บัตรปชช.เก่าที่หายไป ถูกเอาไปเปิดเบอร์ใหม่พร้อมซื้อเครื่องได้ที่ AIS ความปลอดภัยของลูกค้าอยู่ที่ไหน

สวัสดีค่ะ ถ้าเผื่อยังมีใครจำกันได้ ก็จะทราบว่าบัตรประชาชนเก่าที่หายไป 2 ปีแล้ว ของเราได้ถูกนำไปใช้เปิดเบอร์โทรศัพท์พร้อมซื้อเครื่องแล้ว ที่ DTAC ตามกระทู้เก่าที่เคยตั้งไว้เมื่อเดือน สิงหาคม  ตามนี้ 》》https://pantip.com/topic/38000839

วันนี้ก็จะมาเล่าให้ฟังด้วยความเหนื่อยหน่ายว่าเพิ่งได้รับแจ้งว่ามิจฉาชีพได้ไปเปิดใช้บริการที่ AIS ในลักษณะเดียวกัน คือเปิดเบอร์และทำสัญญาซื้อเครื่องมือถือ มีเคสที่ TRUE ด้วย แต่ไม่ได้ตั้งกระทู้เอาไว้ค่ะ

วันนี้เพิ่งจะได้รับหนังสือเร่งรัดหนี้สิน จึงรีบไปแจ้งความ และไปยื่นเอกสารที่ AIS Shop
เรื่องที่มันน่าเดือดเนื้อร้อนใจ ทำให้เป็นทุกข์คับข้องใจจนต้องมาโพสต์กระทู้ มีอยู่ 4 ประเด็นหลักๆ

1. ใช้แค่บัตรประชาชนตัวจริงและลายเซ็นต์ ก็สามารถที่จะเปิดเบอร์มือถือ พร้อมซื้อเครื่องโทรศัพท์และทำธุรกรรมต่างๆใดใด ได้โดยง่าย ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก

>>> ถามจริงๆ ว่าให้เซ็นต์ไปจะทราบไหมว่าลายเซ็นต์ตัวจริงเป็นอย่างไร ยิ่งถ้าลูกค้าไม่เคยใช้บริการ AIS มาก่อน ก็จะไม่มีฐานข้อมูลให้นำมาเทียบกันได้
ส่วนตัวก็ไม่เคยใช้บริการค่ายนี้มาก่อน มีถ่ายรูปเอาไว้ตามที่กม.กำหนด แต่ไม่สามารถเปิดเผยรูปได้ ฝ่ายนิติเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ดึงข้อมูลมาดู...... ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้

2. ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้ล่วงหน้า ก่อนได้รับใบเร่งรัดหนี้สินและขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับลูกค้าเลย !!!!

>>> หลังจากที่ได้รับจดหมาย ก็โทรไปที่ Call Center ได้ทราบว่า เบอร์นี้ถูกเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 08 สิงหาคม ...... ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยมา 4 เดือนแล้ว ไม่เคยได้รับบิลให้ชำระเงินตามปกติสักใบ ก่อนจะมาเจอจม.เร่งรัดหนี้สินใบนี้

โดยในวันนี้ได้รับใบเร่งรัดหนี้สินจากบริษัทกฏหมายแห่งหนึ่งที่ทำงานให้ AIS ว่าจะต้องรีบติดต่อกลับภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ที่ระบุไว้ในจดหมาย มิเช่นนั้นจะเกิดการฟ้องร้องกัน  หากแต่วันที่ที่ได้ระบุไว้เป็นวันที่ 27 พ.ย. และวันที่จดหมายถึงมือคือวันนี้ 15 ธ.ค. ก็ไม่ทราบว่าจะติดต่อกลับภายใน 7 วันให้ทันได้อย่างไร และเมื่อโทรไปบริษัทกฏหมายแห่งนี้ก็บอกว่าให้ติดต่อ AIS และแจ้งความโดยเร็วที่สุด

3. ฝ่ายนิติของ AIS ต้องการจดหมายแจ้งความที่มีตราครุฑเท่านั้น ไม่สามารถที่จะใช้บันทึกประจำวันธรรมดาได้

