ทริปถ่ายรูป Master Class "ไม่กลัวพัง" ท้าชนอากาศบานาฮิลล์เวียดนาม


สวัสดีครับ วันนี้มาลองตั้งกระทู้แนวท่องเที่ยว-แชร์ภาพถ่ายเป็นครั้งแรก กับทริปพักผ่อนหย่อนใจที่ บานาฮิลล์ เมืองดานัง ประเทศเวียดนามพร้อมนางแบบจำเป็นร่วมทริปที่ท้าชนสภาพอากาศที่พายุเข้าและฝนตกแบบ "ไม่กลัวพัง" อย่างกับ Master Class ของ The Face และทั้งทริปก็มีเพียงกล้อง iPhone เท่านั้น ส่วนจะออกมาปังหรือพังต้องมาช่วยลุ้นพวกเธอครับ

บานาฮิลล์ เวียดนาม 7-9 ธันวาคม 2561

ก่อนอื่นคงขอเล่าคร่าว ๆ เกี่ยวกับทริปนี้เล็กน้อย เราเริ่มการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปกับสายการบิน Vietjet Airline เพื่อประหยัดงบการเดินทาง และแล้วพวกเราทุกคนก็ได้เหินฟ้าสู่เวียดนามเป็นครั้งแรก



จุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อน 3 วัน 2 คืนของเราอยู่บนเขาที่สร้างเป็นแหล่งรวมการท่องเที่ยวชื่อว่า "Bana Hills" และที่พักของเราเห็นจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Mercure Hotel Bana Hills French Village
การเดินทางมายังบานาฮิลล์ทำได้ง่าย ๆ เพียงนั่งแท็กซี่ซึ่งเลือกได้ทั้งรถที่จอดเรียงรายในเขตสนามบินดานัง หรือจะกดจาก Grab เอาก็ได้ ซึ่งคนขับก็จะมุ่งหน้าตรงมายังบานาฮิลล์ทันที โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายก็ควรจะไม่เกิน 400,000 VND เมื่อมาถึงแล้วเราก็จะแสดงความเป็นแขกของโรงแรมด้วยการโบกไม้โบกมือเรียกรถกอล์ฟของทางโรงแรมให้พาเราไปส่งที่จุดเช็คอินก่อนจะนั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขา ความพิเศษของการเป็นแขกของโรงแรมก็คือค่ากระเช้าซึ่งเป็นราคาเหมาจ่าย ขึ้นลง ๆ ได้ทุกจุดทุกเวลาตลอดการพักที่นี่ ตกอยู่ที่ 400,000 VND ต่อคนเท่านั้น





หลังจากขึ้นกระเช้าแล้วก็ตั้งใจกันว่าวันนี้จะลองถ่ายรูปกันแบบเบา ๆ ก่อนด้วยคอนเซปต์ "วันแรกสวยสดใส" แต่ก่อนจะไปชมภาพนั้นก็จะขอแนะนำตัวนางแบบกันก่อน ซึ่งแต่ละนางก็จะมาด้วยคอนเซปท์การแต่งตัวและการโพสท่าที่แตกต่างกัน แล้วเดี๋ยวให้จะทุกคนลองเดากันเองนะครับว่าภาพไหนเป็นภาพของใคร 555

1. พี่เคธี่ (นามสมมติ): สวย เท่ โดดเด่น
2. พี่โมเน่ (นามสมมติ): สวยซ่อนแพง
3. พี่อาร์ตี้ (นามสมมติ): คุณแม่หนีลูกเที่ยว



และแล้วในที่สุดพวกเราก็มาถึงด้านบนเสียที อาคารสิ่งก่อสร้างด้านบนถูกสร้างขึ้นด้วยดีไซน์แบบตะวันตกยุคกลาง ทุกพื้นที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เป็นกรุ๊ปทัวร์จีนและไทย เสียงผู้คนที่ลอยข้ามหัวไปมาจึงมีทั้งภาษาไทยและภาษาจีนอย่างกับเดินเยาวราช สำหรับบรรยากาศด้านบนนี้ก็จะปกคลุมไปด้วยม่านหมอก ละอองฝนบางเบา สลับกับสายฝนที่โปรยปรายเป็นระยะ สายลมพัดพาเอาอุณหภูมิประมาณ 17-20 องศาเซลเซียสปะทะผิวกาย เย็นสบายสดชื่นมาก ๆ เป็นการคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับปอด

