[SR] นอนดูดาว สัมผัสไอหนาว กินข้าวพญาลืมแกง ยลแสงพระอาทิตย์ตก ณ น้ำหนาว เพชรบูรณ์ (ปีใหม่ไปไหนดี?)

สวัสดีค่ะกระทู้นี้เราจะมาเล่าความประทับใจ
กับการที่ได้ไปสัมผัสการท่องเที่ยววิถีชุมชน
บ้านห้วยหญ้าเครือ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
ถ้าพูดถึงน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์กันแล้ว
สำหรับบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่  
เพราะแต่ละคนพอได้ยินชื่อน้ำหนาว
ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น้ำหนาวคือที่ไหนไม่รู้จัก ”
บางคนที่รู้จักน้ำหนาวก็รู้แต่เพียงแต่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
จะมีสักกี่คนที่ได้เดินทางมายังหมู่บ้านเล็กๆในตัวอำเภอน้ำหนาวกันบ้าง
เราก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับหมู่บ้านห้วยหญ้าเครือ อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์กันค่ะการเดินทางเราเลือกเดินทางด้วยรถประจำทาง
โดยเรานั่งรถจากหมอชิตมาลงที่ห้วยสนามทราย
แล้วติดต่อทางผู้ใหญ่บ้านให้จัดหารถมารับเข้าหมู่บ้าน
รายละเอียดการเดินทาง และข้อมูลการติดต่อเราจะทิ้งไว้ท้ายสุดนะคะ
จุดแรกที่แวะระหว่างทางไปบ้านห้วยหญ้าเครือ
คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก แต่เราไปถึงนั่นตอนเที่ยงกว่าๆ
ก็เลยมองไปแล้วจินตนาการเอาเองว่าถ้าพระอาทิตย์ตกจะสวยงามขนาดไหน พอมาถึงบ้านห้วยหญ้าเครือ ก็เกือบบ่ายท้องก็ร้องจ๊อกๆ
เป็นสัญญาณว่าควรหาพลังงานมาเติม
ทางผู้ใหญ่ก็พาแวะร้านอาหารตามสั่ง
อาหารที่เลือกสั่งในมือนี้คือข้าวผัดพริกแกง ปลาหมึก/เนื้อ+ไข่ดาว
ถึงจะเป็นอาหารตามสั่งธรรมดาๆแต่รสชาติไม่ธรรมดา
สนนราคาจาจานล่ะ 45 บาท...ในที่สุดเราก็มาถึงหมู่บ้านห้วยหญ้าเครือ
เราไปติดต่อกับทางผู้ใหญ่ก่อน เพื่อให้ทางผู้ใหญ่จัดหาที่พัก
และอำนวยความสะดวกให้ โดยคืนแรกเราตกลงกับทางผู้ใหญ่
ว่าจะขอกางเต็นท์บนภูฮี โดยทางผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านห้วยหญ้าเครือ
ต่างก็อำนวยความสะดวกในการจัดหาที่กางเต็นท์
ดูแลความปลอดภัย และเรื่องอาหารการกินให้กับเราในคืนนี้
โดยภูฮีถือเป็นจุดชมสามภูซึ่งสามภูที่ว่า มีภูกระดึง ภูกระดึง  ภูผาจิต
ซึ่งถ้าเรามองจากภูฮีก็จะเห็นสามภูนี้อยู่
เรียกว่าถูกความเขียวขจีของภูเขาโอบล้อม
พร้อมบรรยากาศอันหนาวเย็น แค่ได้มาสัมผัสก็รู้สึกว่าฟิน
จนอยากเก็บอากาศที่นี้กลับกรุงเทพไปด้วยเลยค่ะเราเดินเล่นบนภูฮี เก็บภาพไปสักพัก ก็ได้เวลาพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
เราเลยไม่รอช้าคว้ากล้องที่คล้องคอขึ้นมารัวชัตเตอร์
เก็บความงามของแสงพระอาทิตย์ยามจะลับขอบฟ้าแสงพระอาทิตย์จะยามลับขอบฟ้า แสงทองอร่ามทั่วทั้งท้องฟ้าเมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็ได้เวลาเย็น