>>> เรื่องนี้พอจะยอมรับได้ว่ากฏระเบียบของแต่ละบริษัทแตกต่างกัน แต่ก็ควรจะกำชับให้ Call Center แจ้งลูกค้าตรงจุดนี้ด้วย วันนี้ต้องกลับไปโรงพักเพื่อแจ้งความอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากตอนแรกแจ้งเป็นบันทึกประจำวันธรรมดาไป ด้วยที่เคยเกิดเคสแบบนี้มาก่อนกับทั้ง DTAC และ TRUE ก็สามารถที่จะใช้บันทึกประจำวันธรรมดาดำเนินเรื่องจนได้รับการเคลียร์ค่าใช้จ่ายได้  แต่พอไปถึงที่สาขาแล้ว สาขาบอกว่าเคยส่งบันทึกประจำวันไปให้ทางนิติ แล้วทางนิติไม่ดำเนินการให้ ตีเอกสารกลับมา........ ถึงตรงนี้แล้ว เอาจริงๆค่อนข้างสะเทือนใจ คือ เข้าใจว่าบริษัทก็กลัวลูกค้าหัวหมอไปแจ้งความซะเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องชำระหนี้ แต่มันควรจะมีช่องทางที่ช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นผู้เสียหายมากกว่านี้มั้ย

4. Call Center แจ้งว่าฝ่ายนิติของ AIS จะต้องใช้เวลาถึง 90 วันในการติดตามพิสูจน์หลักฐาน และ Call Center แจ้งว่าทางสาขาที่เราไปติดต่อจะติดตามเรื่องให้จนถึงวันที่ 70 ส่วนเมื่อไปถึงสาขาก็ยื่นเบอร์ให้ บอกให้ตามเรื่องเอง

>>> ถามจริง งงมั้ย ???
--1. ทำไมฝ่ายนิติจะต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน หรือ 90 วัน ในการติดตามเรื่องราว คือบริษัทคุณทำงานล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพ หรือว่ามีเคสมีถูกแอบอ้างปลอมแปลงแบบนี้เยอะมากเพราะทำงานไม่รัดกุม พนักงานไม่รอบคอบ จ้องแต่จะทำยอดเอาเงินอย่างเดียว
--2. สาขาตามเรื่องให้ถึง 70 วัน แล้วที่เหลือใครตามคะ ??? ถามจริงงง........ อ๋ออออ คุณลูกค้าที่เดือดร้อนนี่เอง จะต้องตามเอง เอาเบอร์ไปค่ะ แล้วตามเองนะ ขอให้โชคดีค่ะ

.......แล้วยังไงรู้มั้ย พอไปถึงสาขา พนักงานที่สาขายื่นเบอร์นิติที่เขียนลงบนกระดาษมาให้เรา แล้วบอกว่าตามเรื่องกับฝ่ายนิตินะคะ ขอให้ตามเรื่องสำเร็จนะคะ
....... เออ ฟังแล้วเหมือนจะดูดี มีกำลังใจมากมากกก แต่ว่ามันคืออะไร มันก็คือ คุณตามเรื่องของคุณเองนะ ทางเราไม่เกี่ยว ขอให้โชคดีค่ะ.....



*****5. อันนี้ขัดใจมากกก ขอดอกจันไว้ก่อน  แบบฟอร์มที่กรอกยื่นเรื่องให้ฝ่ายนิติบริษัทตรวจสอบจะต้องระบุรายละเอียดส่วนตัว แบบละเอียดมาก ถามข้อมูลส่วนตัวที่เป็นความลับ


เช่น  วุฒิการศึกษา จบการศึกษาสถาบันไหน สาขาอะไร บริษัทที่ทำงานอยู่ เบอร์ที่ทำงาน "เงินเดือน" และ ชื่อพ่อแม่ญาติพี่น้อง เบอร์ติดต่อญาติพี่น้องที่สนิท แถมที่ทำงานญาติพี่น้องต่างๆ

