เปิด 5 อันดับกุนซือที่ได้เงินชดเชยจากการโดนไล่ออกมากสุดต่อแค่ครั้งเดียว โดยเบอร์ 1 เป็นของผู้จัดการทีมคนดังที่เก้าอี้กำลังร้อน ได้ไปถึง 18 ล้านปอนด์

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 มีผู้จัดการทีมที่โดนไล่ออกไปแล้ว 2 รายคือ สลาวิซ่า โยคาโนวิช ของ ฟูแล่ม และ มาร์ค ฮิวจ์ส ของ เซาธ์แฮมป์ตัน
ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นตัวเต็งๆ ในลำดับต้นๆ ที่มีโอกาสต้องหางานใหม่ หลังทำผลงานได้ไม่ดีในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" อาจรอจนจบซีซั่นถึงค่อยแยกทางกับกุนซือชาวโปรตุกีส เนื่องจากมีเงื่อนไขอยู่ว่าไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยเลยหากทำทีมจบฤดูกาลไม่ติดอยู่ใน 4 อันดับแรก ต่างกับถ้าปลดตอนนี้จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ถึง 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 516 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ในช่วงที่ผ่านมา มีกุนซือหลายรายที่ได้เงินก้อนโตจากการโดนไล่ออก และนี่คือ 5 คนที่ได้ไปมากสุดในโลกตามการเปิดเผยจากเว็บไซต์ สปอร์ตสกีดาดอตคอม
1. โชเซ่ มูรินโญ่ - 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 774 ล้านบาท)

มูรินโญ่ เคยคุม เชลซี 2 รอบ โดยช่วงแรกปี 2004-2007 ก่อนหวนกลับมาทำงานที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกคำรบระหว่างปี 2013-15
มูรินโญ่ พา "สิงห์บลูส์" ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย (2004–05, 2005–06, 2014–15) และ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2006-07
อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวโปรตุกีส โดนไล่ออกทั้งสองรอบ โดยเมื่อปี 2007 ได้เงินชดเชยไป 18 ล้านปอนด์ ซึ่งยังครองสถิติสูงสุดมาจนถึงทุกวันนี้ ก่อนมารับอีก 8.3 ล้านปอนด์ในปี 2015
2. โลร็องต์ บล็องก์ - 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 731 ล้านบาท)

โลร็องต์ บล็องก์ เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังได้ทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก และยูโร กับทีมชาติฝรั่งเศส รวมทั้งได้ค้าแข้งที่บ้านเกิด, อังกฤษ และ สเปน
เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือเขาก็ทำได้เยี่ยมกับ บอร์กโดซ์ โดยพาทีมได้รองแชมป์ ลีก เอิง และได้รางวัลโค้ชแห่งปีประจำฤดูกาล 2007-08 ก่อนได้แชมป์ลีกในปีต่อมา
จากนั้น บล็องก์ ก็ไปคุมทีมชาติฝรั่งเศส แต่ทำได้ 2 ปี ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ดึงไปกุมบังเหียน และพาทีมคว้าแชมป์ในประเทศ แต่สุดท้ายก็โดนไล่ออกเพราะไม่สามารถไปถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยได้เงินชดเชยไป 17 ล้านปอนด์เมื่อปี 2016
3. หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ - 12.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 542 ล้านบาท)

สโคลารี่ เป็นคนพาทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ก่อนได้มีโอกาสมาคุม เชลซี เมื่อปี 2008 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไปคุมทีมชาติโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม บิ๊กฟิล ไม่ประสบความสำเร็จในการมาคุม "สิงห์บลูส์" ส่งผลให้โดน โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมสั่งเชือดในเวลาไม่ถึงฤดูกาล แต่ก็ได้เงินชดเชยไป 12.6 ล้านปอนด์
4. อันเดร วิลลาช-โบอาช - 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 516 ล้านบาท)

กุนซือชาวโปรตุเกส สร้างชื่อจากการพา ปอร์โต้ คว้า 3 แชมป์ในปีแรกที่มากุมบังเหียนเมื่อปี 2010 ทั้งลีก, โปรตุกีส คัพ และ ยูโรปา ลีก
จากนั้น โบอาช ก็ได้มาคุม เชลซี ในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 34 เท่านั้น แต่นั่งทำงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ไม่จบฤดูกาลก็โดนไล่ออก พร้อมฟันเงินชดเชยไป 12 ล้านปอนด์
5. ฟาบิโอ คาเปลโล่ - 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 473 ล้านบาท)

