ตั้งแต่ ประถม ถึง มัธยม .....ที่โรงเรียนหลายๆ โรงเรียนเรียนกันทั้งเป็นสายวิทคณิต หรือสายต่างๆ ต้องเรียนวิชาที่ไม่ใช่วิชาที่ตัวเองชอบหรือไม่เข้ากับอาชีพ
ที่ตัวเองจะทำในอนาคต เช่น อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ต้องเรียน ภาษาญี่ปุ่นและวิชาภาษาไทย และ วิชาอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับอาชีพ ....

ถ้าตอบผมว่าว่าจะต้องคุยกับคนญี่ปุ่น และ ไปประเทศต่างๆ ต้องใช้ภาษาต่างๆ เขามีเครื่องแปลภาษาคำพูดแล้ว ถ้าไม่ชอบเรียนเกี่ยวกับภาษาก็ได้หนิ?

และถ้าตอบผมว่า ฝึกความอดทน ทุกคนมีความอดทน สิ่งที่ต้องการคือเงินไม่มีใครไม่อดทน ไม่ว่าจะเคยเรียนมา หรือ ไม่เคยเรียนมาตั้งแต่เด็ก คุณลองคิดดูงาน [ วิชา ] ที่ชอบสมมุติว่า คุณมีวิชาที่ชอบ 5 วิชา วิชาที่ไม่ชอบ -10 ลองมารวมกัน คุณจะ ได้ติดลบ หรือติดบวก ถ้าติดลบแปลว่าคุณไม่สามารถเรียนได้โดยที่มีความสุขและความรู้ทุกอย่างที่เรียนไปจะนำไปใช้ได้น้อยกว่าคนที่ชอบเรียนเพราะ เขาชอบความรู้

ถ้าโรงเรียนมีวิชาที่คุณชอบ 5 แล้ววิชาที่ไม่ชอบ 2 คุณจะเรียนได้มีประสิทติภาพมากและ สามารถจำทุกอย่างที่เรียนได้มากกว่า 50% ความรู้ที่คุณเรียนจะนำไปใช้ได้ดี ยกตัวอย่าง เกมที่คุณเล่นที่คุณชอบ มีความสนุก 8 เต็ม 10 แล้วนั้นเป็นสิ่งที่คุณชอบ คุณจะเก็บรายละเอียดสิ่งที่คุณเจอ ไม่ว่า ภาษา การออกแบบสิ่งปลูกสร้าง การมีสายตาอย่างเหยี่ยว และอื่นๆ

ประสิทธิภาพคือสิ่งที่ประเทศต้องการ ใช่ใหม แล้วสิ่งที่ประเทศเอาลงมาใส่สมองของคนทุกคน ทั้งอยู่ในกอบ และ กักขังอยู่ในกง[ยัดความรู้] ตอบผมหน่อยสิ ทำไมโรงเรียนไม่แยก เป็น สายต่างๆ อย่างจริงจัง [ นักวิทยาศาสตร์ อยู่ในโรงเรียนสายวิทคณิตตร์และ หมอหรือ อาชีพอื่นๆ ] แค่ลงทุนกับโรงเรียนถึงจะมีความเสี่ยง ก็ดีกว่าไม่ลอง  

ผมอยากจะบอก ว่าลงทุนใน เด็กรุ่นใหม่ๆ มากๆ ประสิทธิถาพจะตามมาหลัง 10-50ปี อาจจะมีคนฉมองใสคิดสร้างอาวุธ EMP ป้องกันประเทศจาก ขีปนาวุธจากทุกประเทศ และ บางคนอาจจะคิดยาที่มีสารอาหารครบ 7 วัน และบางคนอาจจะคิดสร้างอวัยวะเทียม แบบเต็มประสิทธิภาพ และบางคนอาจจะคิดค้นเสาสันญาณและ ดาวเทียมที่สังเกตุการณ์ทั่วโลกได้ .

[ทั้งหมดถ้าผมผิดอะไรขอโทษด้วยนะครับ ทั้งหมดคือความสงสัยของผม ถ้าใครรู้บอกหน่อยน่ะครับ ]

.:{[อยากเรียนแบบไม่ทุกข์จังง่ะ]}:.