วันแรกสวยสดใส





เช้าวันที่ 2 พากันตื่นแต่เช้าเพราะตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะตะลอน กิน เดิน เล่น ถ่ายรูป กันให้เต็มที่ บรรยากาศตอนเช้าก็ยังคงมีแต่หมอกและสายฝนเป็นการท้าทาย Master Class ของนางแบบของเรามาก ก็เลยลองเก็บภาพบรรยากาศที่แต่งให้ออกโทนดาร์ค ๆ แนว ๆ หนังสยองขวัญเสียหน่อย




เอาล่ะ ที่นี้มาชมภาพแต่ละคนที่สวยสู้กล้องแบบไม่ยอมแพ้กันเลยทีเดียว อุปสรรคสำคัญของวันนี้คือสภาพอากาศอย่างที่บรรยายและอุปกรณ์กันฝนที่มีแค่ร่มคันใหญ่ของโรงแรม 1 คัน กับเสื้อกันฝนพลาสติกเพียง 2 ตัว ซึ่งแต่ละคนก็พากันท้าฝนวิ่งออกจากร่มเข้าซีนกันทั้งนั้น

เริ่ม!!!


Set 1: สะบัดผมชมสวน

ภาพเซตนี้มาจากการนั่งกระเช้า ต่อรถราง และแวะชมสวนข้างทาง เพื่อไปยังจุดหมายสำคัญของวันนี้สองจุด ได้แก่ สวนดอกไม้ Le Jardin D'amour และสะพานมือยักษ์ Golden Bridge

ภาพชิมลาง






Le Jardin D'amour





จากสวนสวย ๆ เราก็พากันเดินต่อหลงบ้าง ถามทางบ้าง จนกระทั่งมาถึงสะพานมือยักษ์เสียที ซึ่ง Master Class เซตสองนี้ต้องบอกว่าแทบล่มกันเลยทีเดียวเพราะอุปสรรคที่หนักหนาสาหัสจนถ่ายรูปได้ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นลมที่โหมแรงมากจนร่มโรงแรมหัก (ตอนกลับโรงแรมไปอ้อนจนได้คันใหม่มา) ทัวร์จีนที่ลงกระเช้าเดินสวนมาคลาคล่ำเต็มสะพาน สายฝนที่แรงกว่าวันก่อน ๆ จนเปียกปอนไม่เหลือดี และหมอกที่หนามากจนบางทีมองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น



ภาพที่ถ่ายได้ร้อยละ 99% ก็คือ "พัง" หมด นางแบบแต่ละคนเละเทะไปตาม ๆ กัน 555 แต่อย่างน้อยก็ยังโชคดีที่พอจะหาภาพที่พังน้อยหน่อยมาอวดได้บ้าง

Golden Bridge



หลังจากโดนสภาพอากาศเล่นงานจนเละเทะกันหนำใจแล้ว ก็พากันนั่งกระเช้ากลับขึ้นเขตโรงแรม และหลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วก็พากกันเดินชมบริเวณต่าง ๆ เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ จนมาเริ่มต้น Master Class กันอีกครั้งที่ร้านชาแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนอันร่มรื่น




Set 2: ชาอุ่น คนฮอต

ภาพเซตนี้เป็นการถ่ายภาพภายในร้านที่พยายามสะท้อนความอบอุ่นจากชาสุมนไพรที่ชวนผ่อนคลาย แต่ก็แฝงด้วยความสวยฮอตที่ปิดไม่มิด






Set 3: ลุคคูล ๆ ฟีลยุโรป

หลังจากจิบชากันฟินไปถ้วนหน้า และนั่งหน้าฮีตเตอร์จนแห้งกันหมดเเล้ว ก็พากันออกมาถ่ายภาพเซตนี้ระหว่างการเดินชมสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางรอบ ๆ โรงแรม







และแล้วทริปของเราก็จบลงในวันสุดท้ายด้วยสภาพอากาศที่ดูจะหนักกว่าเดิม เส้นทางที่นั่งกระเช้าลงเขาสามารถมองเห็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากไหลลงจากเขาอย่างชัดเจน แถมแท็กซี่ที่เราเรียกไปสนามบินก็ยังบอกอีกด้วยว่าในเมืองน้ำท่วมถนนทำให้เดินทางลำบาก เอาแล้ว! เกือบไปขึ้นเครื่องบินไม่ทันแล้ว โชคดีที่เราเปลี่ยนใจให้ทางโรงแรมขับรถไปส่ง ด้วยความชำนาญของคนขับก็สามารถซิกแซกไปตามถนนเส้นต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมขังจนไปถึงสนามบินได้สำเร็จ

ก่อนจบกระทู้นี้ก็ขอฝากภาพขาลงกระเช้าไว้นิด ๆ หน่อย ๆ เป็นการปิดทริปที่เย็นสบาย สดชื่น เปียกปอนครั้งนี้
สวัสดีครับ




แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่