูกน้อง ครอบครัว  ถ้าไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีเงิน พร้อมจะเที่ยวได้ทั้งปี ทั้งชาติ นั่นมันอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ตม.เค้าผ่านนักท่องเที่ยวมามากมาย เค้ามีคอมมอนเซนส์อยู่แล้วโดยพื้นฐาน    เรานี่คือไปนั่งดูพาสปอร์ตย้อนหลัง  พร้อมอัลบัมรูปในเฟสบุคมาเลยนะคะ..  เปลี่ยนไป 3 เล่มแล้วค่ะ วีซ่ายังไม่หมดอายุ..เก็บเงินเที่ยวต่อไป เพราะสภาพร่างกายยังไหวอยู่ค่ะ  

  ประสบการณ์ของเรา มีเพียงเท่านี้ค่ะ ส่วนท่านใดมีข้อแนะนำอะไร เพิ่มเติม ก็รบกวนมาแบ่งเพื่อนสมาชิกได้นะคะ  จะได้เป็นแนวทางในการเตรียมตัว เตรียมใจ..55555   จะได้ไม่เสียเงิน  เสียเวลา เสียใจ เสียสุขภาพจิต

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่