............ ไม่เข้าใจว่ารู้ไปแล้วได้อะไร อย่างนี้เรียกละเมิดสิทธิได้ไหม จะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไร ถึงจะบอกว่าเพื่อยืนยันตัวตน เรียกดูเอกสารอื่น เช่น ทะเบียนบ้าน สูติบัตร บัตรพนักงาน ฯลฯ แทนไม่ดีกว่าหรอ

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ไม่ใช่ความลับส่วนตัวของเราคนเดียว เงินเดือนก็เป็นความลับของบริษัท ถ้าเอกสารหลุดออกไปแล้วบริษัทรู้ว่าพนักงานมาเปิดเผยเงินเดือนในเอกสารแบบนี้จะเป็นอย่างไร ............นี่คือมาร้องทุกข์นะ ไม่ใช่มาทำบัตรเครดิต

จึงกรอกไปเท่าที่สะดวกใจ ถ้าหากกรอกน้อย จะหาว่าเราไม่บริสุทธิ์ใจ มีพิรุธอะไรอีกรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ

พนักงานกล่าวว่า ถ้าไม่สะดวกใจก็กรอกเท่าที่ได้ แต่เดี๋ยวฝ่ายนิติก็จะโทรไปสอบถามอีกอยู่ดี


...........มันคืออะไรอ่ะ เวลาเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ทำสัญญาซื้อเครื่องอะไรเห็นทำกันง๊ายง่ายหนิคะ ไม่เห็นสอบประวัติโคตรเหง้า ญาติโกโหติกา ไม่ถามว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ ญาติทำงานที่ไหนเลยหนิคะ.....


คือพอเกิดเรื่องขี้นแล้วเราไปร้องทุกข์เหมือนเราเป็นคนทำความผิดซะเอง ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากมากมาย เพราะบริษัทจะเสียผลประโยชน์
แล้วระยะเวลาและกระบวนการตรวจสอบก็นานมาก


เอาจริงๆ เวลาประสานงานกับ DTAC และ TRUE ที่ผ่านมาเคสลักษณะเดียวกัน เสียความรู้เหมือนกัน แต่ไม่เสียความรู้สึกเท่านี้นะ เพราะไม่ได้มีการขอข้อมูลส่วนตัวไปถึงญาติพี่น้อง ฐานเงินเดือนอะไรแบบนี้ด้วย ....
อ๋อ มีเรื่องที่น่าชื่นชมของ AIS คือ Call Center รับสายค่อนข้างเร็ว ไม่ต้องรอนานมาก หลักจากที่ฟังโอเปอร์เรเตอร์ร่ายยาวให้กดเลขต่างๆไปร่วม 2 นาที


""จึงอยากจะมาเล่าเพื่อเตือนภัย รักษาบัตรประชาชนยิ่งชีพนะคะ เพราะถ้าบัตรหายไปแล้ว เรากลายเป็นผู้เสียหาย จะถูกปฏิบัติเหมือนผู้ที่ไปร้องขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่ลูกค้าที่เป็นดั่งพระเจ้า ที่กำเงินไปให้อีกต่อไป.....""



ส่วนรายละเอียดต่างๆ เรื่องที่ว่าทำไมบัตรเก่าถึงถูกนำไปเปิดเบอร์ได้ สามารถอ่านได้ที่กระทู้เก่าค่ะ >> https://pantip.com/topic/38000839

:::โดยย่อคือบริษัทเอกชนจะไม่มีฐานของข้อมูลรัฐ ไม่สามารถรู้ได้ว่าบัตรใบนี้คือใบที่ยกเลิกไปแล้ว และวิธีการเปิดเบอร์ใหม่ก็สุดแสนจะง่ายดาย คือมีบัตรตัวจริง และหน้าตาที่คลับคล้ายคลับคลา และมีมือที่สามารถจะเซ็นต์ชื่อได้ก็พอ ถามแต่ข้อมูลหน้าบัตรประชาชนอย่างเดียว ซึ่งใครๆก็จำได้ถ้ามีเวลาท่อง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่