กุนซือชาวอิตาเลียน ประสบความสำเร็จในการคุมทีมระดับสโมสรไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด, โรม่า และ ยูเวนตุส
จากนั้น คาเปลโล่ ก็ผันตัวไปคุมทีมชาติบ้าง โดยรับงานกับ อังกฤษ ในปี 2008 จนถึงปี 2012 ก่อนไปกุมบังเหียนรัสเซีย แต่ผลงานแย่ในฟุตบอลโลก 2014 และ ยูโร 2016 รอบคัดเลือก จนโดนไล่ออกในปี 2015 ที่มาพร้อมกับเงินชดเชย 11 ล้านปอนด์
credit : www.siamsport.co.th
ใครจะเป็นคนต่อไป? 5 กุนซือฟันเงินค่าชดเชยมากสุด
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 มีผู้จัดการทีมที่โดนไล่ออกไปแล้ว 2 รายคือ สลาวิซ่า โยคาโนวิช ของ ฟูแล่ม และ มาร์ค ฮิวจ์ส ของ เซาธ์แฮมป์ตัน
ขณะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นตัวเต็งๆ ในลำดับต้นๆ ที่มีโอกาสต้องหางานใหม่ หลังทำผลงานได้ไม่ดีในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม "ปีศาจแดง" อาจรอจนจบซีซั่นถึงค่อยแยกทางกับกุนซือชาวโปรตุกีส เนื่องจากมีเงื่อนไขอยู่ว่าไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชยเลยหากทำทีมจบฤดูกาลไม่ติดอยู่ใน 4 อันดับแรก ต่างกับถ้าปลดตอนนี้จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ถึง 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 516 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ในช่วงที่ผ่านมา มีกุนซือหลายรายที่ได้เงินก้อนโตจากการโดนไล่ออก และนี่คือ 5 คนที่ได้ไปมากสุดในโลกตามการเปิดเผยจากเว็บไซต์ สปอร์ตสกีดาดอตคอม
1. โชเซ่ มูรินโญ่ - 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 774 ล้านบาท)
มูรินโญ่ เคยคุม เชลซี 2 รอบ โดยช่วงแรกปี 2004-2007 ก่อนหวนกลับมาทำงานที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกคำรบระหว่างปี 2013-15
มูรินโญ่ พา "สิงห์บลูส์" ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย (2004–05, 2005–06, 2014–15) และ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2006-07
อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวโปรตุกีส โดนไล่ออกทั้งสองรอบ โดยเมื่อปี 2007 ได้เงินชดเชยไป 18 ล้านปอนด์ ซึ่งยังครองสถิติสูงสุดมาจนถึงทุกวันนี้ ก่อนมารับอีก 8.3 ล้านปอนด์ในปี 2015
2. โลร็องต์ บล็องก์ - 17 ล้านปอนด์ (ประมาณ 731 ล้านบาท)
โลร็องต์ บล็องก์ เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังได้ทั้งแชมป์ฟุตบอลโลก และยูโร กับทีมชาติฝรั่งเศส รวมทั้งได้ค้าแข้งที่บ้านเกิด, อังกฤษ และ สเปน
เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือเขาก็ทำได้เยี่ยมกับ บอร์กโดซ์ โดยพาทีมได้รองแชมป์ ลีก เอิง และได้รางวัลโค้ชแห่งปีประจำฤดูกาล 2007-08 ก่อนได้แชมป์ลีกในปีต่อมา
จากนั้น บล็องก์ ก็ไปคุมทีมชาติฝรั่งเศส แต่ทำได้ 2 ปี ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็ดึงไปกุมบังเหียน และพาทีมคว้าแชมป์ในประเทศ แต่สุดท้ายก็โดนไล่ออกเพราะไม่สามารถไปถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยได้เงินชดเชยไป 17 ล้านปอนด์เมื่อปี 2016
3. หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ - 12.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 542 ล้านบาท)
สโคลารี่ เป็นคนพาทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ก่อนได้มีโอกาสมาคุม เชลซี เมื่อปี 2008 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไปคุมทีมชาติโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม บิ๊กฟิล ไม่ประสบความสำเร็จในการมาคุม "สิงห์บลูส์" ส่งผลให้โดน โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมสั่งเชือดในเวลาไม่ถึงฤดูกาล แต่ก็ได้เงินชดเชยไป 12.6 ล้านปอนด์
4. อันเดร วิลลาช-โบอาช - 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 516 ล้านบาท)
กุนซือชาวโปรตุเกส สร้างชื่อจากการพา ปอร์โต้ คว้า 3 แชมป์ในปีแรกที่มากุมบังเหียนเมื่อปี 2010 ทั้งลีก, โปรตุกีส คัพ และ ยูโรปา ลีก
จากนั้น โบอาช ก็ได้มาคุม เชลซี ในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 34 เท่านั้น แต่นั่งทำงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ไม่จบฤดูกาลก็โดนไล่ออก พร้อมฟันเงินชดเชยไป 12 ล้านปอนด์
5. ฟาบิโอ คาเปลโล่ - 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 473 ล้านบาท)
กุนซือชาวอิตาเลียน ประสบความสำเร็จในการคุมทีมระดับสโมสรไม่ว่าจะเป็น เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด, โรม่า และ ยูเวนตุส
จากนั้น คาเปลโล่ ก็ผันตัวไปคุมทีมชาติบ้าง โดยรับงานกับ อังกฤษ ในปี 2008 จนถึงปี 2012 ก่อนไปกุมบังเหียนรัสเซีย แต่ผลงานแย่ในฟุตบอลโลก 2014 และ ยูโร 2016 รอบคัดเลือก จนโดนไล่ออกในปี 2015 ที่มาพร้อมกับเงินชดเชย 11 ล้านปอนด์
credit : www.siamsport.co.th