ท้องก็ร้องจ๊อกๆเป็นสัญญาณให้รู้ว่า
ได้เวลาของอาหารเย็นเพื่อมาทดแทนพลังงานที่เสียไป
ทางผู้ใหญ่บ้านเลยเสนอให้เราไปทานอาหารเย็นที่บ้านผู้ใหญ่
แล้วจะพามาส่งที่ภูฮีใหม่อีกครั้งเพื่อพักผ่อน
ส่วนอาหารที่กินมื้อนี้ เป็นอาหารพื้นบ้านวัตถุดิบหาได้ในท้องถิ่น
แต่รสชาตินี้ต้องยกนิ้วให้ อาจจะเป็นเพราะที่วัตถุดิบของที่นี้สดกว่า
ปลูกท่ามกลางอากาศเย็น ไร้สารพิษเคมีใดๆ
อีกทั้งผ่านฝีมือการปรุงของแม่อ้าย ภรรยาผู้ใหญ่บ้านด้วยแล้ว
จึงทำให้ได้รสชาติอาหารกลมกล่อมกลิ่นหอมเย้ายวนชวนรับประทาน
ไม่อยาพูดเยอะเจ็บคอ ให้ภาพบรรยายค่ะ...เมื่ออิ่มกายสบายท้องก็ได้เวลาขึ้นภูฮีกางเต็นท์นอนดูดาวกันแล้ว
ซึ่งชาวบ้านที่นี้ก็บอกว่าภูฮียามค่ำคืนนั่นเห็นดาวเป็นล้านดวง
ซึ่งเราได้ยินก็คิดในใจว่า โม้ไปแล้วภูก็ไม่ได้อยู่สูงมาก
จะไปเห็นดาวอะไรมากมายขนาดนั่น นั่นคือสิ่งที่เราคิดค่ะ
แต่ภาพความจริงคือ...ที่เห็นเป็นดาวที่อยู่บนท้องฟ้าของภูฮีจริงๆน่ะคะ
ไร้การตัดต่อเสริมแต่งด้วยโฟโต้ชอป
มีการปรับแสงของภาพด้วยโปรแกรมเพียงเล็กน้อย
แต่ในภาพที่เห็นดาวชัดเจนเป็นเพราะเราถ่ายด้วยกล้อง DSLR
และขาตั้งกล้อง ประกอบด้วยคืนที่ถ่ายเป็นคืนเดือนมืด
เลยทำให้ได้ภาพแสงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าแบบนี้
แต่ถ้าเพื่อนคนไหนมาในคืนพระจันทร์เต็มดวง ก็ไม่ต้องเสียใจค่ะ
อาจจะเห็นได้พระจันทร์ดวงโตๆ ส่องแสงสว่างทั่วทั้งท้องฟ้า
สวยงามไปอีกแบบ...
ระหว่างที่เรากำลังเพลิดเพลินไปกับดวงดาวเต็มท้องฟ้า
ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านห้วยน้ำเครือ
ก็รู้ว่าเราหิวเลยจัดแจงมื้อเสริมพิเศษมาให้เป็นข้าวหลาม และข้าวโพดปิ้ง
ที่เก็บมาสดๆจากไร่ และปิ้งย่างกันสดใหม่ตรงนี้เลยค่าาา
บอกได้คำเดียวว่ากลิ่นหอมชวนรับประทาน
หากเขียนบรรยายให้เพื่อนๆได้กลิ่นคงจะดีนะค่ะ อิอิ...เมื่อกินอิ่มก็พูดคุยกันนิดหน่อยตามประสา จากนั่นก็แยกย้ายกันเข้านอนคะ
สำหรับเพื่อนสาวๆคนไหนเป็นสาวขาลุยชอบเที่ยวคนเดียว
เราก็บอกได้เลยน่ะคะว่าไม่ต้องกลัวอันตราย
เพราะทางผู้ใหญ่ก็ได้จัดทีมรักษาความปลอดภัย
และอำนวยความสะดวกมาให้ เรียกได้ว่าอุ่นใจหายห่วงแน่นอนค่ะเมื่อนอนเต็มอิ่มก็ได้เวลาตื่น เพื่อรับแสงแรกในยามเช้า
นอนที่นี้สบายมาก แต่จะมีปัญหานิดหน่อย
เพราะลมค่อนข้างแรงนิดนึงอาจจะได้ยินเสียงลมกระทบเต็นท์
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะด้วยอากาศที่เย็นสบาย ทำให้เรานอนหลับสนิทตลอดคืน
แต่ถ้าที่นี้เข้าฤดูหนาวเต็มตัว เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆหาเครื่องนุ่งห่ม
ที่สามารถป้องกันอากาศหนาว เพราะว่าที่น้ำหนาว
จะมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี
