ท่านว.วชิรเมธี งานเข้า

การพยายามเอานักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมาอ้างอิงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ศาสนา มันบอกถึงความเสื่อมลงของศาสนานั้น
เพราะมันแสดงว่าศาสนานั้นมันมีคุณค่าในตัวเองลดลงแล้ว ต้องเอาสิ่งอื่นในโลกปัจจุบันมาเพิ่มค่าให้ศาสนา

ไปอิงตาแก่หัวฟู รู้แต่ วิทยาศาสตร์ทำไม มีค่าแต่ กับ พวกที่ไม่รู้จัก นามธรรม โลภ โกรธ หลงเท่านั้น ไม่เห็นจะมีค่าอะไร

(วิทยาการทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าทันสมัย ล้ำยุค ถ้าใครไม่มีเงินพอ อำนาจพอ  สถานภาพคุณสมบัติพอ นี้ได้ใช้ไหม คนได้ใช้คือ คนมีเงิน คนมีอำนาจ คนมีสถานภาพเพียงพอเท่านั้นนะะ )

แต่การกำจัดความชั่ว โลภ โกรธ หลงที่ นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้จัก ได้ทุกชนชั้น ถ้าศึกษาเรียนรู้ ตั้งแต่ยาจกยัน อภิมหาเศรษฐี ทุกเพศทุกวัน แม้แต่ เพศที่ 2 เพศที่ 3 แต่ได้แค่ไหน แล้วแต่กำลังใจและคุณสมบัติพื้นฐานที่ มีมาแค่นั้น

ท่าน ว.วชิรเมธีกล่าวว่า ทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ต่างเริ่มต้นด้วยท่าทีของปัญญา ศรัทธาในธรรมชาติและมุ่งมั่นดับทุกข์ แต่ต่างกันที่พุทธศาสนาจะคำนึงถึงคุณค่าทางจริยธรรมเสมอ แล้ววิทยาศาสตร์คำนึงถึงเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่ปัญญาของวิทยาศาสตร์ติดอยู่ที่โลกียะ แต่ปัญญาในทางพุทธศาสนา เลยปัญญาจากห้องปฏิบัติการ และเป็นปัญญาที่ไม่เคยทำร้ายใคร
อย่างไรก็ดี สำหรับหนังสือที่พยายามอธิบายพระพุทธศาสนาด้วยวิทยาศาสตร์ และเป็นหนังสือขายดี แต่พบว่าเต็มไปด้วยการอ้างอิงที่ผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์ ทำไมจึงขายดี นั่นก็แสดงว่าชาวพุทธไทยนั้นอ่อนทั้งพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ หรือบางทีอาจไม่มั่นใจในพุทธศาสนาด้วยหรือไม่ จึงต้องนำไอน์สไตน์มาร่วมด้วยเพื่อให้ดูยิ่งใหญ่

https://mgronline.com/science/detail/9520000138043

---

เคยพูดอะไรไว้ แต่ตอนนี้คำพูดที่เคยพูดไว้เข้าตัวเองเต็มๆเลยนะ ว.

เดาว่าศาสนาพุทธ คงคล้ายกับ pantheism ซึ่งเป็นศาสนาที่เชื่อในสรรพสิ่งในจักรวาล ที่คิดโดยนักปรัชญา บารุค สปิโนซ่า
แล้วไอน์สไตน์เคยบอกว่าเขาไม่เชื่อในพระเจ้าของศาสนาใดๆ แต่เขาเชื่อในพระเจ้าของสปิโนซ่า

"Einstein stated that he believed in the pantheistic God of Baruch Spinoza."

จากลิงค์นี้
https://en.wikipedia.org/wiki/Religious_and_philosophical_views_of_Albert_Einstein

หรือจะลองหาอ่านในหนังสือ "ประวัติศาสตร์ปรัชญาฉบับกะทัดรัด" เขียนโดย ไนเจล วอร์เบอร์ตัน ก็ได้ค่ะ มีแปลไทยแล้ว

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่คิดประโยคนั้นขึ้นมา เพราะดูเหมือนจะมีความรู้ในประวัติความเป็นมาของไอน์สไตน์ไม่น้อยเลย
ถึงขนาดเอา pantheism มาโยงเป็น cosmic religion ได้ มันเลยฟังดูน่าเชื่อถือ

เราว่าคนพูดน่ะ เขาจะบอกว่าอะไรก็เป็นเรื่องของเขา คนที่เชื่อตามต่างหากที่ผิดมากกว่า
แต่ก็นั่นแหละ คนไทยที่ฟังคนอื่นพูดแล้ววิเคราะห์หาเหตุผลมายันได้ด้วยตัวเองมันคงไม่ค่อยมีเท่าไรน่ะ
เพราะฉะนั้นความรับผิดชอบเลยตกอยู่กับคนพูดซะเยอะ ซึ่งตรงนี้ก็หวังว่าท่านว. จะเอาไปศึกษาปรับปรุงต่อไป

เอาจริงๆ เราก็ไม่อ่านหนังสือท่านเท่าไร ชอบของท่านพุทธทาสมากกว่า
แต่เราเข้าใจว่าหนังสือง่ายๆ เปรียบเทียบง่ายๆ ใช้ภาษาหรูๆ
เหมือนอ่านแล้วได้เป็นนางฟ้านางสวรรค์คงเหมาะกับคนไทยที่ชอบดูละครมากกว่าน่ะ

เราคิดว่าที่ต้องสอนแบบนี้ก็เพราะคนไทยเข้าใจอะไรง่ายๆ ได้ยากมากๆ และจะเข้าใจแต่ที่ตัวเองอยากเข้าใจนี่แหละ
ขนาดหนังสือท่านพุทธทาสว่าง่ายๆ ก็ยังเข้าใจยากและทำตามได้ยากสำหรับคนไทยเลย
อย่างหนังสือเรื่องแม่นี่ชอบมาก ที่บอกว่าพ่อแม่คือพระธรรม ไม่ใช่พ่อแม่ในบ้าน ขำหนักมากตอนได้อ่าน
แล้วดูคนไทยเพ้อคลั่งอะไรกันเรื่องกตัญญูไปหมด ลูกไม่รักพ่อรักแม่คือเลวมาก
ไม่ได้ดูบริบทแวดล้อมว่าพ่อแม่แบบไหนที่ลูกควรยกย่อง แบบไหนที่ลูกควรช่วยขัดเกลาให้หายนิสัยไม่ดี

เรานับถือพุทธ แต่เราก็ค่อนข้างเชื่อในพระเจ้าของสปิโนซาเช่นกัน
และเราก็คิดว่าคนที่มาอวดว่าพุทธต้องเป็นยังงั้นยังงี้ ลองไปอ่านหนังสือปรัชญาดูก่อนมั้ยคะ เราว่ามันคงเข้าใจง่ายกว่าศาสนาพุทธน่ะ
ลองเปิดความคิดตัวเองให้กว้างๆ ดูก่อน แล้วค่อยมาว่าคนอื่นเขา ^^;;