เราเลยไม่แปลกใจว่าทำไมที่นี้ถึงถูกเรียกว่าน้ำหนาว
เพราะอากาศหนาวสมชื่อจริงๆ...จากนั่นเราก็เดินไปเก็บภาพนาข้าว ที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว
เลยทำให้ได้เห็นทุ่งนาหลังการเก็บเกี่ยว
สีเหลืองทองอร่ามงามตาปะทะกับแสงยามเช้า
ยิ่งทำให้ทุ่งนาสีเหลืองทองแห่งนี้สวยงาม
ไม่แพ้ทุ่งนาข้าวเขียวขจีกันเลยทีเดียว...ขอถ่ายใกล้ๆ เพื่อให้เห็นเม็ดข้าวเรียงตัวสวย รับแสงแดดในยามเช้าหลังจากเดินเก็บภาพชมความงามของแสงแรกกันแล้ว
สิ่งที่ทำต่อไปคือการรับประทานอาหารเช้าสิคะ
จะให้มีแรงก็ต้องเติมพลังงานกันหน่อย
สำหรับอาหารเช้าที่ทางผู้ใหญ่เตรียมให้มื้อนี้เป็นข้าวต้มหมู
ที่หน้าตาดูน่ารับประทาน แถมรสชาติไม่ธรรมดา
ข้าวนุ่มละมุนลิ้นมากกกกกกกกกก(ก.ล้านตัว)  
อร่อยสุดๆไปเลยคะ...เมื่อท้องอิ่ม ก็ต้องไปต่อ...
วันนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยวที่น้ำตกถ้ำค้างคาว
และชมลานหินโคกลาด ส่วนการเดินทางไปเที่ยว
แต่ละจุดนั่นทางผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านก็มีพาหนะนำเที่ยว
ที่เข้ากับการท่องเที่ยววิถีชาวบ้าน นั่นก็คือรถอีแต๊กนั่นเอง
ซึ่งหากจะหาลองนั่งที่กรุงเทพคงไม่มี
หากใครอยากจะมาลองนั่งรถอีแต๊ก และท่องเที่ยววิถีชุมชน
ชมธรรมชาติ ก็อยากให้ลองมาที่หมู่บ้านห้วยหญ้าเครือแห่งนี้ดูค่ะ
รับรองได้ประสบการณ์แปลกใหม่และความประทับใจกลับไปแน่นอน...สำหรับที่แรกที่เราแวะกันนั่นก็คือลานหินโคกลาด
ที่รวมเอาหมู่ไม้ดอกไม้ป่าเข้าไว้ด้วยกัน
ในตอนฤดูฝนที่นี้จะเป็นสีเขียวของมอสและสีแดงของดอกไม้
พอมองรวมกันจะดูชุ่มชื่นสวยงาม แต่ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูฝนมอสเลยแห้ง
กลายเป็นสีน้ำตาลให้บรรยากาศอีกแบบ
ขณะที่เที่ยวชมหมู่ไม้พี่โชเฟอร์ และทางผู้ช่วยผู้ใหญ่
ก็ใจดีอธิบายว่าต้นไม้แต่ล่ะต้นนั่นชื่ออะไร มีประโยชน์อย่างไร
แต่เราจำไม่ได้ว่าต้นอะไรเป็นต้นอะไรบ้างเพราะเยอะจริงๆ
ถ้าใครที่ต้องการมาชม มาเรียนรู้ ชาวบ้านที่นี้ยินดี
ให้ความรู้เรื่องไม้พันธุ์ประจำท่องถิ่นกันอย่างแน่นอนค่ะจุดต่อไปที่เราจะไป อีกทั้งแวะรับประทานอาหารกลางวันกันนั่น
จุดนี้คือน้ำตกถ้ำค้างคาวค่ะ เรียกว่ากินข้าวไปนั่งดูน้ำตกไป
ฟินขนาดไหน ให้ภาพบรรยายความสวยงามของน้ำตกไปค่ะอีกมุมนึงของน้ำตกต่อไปก็เป็นชุดอาหารเที่ยงที่ทางชาวบ้านและผู้ใหญ่จัดเตรียมมาไว้ให้เรา
เป็นอาหารพื้นบ้าน ที่เห็นแกงในกระบอกไม้ไผ่มั้ยคะ
เขาต้มกันในกระบอกไม้ไผ่จริงๆน่ะคะ ชาวบ้านที่นี้เรียกว่า ”อ๊อกหลาม”
แล้วเห็นไข่เจียวที่ดูธรรมดาๆนั่นมั้ยคะ ขอบอกเลยว่ารสชาติไม่ธรรมดาจริงๆ
อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสด้วยตัวเองว่าอาหารที่นี้อร่อยขนาดไหน
แค่พูดถึงก็แล้วน้ำลายสอแล้วค่ะขยี้ความน่าทานเข้าไปอีก...ต่อไปก็ได้เวลากลับมาพักผ่อน
คืนนี้เรานอนที่บ้านนับดาว เป็นโฮมสเตย์บ้านผู้ใหญ่
ซึ่งที่นี้ก็เป็นบ้านผู้ใหญ่จริงๆ แต่แบ่งพื้นที่ให้เป็นโฮมสเตย์
บรรยากาศของที่นี้ก็จะอบอุ่นน่ารัก เป็นกันเอง ตามวิถีบ้านต่างจังหวัด
เปิดหน้าต่างมาเจอไอลมเย็นๆ และวิวภูเขา
เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง มาพักใจ พักกาย
เติมอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดกันบ้าง...ก่อนจะปิดท้ายเราขอแทรกและบรรยายถึงข้าวเหนียวพันธุ์พิเศษ
ที่มีที่นี้ที่เดียว ซึ่งเราได้ลองรับประทานแล้ว
เป็นข้าวเหนียวที่หอมนุ่ม รสชาติอร่อยมาก
นั่นคือข้าวพระยาลืมแกง ที่อร่อยกินแต่ข้าวจนลืมแกงกันเลยทีเดียว
หากใครแวะไปที่น้ำหนาวแล้วไม่ได้มาลิ้มลองข้าวพระยาลืมแกง
ถือว่ามาไม่ถึงกันเลยทีเดียว หากใครติดใจแล้วอยากซื้อกลับบ้านหรือไปฝากเพื่อน
แต่ลองสอบถามชาวบ้านกันดูน่ะคะ เราไม่ได้ค่าโปรโมทแต่อย่างใด
เพียงแต่เห็นว่าเป็นของดีแล้วต้องบอกต่อ
อีกทั้งยังหนึ่งสินค้าจากทางชาวบ้านห้วยหญ้าเครือค่ะสุดท้ายนี้ขอปิดท้ายทริปด้วยการแวะร้านกาแฟ วิวหลักล้าน
ชื่อร้าน Coffee View เมนูที่สั่งก็เป็นชาเขียวมัจฉะนม
ที่นุ่มหอมหวานรสชาติกลมกล่อมกำลังดี กาแฟและชาที่นี้ราคาประมาณ 40-60 บาท
แต่เมื่อแลกกับวิวระดับห้าดาว ถือว่าคุ้มค่ามากเลยค่ะหากใครสนใจจะเดินทางมาที่หมู่บ้านห้วยหญ้าเครือ อำเภอน้ำหนาวแห่งนี้
เราแนะนำให้ลองติดต่อสอบถามกับทางผู้ใหญ่บ้าน
เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และข้อมูลที่ไม่ผิดผลาด
หากกระทู้นี้บกพร้องหรือผิดผลาดแต่ประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ข้อมูลการติดต่อ
เบอร์ผู้ใหญ่บ้าน 0988044868
เบอร์ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน(พี่อู๊ด) 0636633696

การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ มาที่หมู้บานห้วยหญ้าเครือ
ให้ขึ้นรถโดยสารที่หมอชิต 2 ขึ้นรถทัวร์เส้นทาง กรุงเทพฯ-ชุมแพ
แล้วมาลงที่แยกห้วยสนามทราย(หากลงไม่ถูกให้บอกคนขับ หรือกระเป๋ารถ)
จากนั่นจะต่อรถสองแถวชุมแพหรือ จะต่อโดยสารให้ต่อรถข่อนแก่น-เชียงราย
มาลงที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน หากใครจะนั่งรถสองแถวมาแนะนำให้มาถึงก่อนเที่ยง
เพราะหลังเที่ยงจะไม่มีรสองแถวเข้าหมู่บ้านแล้ว หรือทางที่สะดวกขึ้นมาหน่อย
ให้ติดต่อกับทางผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอให้ทางผู้ใหญ่จัดหารถนำรถมารับ
ชื่อสินค้า:   บ้านห้วยหญ้าเครือ น้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้การสนับสนุนอาหารทุกมื้อ และการนำเที่ยวฟรี และที่พักฟรี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่